16 ปีบนเส้นทางดนตรีของ ‘ปั๊บ Potato’ กับชีวิตทุกด้านทุกมุมที่เราอยากให้คุณได้รู้
- Writer: Gandit Panthong
- Photographer: Chavit Mayot
“ละลายหมดเลยใจ เมื่อสิ่งที่ทำเพื่อเธอไม่เคยมีความหมาย หัวใจหมดแรงเลย ละลายหมดแล้วใจ ทำดีแทบตายสุดท้ายไม่มีที่อยู่”
ผมเชื่อว่าเพลงนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ใครจะเชื่อล่ะครับว่าเพลงนี้มีอายุถึง 16 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั้นก็หมายความว่า วงดนตรีที่ชื่อว่า Potato ก็เดินทางผ่านร้อนหนาวมาเป็นระยะเวลา 16 ปีแล้วเช่นกัน ครั้งนี้ผมจึงมีโอกาสได้คุยกับผู้ชายคนนึงที่ตัวผมเองก็ยอมรับว่า เฝ้ารอเวลาที่จะได้คุยกับเขามาเป็นเวลาหลายปี โดยบทสัมภาษณ์นี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง ทุกด้านทุกมุมกับผู้ชายคนนี้ชื่อว่า พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข หรือ ปั๊บ Potato
ยังไงคนเราก็ต้องเจอปัญหาอยู่แล้วครับ ต่อให้เราประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เราจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นยังไงมากกว่า
เส้นทางสายดนตรี 16 ปีของผู้ชายที่ชื่อ ปั๊บ Potato เป็นอย่างไรบ้าง
เรารู้สึกว่า เหมือนเพิ่งเริ่มต้นเล่นดนตรีเลยด้วยซ้ำ รู้สึกสดใหม่มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะเลย เหมือนยิ่งเดินทางไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันกว้างเรื่อย ๆ รู้สึกสนุกมากกว่า
ถ้าเปรียบกับชีวิตคนหนึ่งคน นาย Potato อายุ 16 ปีแล้ว ถือว่าเติบโตขึ้นมากน้อยแค่ไหน
ผมไม่ได้คิดเลยนะว่าจะต้องเป็นแบบไหน อะไร ยังไง รู้แค่ว่า เราต้องตั้งใจทำผลงานไปเรื่อย ๆ อย่าง นาย Potato ที่ตอนนี้อายุ 16 ปี เขาก็คงคล้าย ๆ กับเด็กมัธยมที่กำลังจะต้องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยในยุคนี้ คงจะมีความจริงจังในชีวิตอยู่ประมาณนึง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความสนุกสนานในตัวเองอยู่เช่นกัน ลองนึกถึงตอนเราอายุ 16-17 สิครับ หลายคนจริงจังกับอนาคตของตัวเองว่าจะไปต่อยังไงดีกับชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังสนุกสนานกับชีวิตได้ ยังเที่ยว ยังหาอะไรเติมให้กับชีวิตได้อยู่เสมอ
ตัวตนของวง Potato เป็นแบบไหน
เป็นคำถามที่เราชอบปฏิเสธที่จะตอบนะ เราจะบอกว่า มันมีด้วยเหรอ แต่ในความเป็นจริงคือมันไม่ได้เว้ย มันต้องมี เวลาเราจะขายของมันก็ต้องมีจุดเด่นของเรา แต่ถ้าเอกลักษณ์ของผมมันคือ การไม่มีเอกลักษณ์มันคือเอกลักษณ์รึเปล่า มันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบเหมือนกันนะ สุดท้ายเรามองว่ามันคือความจริงใจที่เรามีต่องานที่เราทำมากกว่า ผมเคยทำเพลงที่แบบเหมือนเอาความสำเร็จในวันก่อนเป็นตัวตั้งนะ นอกจากมันไม่ดีต่อคนฟังแล้ว มันก็ไม่ดีต่อตัวเราด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจูนกับบริษัทของเราให้ได้ จูนกับความรู้สึกของตัวเองด้วยว่า เราจะนำเสนอเพลงของเรายังไงให้น่าสนใจและเรามีความสุขกับสิ่งที่ทำ แค่นั้นมันก็แฮปปี้แล้วสำหรับผม
ถ้าต้องแนะนำเพลง Potato ให้กับคนที่ไม่รู้จักฟังอยากให้เขาฟังเพลงอะไร
อยากให้ฟังเพลง เพียงพอ ครับ ผมว่า เพลงมันน่ารักกำลังดี เวลาเราจะบอกความรู้สึกกับใครสักคน เพลงนี้มันบอกได้หมดว่า ฉันกำลังรักเธออยู่ แล้วมันบอกได้ด้วยว่า ฉันเป็นคนแบบนี้ ฉันพอใจที่เป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้อยากจะหมุนไปตามโลกขนาดนั้นนะ การที่มีเธอตรงนี้อยู่มันโอเคแล้ว
เพลงที่ชอบที่สุดของ Potato
ถ้าชอบที่สุด ณ วันนี้คงเป็นเพลง ทุกด้านทุกมุม ครับ มันเป็นตรรกะปัจจุบันของเราดี เมื่อก่อนเราอาจจะมีความกบฏโลกในใจแล้วบางทีมันทำให้มีความดาร์กเกิดขึ้น เพลงนี้มันสื่อให้เห็นว่าบางทีเราไม่ควรไปตัดสินใครก่อนที่เราจะได้รู้จักเขาเต็ม ๆ คล้าย ๆ กับเมื่อก่อนตัวผมเองจะกลัวคนที่เข้ามาคุยกับเรามาก จะเกิดคำถามว่า เอ๊ะ เขาเป็นยังไง เขาจะมาทำอะไรเรารึเปล่า ซึ่งจริง ๆ เขาอาจจะไม่ได้ทำอะไรก็ได้ แต่มันทำให้เราเผลอไม่พอใจและกลัวไปโดยอัตโนมัติ ปัจจุบันเราก็คลายปมตรงนี้ออก เวลาเห็นอะไรหรือใครก็จะไม่คิดมาก ไม่ค่อยกังวล เพลงเนี่ยจึงน่าจะเหมาะกับช่วงนี้ผมมาก ๆ
ได้อ่าน feedback เวลาปล่อยเพลงบ้างรึเปล่า
ถ้าเรื่องดี ๆ มันก็ดีอยู่แล้วครับ (หัวเราะ) แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่ดี เราก็ต้องกลับมาพิจารณาว่าเป็นอย่างที่เขาว่ารึเปล่า กลับมาทบทวนหน่อย บางอย่างมันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้ แต่ก็ไม่ได้แบบไปคิดเยอะ เมื่อก่อนช่วงวัยรุ่นอาจจะมีบ้าง เฮ้ย ทำไมต้องมาด่าวะ ทำไมทำไมต้องใช้คำพูดรุนแรงขนาดนี้ แต่มันก็แค่นั้นเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
จะได้ฟังอัลบั้มใหม่ล่าสุดของ Potato เมื่อไหร่
ตอนนี้ไหลมาเรื่อย ๆ จนครบ 7 ปีแล้วก็ยังไม่ได้ออกอัลบั้มเต็มเลย ออกมาแต่ซิงเกิ้ล จริง ๆ จะมีเพลงส่วนนึงที่ทำในอัลบั้มเก็บไว้ ตั้งใจจะทำให้เสร็จปีนี้แน่นอนครับ
ความรู้สึกที่มีต่อแฟนเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงเพลงล่าสุด
รู้สึกศรัทธาครับ ศรัทธาในหัวใจที่เขามีความรักให้กับใครก็ไม่รู้ บางคนเจอกันน้อยครั้งมากแต่ก็ยังติดตามอยู่ เราไม่ใช่ญาติพี่น้องกัน ไม่ได้เกิดมาจากพ่อแม่คนเดียวกัน แต่มีความผูกพันกันทางความรู้สึก มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกศรัทธาในความรักที่เขามีให้กับอะไรสักอย่างนึง เราได้เห็นคนที่เขาโตมากับเรา แต่งงานมีลูก บางคนพาภรรยามาแล้วบอกกับผมว่า ผมแต่งงานกันเพราะเพลงพี่นะครับ บางคนพาสามีมา ‘เออพี่นี่แฟนหนู เมื่อก่อนก็ชอบกันเพราะเพลงพี่นะ’ มันเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในช่วงชีวิตของเขา จากตรงนี้แหละที่มันทำให้เรารู้สึกว่า เราได้รับความรู้สึกใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเลย
16 ปีที่ผ่านมาแน่นอนเหตุการ์ณที่ดีก็มีเยอะ แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกท้อล่ะมีบ้างไหม
มันมีอยู่แล้ว แต่มันไม่ได้เป็นแนวท้อแท้ เชื่อไหมว่าเราไม่เคยมีความรู้สึกจะยอมแพ้เลย มีแต่ว่าเราจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงดี จะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยก็พัก ผมว่าน่าจะเป็นช่วงประมาณอัลบั้มที่ 3-5 มันเป็นช่วงเข้มข้นมาก ช่วงนั้นจะเครียดหน่อย จะแก้ปัญหายังไง จะหาทางออกยังไง มันเป็นประมาณนี้มากกว่า
จากเหตุการณ์เหล่านั้นมันทำให้เราโตขึ้นไหม
ไม่รู้ (หัวเราะ) บางทีมันก็ทำให้เราเด็กลงอีกต่างหาก บางเรื่องเราก็ไม่อยากแก่ ไม่อยากคิดแบบผู้ใหญ่ขนาดนั้น ยังมีความย้อนแยงในบางครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็ง รู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนแออยู่เสมอ แต่ว่าพอเรายอมรับความอ่อนแอเรื่อย ๆ เราก็จะมีเกราะป้องกันใหม่ที่สร้างขึ้นมาในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ยังไงคนเราก็ต้องเจอปัญหาอยู่แล้วครับ ต่อให้เราประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เราจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นยังไงมากกว่า
เหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดระหว่างที่ทำวง Potato
จริง ๆ วันนี้ที่เรานั่งคุยกันอยู่ก็ประทับใจนะ อันนี้ไม่ได้อวยนะครับ ตอนผมได้รับสายจาก PR ว่า วันนี้ Fungjaizine จะมาคุยกับผม ผมแบบ จริงเหรอ ผมประทับใจกับ ฟังใจ มาก ๆ ครับ เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในบทสัมภาษณ์นี้ล่ะครับที่ผมประทับใจมาก ๆ เช่นกัน
วินาทีที่รู้จักโลกของฟังใจ
เอาจริง ๆ แค่มีคนเขียนคอลัมน์อะไรถึงเราก็ดีใจแล้ว แล้วยิ่งพอเรารู้ว่ เขาเหมือนห้องสมุดของคนฟังเพลงเรายิ่งประทับใจ ยิ่งอยากสนับสนุน คนไทยควรมีห้องสมุดเก็บสะสมเพลงไทยไว้ครับ ไม่ใช่แค่เพลงในค่ายใหญ่หรือค่ายอินดี้นะ ควรจะให้แง่มุมกับคนอิสระที่เขามีใจอยากจะแสดงผลงานของเขาด้วย ฟังใจน่ารักครับ ดีใจที่มีกลุ่มคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นมา ทุกอย่างมันดีหมดเลย ทั้งรูปภาพ เห็นแล้วมันก็สบายใจอยากจะเข้าไปอ่าน มันดูน่ารักดีทั้งหมดเลย
ได้ฟังวงใหม่ ๆ หรือวงนอกกระแสบ้างไหม
ผมฟังนะครับ ทั้งวงใหม่และเก่าเลย ถ้าวงเก่าจะชอบฟังวงนั่งเล่นครับ ทุกคนน่าจะรู้จักกัน ผมว่าเวลาผมเหนื่อยแล้วฟังเพลงพี่ ๆ เขาแล้ว เหมือนเราได้ไปกินอาหารที่ถูกปรุงมาแล้ว กินแล้วมันสบายใจ อย่างวงหน้าใหม่ที่ฟังเลยตอนนี้ก็ Solitude is Bliss เป็นวงเชียงใหม่ ผมเพิ่งศึกษาเขา ขอใช้คำว่าศึกษาละกันนะครับ (หัวเราะ) คือผมฟังเพลงไปเรื่อย ๆ แล้วเปิดมาเจอเพลงของพวกเขาพอดี ได้ยินแล้วมันรู้สึกแปลก ๆ ทำไมมันสะกิดใจเราดีเลยชอบวงนี้ครับ อีกอย่างผมว่า การที่เราได้ฟังเพลงหรือได้เห็นวงหน้าใหม่ ๆ เนี่ย มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวผมเองมากนะ บางครั้งเราเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ยิ่งสร้างกรอบให้ตัวเอง โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้เจตนาจะให้กรอบนั้นมันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการที่เราได้กลับไปฟังเพลงใหม่ ๆ หรือได้เจอศิลปินรุ่นใหม่มันทำให้เรารู้สึกถึงพลังสปิริตของคนที่โหยหาอะไรสักอย่างที่เขาอาจจะไม่รู้คำตอบก็ได้ แต่ว่าความรู้สึกที่เขาส่งผ่านเสียงเพลงมันส่งมาถึงผมไง ทำให้รู้สึกว่า เราควรเติมไฟให้กับตัวเองบ้าง
การที่เราได้ฟังเพลงหรือได้เห็นวงหน้าใหม่ ๆ เนี่ย มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวผมเองมากนะ บางครั้งเราเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ยิ่งสร้างกรอบให้ตัวเอง โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้เจตนาจะให้กรอบนั้นมันเกิดขึ้น
อยากดู Solitude is Bliss เล่นสดไหม
จริง ๆ ผมก็ดูผ่าน YouTube นะ เข้าไปดูที่พวกเขาไปเล่นของเห็ดสดด้วย (หัวเราะ) พวกเขาเจ๋งมาก แถมพอดูในนั้นแล้วก็ได้ดูของเพื่อนตัวเองที่ไปเล่นมาด้วย เพื่อน Stamp น่ะครับ จากนั้นก็แว้บไปดูวงอื่นในนั้นบ้าง จริง ๆ ในช่องฟังใจบน YouTube มันเหมือนพวกคุณคัดวงเด็ด ๆ มาให้เราดูแล้ว แถมวงเหล่านั้นมันก็เหมาะกับคนแบบพวกผมด้วยเหมือนกัน
เพลงโปรดเพลงล่าสุดที่ชอบปั๊บชอบ
ดอกไม้ในที่ลับตา ของวงนั่งเล่น ครับ ผมว่าเนื้อหามันดีมาก ๆ เลย แน่นอนครับทุกคนอยากมีคุณค่า อยากถูกเห็นค่า ลึก ๆ แล้วเราจะรู้สึกเบิกบานทันทีเมื่อมีคนเห็นค่าเรา แต่บางทีพอเราโหยหาการถูกเห็นค่ามากไปมันก็กลายเป็นทุกข์ เพลงนี้มันเหมือนเขาจะพยายามบอกเราว่า ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองนะ จงภูมิใจในตัวเอง เหมือนดอกไม้ในวันที่เขาบานในที่ลับตา แต่สุดท้ายเขาก็มีคุณค่าเช่นกัน เขาสวยงามอยู่แล้ว สิ่งเร้ารอบ ๆ มากกว่าที่บางครั้งอาจจะทำให้ตัวเราเป็นทุกข์ เพลงนี้มันเลยเป็นเพลงที่ผมอยากให้ทุกคนลองฟังกัน แต่ยังไม่มีในฟังใจนะครับ (หัวเราะ)
ยิ่งเติบโตขึ้นเพลงที่ฟังก็ยิ่งเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
ไม่เลย เราฟังเพลงหลายแบบขึ้นมากกว่า ป๊อป แจ็ส หลอน ๆ หรือดาร์ก ๆ เราก็ฟัง เราว่าฟังเพลงมันเหมือนอ่านหนังสือ แต่เวลาฟังเพลงมันง่ายกว่าอ่าน มันมีทั้งคำพูดและความรู้สึกส่งออกมาด้วย ทุกวันนี้ผมยังฟังเพลง ทาทา ยัง อยู่เลย (หัวเราะ) เราไม่อยากยึดติดกับการฟังเพลงของเราเท่าไร ถ้าเรายึดติดเรากลัวว่าวันนึงเราจะกลายเป็นคนที่ทุกข์ เราขอเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แบบนี้ดีกว่า
เราว่าฟังเพลงมันเหมือนอ่านหนังสือ แต่เวลาฟังเพลงมันง่ายกว่าอ่าน มันมีทั้งคำพูดและความรู้สึกส่งออกมาด้วย
มองวงการเพลงไทยตอนนี้ไว้เป็นอย่างไร
ผมว่ามันมีความแตกต่างแบบที่จับต้องได้อยู่นะ คือทุกคนโหยหาเพลงที่จะมาช่วยเยียมยาจิตใจของเรา เพลงที่ทำให้เรากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหรือเพลงที่ทำให้เราเศร้า บทเพลงมันเหมือนเดิมนะ แต่รูปแบบการรับรู้ของคนอาจจะเปลี่ยนไปมากกว่า แล้วก็มีศิลปินรุ่นใหม่ที่ทำให้คนเห็นมากขึ้น ผมมองว่ามันเป็นวันที่ดีของเรานะ ผมเลือกที่จะมองในแง่ดีมากกว่า ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้เห็นผลงานของคนที่เขาอยากจะแสดงออกเยอะขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักหรือไม่เป็นที่รู้จัก มันมีพื้นที่เล็ก ๆ ให้เขาได้นำเสนอผลงานกันได้เยอะกว่าสมัยก่อน ตรงนี้มันเป็นเรื่องที่ดีและมันก็แฟร์ แต่อย่างที่ว่าโลกนี้มันไม่มีความแฟร์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นความเป็นจริง ถ้าเราโหยหามันมากเกินไปมันก็จะทุกข์มาก ตอนนี้ทุกคนมีโอกาสที่จะเสพหรือไม่เสพเพลงก็ได้ ผมมองว่ามันเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและคนทำเพลงเลยล่ะ
เวลาเห็นเด็กรุ่นใหม่เล่นเพลง Potato รู้สึกยังไงบ้าง
เขิน แบบเวลาไปกินข้าวก็รู้ว่าเขาเปิดเพลงเอาใจนะ แต่มันจะเขินนิดนึง เหมือนเพลงเราจะไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนรึเปล่า เขาไปกินข้าวแล้ว เขาไม่ได้อยากจะฟังเพลง Potato รึเปล่า เกรงใจเขาอะ แต่ลึก ๆ ก็ดีใจแหละที่เขานึกถึงเพลงเรา ส่วนเด็กเอาไปประกวดก็ดีใจอยู่แล้ว เฮ้ย เพลงเรามันเอาไปประกวดได้เลยเหรอวะ มันไม่ค่อยเห็นเลยยิ่งพวกการประกวดวงดนตรีด้วยนะ เวลาเห็นแล้วมันก็ดีใจ
ถ้ามีโอกาสบอกเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ในตอนนี้ได้อยากบอกอะไร
อย่าลืมความสนุก ความสุขในวันที่เราได้เริ่มทำวงดนตรี ถ้าวันไหนที่เราเริ่มคิดเยอะขึ้น กรอบเยอะขึ้น กังวลมากขึ้นก็ลองกลับตามหาความกล้าหาญของตัวเองในตอนเด็กดู ทุกคนมีความกล้าครับ อยากให้เก็บตรงนั้นไว้เสมอ
อย่าลืมความสนุก ความสุขในวันที่เราได้เริ่มทำวงดนตรี ถ้าวันไหนที่เราเริ่มคิดเยอะขึ้น กรอบเยอะขึ้น กังวลมากขึ้นก็ลองกลับตามหาความกล้าหาญของตัวเองในตอนเด็กดู ทุกคนมีความกล้าครับ อยากให้เก็บตรงนั้นไว้เสมอ
คุยกันมาตรงนี้เราก็ได้รู้เรื่องราวของวง Potato และการเดินทางของผู้ชายที่ชื่อ ปั๊บ มาประมาณนึงแล้ว ถึงคราวที่เราจะหยิบเรื่องชีวิตส่วนตัวของเขามาคุยกันต่อเลยว่าในยามที่เขาพักจากเสียงดนตรีไป ผู้ชายคนนี้ทำสิ่งใดบ้าง กิจกรรมสมาธิที่เจ้าตัวสนใจมันเกิดขึ้นจากอะไร รวมไปถึงความรักและอนาคตที่เขามองหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร เชิญอ่านต่อกันได้เลยครับ
งานอดิเรกในแต่ละวันของผู้ชายชื่อ ปั๊บ
เล่นเกมครับ พวก Nintendo Switch, PS4 อ่านหนังสือ ออกกำลังกายบ้าง กินข้าว ดูหนัง อยู่กับแฟนและก็ทำสมาธิ
เป็นคนติดเกมรึเปล่า
ก่อนหน้านี้ติดหนักครับ เดี๋ยวนี้เหลือเล่นแค่วันละ 1-2 ชั่วโมงพอแล้ว เคยเล่นเกมออนไลน์ก็จะแบบเฮ้ย ยอมไม่ได้เว้ย เราต้องชนะ หลัง ๆ มาเลิกเล่น ไปเล่นแต่เกมแบบคนเดียวแล้ว เล่น The Elder Scrolls V: Skyrim เล่นประจำเกมนี้
ทำไมถึงหัดนั่งสมาธิ
มันเกิดจากเวลาที่เราทำงานแล้วเจอปัญหาขึ้น แถมมันเป็นช่วงวัยที่เราชอบใช้ความคิดมากลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงด้วย เราต้องเผชิญกับปัญหาแล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมว่าการทำสมาธิมันทำให้เราผ่านเรื่องราวตรงนี้ไปได้ บางทีเราชอบโดนความคิดหลอกก็มี สมาธิมันช่วยให้ผมผ่านปัญหามาได้ โดยที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะอธิบายเป็นตัวหนังสือยังไง แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่ปฏิบัติสมาธิจริง ๆ จะเข้าใจนะ คือไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องเข้าวัดสวดมนต์หรือทำบุญ แต่มันคือการปล่อยวางหรือการทำให้จิตมันว่าง บางทีมันก็ไปปิ๊งวิธีการแก้ปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ ส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องของปัญหาล่ะครับ สมาธิช่วยได้นะ ผมฝึกมา 6-7 ปีแล้วครับ
เรื่องการถ่ายภาพก็เป็นอีกเรื่องที่สนใจมาก ๆ เช่นกัน
ใช่ครับ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่ก็มันก็ให้นามธรรมเช่นกัน คือใน 1 รูปมันสามารถทำให้คนตีความรู้สึกได้หลายความรู้สึก จากความรู้สึกของคนที่ดูเอง รูปนึงรูปผมถ่ายไปแบบนี้ แต่คนมาเห็นรู้สึกว่า ทำไมเหงาจังเลย ทำไมรู้สึกว่างเปล่าจังเลย ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของรูป บางครั้งเราเลือกอยากเลือกคอมโพสในแบบที่เราต้องการ มันอาจจะไม่สวยก็มี ทุกอย่างมันสามารถจัดการได้ด้วยความคิดของเราครับ การถ่ายรูปเนี่ย
รูปที่ชอบที่สุด
มันไม่ใช่รูปที่ผมถ่ายคนเดียวน่ะสิ มันเป็นรูปที่ผมถ่ายกับแฟนผมแล้วก็มันเกิดเรื่องบังเอิญขึ้น รูปนี้เป็นรูปฟิล์มที่มันถูกถ่ายซ้ำ คือเหมือนว่าฟิล์มที่เราใช้ไปแล้วหนึ่งม้วน พอเรากรอกลับไปมันเหลือลิ้นอยู่เพื่อเก็บฟิล์มไว้ แล้วเราก็เอากลับไปใช้อีก มันเลยเกิดเป็นรูปที่ผมจะให้ทุกคนดูรูปนี้ล่ะครับ เขาเรียกว่า double exposure รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจนะครับ แต่รูปนี้เรามองว่ามันดีมาก คือ เราไปเที่ยวกัน 3 คน เรา แฟน น้องชาย มันเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ แล้วมันทำให้รู้สึกว่ามันมีค่าต่อเรามาก ๆ ยิ่งเป็นเพราะปกติไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนกับน้องชายด้วย ทุกคนอยู่ในเฟรมเดียวกันโดยที่ไม่ได้ตั้งกล้องไว้มันดีมาก ๆ เลย
จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้สะสมรองเท้า
มันเริ่มมาจากทาง Nike เขาสปอนเซอร์เอารองเท้ามาให้เราใส่ครับ ไป ๆ มา ๆ เอ๊ะ รองเท้าเริ่มเยอะขึ้น อาจจะมีแบ่งไปให้เพื่อนบางบ้างคู่ แต่ว่ามันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า ทำไมคนถึงต้องหลงใหลรองเท้าขนาดนั้น เลยไปศึกษาบางอย่างมา เราก็เลยซื้อเก็บบางคู่แต่สุดท้ายแล้วก็ใส่มันอยู่คู่สองคู่เนี่ยล่ะ (หัวเราะ)
รองเท้าคู่โปรด
คู่ที่ใส่มาวันนี้เลย Nike Lap Zoom Fly มันวิ่งดี เดินดีด้วย แล้วก็เวลาเราเปลี่ยนสีถุงเท้ามันก็เปลี่ยนสีรองเท้าเราด้วย คือ ถ้าเราเปลี่ยนใส่ถุงเท้าสีแดง รองเท้าก็จะเป็นสีแดงขาว มันก็น่ารักดีครับ
ความรักที่ดีในมุมมองของปั๊บ
มันมีด้วยเหรอความรักที่ดีเนี่ย (หัวเราะ) ความรักที่ดีคือความรักที่ดีและไม่ดีผสมกัน มันเป็นเรื่องปกติ เมื่อก่อนจะโหยหาเรื่องความสุข แต่วันนี้ไม่ละ บาลานซ์ทุกอย่างมันให้ดี ๆ ทำความเข้าใจกับคนที่เขาต้องอยู่กับเราให้ดีที่สุด แค่นั้นพอแล้ว
มองไปถึงเรื่องการแต่งงานไหม
มองนะ แต่มองในรูปแบบของการทำให้สังคมรับรู้ เป็นแบบประเพณีมากกว่า แต่ถ้าในมุมของตัวเอง เราก็เต็มที่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราตกลงคบกันแล้ว เรามองว่ามันก็ต้องเป็นแบบนั้นปะวะ ทำไมเราต้องมากั๊กตัวเองเพื่อรอวันที่แต่งงานแล้วค่อยเปลี่ยนชีวิตเราอีกทีนึง เราก็เต็มที่ไปเลยดิจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง อันนี้ในมุมมองของผมนะ ผิดถูกมันไม่มีอยู่แล้วล่ะ แต่วิธีของผมมันคือแบบนี้ ถ้าเราจะตัดสินใจจะใช้ชีวิตกับใครมันก็ต้องเต็มที่ดิ แต่ถ้าเกิดเรายังไม่แน่ใจ มันชัวร์อยู่แล้วว่าคุณไม่แน่ใจอะ การมีแฟนมันไม่แน่ใจไม่ได้อะ
ถ้าเราจะตัดสินใจจะใช้ชีวิตกับใครมันก็ต้องเต็มที่ดิ แต่ถ้าเกิดเรายังไม่แน่ใจ มันชัวร์อยู่แล้วว่าคุณไม่แน่ใจอะ การมีแฟนมันไม่แน่ใจไม่ได้อะ
G19 มหกรรมคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า
สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ วง Potato เองก็คงพกความสนุกสนานในแบบฉบับของเราไปเลย วันนั้นคนดูไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลยครับ มันเป็นงานรวมครอบครัวของเรามาอยู่ด้วยกัน ทุกคนก็มาเจอกันด้วยเสียงเพลง ผมจะทำโชว์วันนั้นให้ไม่ซับซ้อนที่สุด อยากให้ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติที่สุดครับ ส่วนเพลงใหม่น่าจะยังก่อนนะครับ งานนี้อาจจะยังไม่ได้ยินกัน (ยิ้ม)
สุดท้ายอยากฝากอะไรให้กับคนอ่านบทสัมภาษณ์นี้
ฝากเนื้อฝากตัวเป็นแฟนฟังใจด้วยนะครับ มีอะไรก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ ขอบคุณที่มาสัมภาษณ์มากกว่าครับ แล้วมีโอกาสเราคงได้พบกันครับ
หลังจากสิ้นสุดคำถาม เราทั้งคู่มีความสุขมาก ๆ กับการได้เจอกันครั้งนี้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ต่างคนต่างยอมรับว่ารอคอยช่วงเวลานี้มานานกว่าจะได้มีโอกาสนั่งคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในวงการดนตรีกัน ส่วนตัวผมก็เชื่อว่า ท่านผู้อ่านทุกท่านคงมีความสุขมาก ๆ หลังจากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายนี้ฝากผู้ชายคนนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
#Fact เรื่องที่ไม่ต้องรู้ก็ได้เกี่ยวกับฟังใจและปั๊บ Potato
- บทความที่ปั๊บได้อ่านและแชร์ไปบนเพจตัวเองตอนนั้นคือ บทความรีวิวเพลง สมดุล ที่ออกในต้นปี 2015 ซึ่งนั่นคือที่มาที่ทำให้ปั๊บรู้จักเว็บไซต์ฟังใจอย่างเป็นทางการ
- ช่างภาพที่ถ่ายรูปปั๊บในบทสัมภาษณ์นี้ นามว่า ‘บุ๊ค’ เขาได้แสดง mv ทุกด้านทุกมุม ในบทบาทของ ‘หมวดเอก’ ไปตามดูกันได้นะครับ
- Playlist บนฟังใจที่ปั๊บฟังล่าสุดคือ อ่านไม่ตอบคือคำตอบ
- งานคอนเสิร์ตฟังใจในอนาคต เราอาจจะได้เห็นผู้ชายคนนี้มาอยู่ในคอนเสิร์ตก็เป็นได้ เพราะเขาได้ให้คำสัญญาไว้กับเราแล้วว่า จะมาดูคอนเสิร์ตเห็ดสดอย่างเป็นทางการสักครั้งนึง ส่วนจะเป็นงานไหนนั้นโปรดติดตาม
- นอกจากวง Solitude is Bliss แล้วปั๊บยังชอบวง Harmonica Sunrise และวง ปลานิลเต็มบ้าน อีกด้วย
- แม้จะจบบทสัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ปั๊บเองก็มีคำถามกับฟังใจเหมือนกันว่า ทางเรามองทิศทางดนตรีเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ซึ่งคำตอบขอเป็นแค่เรากับปั๊บเท่านั้นที่รู้กันนะครับ