Interview

AUTTA จากมือกีตาร์แจ๊สสู่แร็ปเปอร์อัจฉริยะเจ้าของไรห์มประหลาดที่น่าติดตามที่สุดในขณะนี้

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

แวดวงฮิปฮอปไทยเต็มไปด้วยแร็ปเปอร์มากฝีมือที่รอให้เราไปค้นพบ และหนึ่งในคนที่น่าจับตามองสุด คือ AUTTA หรือ กรอัษฏกร เดชมาก เรารู้จักเขาครั้งแรกจากการไปโชว์ลีลาสุดกวนในแร็ปแบตเทิลที่เดือดที่สุดในประเทศไทย Rap Is Now : The War Is On 4 จนผ่านไปถึงรอบไฟนอล ก่อนจะได้โชว์สกิลจนเข้าถึงรอบชิงรายการ The Rapper ที่ทำให้ผู้ชมเสียน้ำตาไปกับไรห์มแร็ปอารมณ์เข้มข้น และเร็ว นี้เขาก็กลายมาเป็นศิลปินสังกัด YUPP เตรียมออกเพลงใหม่ให้เราได้ฟังกันด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักศึกษาเอกกีตาร์แจ๊ส วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ที่ได้ใช้ความรู้พื้นฐานดนตรีมาสร้างสรรค์สไตล์แร็ปได้ไม่เหมือนใครจนเราต้องคว้าตัวมาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น

AUTTA

ก่อนหน้านี้ก็เล่นกีตาร์มาตลอด อะไรทำให้ชอบและเลือกเรียนกีตาร์แจ๊ส

มันมีวิชาให้เรียนตั้งแต่ .5-.6 ที่กรุงเทพคริสเตียน ก็เล่นมาตลอด พอโตขึ้นมาก็ไปเรียนกีตาร์ไฟฟ้าที่ยามาฮ่ามาเรื่อย จน .4 ก็อยากเข้าที่มหิดล แต่พอเข้ามาตอน .ปลาย มันไม่มีสายเอ็นเตอร์เทน มีเป็นแจ๊สกับคลาสสิกไปเลย ก็เลยเลือกกีตาร์แจ๊ส

ปกติฟังเพลงอะไรมาก่อน

ตอนเด็กเลยชอบฟังเมทัลครับ Trivium, Avenged Sevenfold ถ้าวงไทยก็ กล้วยไทย Roses Fall, Annalynn ก็เมทัลเฮดอยู่ แต่พอมาเรียนแจ๊สก็ฟังแต่แจ๊ส หลัง ฟังโซล r&b มากขึ้น

ก่อนจะมารู้จักกับฮิปฮอป ตั้งใจจะไปตรงสายแจ๊สเลยหรือเปล่า

ครับ เรียนดนตรีมาอย่างเดียวก็อยากเป็นมือกีตาร์แจ๊ส แต่จุดพลิกผันมันมาตอนดู Rap Is Now : The War Is On 3 ชอบ KQ มาก แล้วก็อินกับวิธีเขียนเพลงแบบนั้นที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ทั้ง attitude ที่ใช้หรือความซับซ้อนของการตีความหมายคำมันเหนือชั้นกว่าคนทั่วไป ก็เลยเริ่มรู้สึกว่า เออ บางทีเราทำให้ดนตรีง่าย แต่เนื้อหาเพลงซับซ้อนก็ได้ เพราะแจ๊สถ้าศึกษาลึก แล้วจะพบว่าเล่นกันซับซ้อนมากในภาคดนตรี แต่ภาคร้องอาจจะง่าย อันนี้มันกลับด้านกัน

แล้วที่มีคนบอกว่า AUTTA เอาเทคนิคในเพลงแจ๊สมาเขียนไรห์ม จริงหรือเปล่า

ผมใช้วิธีเขียนโน้ต แต่โน้ตมันไม่ได้หมายถึงระดับเสียง โด เร มี ฟา ซอล แต่มันหมายถึง rhythm notation เป็นการแบ่งห้องสัดส่วนจังหวะ ซึ่งมันทำให้ผมรู้จุด landing แปลก คือถ้าผมเขียนไปตามความเคยชิน เราก็ใช้เซนส์โดยธรรมชาติ แต่ละคนจะมีประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนกัน อย่างคนนี้ชอบลงจังหวะแบบนี้ ทั้งชีวิตเขาก็จะเขียนแต่แบบนี้ แต่พอเราเข้าใจว่าตรงนั้นก็ลงได้ ตรงนี้ก็ลงได้ มันก็ทำให้เราค่อนข้าง flexible กว่าคนอื่น

แจ๊สกับฮิปฮอปถูกเอามารวมกันบ่อยมาก

เพราะจริง มันอิงอยู่บนกรูฟ กับ improvisation และ layback ถ้าไม่นับแนว trap ที่ขยายออกมา ช่วงที่ฮิปฮอปมันเกิดขึ้นใน Bronx แรก ๆ backing track ที่เอามาเปิดไปด้วยแร็ปไปด้วยก็เป็นโซล ฟังก์ r&b อยู่แล้ว ซึ่งเพลงเหล่านั้นก็ถูกขยายรากมาจากแจ๊สอีกทีเหมือนกัน มันเหมือนเป็นเหลนโหลน เป็นเครือเดียวกันกับแจ๊สอยู่แล้ว

AUTTA

แล้วตอนทำเพลงเองได้เอาแจ๊สมาใส่ด้วยไหม เพราะก่อนหน้าเห็นบอกว่าอยากเป็นนักดนตรีแจ๊ส

ตอนนี้ผมไม่ได้อยากเป็นนักดนตรีแจ๊สแล้ว แต่ถามว่ามีแจ๊สผสมอยู่ไหม มี เพลงที่กำลังจะปล่อยตอนนี้ก็มีเยอะเลย ทั้งโครงสร้างคอร์ด progression ไลน์โซโล่เป็นแจ๊สซะเยอะ

แต่ศิลปินแร็ปหลายคนที่ออกมาไม่ค่อยมีแจ๊สฮอปเลย คิดว่าเพลงของ AUTTA จะเข้าถึงแร็ปสายหลักยากไหม

ผมไม่ได้จำกัดตัวเองว่าเป็นแจ๊สฮอป เพราะเพลงที่ออกมาค่อนข้างเป็นป๊อป แล้วก็มีโซล r&b บ้าง กับแต่ละเพลงที่ผมทำผมไม่ได้ตีความว่ามันจะต้องเป็นแนวนี้ บางเพลงก็ร็อกอัลเทอร์เนทิฟไปเลยที่เตรียมไว้ ผมแค่จะเลือกสีสันของดนตรีตามเนื้อหาเพลงให้เข้ากันมากกว่า บางทีดนตรีอย่างแบ๊ว หวาน เลย แต่เล่าเรื่องดาร์กมันจะ contrast กันไปนิดนึง ก็เลือกที่มันไปทางเดียวกันดีกว่า

สไตล์จริง ของ AUTTA คืออะไร เพราะเวลาดู TWIO4 คนชอบแร็ปดิสว่า AUTTA ลอกสไตล์คนอื่น หรือนี่ก็คือไม้ตายของเรา

ใน TWIO4 ต้องบอกว่ามันไม่ใช่ผมแต่แรกอยู่แล้ว ผมไม่ได้ชอบเขียนเพลงดิสใคร แต่พอต้องทำอย่างนั้นก็เลยทำด้วยการเอาสไตล์ของเขามาย่ำยีตัวเขาเอง ผมจะทำสิ่งที่เกี่ยวโยงกับคู่ต่อสู้หมดเลย เช่น คำที่เขาเคยใช้ แพตเทิร์นจังหวะที่เขาเคยใช้ หรือคนที่เขาชนะมา หรือเพื่อน แก๊งของเขา ผมจะเอาตรงนี้ไปแซะเขา ซึ่งกลุ่มคนที่ตามบางคนเขาไม่ค่อยเข้าใจ เลยเกิดความคิดว่า ‘ไอ้นี่ขี้ลอก’ แต่ถ้าเป็นแพตเทิร์นใน The Rapper จะค่อนข้างเป็นผมมาก มีความซับซ้อนประมาณนึงในเชิงดนตรี มันมีเพลง 6/8 หรือ 7/8 สลับกับ 4/4 มีสัดส่วนทางดนตรีเข้ามาเกี่ยวเยอะ (FJZ: ตรงนั้นทำให้ต้องใช้ความคิดมากขึ้นในการเขียนไรห์ม) ใช่ครับ ต้องดีไซน์หนักมาก

ถ้าต้องเขียนเพลงเพลงนึงออกมา ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องอะไร

ผมจะเขียนเรื่องที่หม่น ได้ง่ายกว่า ถ้ามีอะไรที่รู้สึกกระทบจิตใจนิดนึง ถ้าตอนนั้นว่างก็สามารถเขียนออกมาได้เสร็จเลย แต่ช่วงหลัง เราอยากได้เพลงที่มีสีสันอื่น บ้าง ผมก็จะโน้ต keyword ไว้ในโทรศัพท์เพราะผมขี้ลืมมาก พอวันไหนอยากทำ ได้เห็นคำพวกนั้น เรื่องราวที่อยากเขียนก็จะกลับมา

พอเป็นคนขี้ลืม แล้วเวลาต้องแร็ปสด ทำยังไง

ผมพยายามหนักมากใน TWIO4 รอบแรกที่เขาให้ไปแร็ป ผมใช้เวลาเดือนนึงเต็ม ในการจำ ท่องทุกวัน ทั้งวัน ช่วงนั้นผมปิดเทอมก็ใช้เวลาหนึ่งเดือนในการจำ 32 บาร์ แล้วมันเหมือนค่อย พัฒนาไปเรื่อย พอรอบถัดมาก็ใช้ 3 สัปดาห์ จนเหลือ 2 เหลือสัปดาห์เดียว สัปดาห์สุดท้ายเหลือ 5 วัน จำเป็นร้อยบาร์ เหมือนสมองมันค่อย ปรับ

แล้วเวลาเจออีกฝั่งนึงตบกลับมา เราคิดทันเขาไหม

อันนั้นแล้วแต่จังหวะ แล้วแต่ดวง แล้วแต่เซ็ตคำที่เรามีในหัวด้วย ถ้าฝืนไปจะออกมาไม่ดี จะเขิน หน่อย แต่ถ้าเราคิดทันพอดี อย่างรอบชิงกับ STAGE-N ผมก็ทำอย่างงั้นเหมือนกัน จริง ผมเขียนเนื้อที่จะโต้ตอบเขาอยู่แล้ว ผมก็ยอมตัดตรงนั้นทิ้งไป 4 บาร์แล้วเอาคำเขามาแก้แทน ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าจะล่มหรือเปล่า ก็ต้องเสี่ยงดวง เพราะถ้าล่มก็พังทั้งไรห์มได้เลย

รู้สึกยังไงตอนเขาเอาสไตล์ PERM YARB ที่เคยแบตเทิลกับเราในรอบก่อนมาใช้

โห ในหัวผมรันหนักมาก ประมวลผลว่าเอาไงดีวะ แต่เอาจริงบนเวทีคือผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดว่าอะไร เลยไม่รู้ว่าจะโต้ตอบยังไง พอกลับมาดูแล้วได้ยินว่า อ๋อ เขาพูดอย่างงี้ ก็เลยเสียดายที่ไม่ได้ยินแล้วคิดไม่ทัน

ที่ผ่านมาชอบแบตเทิลกับใครที่สุด

ถ้าที่ชอบที่สุดคงเป็น PERM YARB รอบนั้นเปลี่ยนชีวิตผมจริง เปลี่ยนโลกไปเลย พลีชีพมาก มีภารกิจเกือบไม่ได้ไปแข่งละ แต่ก็ตัดสินใจไปแข่ง แล้วมาคิดว่าถ้าวันนั้นผมไม่ไปแข่ง ผมอาจจะไม่มีอะไรเลย อาจจะโดนลืมไปเลยว่าเคยเป็นแร็ปเปอร์ แล้วรอบนั้นมันสนุกจริง เพราะเพิ่มเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที แล้วมันทำให้รู้สึกว่าเราแฟร์ต่อกัน ไม่ได้อยากเอาชนะอะไรกันแบบนั้น

เรื่องกระทบใจล่าสุดที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนเพลง

ผมมีเพื่อนอยู่สองคน แล้วเขาคุยกันแบบตลกร้าย เหมือนเขาท้อกับดนตรีนิดนึง เริ่มหมดแพชชัน คนนึงก็ตะโกนถามอีกคนว่าทำไมกระเป๋ามึงตุงจังวะ’ แบกอะไรมา อีกคนก็หันมาบอกว่าความหวังไงเชี่ย เย็ดเข้ มันดาร์กอยู่นะเรื่องความหวัง ซึ่งมันก็หมดความหวังไปแล้ว

คนรุ่นเรา เป็นอย่างงี้กันเยอะเนาะ ต้องแบกรับความคาดหวังของคนอื่นไว้

บางทีเราโดนบีบจนเราไม่เหลือชอยส์ในการทำสิ่งต่าง เท่าไหร่ ถ้าเราทำได้ไม่ดีเราก็จะดูไม่ดีไปเลย ถ้าคนทำได้ดีเขาก็มีเวย์ของเขา ยิ่งทางดนตรีผมยิ่งเห็นชัดกว่าการสอบแข็งขันอันอื่นเยอะ เพราะมันไม่ได้วัดกันเป็นเกรด เป็นตัวเลขออกมาได้ขนาดนั้น ตัวแปรมันเยอะมาก สมมติทั้งรุ่นมี 20 คน จะมีแค่ 3-4 คนท็อปเท่านั้นที่มีงาน ข้างล่างนี่จะเคว้งเลย มันเกิดอาการแบบนี้เยอะมาก

แล้วคนที่ไม่ได้เป็น top rank เขาทำยังไง

เอาตรง ถ้าที่บ้านเขามีธุรกิจก็กลับไปทำงานที่บ้านซะเยอะ ไม่งั้นก็เป็นครูสอนตามโรงเรียนสอนพิเศษ สอนดนตรี แล้วพวกท็อปก็คือไปเล่นเป็นแบ็กอัพ มีน้อยคนที่จะออกมาเป็นศิลปินจริง

การมีพื้นฐานทางดนตรีช่วยสกิลแร็ปมากน้อยขนาดไหน

ผมว่าช่วยมาก คือว่าตามตรงตอนเริ่มแร็ปผมฟังฮิปฮอปน้อยมาก จำความได้เลยว่าผมฟัง Southside อยู่ไม่กี่เพลงเอง What’s Up เงี้ย เราไม่มีไอเดีย ไม่รู้ว่าแร็ปต้องทำยังไง แต่การที่เราเข้าใจเบสิกทางดนตรีมันทำให้เราแยกองค์ประกอบทางดนตรีได้ มันเลยทำให้รู้ texture ของแร็ปง่ายขึ้นมาก ก็เรียนรู้จากต้นแบบที่มีอยู่แล้ว

แต่จริง AUTTA ก็เป็นคนหัวไวเหมือนกันนะเพราะเริ่มแร็ปมาแค่ 2 ปี แล้วก็ม้ามืดได้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง TWIO4 และ The Rapper 

ก็ดีใจที่มันก็มาไวมาก แต่ผมว่ามันเหมือนเป็นสิ่งที่ตอบแทนสิ่งที่ผมทำมา เพราะคนไม่ค่อยรู้ว่าผมทำอะไรมาบ้างก่อนที่จะมาแร็ป คือผมเรียนเต็มวัน เลิก 3 โมง 5 โมง แล้วผมซ้อมถึงสามทุ่มทุกวันจริง ตั้งแต่ .4 ผมไม่ไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ไม่กลับไปโรงเรียนเก่า ไม่เที่ยวสยาม ซ้อมมันอย่างเดียว แล้วตรงนั้นมันสั่งสมทักษะบางอย่างเรา พอถึงจุดที่เหมาะสมมันก็ค่อย pay back เรามา คือเราไม่ได้นั่ง นอน ทั้งวัน แล้วพอมาทำจะได้แบบนี้ ผมรู้สึกว่าก็ทำงานหนักเหมือนกัน มันคงถึงจุดที่ได้อะไรตอบกลับมาบ้าง ไม่ใช่ว่าเราหัวไวหรอก

อะไรทำให้ตะบี้ตะบันซ้อมขนาดนั้น

ก็อยากเล่นกีตาร์เก่ง อยากเป็นนักดนตรีที่ดี อีกอย่างคือค่าเทอมแพงชิบหายเลย หกหมื่น แปดหมื่น ตอนม.ต้น .ตรีก็แสนนึงละ ผมเรียนโง่ ง่อย ก็เสียดายตัง สงสารพ่อแม่ ก็ติดนิสัยนี้มาฝึกกับแร็ปด้วย

แล้วฟังเพลงเขาน้อย ตอนต้องมาเจอ Twopee Southside ในรายการ The Rapper รู้สึกยังไงบ้าง

พี่โต้งเป็นคนเดียวที่โหวตให้ผมนะ แล้วเขาให้โอกาสเรามากเลย แต่ถ้าเอาตามตรงตอนเข้าไปอยู่กับแก๊ง AUTTA ก็เป็นแกะดำอะ แปลกแยกตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว ผม Cat Expo คนเดียว ตรงนั้นเขาแก๊งจัดเลย ผมก็ทำตัวไม่ถูก ย้อนแย้งสุด ๆ แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้เราเป็นแบบเขา ก็สบายใจดี เราก็เป็นอย่างนี้แหละ แค่ไปอยู่ที่เดียวกับเขา

เคยมีคนวิจารณ์ภาพลักษณ์ของเราบ้างไหมที่ดูไม่เหมือนแร็ปเปอร์

มีอยู่แล้วครับ บางคนก็ตัดสินเราไปเลยว่า หน้าเราเป็นงี้ แร็ปกาก บางคนบอกว่าผมอคติต่อลุคเด็กแว่นของคุณนะแต่ผมก็เข้าใจนะ จริง ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าใครจะต้องมาชอบอะไรในแบบที่ผมต้องฝืน คือผมเคยฝืนแล้ว ไปแต่งตัวแบบแร็ปเปอร์คนอื่นเขา แล้วมันโคตรเหนื่อยเลยพี่ กลายเป็นว่าผมชอบใส่อะไรแบบ Cat Expo อะ ที่มันชิล ง่าย เดินเจเจก็ได้ พกไปสามพันได้กลับบ้านเป็นสิบชุดเงี้ย ฮิปฮอปบางทีสามพันซื้อเสื้อได้ตัวเดียว เราก็ไม่ได้รวยเนาะ งั้นใส่อะไรที่เราชอบดีกว่า แต่หมายถึงลุคเนิร์ดอะไรงี้ด้วยใช่ไหม ใส่แว่นผมก็ดูเนิร์ดไปแล้วอะ เอาจริงผมก็ไม่ได้เนิร์ดขนาดนั้น

ใน The Rapper คิดยังไงที่ต้องคิดไรห์มขึ้นมาใหม่ให้กับเพลงที่ใคร ก็รู้จักอยู่แล้ว

ยากชิบหายเลย ด้วยความที่เขามีภาพจำของเพลงนั้นอยู่แล้ว คนก็คาดหวังสตอรี่แบบนี้จากเพลงนี้ การที่เราเขียนลงไปมันต้องดีกว่าเดิมเท่านั้น สำหรับผมมันเป็นดาบสองคมด้วย คือถ้าเราเติมแร็ปเข้าไปแล้วเป็นเพลงที่ดีขึ้นมาก็จะดีเลย แต่ถ้าเรามีเนื้อหาที่อยากเล่า แต่ไม่มีเพลงที่ฟิตพอดีกับเรื่องของเราเลยก็จะยากละ แล้วยังมีเรื่องค่ายเพลง ลิขสิทธิ์เพลงเข้ามาอีก คือเขาให้ใช้แต่แกรมมี่ ตอนนั้นผมคิดเรื่องอะไรสักอย่าง แต่หาเพลงไปลงไม่ได้ ไม่รู้จะเอาเพลงไหน เพลงที่ชอบก็มีแต่ Smallroom ไม่ก็เพลงค่ายอื่น ก็ใช้ไม่ได้ บางคนหาทางออกไม่ได้ทีมงานก็จะหาเพลงมาให้ เราก็ต้องไฟต์นิดนึง อย่างเพลง อยากรู้เสมอมา ผมก็ดื้อเนี่ยแหละเพราะหาทางลงไม่ได้ ทีแรกผมจะเอา Moderndog เพลง ลอยมา ลอยไป ทั้งเพลงมีแค่สองท่อน ที่เหลือเป็นดนตรี ฟีลมันได้มาก มันว่างพอที่จะใส่เนื้อเราได้ แต่พอไปเช็กลิขสิทธิ์แล้วชุดนั้นมันเป็นของ Sony Music มั้ง แล้วเขาเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงแพงมาก ก็เลยมาเจอของ Tattoo Colour ที่ผมก็ชอบเหมือนกัน ปรับเนื้อหาไปเยอะอยู่ แต่ผมก็อินนะ

รู้สึกยังไงกับการที่นำเสนอเรื่องโรคซึมเศร้าในรายการ The Rapper แล้วมีคนที่เป็นเหมือนกันได้รับเมสเสจนั้น

ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่พูดเรื่องนั้นไป แต่ตอนนั้นผมไม่สามารถเขียนเรื่องอื่นได้แล้วจริง ทีแรกทีมงานก็ไม่อยากให้ทำเรื่องนี้ด้วยเพราะมันจะส่งผลกระทบกับคนหมู่มาก ซึ่งมันไม่ได้ช่วยเขาอย่างเดียว มันก็ทำให้คนดาวน์หนักกว่าเดิมด้วย แล้วเขาก็ส่งเมสเสจมาหาผม ก็รู้สึกแย่พอสมควร แต่ก็มีคนที่ขอบคุณ ก็ดีใจกับคนที่อาการดีขึ้น บวกกับเทปนั้นเหมือนรอบซ้อมดีกว่ารอบจริง พอรอบจริงผมดรอปไปเยอะพอสมควร ตอนนั้นผมยังใหม่กับวิธีเขียนแบบนี้

ในอนาคตจะมีเรื่องเหล่านี้ออกมาอีกไหม ตั้งใจให้เป็นพื้นที่ในการสร้างความเข้าใจเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า

จริง มีเพลงนึงที่ผมเขียนตอนวิกฤติมาก แล้วทุกวันนี้เวลาผมดาวน์ก็ต้องเล่นเพลงนั้นกับกีตาร์เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น แล้วผมเคยเอาเพลงนั้นไปแข่งในรายการดนตรีประมาณปีที่แล้วได้รางวัล ก็มีคนขอเพลงเข้ามาบ้าง ชื่อเพลง แย้มบาน ก็ช่วยผมเยอะมาก แร็ปหลุดไปเวิร์สนึงด้วย แต่มันยิ่งทำให้ความรู้สึก loser มันยิ่งแย่เข้าไปอีก จนเรารู้สึกช่างแม่งกับการแข่งแล้ว เลยทำให้อารมณ์ออกมาหนักพอสมควร แล้วเพลงนี้ผมให้เพื่อนเอาไปแกะอีกทีเพื่อจะเอามาทำเพลง คนทำร้องไห้เลย มันค่อนข้างสาหัสอยู่

แร็ปเปอร์เอาเรื่องส่วนตัวมาพูดเยอะเหมือนกันนะ

เยอะครับ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะถ่ายทอดผ่านวิธีไหน หรือเรื่องราวนั้น relate กับคนส่วนใหญ่แค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ที่ไม่ตรงกับคนอื่นก็อาจจะจบในตัว แต่ผมรู้สึกว่าคนยุคนี้ กับคนที่เสพดนตรีคล้าย ผมจะเป็นกันเยอะ

พูดถึงเพลง ชายหน้ามึน ที่กำลังจะปล่อย

เพลงนี้ทำกันเองหมดเลย เหมือนด้วยความที่ทุกอย่างเสร็จหมดแล้วก่อนที่ YUPP จะติดต่อมา ก็บอกว่าขอปล่อยเพลงนี้เองก่อนดีกว่า ก็ได้ เอม มือคีย์บอร์ดวง Mints ทำบีตในเพลงนี้ เพลงนี้ทำไว้ตั้งแต่ประมาณ 2 ปีที่แล้วก่อนจะเริ่มแร็ปจริงจัง โซโล่นี่ก็จะแจ๊สจัด ไปเลย คนนี้ก็เป็นแชมป์กีตาร์ เล่นให้ Wonderframe ส่วนที่มาของเพลงเริ่มมาจากเมโลดี้ ผมมีเพื่อนชื่อบาส เป็นมือกีตาร์ที่เก่งมากเหมือนกัน แล้วเขาก็พาผมไปสู่โลกโซล r&b ผมก็ถามมันว่ามีเมโลดี้อะไรดี บ้างวะ จะเอามาแต่งเพลง มันก็เล่นกีตาร์ให้ฟัง ดีว่ะ ใส่เนื้ออะไรดีวะ มันก็เปิดหนังสือกลอนแม้มิได้เป็นดอกกุหลาบหอม ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว แม้มิได้เป็นจันทร์อันสกาว จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตาพอลองใส่เข้าไปในท่อนฮุกแล้วเพราะมาก พอจะใช้จริง ก็เปลี่ยนเป็นเนื้ออื่น กลัวติดลิขสิทธิ์ (หัวเราะ)

ตอน YUPP ติดต่อมารู้สึกยังไงบ้าง

ดีใจครับ เขาก็เป็นค่ายฮิปฮอปที่ใหญ่เป็นเบอร์ต้น อีกแง่คือผมก็ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงต่อไปกับตัวเอง ด้วยความที่ปกติอยากทำเพลงเมื่อไหร่ก็ทำ จะไปแข่งดนตรีก็ค่อยทำเพลงขึ้นมาเพื่อไปแข่ง ตอนนี้มันกลายเป็นต้องมีความโปรมากขึ้น ต้องทำอะไรคิดหลายด้านมากขึ้น ซึ่งมันก็เปลี่ยนวิธีการทำงานไปค่อนข้างมาก รวมถึงการที่เราชอบทำงานคนเดียว พอต้องเจอคนเยอะขึ้นก็ต้องสื่อสาร ปรับตัวเยอะขึ้น

AUTTA ร่วมงานกับแร็ปเปอร์คนไหนแล้วประทับใจบ้าง

พี่กอล์ฟ F. Hero ให้ผมไปช่วยเขียนสัดส่วน คือเพลงใหม่เขาเป็น 6/8 แต่เนื้อหาอะไรงี้ของเขาเอง แค่ rhythm ที่ผมคิด แล้วอันนั้นผมเขียนยากกว่าที่เขียนใน The Rapper อีก แล้วมันสนุกมาก ก็ได้ไปไกด์ ไปทำงานกับพี่แกแล้วรู้สึกว่าพี่กอล์ฟเขารุ่นใหญ่ เราได้รับโอกาสนี้จากเขาก็ดีใจมาก ๆ

เร็ว นี้จะมีงานอะไรอีกบ้าง

มีไปเล่น Cat Expo ครับ แล้วก็ งานครบรอบ 1 ปี YUPP น่าจะมีเพลงคู่กับพี่เนม NAMEMT ชื่อ ตีกันทำไม วันที่ 14 สิงหาคม แล้วก็จะมี ชายหน้ามึน เพลงเดี่ยวของ AUTTA จะปล่อย 19 สิงหาคม วันเกิดผมพอดี แล้วก็ Cypherlogy EP 6 เป็นครั้งแรกที่ผมเอา rhythm ที่โคตรใหม่ 2-3 อันมาแปะรวมกัน ไม่น่าจะเคยมีใครใช้บนโลก 

จริง ๆ ก็เป็นคนชอบคิดโฟลวใหม่ เหมือนกันนะ

ใช่ แต่ทำยังไงเขาก็ด่าผมขี้ก็อปอยู่ดี (หัวเราะ)

อ่านต่อ
Hockhacker กับการผลักดันมุมมองใหม่ ๆ ผ่านแร็ปเปอร์ไทยใน ‘Cypherlogy’
Bang Sue Electrix เมื่อการแร็ปและความคิดสร้างสรรค์มาผนวกกันแบบไร้ที่สิ้นสุด

ยั้งไม่ได้นฮอนนนน ใครยังไม่ง่วงขอเชิญมาทำความรู้จักกับ YOUNGOHM กันก่อน

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้