หมายเหตุ: เพื่อต้อนรับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2016 เห็ดนอกใจเดือนนี้เลยขอเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่อง ทำตัวเป็นสำนักข่าวกีฬา จินตนาการว่ามีทีมฟุตบอลชื่อ ฟังใจซีน เอฟซี กับ ต้า Paradox เอฟซี (เอ่อ…ตั้งชื่อกันทื่อ ๆ แบบนี้แหละ) กำลังบรรเลงเพลงแข้งกันอยู่

             เกมการแข่งขันวันนี้เตะกันตอนบ่ายแก่ ๆ ณ ย่านอาร์ซีเอ ทีมฟังใจซีน เอฟซี ขาดผู้เล่นกำลังสำคัญอย่างกัปตันกันดิศ ป้านทอง มีแต่ผู้ที่กำลังเขียนบทความชิ้นนี้ ส่วนฝั่ง ต้า Paradox เอฟซีนั้น แน่นอนว่าต้องนำทีมโดย อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า นั่นเอง

เป้าหมายในวันนี้ของฟังใจซีน เอฟซี คือต้องการชัยชนะเพื่อรู้ให้ได้ว่า ต้า Paradox เอฟซีซุ่มทำอะไรอยู่ และที่คนร่ำลือว่ากัปตันต้าคลั่งไคล้ฟุตบอลนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

นาทีที่ 1 – ฟังใจซีนเปิดเกมทักทาย รุกหนัก ตอนนี้ทำอะไรอยู่

หลายอย่างเลยครับ อย่างแรกคือรับทำเพลงโฆษณากับเพื่อน ๆ ในนามของ Tata Studio แล้วก็ทำเพจชื่อ Tata Studio แต่ตอนหลังมีแฟนเพลงเข้ามาเยอะ เลยกลายเป็นที่แลกเปลี่ยนของที่ระลึกวงพาราด็อกซ์ คล้าย ๆ เพจขายของไปโดยปริยาย และทุกคืนวันศุกร์ ผมจะจัดวิทยุออนไลน์เล่าเรื่องที่มาตำนานเพลงที่ doxradio.com ครับ

 นาทีที่ 3 – ต้า Paradox สวนกลับ บอกกำลังสนใจพระเครื่อง

เพิ่งเริ่มศึกษาเมื่อปลายปีที่แล้ว เรื่องเริ่มจากงานแต่งของ โจอี้ (เสรฐพร กฤดากร ณ อยุธยา มือกลองประจำวง Paradox) มีรุ่นน้องที่อยู่ในวงการพระมาคุยด้วย เขาบอกว่าถ้าสนใจให้บอก ผมเลยพูดเล่น ๆ ว่ามีพระที่ใส่แล้วเนื้อหอมมั้ย เขาบอกว่ามีนะ พระขุนแผนไงพี่

วันดีคืนดี ผมก็เห็นคนเอาพระขุนแผนมาประมูลในอินเทอร์เน็ต ผมลองศึกษาข้อมูล อ่านที่เขาโพสต์ในเพจกันไปเรื่อย ๆ ดูไปดูมาเริ่มคล้อยตาม พอเห็นว่ามีคนเอามาลงประมูลแล้วราคายังไม่แพงเลยอยากร่วมกิจกรรม ไปหยอดราคาไว้กับเขาเล่น ๆ กะแกล้งคนเรื่อยเปื่อย เพราะผมคิดว่าองค์นี้น่าจะราคาแพงกว่านี้ เลยหยอดไว้ให้เยอะ ๆ เลย ปรากฏว่าไม่มีใครลงต่อ ได้เองเฉยเลย

พอได้พระมา ผมก็เริ่มศึกษา กลัวเป็นพระเก๊ ทำไปทำมาก็ไปกันใหญ่ สนใจจริงจังถึงขั้นส่งประกวด ได้แชมป์เลยก็มี

นาทีที่ 6 – แชมป์ยังไง?! ฟังใจซีนตั้งท่าสงสัย

มีแข่งหลายประเภทครับ อย่างที่ผมประกวดคือ แข่งรักษาพระ เหมือนการรักษาของ ใครรักษาได้ดีกว่าก็ชนะไป ซึ่งผมว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกดี เพราะแต่ละคนก็จะมีเทคนิคไม่เหมือนกัน

ส่วนที่เริ่มประกวดนั้น เพราะคนที่เช่าพระส่วนใหญ่จะเกิดความระแวง กลัวเจอพระเก๊ โดยวิธีทดสอบก็คือส่งเข้าประกวดเพื่อเช็กว่าพระแท้หรือเปล่า ถ้าไม่แท้ กรรมการก็จะคืนให้เรา

แต่ที่สนใจพระเครื่อง ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องราวของพระแต่ละองค์ด้วยครับ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ดูซีรีส์เป็นร้อย ๆ เรื่อง ซึ่งพอได้ค้นคว้าก็กลายเป็นว่าทำให้เรียนรู้มากขึ้น ได้รู้จักพระองค์นู้นองค์นี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ตอนหลัง ๆ นี่เลยเถิดไปเข้าวัดเข้าวา ทำบุญทำทาน นั่งสมาธิไปแล้วครับ

ถ้าผมไปบอกให้ใครฟังว่าเดี๋ยวนี้เข้าวัดเข้าวา สวดมนต์ก่อนนอน เพื่อนคงลงไปกลิ้ง หัวเราะน้ำตาเล็ดแน่นอน แต่มันเป็นเรื่องจริง เป็นโดยความค่อย ๆ คล้อยตามไปเอง

นาทีที่ 10 – ต้า Paradox ปรับแผน เอาเทคนิคการดูพระมาเสริมเกมรุก

พอดูเพจพระไปเรื่อย ๆ เราก็คิดว่าเราชอบอะไรในเพจ ลองเอามาปรับใช้กับเพจตัวเองดูบ้างมั้ย อย่างการประมูลนี่ก็ใช่ เพจพระชอบเล่าเรื่องเล่าประวัติต่าง ๆ เราก็เล่าเรื่องของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจรุ่นแรกของวงสร้างมาเมื่อปีพ.ศ.อะไร มีเรื่องราวยังไงบ้าง ซึ่งก็ได้ผลดี คนอ่านก็คล้อยตาม

นาที 12 – ฟังใจซีนโต้กลับ ของเก่าเก็บ ไม่เสียดายเหรอ?

จริง ๆ งานอดิเรกของผมคือขายของในเพจ อย่างเสื้อยืดของวง เวลาทำผมจะคัดเก็บไว้เองหนึ่งตัว วันดีคืนดีที่บ้านบอกปลวกจะกินบ้านแล้ว ผมไปนั่งคุ้ยตู้เสื้อผ้า ค้นเจอกองเสื้อสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว เนื้อผ้าสภาพมันเริ่มเก่าแล้ว เอานิ้วจิกนี่อาจขาดเลย เราก็เสียดาย แต่ถ้าเก็บไว้อีกก็คงไม่ได้ใส่ ถูกหมกไว้อีกสิบปี เลยตัดใจ ลองไปถามคนในเพจว่ามีใครอยากได้มั้ย แล้วเราดันตั้งราคาไม่เป็น เลยให้ประมูลเอาดีกว่า

เราคิดว่าถ้ามีใครเห็นคุณค่าของเหล่านี้ก็ให้มันได้ไปอยู่กับคนคนนั้นเถอะ อยู่กับเรามันก็เก่าไปจนล่มสลาย ขณะที่บางคนนี่แม้เสื้อจะมีรอยด่าง มีรอยแมลงสาบแทะ เขาก็เอาไปเก็บ เอาไปใส่กรอบอย่างดี เราเลยอยากส่งต่อของเหล่านี้ให้คนอื่น

นาที 15 – ฟังใจซีนบุกต่อเนื่อง รุกกระหน่ำ ถามเรื่องทำหนังสือ

ผมพยายามจะทำคล้าย ๆ สำนักพิมพ์ตัวเอง แต่เรียกว่าทำหนังสือเล่น ๆ ดีกว่า เพราะไอเดียของผมจะคล้าย ๆ การทำของที่ระลึก จะโฟกัสไปที่คนดูหรือฐานแฟนคลับเป็นพิเศษ ยกตัวอย่าง เสื้อยืดวง ถ้าเอาไปขายตามตลาดนัด ไม่มีใครเอานะครับ กลับกัน ถ้าเราขายคนที่เขาต้องการ คนที่แค่เห็นก็ตาลุกวาว แบบนี้สิสนุกกว่า ตัวเราเองก็รู้สึกว่ามีคุณค่าด้วย ผมเลยคิดว่าทำหนังสือขายในเพจหรืออีเวนต์ของตัวเองก็พอ ไม่ต้องวางตามร้านหนังสือหรอก ใครอยากได้ก็มาสั่งในเพจ หรือไม่เราก็จัดมีตติ้ง แจกลายเซ็น พบปะแฟนคลับบ้างก็ได้

หนังสือที่ผมทำตอนนี้มี 3 เล่ม เล่มแรกคือ บันทึกลึกลับ พาราด็อกซ์ เอ็กซ์ อันนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ mars space เป็นหนังสือเบื้องหลังว่าด้วยการทำอัลบั้ม X

เล่มถัดมา อันนี้ทำเองแล้ว คือ อยากมีเธออยู่ตรงนี้ เล่มนี้จุดเริ่มต้นคล้าย ๆ การขุดเสื้อออกมาประมูล คือค้นบ้านแล้วเจอสมุดโน้ตที่แต่งเพลงไว้เริ่มโดนปลวกแทะ กลัวหายก็เลยเอามาพิมพ์เป็นหนังสือดีกว่า ซึ่งเนื้อเพลงพวกนั้นคือเพลงในอัลบั้มใหม่ ถือโอกาสโปรโมตอัลบั้มไปในตัว

อีกเล่มคือ MUSIC X ทำร่วมกับพี่ทัศ (ปิโยรส หลักคำ) บ.ก. Music Express ที่ยุบไป เราเสียดาย เลยคุยว่าทำหนังสือเล่น ๆ กันดีกว่า MUSIC X เลยเป็นหนังสือที่ทำเองอีกเล่ม แล้วก็ในอนาคตอาจมีโปรเจกต์ใหญ่ คือผมฝันอยากทำหนังสือนิยายของตัวเอง เพราะมีแฟนเพลงบอกว่าอยากอ่านเบื้องหลังหรือที่มาอีก ซึ่งตอนทำ บันทึกลึกลับ พาราด็อกซ์ เอ็กซ์ ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะทำตั้งแต่แรก ถ่ายรูปเก็บไว้ทุกอย่าง ทำเพลงเสร็จ รีบมาพิมพ์ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เก็บไว้ เถลไถล ขี้เกียจ เลยนึกในใจว่าแต่งเป็นนิยายแล้วเล่าที่มาแทนแล้วกัน เป็นโปรเจกต์ที่คิดว่าจะทำให้เสร็จปีนี้ ถ้าทำเสร็จก็จะพิมพ์ขายเอง คุยกับคนที่รู้ใจกันก่อน ถ้าเขาสนุก ความสนุกนี้ก็จะดึงดูดคนข้างนอกให้ค่อย ๆ เข้ามามุง เรียกว่าทฤษฎีแบบไทยมุง (หัวเราะ)

นาที 22 – ต้า Paradox เรียกเสียงฮือฮา โชว์แผนไทยมุง

เวลาจัดงานเราไม่ต้องกังวลเลยครับ สมมติว่าเรามีแฟนคลับ 100 คน ไม่ว่าเราจะจัดมีตติ้งกี่ครั้ง เราจะรู้เลยว่ามีคนมางานร้อยคนแน่ ๆ คือผมคิดว่าถ้าเราจัดงานเอิกเกริก เปิดให้คนนอกมาร่วมงาน วันนั้นคนอาจมาเยอะจริง แต่วันข้างหน้า ถ้าเราจัดงานอีก แล้วเราคำนวณว่ามากันพันคนแน่นอน แต่มีคนมาแค่หนึ่งร้อยคน เราก็จะเสียกำลังใจ ผมเลยคิดว่าเล่นกับคนที่รักเราดีกว่า

ทุกวันนี้เวลาเราโพสต์เพลงลงในเพจ ร้องเพลงกับกีตาร์โปร่งเล่น ๆ มีคนพูดถึง ตีความแต่งเนื้อให้ใหม่เยอะแยะ เราก็สนุกแล้ว พอคุยกันไปคุยกันมาก็รู้สึกว่าเป็นกลุ่มที่บ้าดี แต่ความบ้าตรงนี้มันทำให้จิตใจเราพองโต ตรงนี้แหละสำคัญที่สุด สำคัญยิ่งกว่าการกระจายไปออกอีเวนต์รอบนอก เพราะสุดท้าย สิ่งที่เราต้องการก็คือความสุขทางใจอยู่ดี

นาที 24 – ฟังใจซีนสวนกลับ ทำไมอยากเขียนนิยาย

จริง ๆ เราฝันอยากเป็นผู้กำกับ เคยคิดเรื่องไว้หมดแล้ว แต่พอไปคำนวณค่าซีจี ค่าเช่าสถานที่ ค่าเมคอัพหน้า ก็คิดว่าน่าจะใช้งบเยอะ เพราะไอเดียของผมค่อนข้างหวือหวา จะเอาไปทำหนังสั้นก็ไม่ได้ด้วยนะ งบน่าจะบานปลายพอกัน เลยคิดว่าค่อย ๆ ถอยออกมาดีกว่า เขียนบทแทนก็ได้ แต่จะเขียนยังไงให้สนุกล่ะ งั้นลองหัดเขียนนิยายก่อนมั้ย อยากเสกฟ้าเสกฝนอะไรทำได้เต็มที่เลย และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะมีคนยุด้วยครับ ชอบมีคนมาบอกว่าแต่งเพลงได้ก็เขียนได้ ผมเลยลองวางโครงเรื่องด้วยการคิดว่าอะไรที่เราถนัด ซึ่งก็เป็นเรื่องเพลงหรือวงดนตรีนี่แหละ ถ้ามันเวิร์กก็ค่อยเอาหนังสือเล่มนี้ไปส่งเป็นบทหนังอีกที ค่อย ๆ กระเถิบไป

ส่วนเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับเพลงของพาราด็อกซ์ก็เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเพลงด้วยครับ คือถ้าคุณอ่านนิยาย ยังไงก็ต้องเคลิ้มอยากฟังเพลงบ้างแหละ อ่านแล้วอาจจะรีบไปหาซีดีมาฟัง หรือคนที่มีซีดีอยู่แล้วก็อาจอยากรู้ว่าเพลงที่เราชอบมีที่มายังไง หรือได้รู้ความจริงว่าหยดหมึกบนปกอัลบั้มมีที่มาจากอะไร รีบไปหาหนังสือมาอ่านดีกว่า เรียกว่าเป็นการช่วยเกื้อหนุนกัน ตัวเพลงก็จะมีคุณค่ามากกว่าเป็นแค่แผ่นซีดีเอาไว้ฟังเฉย ๆ คนที่มีซีดีในครอบครองก็จะเก็บตัวผลงานด้วยความภาคภูมิใจเหมือนเป็นของสะสม ผมว่าเรื่องพวกนี้แหละครับที่จะช่วยพัฒนาวงการเพลงไทย คือถ้าเราทำให้คนรู้สึกอยากจะซื้อซีดีเพราะมีคุณค่าทางจิตใจได้ ตัวเพลงก็จะมีคุณค่า ไม่งั้นทำเพลงหรือทำซีดีไป เขาก็ไปโหลดหมด

นาที 29 – แฟน ๆ ได้ลุ้น ต้า Paradox ลองส่อง อัลบั้มใหม่มาปีนี้!

จริง ๆ อัลบั้มใหม่นี่ทำมา 7 – 8 ปีแล้วนะครับ ติดที่มีโปรเจกต์นู่นนี่แทรกตลอด แล้วก็เอ้อระเหยไปหน่อย ไฟลนจนก้นไหม้จะเกรียมก็ยังไม่กระเตื้อง แต่ปีนี้คาดว่าจะทำให้เสร็จ น่าจะได้สัก 30 เพลง กะว่าล้างสต็อก อารมณ์เหมือนทำวิทยานิพนธ์ให้จบแล้วจะไปเที่ยวน่ะครับ

ปัญหาตอนนี้คือ เรื่องที่สนใจเริ่มเปลี่ยน ความสนใจ ความตื่นเต้นในเรื่องอื่น ๆ เข้ามาเยอะ แล้วมันเริ่มเทมาทับเรื่องทำอัลบั้ม ตอนนี้เลยรู้สึกว่าต้องรีบเคลียร์อัลบั้มให้เสร็จก่อน จะได้ปลุกความตื่นเต้นกลับมาใหม่ ไม่งั้นก็โดนเรื่องอื่นกลบหมด กว่าจะได้นั่งเขียนเพลงก็นาน แล้วแฟนเพลงก็กดดันเหลือเกิน คือเขาไปฝังใจกับอัลบั้ม Daydreamer บอกว่าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว ขายสาว ไม่มีเพลงเจ๋ง ๆ เลย เรารู้สึกว่า โห มีเยอะเลย แต่ยังไม่ได้ทำเท่านั้นเอง คือเรามีเรื่องอยากเล่าเยอะมาก ติดที่ขี้เกียจเท่านั้นเอง

นาที 30 – พระเครื่องมีผล! ต้า Paradox ฮึด ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน

เรื่องที่เราสนใจสามารถเอามาปรับใช้กับงานได้หมดเลย เราจินตนาการว่าถ้าตัวเองชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาก ๆ เราจะอยากรู้อะไรบ้าง เราเลยเอาวิธีการเล่าตำนานพระมาปรับกับการขายของ ใช้ในการโปรโมต ล่าสุดก็ได้ไอเดียหนึ่งมาจากการประกวดพระ ผมว่าจะลองประกวดซีดีหายากของวง จัดเล่น ๆ ดูว่าใครเก็บรักษาได้ดีกว่ากัน เผื่ออนาคต คนที่เขาสนใจจะให้คุณค่ามากกว่าเดิม แถมใครที่เกิดไม่ทันก็อาจรู้สึกอยากเก็บรักษาอัลบั้มชุดใหม่ให้ดี ๆ บ้าง

HALF TIME

เกมการแข่งขันในครึ่งแรกจบไปในแบบที่ทางฟังใจซีน เอฟซียังไม่สามารถเจาะเข้าไปล้วงเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลของ ต้า Paradox เอฟซี ได้เลย มาดูกันว่าครึ่งหลังนี้ ผู้เขียนมันจะเข้าเรื่องได้หรือยัง

นาที 31 – ฟังใจซีนโดนสวน ต้า Paradox ชอบมวย!

กีฬาที่ชอบอันดันหนึ่งคือมวย ชอบแบบคลั่งเลย เก็บสะสมเข็มขัดมวยโลกด้วย ทุกปีผมจะให้ของขวัญวันเกิดตัวเองด้วยเข็มขัดแชมป์โลก คือผมไปอ่านเจอมาว่ามีคนไทยทำเข็มขัดแชมป์โลกได้ ผมเลยรวบรวมให้ครบทุกสถาบัน มีสิบกว่าเข็มขัด หมดเงินไปเป็นแสน หลัง ๆ หันไปเก็บพวกเข็มขัดที่มีลายเซ็นแชมป์โลกบ้าง ตอนนี้ไม่มีที่เก็บแล้วเลยหยุดไว้ก่อน

ส่วนฟุตบอลก็ชอบครับ เป็นกีฬาที่ยังเล่นได้ถึงทุกวันนี้ เป็นกีฬามิตรภาพ เอาไว้เล่นกับเพื่อนกลุ่มต่าง ๆ ผมเตะกับเพื่อนหลายกลุ่มมาก มีทั้งกลุ่มคนทำงาน กลุ่มออฟฟิศ กลุ่มนักเขียน กลุ่มนักดนตรี กลุ่มนักแต่งเพลง กลุ่มเซียนพระ ผมไปเตะกับทุกกลุ่มเลย ชอบไปขอเล่นปน ๆ กับเขา แล้วพอเตะเรื่อย ๆ ก็มีเพื่อนเพิ่มขึ้นครับ เราก็จะรู้จักทีมนู้นทีมนั้น เราก็จะชวนเขามาเตะลีก

ผมจัดลีกฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ชื่อว่า จิ๋มคัพ (JIMS Cup) จัดแข่งทุก ๆ สามเดือน เตะวันเดียวจบ ทำมาได้ 2 ปีแล้ว เป็นลีกที่รวมนักดนตรีมาเตะได้หลายทีม แต่ละทีมก็จะรู้จักกัน เช่น ทีมจากค่าย Spicy Disc, Banana Records, Cat Radio ใครชนะก็ได้ถ้วยไป ซึ่งฟีดแบ๊กดีมาก ต้องจัดเป็นถ้วยเล็กเพื่อรองรับทีมหน้าใหม่ด้วย

นาที 34 – แข็งแกร่ง! กัปตันต้าแผลงฤทธิ์ อึดขนาดนี้เพราะเตะทุกสัปดาห์

จริง ๆ มีเพื่อนชวนทุกวันเลยนะครับ อย่างที่บอกว่าพอเตะหลายกลุ่มเพื่อนก็จะเยอะ เลยมีคนไปเตะทุกวัน แต่ผมจะเตะประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ ยกเว้นมีคอนเสิร์ตเยอะก็ไม่ได้เตะ แต่การไปเตะหลายทีมก็จะมีข้อเสีย เวลาไปเจอทีมที่เขาเล่นกันเป็นทีมอยู่แล้ว มันจะจับฉ่าย ไม่เข้าขากัน ผมเลยมักได้ไปอยู่ในทีมที่เรียกกันเล่น ๆ ว่าเศษคน คือเอาคนเหลือ ๆ มารวมตัวกัน

เมื่อก่อนเวลาเล่นไม่ออกผมจะเครียด จบเกมนี่หงุดหงิดมาก จนต้องนั่งถามตัวเองว่าทำไมเตะบอลแล้วหงุดหงิดขนาดนี้ เลยเปลี่ยนฟอร์มใหม่ ต่อไปนี้ไม่คาดหวัง คิดว่ามาเล่นออกกำลังกาย ก็มีความสุขขึ้นเยอะ ส่งให้เพื่อนแล้วเพื่อนยิงไม่เข้าก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราทำหน้าที่ของเราแล้ว ได้คติใหม่ประจำใจว่า เราสนุกในขอบเขตหน้าที่ของเราก็พอ เครียดไปก็เปล่าประโยชน์ สมมติว่าเล่นกองหลัง ส่งขึ้นหน้าได้ก็พอแล้ว หรือไม่ก็ฝึกให้ตัวเองไม่หลงตำแหน่ง บางวันฝึกเลี้ยงสองตลบบ้าง พอคิดได้แบบนี้การเล่นก็จะสนุกมาก เราก็จะแฮปปี้กับทุกแมตช์

นาที 38 – กัปตันต้าเรียกเสียงเฮ สมกับเป็นเจ้าของทีม

ผมมีทีมฟุตบอลของตัวเองชื่อว่า Hand of God มีลักษณะเหมือนเป็นทีมชาติ คือนาน ๆ จะมารวมตัวกันที ผมตั้งทีมนี้ขึ้นมาเพราะก่อนหน้านี้มีแข่งฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ลีกเลยทำทีมส่ง แต่ความที่ดึงคนเก่งมาเยอะเกิน เลยไม่มีพื้นที่ให้ตัวเอง ตอนหลังต้องแบ่งเป็นอีกทีม สไตล์เศษคนเหมือนเดิมครับ โดยยิงเละเทะ (หัวเราะ)

นาที 42 – ต้า Paradox โชว์ปรัชญา เล่นให้สนุก

ตอนที่จัดจิ๋มคัพแรก ๆ มีปัญหาเล็กน้อย คือพอมีถ้วยปุ๊บก็เริ่มเล่นกันจริงจัง มีโวยวาย เริ่มเครียด ผมเลยมานั่งคิดว่าการทะเลาะในการเล่นฟุตบอลเกิดจากการไม่คุ้นกัน พอไม่คุ้นกันก็เริ่มไม่ปราณี เตะกันไม่ยั้ง เลยออกกฎว่าอย่าดึงคนนอกมาเยอะเกินไป เพราะพอไม่รู้จักกัน เขาก็ยันเท้าใส่แบบไม่แคร์ ตอนหลังก็มาปรับจูนกัน แจ้งกฎแก่หัวหน้าทีมทุกคน ออกกฎแม้กระทั่งว่าถ้าเห็นใครเริ่มแง่ง ๆ ให้เปลี่ยนออกเลย เพราะเราอยากให้การแข่งขันคือการผูกมิตรกันมากกว่า

นาที 44 – บุกต่อเนื่อง! ต้า Paradox บอกเคยเป็นแชมป์เหมือนกัน

เคยได้แชมป์บ่อยนะครับ แต่ตอนหลังไม่ค่อยได้ละ เริ่มปลดระวางคนเก่ง เพราะบางคนเราก็ไม่ได้สนิทกับเขามาก แต่ยืมตัวมาเล่น แล้วก็รู้สึกว่าทีมเรามีคนที่ยังไม่ได้เตะอีกเยอะ งั้นเอาสนุกไว้ก่อนดีกว่า ผลไม่เป็นไร ซึ่งก็สมใจอยาก แพ้เละเทะ แชมป์หลุดกระเด็นกระดอนไปเลย

นาที 47 – สู้ๆ! กัปตันต้าปลุกใจ ส่งแรงเชียร์

ถ้าเป็นทีมไทยจะเชียร์หลายทีม มีชลบุรี เพราะบ้านอยู่นั่น แล้วก็เสื้อวอร์มสวย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะจ้างไปเล่นบ่อย เมืองทอง ยูไนเต็ด เพราะผู้เล่นทีมชาติเยอะ แต่ยังไม่เคยไปดูที่สนามนะครับ ว่าจะไปหลายครั้งแล้ว

ส่วนทีมต่างชาติเชียร์ เรอัล มาดริด กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมหลังนี่เริ่มเชียร์เพราะเจ้าของเป็นคนไทย พอดูประวัติก็เห็นว่าเทคโอเวอร์มาตั้งแต่ยังอยู่แชมเปี้ยนชิพ แล้วความมหัศจรรย์คือได้แชมป์ตั้งแต่ตอนนั้น เลยติดตามมาเรื่อย ๆ อยากรู้ว่าเขาจะพัฒนาทีมได้ถึงขั้นไหน ได้เตะในพรีเมียร์ลีกก็ตื่นเต้น พอได้แชมป์พรีเมียร์ลีกก็รู้สึกว่าสุดยอด ประทับใจ คาดหวังว่าในอนาคตจะมีส่วนเชื่อมโยงทำให้ฟุตบอลไทยคึกคัก

นาที 52 – กัปตันต้าเซ็งทำทีมหวิดพ่าย

ปกติเชียร์เยอรมัน แต่รอบนี้เอาใจช่วยอังกฤษด้วย ประทับใจฟอร์มพวกเยาวชน เล่นดีจนตกใจ เลยมองว่าอังกฤษน่าจะได้ตัวเยาวชนหรือผู้เล่นหน้าใหม่มาช่วยเยอะ แต่ต้องบอกก่อนว่าผมมีฉายาในเน็ตว่าเปเล่สอง (นักฟุตบอลในตำนานชาวบราซิล ที่พอประกาศตัวว่าเชียร์ทีมไหน ทีมนั้นแพ้เรียบ-ฟังใจซีน) ล่าสุดมีไปเล่นที่บุรีรัมย์ เลยโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าเชียร์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปรากฏว่าแพ้คาบ้าน ในหมู่เพื่อนนี่ถ้ารู้ว่าผมเชียร์ทีมไหน เขาจะไปเชียร์ทีมตรงข้าม แล้วตอนหลังไม่รู้เป็นอะไร เชียร์สิ่งไหนแพ้หมด

ก่อนหน้านี้ เข้าไปนั่งกินข้าว มีวอลเลย์บอลไทย นึกในใจ แย่ละ กำลังจะลุกไป เขามาเสิร์ฟพอดี จากนำอยู่ 1 เกม โดนตีเสมอทันทีเลย แล้วเป็นหลายทีมาก ดูวอลเลย์บอลไทยไม่เคยชนะเลย ดูจนรู้สึกว่าเฮ้ย ไปที่อื่นดีมั้ย แต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ต้องมานั่งตรงนั้น แล้วก็แพ้ เราก็จะรู้สึกว่าทำไมต้องอยู่ในเหตุการณ์ของการแพ้ตลอดเลย แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ดูนี่ชนะทันที

นาที 55 – ฟังใจซีนโต้ เคยดูเลสเตอร์บ้างเปล่าเนี่ย

ไม่ได้ดูเลย

นาที 60 – ต้า Paradox ฟันธง ก่อนกรรมการเป่าจบเกม

ผมมองว่าฝรั่งเศสน่าจะเล่นดีนะ ส่วนเยอรมัน แม้จะฟอร์มตกแต่คิดว่าน่าจะได้แชมป์ ไม่ก็รองแชมป์ หรือไม่ก็ตกรอบแรกไปเลย

FULL TIME

            สัญญาณนกหวีดหมดเวลาดังขึ้นแล้ว กัปตันทั้งสองทีมจับมือกันอย่างเป็นมิตร นักเตะทั้งสองทีมแยกย้ายเข้าห้องพัก คนอ่านสับสนว่านัดนี้มันอะไร ทำไมมีทั้งพระเครื่องและฟุตบอล แถมตอนท้ายยังมีให้ฟันธงแชมป์บอลยูโรอีก (จะตรงหรือไม่มารอดูกัน) ส่วนผลการแข่งขั้นนั้น…อืม ก็ต้อง ต้า Paradox เป็นผู้ชนะอยู่แล้ว