Feature เห็ดนอกใจ

วิน The Ginkz

  • Writer: Patikal Phakguy
  • Photographer: Neungburuj Butchaingam

เรามีเหตุผลที่บวชสองอย่าง หนึ่ง—บวชให้พ่อแม่ สอง—อกหัก”

1

อกหักมีผลทำให้อยากบวชเลยเหรอ

มี ๆ มันเฟลอะ คบมาเกือบสิบปี พอเลิกกันจิตใจก็ห่อเหี่ยวขั้นหนัก เราอยากบำรุงจิตใจก็เลยไปบวชดีกว่า เผื่อจะมีอะไรดีขึ้น

แล้วดีขึ้นมั้ย

ดีนะ เราไปบวชที่วัดป่าด้วย บรรยากาศก็เลยสงบ เงียบดี นอกจากกวาดลานวัดแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ

ทำไมคุณถึงไปบวชวัดป่า

ตอนแรกเราก็กะจะบวชวัดในเมือง แต่มันวุ่นวาย เสียงรถดังสนั่น ไม่ต่างจากอยู่ในเมืองเลย เราคิดว่าไหน ๆ จะปลีกวิเวกแล้วก็ไปวัดป่าเลยดีกว่า ซึ่งดีนะ เงียบดี ทั้งวัดมีพระแค่ 9 รูปเอง ตัววัดไม่ใหญ่มาก แต่มีต้นไม้ใบหญ้าให้เราได้มอง ได้เห็นธรรมชาติที่เราไม่ค่อยได้สังเกต ไม่มีอะไรล่อตาล่อใจ เราเลยได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่

2

มีชาวบ้านใกล้เคียงบ้างมั้ย

น้อยครับ เพราะวัดอยู่บนภูเขา ต้องออกจากตัวเมืองประมาณหนึ่ง ชาวบ้านก็จะมาที่วัดแค่ตอนถวายเพล มีประมาณสามสี่บ้าน ไม่ได้ครึกครื้นเท่าไหร่

คุณบวชกี่วัน

สามสัปดาห์ แต่ถ้ารวมตอนเป็นนาคด้วยก็หนึ่งเดือนพอดี

ปรับตัวเยอะมั้ย

ไม่มากเท่าไหร่ เพราะเราตั้งใจว่าจะไปบวชอยู่แล้ว อะไรที่ทำไม่ได้ก็พยายามไม่ทำ อย่างเรื่องห้ามฉันหลังเที่ยง ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นอะไรมั้ย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เป็นไร ท้องร้องไปก็เท่านั้น เพราะรู้ว่ากินไม่ได้ เราเองก็เลยไม่อยากกิน

ไม่มีทำผิดกฎเลย

ก็ไม่ขนาดนั้น มีกินกาแฟหลังเที่ยงบ้าง มือถือก็พกเข้าไป ช่วงแรกมีแอบเข้า YouTube ด้วยนะ แต่ก็เข้าไปฟังพวกบทสวด ฟังพระเทศน์ ถ้าอยากได้ความบันเทิงก็ฟังพระมหาสมปองเอา

มีอินเทอร์เน็ตด้วย

มีๆ เหมือนในหนัง ฟรีแลนซ์ ฯ น่ะแหละ วัดที่เราไปบวชชื่อวัดเขานกกระจิบ ชื่อไวไฟก็ตามนั้นเลย

มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับตื่นไม่ไหวบ้างมั้ย

ถ้าวันไหนไม่ได้ทำกิจกรรมเยอะนี่ตาค้างเลย (หัวเราะ) พลังงานเหลือเฟือ แถมบางทีกินกาแฟเข้าไปอีก พอนอนไม่หลับ วันถัดมาเราก็จะโดดบิณฑบาต

โดดได้ด้วย ?

ได้ แต่จะอดกินข้าว คือของเราโชคดีหน่อยที่มีพระรุ่นเดียวกันเก็บไว้ให้ เพราะตามปกติแล้ว ถ้าเกิดโดดบิณฑบาตก็ไม่ต้องไปร่วมวงตอนเช้าเลย

โดดบ่อยมั้ย

สามครั้งมั้ง คือเราไม่อยากไปบิณฑบาตแบบเพลีย ๆ คืนไหนนอนไม่หลับเราก็เลือกที่จะไม่ตื่นเช้าเลยดีกว่า

3

คุณต้องทำทุกอย่างเองเลยหรือเปล่า

ถ้าเป็นพวกล้างบาตรต้องทำเองครับ แต่ว่าบางอย่างก็จะมีคนคอยช่วย มีทีมงานเหมือนเวลานักดนตรีมีแบ็คสเตจ หรือถ้ามีกิจนิมนต์ก็จะเหมือนไปเล่นคอนเสิร์ตเลย ได้ไปนอกพื้นที่ มีคนจัดหาอาหารให้ มีที่พักให้ พอทำกิจเสร็จก็รับเงิน เหมือนไปทัวร์ต่างจังหวัดชัด ๆ (หัวเราะ)

คุณจำบทสวดได้มั้ย

เราจำได้แค่ตอนก่อนบวช พอบวชแล้วเราไม่ได้จำเลยว่ะ ตอนไปกิจนิมนต์ก็นั่งพนมมือ ตั้งจิตศรัทธาเฉย ๆ ญาติโยมเขาก็เข้าใจแหละว่าเราเป็นพระใหม่ แต่คือเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะจำอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าจำไปก็ได้ใช้อีกไม่เท่าไหร่ เลยปล่อยไปเลย เราตั้งใจไปทำอย่างอื่นมากกว่า

ตั้งใจไปทำอะไร

ตอนไปบวชเราทุกข์ไง เราเลยอยากหาทางขจัดทุกข์ ฟังเทศน์ฟังธรรมเยอะแยะไปหมด ซึ่งก็ดีนะ ตอนแรกอาจดูเหมือนฟังยาก แต่พอฟังบ่อย ๆ ก็ชิน ทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ คือเขาบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ ทุกอย่างคือสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ถึงจุดหนึ่งเราก็เลยไม่รู้จะไปฝืนทำไม เราควรเข้าใจมันหรือเปล่า แล้วพอเข้าใจมัน เราก็สบายใจ ไม่ทุกข์ด้วยนะ

คุณได้อะไรจากการบวช

การนั่งสมาธิ

4

ทำไม

ก่อนบวชเราเป็นคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เช่น กำลังกินข้าวอยู่ เราก็ไม่ได้กินข้าวอย่างเดียว ต้องเล่นอะไรไปด้วย ต้องคิดถึงอย่างอื่นไปด้วย คือไม่ได้อยู่กับตอนนี้ เวลานี้ แล้วเราเป็นคนคิดมากด้วยไง ชอบคิดหน้าคิดหลัง หรือบางทีก็มานั่งคิดว่าสิ่งที่ทำไปแล้วมันดีมั้ย คนจะคิดยังไง วันนี้ต้องทำอะไรต่อ อีกสองวันต้องไปไหน คือเราคิดล่วงหน้าเพื่ออะไรไม่รู้ แต่เราคิดละเอียดยิบเลยนะ พอได้นั่งสมาธิปุ๊บ กลายเป็นว่าเราตัดทุกอย่างไปหมดเลย เราได้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องคิดว่าจะทำอะไรต่อ หรือเพิ่งทำอะไรมา สำหรับเรา การนั่งสมาธิเลยเหมือนการได้หยุดคิด คือมึงคิดมา 24 ชั่วโมงแล้วอะ มึงจะหยุดคิดสัก 5-10 นาทีไม่ได้เหรอวะ ซึ่งพอได้หยุดคิดปุ๊บ เราก็มีสติขึ้น ทำอะไรก็โอเคขึ้น ความจำดีขึ้น ไม่เครียดเรื่องนู้นเรื่องนี้

มันไม่ใช่ว่าเราคิดให้ตัวเองไม่ต้องคิด

ก็ไม่นะ เราก็แค่อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องคิดถึงข้างหน้า ไม่ต้องคิดถึงข้างหลัง ไม่ต้องคิดถึงอะไรเลย อย่างตอนนั่งสมาธิ เราก็ท่องพุทโธเพื่อเป็นอุบายหลอกให้ตัวเองสงบ เพื่อให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบัน เพราะถ้าเราคิดถึงอย่างอื่นมันก็อาจจะฟุ้งซ่าน การกำหนดหรือสังเกตลมหายใจเข้าออกก็เป็นวิธีที่ดีที่ทำให้เราไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น

อยู่ดี ๆ ไปนั่งสมาธิ ไม่เบื่อเหรอ

ไม่นะ เพราะเราตั้งใจไปตั้งแต่แรกแล้ว เราเลยมุ่งมั่นมากที่จะหาทางคลายทุกข์ให้ได้

เล่นดนตรีไม่ช่วย

ช่วยในขณะนั้น พอไม่ได้เล่น ความทุกข์มันก็จะแวบเข้ามา

5

การบวชช่วยคุณได้จริงมั้ย

ได้นะ คือนอกจากจะทำให้เราอยู่กับปัจจุบันแล้ว ยังทำให้เราคิดได้ว่าจบก็คือจบ แค่ไม่คิดถึงก็ไม่เศร้า ไม่โกรธ ไม่คิดถึงก็จบแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องความรักเท่านั้นนะ รวมถึงทุก ๆ เรื่องเลย ล่าสุดเราโดนมอเตอร์ไซค์ขับรถปาดหน้า คนขับหันมาด่าหยาบคาย เราโกรธนิดหน่อย แต่พอขับเลยมาปุ๊บ ก็คิดได้ว่ามันจบแล้วนี่หว่า ไม่มีอะไรแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลย พอเราไม่เก็บมาคิด มันก็จบ ตอนนั้นแอบดีใจนิดหน่อยว่ากูก็ดีขึ้นนี่หว่า (หัวเราะ)

ทุกวันนี้ไม่เฮิร์ตแล้ว

อือ พอเราอยู่กับปัจจุบัน มันก็คือจบแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ เราว่านั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ช่วยแน่เลยว่ะ เพราะก่อนหน้านี้ เราพยายามหาอะไรมาช่วย แต่ก็ไม่หาย พอนั่งสมาธิดันดีขึ้นเรื่อย ๆ ซะงั้น อีกอย่างคงเพราะมีสติด้วยมั้ง แบบที่เขาบอกกันว่าสติมาปัญญาเกิดน่ะ บางทีตอนนั้นเราคิดไม่ได้คงเพราะไม่มีสติ เอาแต่คิดถึงอดีต ไม่ยอมอยู่กับปัจจุบัน

คุณในตอนนี้ต่างจากคุณในอดีตอย่างไร

ในอดีตเราเป็นคนไม่ค่อยมีสติ แต่ไม่ใช่ว่าบ้านะ ถ้าโกรธก็ใจร้อน ด่าแบบคนทั่วไป แต่ตอนนี้ก็จะใจเย็นขึ้น มีอะไรก็ฉุกคิดได้ก่อน

6

เหมือนว่ารับมือกับทุกเรื่องได้มากขึ้น

ใช่ เพราะแค่ไม่คิดก็จบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ใส่ใจอะไรเลยนะ คือเรายังสนใจเหมือนเดิม แค่เข้าใจมากขึ้นว่าบางอย่างเราทำอะไรไม่ได้ คิดเฉพาะเรื่องที่ต้องคิดดีกว่า

มันไปเปลี่ยนแนวคิดการเล่นดนตรีของเรามั้ย

นิดนึง เราอารมณ์ดีขึ้น แจ่มใสขึ้น เครียดน้อยลง แต่ก่อนเวลาเล่นดนตรีเสร็จ เราจะมานั่งดูวิดีโอที่ถ่ายเก็บไว้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง ถ้าเห็นคนอื่นเล่นไม่ดี เราร้องเพี้ยนก็จะคิดแล้วว่าต้องทำยังไงดี ควรแก้อะไร แต่ล่าสุด ไปเล่นที่โคราชมา มันก็ไม่โอเคเท่าไหร่ ผิดพลาดหลายอย่าง ถ้าเป็นแต่ก่อนต้องเครียดแล้ว แต่ตอนนี้ จบแล้วก็คือจบ ก็ดี ไม่เครียด

เพื่อน ๆ สังเกตเห็นบ้างมั้ย

ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อนน่าจะรู้สึกว่ายังเหี้ยเหมือนเดิมมากกว่า (หัวเราะ)

จะแต่งเพลงเกี่ยวกับการบวชหรือเปล่า

เออ เรื่องนี้ตลก คือตอนเราบวชได้สองสัปดาห์ พระที่มีอายุรูปหนึ่งก็ถามเราว่า “คุณน่ะ แต่งเพลงได้หรือยัง” เราก็บอกว่า “แต่งไม่ได้ไม่ใช่เหรอหลวงพี่” ท่านก็บอกว่า “คุณมาอยู่แป๊บเดียว ไม่ได้จริงจังอยู่แล้ว เขียนไปเหอะ” เราก็คิดในใจว่าได้เหรอวะ แต่หลวงพี่บอกว่าไม่ร้ายแรงหรอก อาบัติเล็กน้อย เราก็เลยลองคิดดู (หัวเราะ)

แล้วได้มั้ย

ได้มานิดเดียว คือเวลาเรานั่งสมาธิ พอจิตใกล้จะวอกแวก จิ้งจกชอบร้องทัก เราเลยคิดว่าจิ้งจกมันมาเตือน เหมือนเป็นสัญญาณคอยบอกว่ามึงนอกเรื่องอีกแล้ว เราเลยอยากทำเพลงเกี่ยวกับศีลห้า แบบคนกำลังจะขโมยของ หรือคิดทำอะไรไม่ดี จิ้งจกก็ทักเออ ไป ๆ มา ๆ เราก็ได้พวกคติจากการบวชเยอะเหมือนกัน แต่ส่วนมากมันจะเป็นประโยคเท่ ๆ สั้น ๆ ซึ่งเราก็จดเอาไว้หมด แต่ว่าจะมาดัดแปลงให้มันดีขึ้น ไม่อยากให้เท่มาก

ทำไมไม่อยากทำให้มันเท่

เราไม่ใช่คนเท่ เป็นคนไม่ชอบพูดอะไรเท่ ๆ ด้วยอะ หมั่นไส้ตัวเอง เลยอยากพูดปกติแล้วหาทางสอดแทรกไปดีกว่า เราไม่อยากพูดให้ใครเครียดด้วย อยากทำเพลงให้ฟังแล้วสบายใจ

เพราะแบบนี้ เนื้อเพลงของ The Ginkz กับเพจ แปลงซะเสียเลยเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

ใช่มั้ง เพราะเราชอบฟังพวกเพลงฟีลกู้ดของฝรั่ง ฟังแล้วอารมณ์ดี ก็เลยอยากทำแบบนั้นบ้าง

คุณมีเทคนิคเขียนเพลงมั้ย

เราไม่ชอบบังคับให้ตัวเองต้องเขียนเพลงนะ เราชอบให้มันออกมาเองมากกว่า ยิ่งถ้าได้หัวข้อเรื่องที่จะพูดแล้วยิ่งสบาย

แล้วเวลาเขียนเพลงแปลงล่ะ

แปลงซะเสีย มันเริ่มจากแปลงเล่น ๆ กับเพื่อน ทำเอาฮาเลย แค่คิดว่าถ้าเพลงนี้เป็นภาษาไทยมันจะเป็นยังไงวะ เช่น Smells Like Teen Spirit เราก็คิดว่าน้ำเสียงมันเหมือนคนเมาเลย ถ้าให้พูดเรื่องอยากกินเหล้าคงเลวดี แต่บางทีก็ไม่ได้คิดหัวข้อก่อนหรอก เพ้อเจ้อไปเรื่อย (หัวเราะ)

รู้หมือไร่?

ต้นกำเนิดของเพจ แปลงซะเสีย มาจากการแปลงเพลง Ring Ding Dongของวง SHINee เป็นเพลง ลิงคิงคอง บทเพลงว่าด้วยการเดินทางไปดูลิงคิงคองที่ห้างพาต้า ซึ่งได้รับกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามว่าตลกม้ามสั่นและโดนแฟนคลับรุมด่าว่ามึงทำแบบนี้กับ SHINee ได้อย่างไร

ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องชวนให้สะเทือนใจ เมื่อคลิปต้นตำรับที่วินอัพโหลดด้วยมือได้สาบสูญจากยูทูบไปแล้ว แต่ก็มีใครไม่รู้ได้นำมาอัพโหลดไว้เป็นมรดกเพลงแปลงให้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ฟังสืบต่อไป

ตอนที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ คลิปดังกล่าวโกยยอดวิวไปได้เกือบห้าล้าน ! แต่ที่น่าสะเทือนใจคือ มีน้อยคนนักที่รู้ว่าเจ้าของบทเพลงแปลงชิ้นนี้คือผู้ใด

เศร้าลิง ๆ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้