โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน
- Writer: Teeraphat Janejai
- Photographer: Nattanich Chanaritichai
คำเตือน : บทสัมภาษณ์นี้เหมาะกับผู้อ่านทุกวัย แม้จะมีคำหยาบคายแทบทุกบรรทัด โปรดเตรียมใจและเปิดใจก่อนอ่าน
หากคุณยังไม่เคยดูรายการออนไลน์ที่มีคนสามสี่คนนั่งคุยเรื่อยเปื่อยในรถที่ชื่อว่า The boys & Paloy ของแชนแนล Paloy’s diary เราขอแนะนำให้คุณลองไปกดดูสักตอน สร้างความคุ้นเคยก่อนจะอ่านบทสัมภาษณ์ของโอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน นักร้องหุ่นอวบที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถและพร้อมจะพูด เหี้ย ค_ย สัด แบบไม่ยั้งปาก
แต่ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของเขาอยู่ คุณก็คงจะคุ้นชินและคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นแค่คนตลกและหยาบคาย เราอยากให้คุณเปิดใจลองอ่านบทสัมภาษณ์นี้ดู แล้วคุณจะพบว่า
เขาตลก หยาบคาย และมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิดจนต้องร้องออกมาว่า ‘เยดโด้โคตรคูล’
จุดเริ่มต้นของรายการ The boys & Paloy
พลอย หอวังเคยทำรายการแฟชั่นกับทาง SpokeDark อยู่ แต่ก็พักไป ทีนี้ทางพี่โรซี่ (โปรดิวเซอร์ SpokeDark) ก็กำลังหารายการใหม่ ๆ พลอยก็เสนอรายการ Paloy’s diary พลอยก็จะถ่ายชีวิตประจำวันของตัวเองไปเรื่อย ซึ่งเราก็อยู่ด้วยตอนถ่ายคลิปตลอด บางทีเราก็แวบ ๆ อยู่ในกล้องกับมันนั่นแหละ ทีนี้ เรา พิชญ์ C-Quint กับพลอยสนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ แล้วพลอยไปดูรายการ Carpool Karaoke ของ James Corden ซึ่งจะเชิญคนดัง ๆ ขึ้นรถมาร้องเพลงด้วยกัน พลอยก็คิดว่าเราน่าจะทำแบบนั้นได้ แล้วเวลาเราอยู่ในรถเราก็คุยกันแบบนั้นอยู่แล้ว
เป็นศิลปินดาราแล้วพูดคำหยาบออกสื่อไม่กลัวเสียภาพลักษณ์เหรอ
เราคิดว่ารายการนี้เป็นเหมือนเส้นขนานของวงการบันเทิง เป็นรายการสีเทา เพราะเวลาเราเห็นศิลปินออกรายการก็จะเรียบร้อย แต่ถ้ามาออกรายการเราจะพูดเหี้ย แจกค_ยก็ได้ ถามว่าหยาบคายมั้ย ใช่ หยาบคาย แต่เราอยากให้คนทั่วไปเห็นว่า ศิลปินก็เป็นคนทั่วไปนี่แหละ ไม่มีใครขาวสุดดำสุด เวลาเราคุยกับเพื่อนเราก็พูดแบบนี้ ณเดชน์เวลาอยู่กับเพื่อนก็ต้องเคยพูดค_ยบ้างแหละ แต่แค่เขาไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็น คนก็เลยชอบรายการเรา เพราะเป็นอีกมุมของศิลปินที่คนไม่เคยเห็น
เสียงตอบรับของรายการเป็นอย่างไร
เราตกใจมากที่มีคนดูมากขนาดนั้น ทุกวันนี้เพจ Paloy’s diary ยังไม่เคยซื้อโฆษณาของเฟซบุ๊กเลยนะ แต่เรามียอดแชร์คลิปแต่ละคลิป 3 – 7 พันครั้ง ยอดเข้าชมแต่ละคลิปเฉลี่ยแล้ว 3 – 4 แสนครั้ง
มีคนชอบเยอะ แล้วมีคนด่าเยอะมั้ย
คนไทยในโซเชียลเป็นคนขี้ด่าอยู่แล้ว อย่างคลิปที่พิชญ์ปามาการองออกไปข้างถนน โอ้โห คนถล่มยับ ซึ่งเราก็รู้สึกผิดจริง ๆ นะ รวมถึงเรื่องพูดหยาบคาย จะมีคนคอมเมนต์ว่าทำไมเราทำแบบนี้ ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชน แต่เราไม่อยากตอบโต้คนที่มาด่าเรา คนที่ไม่โอเคกับเราก็ควรจะปิดคลิปตั้งแต่ได้ยินค_ยคำแรกแล้ว รายการเราเป็นรายการทางเลือก ถ้าชอบถ้ารับได้ก็ดู ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร อย่าดูเลย เราแค่ทำให้ทุกคนได้คลายเครียด ให้ได้หัวเราะกัน
แปลว่าเตรียมใจโดนด่ามาแล้ว
อย่าเรียกว่าเตรียมใจ เรียกว่าไม่ใส่ใจดีกว่า เพราะเราเป็นเรา เราอยากให้คนชอบเราที่เป็นแบบนี้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เราหยาบคายแต่ไม่ได้เป็นคนเลว
เวลาคนมาคอมเมนต์ว่าทำไมไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรู้สึกอย่างไร
เรามองว่าการพูดหยาบคายไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ คนเราอยู่กับเพื่อนก็พูดแบบนี้ มันมีจริง ๆ เหรอ คนที่พูดกับเพื่อนเวลาไปกินข้าวกันว่า ‘กินอะไรมาหรือยังครับ’ ก็ไม่มีไง มีแต่ ‘เอ้า สั่งดิไอสัด’ ‘รูัมั้ยเนี่ยเขานัด 10 โมงไอสัด นี่เที่ยงแล้วไอเหี้ย’ ศิลปินดาราก็เป็นมนุษย์ทั่วไป ถ้าจะห้ามไม่ให้กูพูดคำหยาบกูก็ต้องเป็นพระแล้วล่ะ และมันก็ไม่ค่อยแฟร์ถ้าจะมาตัดสินจิตใจเราจากการเห็นว่าเราพูดหยาบคาย เราทำบุญนะ เราทำประโยชน์เพื่อสังคม มีงานการกุศลที่ไหนก็ไปช่วยตลอด แต่เราไม่เคยประกาศให้คนอื่นรู้เฉย ๆ เรารู้ว่าจิตใจเราไม่ได้สกปรก เราไม่ใช่พ่อเล้า ไม่ใช่เจ้าของอาบอบนวดเอาเด็กพม่าอายุ 18 มาขาย แต่เรารับได้ที่จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ก็จะไม่ใส่ใจ เพราะมึงไม่ได้ให้เงินกูแดกข้าวไง
มีสคริปต์หรือคิดประเด็นในการคุยก่อนขึ้นรถมั้ย
ไม่เคยเตรียมสคริปต์ครับ ไม่มีอะไรทั้งนั้น โทรนัดเพื่อน แล้วเตือนแขกรับเชิญว่าเราหยาบคายนะ โอเคหรือเปล่า คุณหยาบคายได้หรือเปล่า บริษัทคุณไม่ด่านะ ต้องถามข้อจำกัดของเขา อย่างพี่โบ-จอยซ์ Triumph Kingdom เราเจอกันวันนั้นวันแรก พอขึ้นรถมาก็เลยยังเกร็ง ๆ ต้องจอดรถพักเลยนะ เปิดเทปเก่า ๆ ให้พี่ ๆ ดูสไตล์รายการ พอขึ้นรถมาใหม่ก็ดีขึ้น เราอยากให้เป็นธรรมชาติ อยากรู้อะไรก็ถาม แต่ไม่ใช่พิธีกรนะ เพราะไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรมาก่อนทั้งนั้น ถ้าเตรียมมามันจะดูเฟค ถามโง่ ๆ ไปเลยดีกว่า และต้องบอกไว้ด้วยว่าตั้งแต่เทปแรกจนถึงตอนนี้ เราไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาเลย เพราะเราไม่อยากให้สปอนเซอร์มาควบคุมเรา ถ้าเขามาขอให้เราลดความหยาบคาย มันจะทำให้รายการไม่สนุกเลย เราบอกทีมงาน SpokeDark ไปว่าถ้ามีคนมาซื้อ รบกวนอธิบายให้เขาฟังด้วยว่าเราเป็นแบบนี้ เราไม่อยากเป็นเหมือนหลาย ๆ รายการที่เคยสนุก แต่พอมีสปอนเซอร์ก็ไม่สนุกอีกเลย ซึ่งทางทีมงาน SpokeDark ก็เข้าใจเราและไม่เคยบังคับเรา
เริ่มมีศิลปินดาราติดต่อขอขึ้นรถบ้างหรือยัง
หลายคนเลย วันก่อนไปเจอพี่ญาญ่าหญิง แกเดินเข้ามากระชากคอเสื้อเราแล้วพูดว่า “โอ๊ต ช่วยด่าพี่หน่อย หยาบคายใส่พี่หน่อย” เราก็ตกใจ คือ เจอกันครั้งแรกพี่จะให้ด่าค_ยใส่เลยเหรอ (หัวเราะ) ตอนนี้เราก็ต้องมีการคัดเลือกบ้าง แต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนสนิทถึงจะชวนมาขึ้นรถ
เคยกลับไปดูคลิปหรือดูตัวเองเล่นมุกบ้างมั้ย
ดูตลอดเลย แรก ๆ ก็ช็อกนะว่ากูเหี้ยขนาดนี้เลยเหรอ ไปถามพลอยว่านี่กูเป็นขนาดนี้เลยเหรอ พลอยก็บอกว่ามึงเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วพี่โอ๊ต (หัวเราะ) เพราะครั้งแรกที่เจอกัน เป๊ก เปรมณัช เป็นคนพาไปเจอพลอยกับพิชญ์ เจอกันครั้งแรกเราก็พูดเหี้ย พูดสัดเลยนะ จนพลอยต้องขอเบอร์โทรศัพท์เรา บอกว่าเวลาเครียดๆ จะโทรมาให้เราด่า สนุกดี
โตมาแบบไหนถึงเป็นแบบนี้
เป็นมาตั้งแต่เด็กเลย แม่เราเป็นแม่ค้า พ่อขับแท๊กซี่มาก่อน ชีวิตลำบาก เราโตมาในสังคมระดับล่าง เพื่อนติดยา ตีกัน เราโตมาในมุมเทาเข้ม ๆ ของสังคมไทย ทำให้การพูดหยาบคายเป็นเรื่องปกติสำหรับเรา เพื่อนสนิททุกคนจะรู้ว่าเราเป็นแบบนี้ เราไม่ได้แสร้งหยาบคายเพื่อให้ตลก เคยมีคนมาคอมเมนต์นะว่า ไอ้อ้วนที่ขับรถแม่งหยาบคาย แม่งเฟคชิบหาย เราโคตรอยากจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า ‘ค_ยครับ กูเหี้ยมากกว่านั้นเยอะเลยครับ ผมโตในบ่อน เกิดในซ่องครับ’ ให้รู้ไปเลยว่ากูคนจริง (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่อยากไปต่อล้อต่อเถียงหรอก เคยทำแล้วมันเสียเวลา เปลืองตัวมาก
มีแฟนเพลงช็อกมั้ยว่าคนที่ร้องเพลงละครหวาน ๆ กับคนขับรถในคลิปที่ด่าชาวบ้านไปทั่วคือคนเดียวกัน
ช็อกสิครับ มีคอมเมนต์แบบว่า ‘คนนี้เหรอเจ้าของเพลง ที่รัก ความฝันหนูพังทลายหมดเลย’ แต่สุดท้ายเขาก็จะชอบเรา เราก็ยังชอบร้องเพลง แต่นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของเรา ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าหยาบคายแล้วดังแบบนี้ ตอนร้องเพลงน่าจะแจกค_ยไปตั้งนานแล้ว (หัวเราะ) คนรู้จักเราจากรายการนี้มากกว่าตอนร้องเพลงอีก แต่เราก็ไม่คิดมากนะ เราก็ยังทำงานเพลงอยู่ เดี๋ยวจะมีเพลงใหม่ปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้ แล้วก็คงไม่พ้นคอมเมนต์แบบ ‘เยดโด้โคตรคูลเลยว่ะพี่’ แต่ก็ดีครับ ได้กลุ่มคนฟังใหม่ ๆ
มีคนเข้าใจว่าเป็น ปราโมทย์ วิเลปะนะ เยอะมั้ย?
เยอะครับ แม่งคือปมชีวิตเหี้ย ๆ ที่ตลกมาก เวลาไปเล่นแล้วเจ้าภาพบอกว่า ‘เสียดายนะครับวันนี้ไม่ได้ร้องเพลง คืนที่ดาวเต็มฟ้า’ นี่แปลว่ามึงเข้าใจว่ากูเป็นพี่โมทย์มาตั้งแต่ต้นโชว์เลยใช่มั้ย เคยมีเด็กผู้หญิงวิ่งมาหาเรากับแฟน มาขอถ่ายรูปเรา แล้วก็พูดว่า “หนูชอบพี่มากเลย ติดตามมาตั้งแต่เพลง คืนที่ดาวเต็มฟ้าแล้ว” เราก็อั้นขำชิบหาย แล้วก็เดินไปบอกแฟนว่า “เธอ เขาชอบเรามาตั้งแต่ คืนที่ดาวเต็มฟ้า แล้วอะ” แฟนเราขำก๊ากเลย
จำผิดเป็น แชมป์ ศุภวัฒน์ ก็มี เบน ชลาทิศ ก็มี แต๊บ AF ก็เคย ไปเล่นดนตรีตอนกลางคืน มีผู้หญิงเดินเข้ามาหา 4 คน “พี่แต๊บคะขอถ่ายรูปหน่อย” เราก็บอกนะว่าเราไม่ใช่แต๊บ แม่งตอบกลับมาว่า “แหมมม อย่ามาอำ หนูโหวตทุกวีก คอนเสิร์ตของพี่หนูก็เคยไป” ในใจเราคิดนะ อีห่า นี่ขนาดมึงดูทุกวีกนะเนี่ย (หัวเราะ)
เริ่มเจอคนขอให้เล่นตลกให้ดูหรือยัง
เริ่มมีแล้ว เข้ามาทัก ขอถ่ายรูป ชอบขอให้พูดหยาบคายลงสแนปแชตของเขา ได้แจกค_ยทุกวันเลย กลายเป็นว่าคนชอบให้เราหยาบคาย ก็ยังคิดอยู่เลยว่ากูต้องหยาบคายแบบนี้ตลอดแล้วใช่มั้ย มันก็แปลก ๆ ดี เพราะเราอยู่กับเพื่อนก็เลยตลก แต่จะให้เจอครั้งแรกแล้วเล่นมุกไวพจน์ เพชรตะพรึด แฮ่ มันก็ไม่ใช่เปล่าวะ ไอบ้า (หัวเราะ) แต่สุดท้ายเราก็ทำนะ
กดดันมั้ยที่มีคนคาดหวังให้ตลกตลอดเวลา
ไม่เลย เพราะเราไม่ได้สร้างมันขึ้นมา เราตลกอยู่แล้ว เราหยาบอยู่แล้ว เราร้องเพลงเพราะอยู่แล้ว ไม่กดดันเลย
แม้ว่าบางวันจะอารมณ์เสีย
เราไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง มีวันหนึ่งเราทะเลาะกับแฟนมาแต่ต้องมาร้องเพลงที่ร้านตัวเอง ขับรถมาร้องไห้มา จอดรถหน้าร้าน เช็ดน้ำตา แล้วก็บอกตัวเองว่า เราโปรโมตไปแล้วว่าเราจะมาเล่นวันนี้ มีคนมารอเราแล้ว ทุกคนอยากมาสนุกกับเรา แล้วก็เข้าไปซัดเหล้า 2 แก้ว ขึ้นเวทีบอกคนฟังว่า วันนี้เพลย์ลิสต์อกหักเว้ย ธีมชื่อ ‘เฮ้ย ไม่เป็นไร กูโอเค’ เราก็บิดให้กลายเป็นสนุกไป คนก็รู้แหละว่าเราเศร้า แต่เราก็ยังสนุกได้ จังไรเหมือนเดิม ประชดชีวิตหน่อย ‘ไม่เป็นไรครับ ผู้ชายไม่ใช่เป๊ปซี่ อย่าไปเต็มที่กับมันมากครับ’ แค่นี้คนก็สนุกแล้ว แต่พอเล่นเสร็จเราก็เศร้าของเราต่อ เราไม่ได้พยายามทำตัวสนุกนะ แต่เราแค่ไม่เอาด้านดาร์กๆ ของเราออกไปโชว์หน้าเวทีเท่านั้นเอง
เวลาเจอเรื่องเศร้ามีวิธีจัดการอย่างไร
ช่างแม่งครับ ทุกอย่างมันเกิดด้วยเหตุและผล ไม่ใช่อยู่ดี ๆ อะไรจะเกิดก็เกิด มันมีเหตุผล มีตรรกะ มันเกิดเพราะอะไร แล้วจะหายไปเพราะอะไร แล้วถ้าเรามองข้ามมันไปได้ ก็จะสบายใจ ชีวิตไม่มีอะไรมาก เกิดมาเดี๋ยวก็ตาย ชาติหน้าเราอาจจะเกิดเป็นหมาก็ได้ เพราะปากหมามาก หรืออาจจะเกิดเป็นตัวเหี้ยก็ได้ เพราะเราเหี้ยมาก (หัวเราะ) เราเกิดเป็นคนแล้วก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขแล้ว อย่าทำให้ใครเดือดร้อน พอแล้วแค่นี้
เห็นว่าเป็นพิธีกรรายการเกม
ใช่ครับ รายการ Level up ทางช่อง Voice TV เราเป็นคนชอบเล่นเกมมาก เรามีเครื่องเกมทุกชนิดบนโลกใบนี้ ยังเล่นเกมอยู่ทุกคืน จะมีแก๊งที่เล่นด้วยกันประจำ คือ พี่เผือก พงศธร, ดีเจอาร์ต เอไทม์ และก็เพื่อนพี่น้องที่สนิทกัน ตอนนี้ชอบเล่น GTA เที่ยงคืนยันตี 5 เป็นเวลาทำการ เข้าไประบายอารมณ์ ขับรถชน ปาระเบิด เอามีดแทง แจกค_ย เป็นแบบนี้กันทุกคน
และก็เป็นดีเจจัดรายการที่ FM 99 ด้วย
รายการ Sport relax จริง ๆ เริ่มทำก่อนรายการพลอยอีก เราสนิทกับพี่แจ๊คเล็ก เขาเคยมาพากย์ฟุตบอลดารา ก็เลยรู้จักกัน ด้วยความที่เป็นคนเหี้ยเหมือนกันด้วยมั้ง ชวนกันหนีเมียไปเที่ยว ชวนกันไปเตะบอล ก็เลยมาเจอพี่ป๋อง กพล ซึ่งก็กำลังหาคนมาช่วยจัดรายการอยู่ พี่แจ๊คก็เลยเสนอเรา
เฮ้ย เตะบอลเป็นด้วยเหรอ
เห็นหุ่นเราไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเตะบอลได้ เราเคยเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เป็นตัวแทนเขต ทุกวันนี้ก็เตะกับทีมพี่ต้าร์ พาราด็อกซ์ เราชอบฟุตบอลมาก เวลาได้กลิ่นหญ้าแล้วแบบอดใจไม่ไหว รู้สึกเหมือนควาย ต้องขอก้มลงไปแดกหญ้าหน่อย
แล้วก็ยังมีเพจเฟซบุ๊กถ่ายรูปด้วย
เป็นกิจกรรมใหม่ เราไม่เคยเรียนถ่ายรูปมาก่อนเลยนะ เพิ่งเริ่มถ่ายรูปจริงจังได้ปีเดียว เราชอบคุยชอบถามช่างภาพเรื่องถ่ายรูป แล้วก็เห็นว่ามันไม่ยากนี่หว่า เลยซื้อกล้องมาลองดู เริ่มจากกล้องทั่วไป พอเริ่มศึกษาก็เริ่มซื้อกล้องแพงขึ้นเรื่อย ๆ ทีนี้มารู้จักกับภัทร น้องชายบอย ปกรณ์ มันบอกให้เราลองเล่นกล้อง Leica ก็เริ่มซื้อเลนส์มาใช้ก่อน เริ่มจากหนึ่งตัว ไปตัวที่สอง โห ภาพแม่งดีชิบหายเลย งั้นเราน่าจะมีบอดี้ด้วยนะ ตอนนี้เลนส์สามตัว บอดี้สองตัว แล้วก็ยังอยากได้ไลก้าฟิล์มอีก บางตัวใช้สักปี เอาไปขายต่อขาดทุนไม่เคยเกินหมื่นบาท มันก็คุ้มแล้วนะ ยิ่งศึกษาก็ยิ่งอยากได้เพิ่ม ตื่นเช้ามาก็เข้าไปดูในกรุ๊ปไลก้าแล้ว วันนี้มีอะไรให้เสียเงินบ้างนะ เป็นความสุขอีกอย่าง ทำให้เราพยายามหาเงินมาซื้อ เป็นแรงผลักดัน
พอซื้อของแพงแบบนี้แล้ว เริ่มมีนิสัยแบบพ่อบ้านใจกล้าบ้างมั้ยครับ
มีครับ ตอนนี้มีกรุ๊ปพ่อบ้านไลก้าด้วย ประกอบไปด้วย เรา, น้องกันต์ เดอะสตาร์, น้องมาร์ช ฮอร์โมน, ภัทร, พิชญ์, ว่าน ธนกฤตก็กำลังมา ดีเจเผือกด้วย สนุกมาก ช่วยกันเชียร์ให้ซื้อนู้นนี่ เวลาแฟนถามก็บอกครึ่งราคาหมด (หัวเราะ) อาศัยว่าเราถ่ายให้แฟนบ่อย ๆ ได้รูปสวย แฟนก็จะไม่ด่า รอดไป ตอนนี้น่าจะเสียไปครึ่งล้านแล้ว เราเก็บเงินไม่เป็นด้วย เปลี่ยนเงินเป็นของดีกว่า ขายต่อก็ได้ ซึ่งเราอยากแนะนำผู้ชายทุกคนให้สะสมหรือคลั่งกับอะไรสักอย่าง มันเป็นเสน่ห์ ให้ชีวิตมีแรงขับเคลื่อน ให้อยากออกไปหาเงินเพื่อมาซื้อสิ่งเหล่านั้น ถึงจะอ้วนเตี้ยเหี้ยล่ำก็เท่ได้ มันต้องมีผู้หญิงที่สนใจในเรื่องที่เราสนใจ
ยังมีกิจกรรมอะไรอีกมั้ย
แค่นี้ก็เยอะชิบหายแล้วนะ (หัวเราะ) ก็มีแดกเหล้าครับ แต่เราถือว่ามันเป็นกิจกรรมที่ต้องทำนะ เพราะการไปกินเหล้ากับคนหลาย ๆ กลุ่ม ทำให้เราได้รู้จักเขา ถ้าเราจะไปทำงานกับเขา ตลกกับเขา เราก็ต้องสนิทก่อน ดูว่าเขาคุยเรื่องอะไรกัน สังคมไทย Know-how ไม่สำคัญเท่า Know who รู้จักคนเยอะ ๆ ไว้ก่อน แล้วสังคมเหล่านี้ก็จะนำพาสิ่งดี ๆ มา
แล้วสังคมเคยพาสิ่งไม่ดีเข้ามาบ้างมั้ย
ก็เพื่อนที่คบอยู่ทุกวันนี้ก็เหี้ยทุกตัว
เห็นเป็นคนตลกแบบนี้ ไม่ตลกกับเรื่องอะไรบ้าง
การเอาเปรียบ เราไม่ชอบมาก ๆ เราแฟร์มาก ต้องมีเหตุและผลทุกครั้ง เราไม่ชอบเอาเปรียบเขา เขาก็ต้องไม่เอาเปรียบเรา เราไม่ได้ทำงานเพื่อเงินเสมอไป บางงานแทบไม่ได้เงินเลยด้วยซ้ำ แต่เราสนุก เรามีความสุขที่จะได้ทำ
นิยามอาชีพตัวเองตอนนี้ว่า
เป็นคนสร้างความสุข เราอยากให้คนเห็นเราแล้วตลก สมัยเรายังเรียนที่ม.รังสิต เพิ่งเริ่มฝึกเป็นพิธีกรในมหาวิทยาลัย ถ้ารุ่นน้องรู้ว่างานนี้เราเป็นพิธีกร มันจะมานั่งรอเลย มันตั้งความหวังมาแล้ว มันรู้ว่าตลกแน่ หยาบคายแน่ เราเห็นแค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว ทั้งงานพิธีกร ร้องเพลง กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งหมดที่เราทำ สุดท้ายแล้วมันเป็นการสร้างความสุขให้คนรอบข้าง