beabadoobee-interivew-2022

Interview

คุยกับ beabadoobee “World Tour อัลบั้มใหม่ มาไทยครั้งแรก ภาพยนตร์ แฟชั่น และรอยสัก”

beabadoobee (บีบาดูบี) หรือ Beatrice Kristi Laus ศิลปินสาวชาวฟิลิปปินส์ที่ได้ไปใช้ชีวิตและเติบโตในประเทศอังกฤษพร้อมกับครอบครัวตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ ปัจจุบันในวัยเพียง 22 ปี เธอเป็นศิลปินในค่าย Dirty Hit และมีผลงาน 2 สตูดิโออัลบั้มอย่าง Fake It Flowers และอัลบั้มล่าสุด Beatopia ที่ทำให้เธอได้ออกทัวร์ไปทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งจุดหมายในทัวร์โซนเอเชียของเธอในครั้งนี้กับคอนเสิร์ต BEATOPIA TOUR 2022 LIVE IN BANGKOK ที่ Samyan Mitrtown Hall เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา

โดยก่อนที่โชว์จะเริ่มขึ้นในคืนวันนั้น ฟังใจได้มีโอกาสสัมภาษณ์ beabadoobee พร้อมกับสื่ออีกหลาย ๆ สำนัก จึงขอคัดบทสัมภาษณ์และประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนึ่งในศิลปินหญิงที่น่าจับตามองแห่งยุคนี้มาฝากกัน พร้อมแล้วมาอ่านไปด้วยกันได้เลย!

 

 

คุณเริ่มเล่นกีตาร์ตอนอายุ 17 ปี แต่ตอนนี้มี 2 สตูดิโออัลบั้ม และกำลังออกทัวร์ทั่วโลกอีกด้วย รู้สึกอย่างไรบ้าง?

เรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลย มารู้ตัวอีกทีคือมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว ฉันมองว่ามันสนุกมากจริง ๆ ฉันชอบไปในสถานที่ต่าง ๆ อย่างกรุงเทพฯ ที่ฉันยังไม่เคยมาเลย มันรู้สึกดีมากจริง ๆ ที่ได้มีโอกาสแชร์เพลงของฉันให้กับทุกคนทั่วโลก

 

รู้สึกว่าผลงานของ beabadoobee มีกลิ่นอายของดนตรียุค 90s เป็นอย่างมาก ช่วยบอกถึงความรักของคุณที่มีต่อดนตรีในยุคนั้นให้พวกเราฟังได้ไหม?

ฉันมักจะได้รับการกล่าวถึงเสมอว่าเพลงของฉันมีความคล้ายดนตรีในยุค 90s แน่นอนว่าฉันฟังเพลงในยุคนั้นเยอะมาก แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้เพลงของฉันเหมือนดนตรียุค 90s หรือที่หลายคนจะพูดกันว่า “เธอกำลังจะปลุกดนตรียุค 90s ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง” ฉันแค่ทำเพลงที่ทำให้บางคนรู้สึกได้ย้อนอดีตและนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา อย่างในอัลบั้มล่าสุด Beatopia ฉันได้แรงบันดาลใจมาจากหลาย ๆ วงในยุค 2000s และฉันได้รับแรงบันดาลใจจากทุกที่อยู่เสมอ

 

 

ศิลปินคนไหนบ้างที่มีอิทธิพลต่อการทำผลงานเพลงของคุณ

ฉันสามารถลิสต์รายชื่อให้คุณฟังได้เลย เริ่มจาก Elliot Smiths เขาเป็นแรงบันดาลใจคนสำคัญต่อชีวิตฉันเลย ฉันมีรอยสัก XO บนแขนของฉันด้วย หรือศิลปินคนอื่นๆ อย่าง Mac DeMarco, Daniel Johnson, Kimya Dawson ฉันรักการร้องเพลงของ Harriet Wheeler วง The Sundays มาก เธอเป็นแรงบันดาลใจหลักในการร้องเพลงของฉันเลย หรืออย่างวง The Cardigans ฉันคิดว่าผลงานของพวกเขาไม่มีที่ติเลย รวมถึง Natasha Bedingfield กับดนตรีในยุค 2000s ที่ทำให้มีความสุขมากจริง ๆ

 

 

พูดถึงอัลบั้มล่าสุดอย่าง “Beatopia” ให้เราฟังหน่อย

ฉันคิดว่าในอัลบั้ม Beatopia มีแนวเพลงที่หลากหลายมาก ฉันไม่อยากยึดติดกับแนวเพลงประเภทเดียว ฉันแค่อยากทำอะไรที่ฉันอยากทำ อย่างบางวันฉันอยากทำเพลง Bossa Nova แต่มาอีกวันฉันอยากทำเพลง Rock ฉันคิดว่ามันเป็นอัลบั้มที่บ่งบอกตัวตนของฉันได้เป็นอย่างดี เพราะฉันไม่สามารถอธิบายตัวฉันได้ภายในหนึ่งคำ ฉันเลยมีอิสระที่จะเขียนเพลงในแบบที่ฉันต้องการ และฉันมีความรู้สึกว่าทุก ๆ เพลงใน Beatopia จะยังคงมีเรื่องที่เกี่ยวข้องหรือเป็นสิ่งที่ฉันต้องเจอเสมอ จากในวันนี้ที่ฉันอายุ 22 ไปจนตลอดชีวิตเลย

 

การมาเยือนกรุงเทพครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง ประทับใจอะไรเป็นพิเศษไหม?

ฉันรักที่นี่! ทุกอย่างมันน่าทึ่งไปหมด ฉันกับทีมงานได้ไปสปา และพวกเราอยากดู Drag Show มาก และพบว่ามันสุดยอดมากจริง ๆ พวกเขาทั้งมีเอกลักษณ์และยอดเยี่ยมมาก ฉันสนุกมากกับกรุงเทพฯ จนอยากมีเวลาอยู่ให้นานกว่านี้ เรื่องอาหารด้วยที่เผ็ดมากกกก ฉันเป็นคนฟิลิปปินส์และหลายคนคงคิดว่าที่บ้านเกิดฉันมีอาหารเผ็ดเยอะมากเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่มี! ฉันโดนความเผ็ดของอาหารไทยเล่นงานหนักมาก (หัวเราะ) ฉันรักที่นี่มาก อยากอยู่ให้นานกว่านี้จริง ๆ

 

ชอบแสดงสดเพลงไหนเป็นพิเศษบ้าง?

เพลงโปรดของฉันในการแสดงสดในตอนนี้คือ The Perfect Pair และฉันชอบเล่นเพลง Care ในทุก ๆ โชว์ แล้วก็เพลง See You Soon ด้วย

 

 

ในฐานะที่เป็นศิลปินที่ถือว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีคำแนะนำไหนอยากฝากถึงคนที่กำลังมีความฝันอยากเป็นศิลปินแบบคุณบ้าง

ฉันคิดว่ามันคือการมีแรงผลักดันและทำทุกอย่างด้วยใจจริง ฉันคิดว่าหลายคนอาจจะหวังความสำเร็จในแง่ของรายได้ที่บ้าคลั่งและชื่อเสียงโด่งดัง ส่วนตัวฉันมองว่าคุณไม่ได้กำลังทำมันจริง ๆ คุณแค่ต้องการทำมันเพื่อตัวคุณเอง ฉันเข้ามาในวงการนี้เพราะฉันไม่มีวิธีอื่นที่จะแสดงออกหรือในทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเศร้าฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วคำแนะนำเล็ก ๆ ของฉันคืออยากให้คุณทำมันด้วยความรักและมาจากใจจริง

 

ถ้าได้อยู่ในหนังสักเรื่อง ฉันอยากถูกจดจำในบทบาทเพื่อนตัวเอก

 

ถ้าไม่ได้เป็นศิลปิน อยากทำอะไร?

ฉันอยากทำหลายอย่างมาก ตอนแรกเลยฉันอยากเป็นคุณครูสอนศิลปะ แต่ต่อมาฉันก็อยากเป็นศัลยแพทย์ หรือบางวันฉันก็อยากเป็นนักบินอวกาศ มีหลายสิ่งที่ฉันอยากทำมากนอกจากการเป็นนักดนตรี แต่สุดท้ายมักจบที่การพักผ่อน (หัวเราะ) 

แต่ถ้าให้เลือกสักหนึ่งอย่างฉันอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ฉันสนใจที่จะทำเพลงประกอบภาพยนตร์ หรือได้อยู่ในภาพยนตร์สักเรื่องแต่จะไม่ใช่ตัวละครหลัก ฉันมีความฝันอยู่เสมอว่าอยากเล่นเป็นเพื่อนรักของตัวเอกในภาพยนตร์สักเรื่อง ฉันอยากเป็นเพื่อนสนิทกับตัวเอกหรือแม้กระทั่งสาวในร้านเช่า Video หรือได้รับบทเป็น cameo อะไรทำนองนั้น

 

ทำไมถึงอยากแสดงเป็นบท “เพื่อนตัวเอก”

ฉันจะตอบแบบขำ ๆ และแบบจริงจังให้ฟังแล้วกัน แบบขำ ๆ คือ ฉันอยากเล่นเป็นบทเพื่อนตัวเอกเพราะฉันไม่อยากจำบทเยอะ (หัวเราะ) ฉันอาจจะรับมือได้ไม่ดีถ้าต้องจำบทพูดเยอะ ๆ และคำตอบแบบจริงจังคือ ฉันคิดว่ามันมีเสน่ห์บางอย่างของการเป็นเพื่อนสนิทตัวเอก และมันเหมือนกับว่าในชีวิตจริงคุณต้องการใครสักคนที่พึ่งพาได้อยู่เสมอ ฉันคิดถึงประโยคที่ว่า “ฉันอินดี้สุด ๆ ฉันไม่ต้องการใคร” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่! คุณต้องการใครสักคนในชีวิต คนที่คุณจะตกหลุมรักหรือคนจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ ถ้าได้อยู่ในหนังสักเรื่อง ฉันอยากถูกจดจำในบทบาทเพื่อนตัวเอก และฉันอยากเป็นตัวละครแบบนั้นในชีวิตจริงด้วย

 

ถ้าให้นิยามชีวิตในฐานะ beabadoobee เป็นภาพยนตร์สักเรื่อง คิดว่าจะเป็นแนวไหน?

มันคงเป็นเรื่องที่รวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน เป็นทั้ง sci-fi เพราะมีเอเลี่ยน, โรแมนติก, สยองขวัญ, ดราม่า และต้องตลกมาก ๆ ด้วย มันอาจจะเป็นภาพยนตร์ Coming of age ที่ตลกมาก ๆ และฉันคงตั้งชื่อมันว่า “Adventures with Bea” 

 

 

วงการเพลง indie rock ใน UK ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างในมุมมองของคุณ?

ตอนนี้ซีน indie rock ถือว่าดีเลย มันชิลมาก แต่เพื่อนที่เป็นนักดนตรีของฉันหลายคนคิดเหมือนกันว่า สิ่งที่ขาดหายไปคือตอนนี้เรามีนักดนตรีที่เป็นผู้หญิงอยู่น้อยเกินไป มันยังเป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ชายครอบงำอยู่เสมอ ฉันคิดว่าแค่เราตระหนักรู้ว่ามันมีปัญหานี้อยู่ก็น่าจะดี และเปิดใจพูดคุยกันถึงสถานการณ์นี้ว่ามันเป็นปัญหานะ หากคุณมีพื้นที่สนับสนุนให้เด็ก ๆ หรือสาว ๆ ได้แสดงออกและหยิบกีต้าร์ขึ้นมาถ้าต้องการ ฉันคิดว่ามันจะดีมากเลยถ้าคุณทำให้พวกเขาไม่อายที่จะทำสิ่งเหล่านี้

 

หลายคนมองว่าคุณเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของสไตล์ให้กับพวกเขา บอกเราได้ไหมว่าเซนส์การแต่งตัวของคุณมีที่มาอย่างไร?

ฉันคิดว่ามันมาจากภาพยนตร์และนักดนตรีหลายคนมาก ๆ อย่างเวลาที่ฉันได้ไปดูโชว์ของศิลปินฉันจะคิดเสมอว่า ชุดที่พวกเขาใส่บนเวทีมันเท่จริง ๆ อย่างหลายวงที่ฉันดูผ่านวิดีโอเช่นกัน พวกเขาแต่งตัวกันจัดจ้านมาก รวมถึงภาพยนตร์หลายเรื่องก็มีแฟชั่นที่น่าสนใจมาก ๆ หรือบางเรื่องอาจเป็น Rom-Com ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นมาก แต่ชุดที่พวกเขาใส่มันดูพิเศษและเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน ซึ่งฉันรู้สึกว่ามันน่าทึ่งมาก ๆ ซึ่งสิ่งที่ฉันจะหยิบมาใส่บนเวทีแน่นอนว่าต้องทำให้ฉันใส่สบาย และก็เอ่อ… รองเท้าบู๊ต ฉันรักรองเท้าบู๊ต และฉันชอบใส่หลาย ๆ อย่างรวมกัน

 

 

ไม่เกี่ยวกับเรื่องดนตรีเลย แต่เราอยากรู้ว่ารอยสักที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษคือลายไหน?

มันคงเป็นลายของแหลมสีดำเหมือนหนามบนต้นแขนของฉัน มันลงตัวมาก แต่จริง ๆ แล้วทุกรอยสักของฉันมีความหมายหมดเลย และฉันคิดว่ามันดูดีทุกอัน

 

 

สุดท้ายแล้วอยากฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทยบ้าง

ขอบคุณมากที่สนับสนุนและฟังเพลงของฉัน ถึงแม้เราจะอาศัยอยู่คนละซีกโลกกันก็ตาม เอาจริง ๆ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีคนฟังเพลงของฉันที่นี่ ฉันกลัวว่าจะไม่มีคนมาดูโชว์ของฉัน (หัวเราะ) แต่วันนี้ความฝันเป็นจริงแล้ว ฉันรักพวกคุณทุกคนมาก ขอบคุณที่อยู่ข้าง ๆ กันมาเสมอ

ช่องทางการติดตาม beabadoobee

Facebook

Twitter

Instagram

YouTube

TikTok

 

‘นี่มันยุคของพวกเราแล้วเว่ย!’ สำรวจเพลงก่อนยุค 2020 — Bedroom Studio, Gen Z และหลายปัจจัยที่ทำให้แนวเพลงเปลี่ยนไป

Lauv “ในวันที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งที่หัวใจยังเป็นเด็ก” ผมสีเขียว ไดอารี่ และอัลบั้มล่าสุดในปี 2022

คุยกับ keshi ถึง GABRIEL อัลบั้มล่าสุดที่อดใจรอทัวร์ไม่ไหว!

Facebook Comments

Next: