สำรวจบทบาทใหม่ของ “บีมบีม” ในวันที่ก้าวเข้ามาสู่การเป็นสตรีมเมอร์
- Writer: Teramet Tongsong
ใครหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันแล้วกับ บีมบีม–กมลพร โกสียรักษ์วงศ์ ในบทบาทที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นนางเอกโฆษณา, แอร์โฮสเตส หรือไอดอล ในวันนี้เราก็ได้เห็นเธอมาพร้อมกับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในการเป็น “สตรีมเมอร์” ที่เป็นดั่งโลกใบใหม่ที่แม้แต่เธอเองก็เพิ่งได้เข้าไปทำความรู้จักและสัมผัสกับสนุกของมันเช่นกัน เราจึงชวนเธอมาพูดคุยถึงบทบาทใหม่นี้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ให้เธอพาเราไปแนะนำทำความรู้จักกับวงการนี้ให้มากขึ้น และเดินทางสำรวจมุมมองที่มีต่อวงการเกมและสตรีมเมอร์ของเธอที่นี่
เริ่มเข้าสู่วงการสตรีมเมอร์ได้อย่างไร
มันเกิดจากตอนนั้นที่พอวง FEVER มันยุบปุ๊บ พี่บาส MiTH เขาโพสต์ในเพจว่า มี FEVER คนไหนอยากมาเป็นสตรีมเมอร์ไหม เขาโพสต์ในจังหวะที่วงยุบพอดี เราไปถามมาทีหลังเหมือนเขาติดตามวง FEVER อยู่แล้ว คราวนี้บีมก็รู้ว่าในวงมีน้อง ๆ เมมเบอร์ที่ชอบเกมอยู่แล้วก็คือปายที่เขาจะชอบเล่นเกมมาก ๆ จังหวะที่เห็นโพสต์ก็อยู่กับน้องพอดี เลยคุยกันว่า “เห้ย แก ฉันแท็กแกไปนะ” บีมก็แท็กปายใต้คอมเมนต์พี่บาส แต่โพสต์นี้ที่บีมเห็นเกิดจากที่แฟนคลับแท็กบีม คราวนี้พอคอมเมนต์เสร็จแล้วบีมก็นั่งนึกอยู่แป๊บหนึ่งว่า จริง ๆ เราก็ลองได้นะ ตอนที่เราคอมเมนต์ชื่อน้องไปตอนนั้นบีมก็รู้ว่าบ้านบีมไม่มีคอมฯ ก็เลยรู้สึกเราจะทำอะไรแบบนี้ได้เหรอ แต่ว่าก็เผื่อ ๆ เลยคอมเมนต์ล่างน้องไปอีกว่า “แต่บีมก็ฝึกได้นะ”
ปกติเป็นคนเล่นเกมอยู่แล้วหรือเปล่า
ตอนสมัยแบบมัธยมฯ เล่นตอนม.ต้นเลย พวก Audition, Pangya เพราะว่าญาติเปิดร้านเกม ก็เลยไปเล่นบ้านญาติ ก็มีความผูกพันกับเรื่องเกมนานมากแล้ว พอโตขึ้น แล้วคอมฯ มันพังไป ก็เลยไม่ได้เล่นเกมอะไรอีกเลย
เคยเจอประสบการณ์เด็กเกาะเบาะในร้านเกมไหม
เมื่อก่อนเป็นเด็กเกาะเบาะ เหมือนตัวเองไปเกาะเขา เพราะว่าเราเล่นอะไรไม่ได้เก่งขนาดนั้น แล้วก็เหมือนญาติ ๆ เขาโตกันแล้ว เราก็ไปดูเขาเล่น ในร้านเกมแบบนี้ทำให้เราเจอคนหลายรูปแบบเลย มีความผูกพันเกี่ยวกับการเล่นเกมเยอะในสมัยก่อน
แล้วหลังจากไปคอมเมนต์แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
พี่แว่นเขาคุยกับปายก่อน แต่เหมือนตอนนั้นวงมันยังไม่จบด้วยดี หมายถึงว่ามันยังไม่ได้มีการเคลียร์สัญญากัน น้องก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหมก็เลยมาปรึกษาบีม แล้วบีมก็แบบ อ้าว ทำไมพี่แว่นไม่ทักหาบีม (หัวเราะ) คราวนี้บีมก็เลยช่วยดูให้ ก็เลยทักไปหาพี่แว่น แล้วก็ได้มีการพูดคุยกัน ด้วยความที่ฝั่ง FEVER เขาก็ชอบเกมกันอยู่แล้ว เขาก็เห็นเราว่ามีโอกาส เขาก็ให้
ในวันแรกที่เริ่มสตรีมเป็นอย่างไรบ้าง
วันแรกที่บีมสตรีม จะเป็นการพูดคุยมากกว่า ตอนนั้นคนดูเยอะมากเลย น่าจะเป็นเพราะว่าคนต่างตื่นเต้น เราสตรีมครั้งแรกเละเทะไปหมดเลย เสียงก็ไม่มา กล้องก็เบลอ บีมทำพังหมดเลย เราก็ไปนั่งงอแงกลางไลฟ์ แล้วคนมาดูเยอะมากจริง ๆ บีมสตรีมทาง twitch สตรีมเมอร์ดัง ๆ ในนี้เขาก็จะสามารถส่งคนมาดูเราได้ บีมไม่รู้เขาไปรู้มาจากไหน เขาก็ส่งคนมาให้เยอะมาก ยอดสูงสุดประมาณ 2,000 คน แล้วบีมก็เอ๋อไปเลย ด้วยความตอนนั้นก็ใหม่ด้วยเลยเป็นการคุยเล่นมากกว่า ยังไม่ได้เล่นเกมอะไรในวันแรก
มุมมองต่อวงการเกมของบีมบีมหลังจากเข้ามาในวงการสตรีมเมอร์
เปลี่ยนไปมากเลย ตอนแรกบีมรู้จักแค่ไม่กี่คน มีพี่เอก Heart Rocker, Bay Riffer เราไม่ได้ดูเยอะ แล้วก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเกมอะไรเลย แต่พอเข้ามาวงการนี้แล้วเราก็รู้สึกว่า ยังมีคนอีกมากมายที่เขามีคนดูเยอะแล้วก็ดังมาก ๆ โดยที่เราไม่รู้เลย เราไม่รู้จักเขามาก่อนเลย เหมือนเป็นการเปิดโลกว่า คนไทยชอบสิ่งนี้เยอะเหมือนกัน กลายเป็นว่าพอเข้าไปอยู่ในโลกนี้ มันเหมือนเป็นโลกใหม่เลย เหมือนกับการที่เราเป็นไอดอลก็เป็นโลกใหม่เหมือนกัน แล้วในโลกของเกมเป็นอะไรที่คนเยอะมาก บีมว่ามันใหญ่สุด ๆ เลย
ในโลกใหม่นี้ สิ่งไหนทำให้เราตื่นตาตื่นใจที่สุด
เราว่าคนดู มันมีช่องบางช่องที่เราไม่รู้จักมาก่อน แล้วคนดูประมาณไม่ต่ำกว่าสองหมื่น เรานั่งดูแล้วก็คิดว่าคนกว่าสองหมื่นคนมานั่งดูเขา แล้วทำไมเราถึงไม่รู้จักเขามาก่อน มันทำให้เราได้เริ่มรู้จักคนมากขึ้น ได้รู้จักสังคมใหม่ ๆ ก็ทำให้รู้ว่าโลกมันกว้างกว่าที่คิด
คิดเห็นอย่างไรกับคำว่าโตแล้วยังจะเล่นเกมอยู่อีก
โอ้โห คุณไม่รู้อะไรเลย คนที่เขาเล่นเกมเขาได้เงินกันเยอะมาก พวกเขาได้เยอะกันจริง ๆ ไม่ได้หมายถึงบีมนะคะ คนที่เขาเล่นโหด เล่นเก่งจริง ๆ มันเป็นสิ่งที่คนควรเปิดใจ แล้วมันไม่ได้มีแค่ว่าเล่นไปวัน ๆ มันเป็นกีฬาชนิดหนึ่งเลย ยิ่งในโลกตอนนี้เราก็เจอกับสถานการณ์โควิด มันก็เปลี่ยนไปจากสมัยก่อน ทำให้การไปเล่นกีฬาแบบเจอหน้ากันยากขึ้น แต่ว่าอันนี้ก็เป็นกีฬาอย่างหนึ่งที่อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเขาก็มีกติกา มีเงินรางวัล มันเป็นสิ่งที่เขาก็ต้องฝึกซ้อมเหมือนกัน เขามีแคมป์ในการเทรนเพื่อที่จะไปฝึกแล้วเพื่อที่จะมาแข่ง มันก็เป็นกีฬาชนิดหนึ่งเลย ถ้ามองในมุม e-sport แต่ว่าการเล่นเกมถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็เป็นการคลายเครียด อันนี้บีมเจอกับตัวว่าคนรอบข้างบีม เขาเศร้า เขาเป็นโรคซึมเศร้า บางคนเขาไม่รู้จะไปทางไหน เหมือนโลกข้างนอกก็ไม่ได้แฮปปี้อย่างที่คิด เขาก็มาอยู่ในนี้ แล้วมันก็เป็นสถานที่ที่ฮีลเขา พอมาอยู่สังคมนี้แล้วดีขึ้นจริง ๆ อันนี้เจอมากับตัวเลย และไม่ใช่แค่คนที่มาเล่น คนที่ดูเขาก็รู้สึกดีจากการที่เขาได้มาดูเรา แล้วก็ตัวบีมเองด้วย รู้สึกดีกับการที่สตรีมแล้วมีคนมาให้กำลังใจเรา มันเหมือนแบบเป็นพื้นที่ที่เติมเต็มกันและกัน
การสตรีมจำกัดแค่การเล่นเกมอย่างเดียวไหม
โลกของการสตรีมมันไม่ได้จำเป็นจะต้องเล่นเกมอย่างเดียว คืออย่างบีมก็คุยเล่นใช่ไหม ใน twitch เขาก็จะเรียกว่า Just Chatting แล้วก็จะมี IRL ก็คือ In Real life หมายความว่าสมมติบีมมาตรงนี้ มาสัมภาษณ์ บีมสามารถสตรีมได้ว่าวันนี้บีมมาสัมภาษณ์กับฟังใจนะ คนในนั้นเขาก็เหมือนมาเที่ยวกับเรา ออกมาข้างนอกกับเรา แล้วก็มีอีกเยอะเลย
เล่าเรื่องเกมที่เล่นอยู่ให้ฟังหน่อย
เกมที่บีมเล่นเป็นเกม GTA Roleplay คือถ้าเป็น GTA ปกติทุกคนจะรู้จักใช่ไหม มันจะเป็นเกมยิง ๆ แต่ Roleplay มันจะเป็นเหมือนเกมที่เราสมมติมาว่าเราเป็นตัวละครที่อาศัยอยู่ในเมืองเมืองหนึ่ง แล้วจะสวมบทบาทเป็นใครก็ได้ ตั้งชื่อให้มันใหม่ สร้างนิสัยใหม่ คนอื่นก็จะไม่รู้จักเรา ที่บีมติดเกมนี้เพราะว่าบีมติดเพื่อนในนั้น คือเราไปพูดคุย ไปเล่นคอนเทนต์อะไรกันในนั้น เราจะทำอะไรก็ได้ มันจะมีช่วงตอนที่บีมเล่นแรก ๆ ช่วงนั้นโควิดมา เราทำอะไรไม่ได้เลย แล้วบีมก็รู้สึกอยากไปเที่ยว เราก็เลยขับรถไปทะเล ไปภูเขาในเกมแทน แล้วก็มีตอนที่บีมรู้สึกเหงา ๆ แล้วเราก็ไม่ได้สตรีม บีมก็เอาตัวละครบีมขับรถไปทะเล แล้วไปนั่งเปิดเพลง นั่งเฉย ๆ แค่นี้เลย แล้วมันก็รู้สึกดีขึ้น ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มันเป็นไปแล้ว
บีมบีมเล่นบทบาทอะไรในเมือง
บีมมีเล่นสองเมืองค่ะ ก็ถ้าในเมือง Friends Project เป็นเมืองแรกที่บีมเล่น บีมจะเรียกว่าเมืองนี้เป็นเมืองครอบครัวของเราเลย ตัวละครบีมชื่อซัมเมอร์ นิสัยก็เป็นบีมเลย เราเล่นกับต้นหน วง Mints ด้วย คือต้นหนเป็นคนชวนบีม เดี๋ยวจะเล่าอย่างนี้แล้วกัน คือต้นหนสนิทกับบีม แบบเป็นน้อง แล้วเขาก็ชอบ Roleplay มาก เขาเป็นคนชวนมา แบบเป็นคนชวนริเริ่มเลย แล้วตอนนี้ก็เล่นเป็นพี่น้องกันอยู่ในเมือง ส่วนอีกเมืองหนึ่งเป็นเมืองใหญ่ ชื่อ What City อันนี้ดาราเล่นเยอะมาก บีมก็ชื่อว่าข้าวหอม จริง ๆ อยากให้ชื่อซัมเมอร์เหมือนกัน แต่ว่ามีคนชื่อซัมเมอร์ในเมืองนี้เยอะมาก ก็เลยตั้งใหม่เลยเป็นข้าวหอม แต่สำหรับบีมก็คือตัวละครเดียวกัน สมมติว่าถ้าบีมจะเล่นเมืองไหน บีมก็จะบอกอีกเมืองหนึ่งว่าเดี๋ยวบีมไปต่างประเทศนะ จะใช้คำพูดแบบนี้ ค่อนข้างจะแบบเปิดโลกเลย คือตอนเล่นครั้งแรกบีมก็ช็อกเหมือนกัน
ยังมีเกมอื่นที่เล่นอีกไหม
ก็จะมี Valorant ที่จะเป็นเกมยิง แล้วก็เมื่อก่อนจะเล่น PubG ด้วย แล้วก็มีเกมใหม่ล่าสุดเป็นสร้างเมืองหนีซอมบี้ อันนี้ล่าสุดเลย ชื่อว่า Project Zomboid แต่ก็ยังไม่ติด คือบีมไม่ได้ติดเกมแนวแบบยิงหรือเก็บเวล เป็นคนไม่ได้ถนัดอะไรอย่างนั้น จะเป็นแนวแบบชอบคุยชอบเล่น ชอบสังคม อะไรแบบนี้มากกว่า ก็เลยไปทาง GTA Roleplay
การมาเป็นสตรีมเมอร์มีความกังวลหรือกลัวบ้างไหม
จริง ๆ แล้วกลัวน้อยนิดหนึ่งพอเราเหมือนเรารู้ว่า เราอยู่กับพี่บาส มันก็สบายใจได้นิดหนึ่ง เหมือนเราไม่ได้เริ่มตัวคนเดียว อย่างน้อยพี่เขาก็ยังคอยให้คำปรึกษา ฝั่งทีม MiTH เขาก็ช่วยเหลือเรา ก็เลยกลัวไม่ได้มากขนาดนั้น แต่ว่าตอนช่วงอาทิตย์แรกของการสตรีมก็จะค่อนข้างกังวลว่าสิ่งนี้มันจะสามารถเป็นอาชีพเราได้หรือเปล่า มันจะเป็นยังไงต่อไปนะกับการที่ไม่ได้อยู่กับวงแล้ว เมื่อก่อนมันมีหลายคน กับการอยู่ตัวคนเดียว
การเป็นสตรีมเมอร์ต่างกับการเป็นไอดอลมากไหม
ต่าง แต่ไม่มากขนาดนั้น ตอนเป็นไอดอลบีมรู้สึกว่าบีมใกล้ชิดกับแฟนคลับได้น้อย เราไลฟ์ได้เดือนละครั้ง ตอบคอมเมนต์ไม่ได้ แล้วก็เจอแฟนคลับครั้งหนึ่งก็คุยได้ไม่กี่วินาที ไม่กี่ประโยค แต่พอออกจากการเป็นไอดอลแล้วเราก็เหมือนคนทั่วไปแล้ว เราสามารถพูดคุยกับเขาได้ง่ายขึ้น คุยกับเขาได้ ถ่ายรูปได้ แล้วก็ตอบคอมเมนต์ได้ แล้วก็ที่ต่างไปเลยก็คือบีมสตรีมบ่อยมาก บีมเกือบทุกวันเลย คนดูเขาอาจจะเบื่อหน้าบีมไปแล้วก็ได้ แต่บีมก็รู้สึกว่ามันก็ยังมีคนที่อยากคุยกับบีมอยู่ในทุก ๆ วันก็เลยสตรีมบ่อย
ไม่รู้สึกเหนื่อยกับการคุยกับคนเยอะ ๆ บ้างเหรอ
ไม่เหนื่อย สนุก ขอแค่มีเสียง อย่างตอนเป็นไอดอลก็มีบ้างเรื่องเสียงที่เป็นอย่างนี้ (เสียงแหบ) แต่ว่าตอนนี้ค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง เพราะบีมเป็นพวกเก็บอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง แล้วพอตกใจ เราก็กรี๊ดขึ้นมาเลย ก็จะมีปัญหาแค่เรื่องเสียง
ความสนุกของการเป็นสตรีมเมอร์
น่าจะเป็นการได้สังคมใหม่ ได้เพื่อน ทั้งคนดูที่เป็นแชทแล้วก็ทั้งในเกมที่เราไปเล่นด้วย เกมที่บีมเล่น GTA มันก็เป็นสังคมใหม่ บีมเล่นถึงขนาดไปเจอตัวจริงข้างนอกแล้ว ไปเจอแก๊งเพื่อนเหล่านี้ข้างนอกแล้ว มีตติ้งข้างนอกเลยสิบกว่าคน เป็นคอมมูนิตี้ใหม่เลย
ชีวิตที่ได้เจอกับความเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ บีมบีมมีวิธีเตรียมตัวรับมือกับมันอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงถ้ามันเป็นไปทางที่ดีขึ้น มันดีอยู่แล้ว บีมยินดีตอบรับกับสิ่งใหม่ ๆ เสมอ เราแฮปปี้ที่จะเจอการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ แต่ถ้าเป็นอะไรที่มันหายไป มันก็รู้สึกแย่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมัน แล้วก็คิดว่าเราจะต้องทำยังไงต่อไปที่จะให้เราสามารถอยู่อย่างมีความสุขกับสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไปให้ดีที่สุด กว่าจะยอมรับได้มันก็ต้องใช้เวลา แล้วมีสเตจของมันด้วยนะ ประมาณว่ามันจะมีสเตจช็อกก่อนพอเราเจอมันใหม่ ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ทำใจได้เรื่อย ๆ แต่มันก็จะวนลูปอย่างนี้ ขึ้นลงไปเรื่อย ๆ มันเป็นปกติอยู่แล้วที่เราจะเสียใจ แต่ถ้าเรายอมรับว่าโอเคเราเสียใจนะ แล้วก็ร้องไห้ให้มัน แล้วก็พอ แต่ก็แล้วแต่คนด้วยนะ อย่างตอนวงยุบก็เป็นสเตจช็อกเหมือนกัน ร้องไห้เพราะน้อง ๆ หายไป มันก็เสียที่พึ่ง ก็ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง แต่แล้วก็โชคดีที่มันมีโอกาสเข้ามา มันก็เลยโอเค ลองดูก็ได้
จะอยู่ในวงการสตรีมเมอร์ไปอีกนานไหม แล้วตอนนี้เรามองว่าสตรีมเมอร์เป็นอาชีพของเราด้วยเลยไหม
นาน ตราบใดที่คนดูเขายังดูเราอยู่ มันขึ้นอยู่กับคนดูเลย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา และบีมก็ยึดสตรีมเมอร์เป็นอีกหนึ่งอาชีพของบีมด้วยเลย
สุดท้ายแล้วฝากอะไรกับคนที่ยังมองการเล่นเกมในแง่ลบหน่อย
เกมมันเป็นของที่ทำให้เราเพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลาว่างของแต่ละคน มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจริง ๆ สำหรับคนที่เล่น ฉะนั้นคุณอาจจะไม่ชอบเกมแล้วไม่อยากจะยุ่งกับเกม แต่ว่าได้โปรดอย่ามาว่าเรา เพราะว่าคุณก็มีวิธีใช้เวลาว่างของคุณ เราก็มีวิธีการใช้เวลาว่างของเราเหมือนกัน แค่คุณมองคนละมุมกับเราเฉย ๆ แต่ก็ต้องแบ่งเวลาให้ดีด้วยนะ เพราะบีมก็เคยพลาดเหมือนกัน เคยเล่นยาว แม่ก็มาดุ แต่ถ้าแบ่งเวลาดี ๆ มันก็ดีอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกมันก็สามารถเยียวยาจิตใจได้ใครหลายคนได้พอสมควร
สำหรับใครที่อยากจะรู้จักเธอมากขึ้น สามารถเข้าไปติดตามเธอได้ทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook, Youtube, Twitch หรือ Instragram ได้ และนอกจากนี้เธอยังมีร้านขนมที่เปิดออร์เดอร์เพียงเดือนละครั้ง สามารถไปอุดหนุนกันได้ที่ IG: bbk.cooking เลย สุดท้ายนี้ก็ฝากทุกคนติดตามบีมบีมกับบทบาทในการเป็นสตรีมเมอร์ด้วยนะ
อ่านบทความอื่น ๆ ต่อที่นี่