Ap 2nd Studio BKK

Interview เห็ดนอกใจ

คุยกับแอ๊ป Mattnimare เจ้าของห้องซ้อม 2nd Studio BKK ที่อยากเป็นบ้านหลังที่สองให้ทุกคน

หลังจากได้พูดคุยกับเขาเป็นน้ำจิ้มในบทสัมภาษณ์สุดท้ายของวง Mattnimare ใน คุยกับ Mattnimare ถึงเรื่องราวที่กำลังจะกลายเป็น ‘ความทรงจำถาวร’ ไปแล้ว คราวนี้ Fungjaizine ขอบุกห้องซ้อม 2nd Studio BKK เพื่อพูดคุยกับแอ๊ปอย่างจุใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของห้องซ้อม สิ่งที่ประทับใจ พี่ติ เจ้าของห้องซ้อมดนตรี Music Group ผู้เป็นแรงบันดาลใจ และอีกมากมาย!

 

ที่มาของชื่อ 2nd Studio BKK

คือเรารู้สึกชอบกับบรรยากาศที่มันชิล ๆ เป็นกันเอง ละพอมาลองคิด ๆ ดูเราไปนึกถึงคำว่า ‘บ้านหลังที่ 2’ แบบพวกที่เค้าชอบใช้กับโรงเรียนอะไรแบบนี้ ละรู้สึกว่าคำนี้ตรงกับความต้องการของเราเลย เลยตั้งชื่อให้เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของนักดนตรี คือแต่ชื่อก็ไม่ได้ใส่คำว่า ‘บ้าน’ home, house อะไรเข้าไป หรือตั้งชื่อให้มันเป็นความหมายตรง ๆ ไปเลย เดี๋ยวมันเยอะเกิน เอาแค่ 2nd Studio BKK รู้สึกว่ามันพอดีแล้ว

มีบริการอะไรบ้าง

ตอนนี้มีแค่บริการห้องซ้อมดนตรีมีสองห้อง ห้องใหญ่ชั่วโมงละ 300 บาท ห้องเล็กชั่วโมงละ 250 บาท อนาคตอันใกล้นี้จะพยายามทำให้อัดได้เพิ่ม เพราะว่าเงินก็หมดแล้ว (หัวเราะ) รอได้เงินคืนก็ค่อยทำ อาจจะเป็นพฤษภาคมน่าจะทำให้อัดได้ แต่ก็ไม่ถึงกับโปรดักชั่นเต็มขนาดนั้น เราไม่ได้ positioning ตัวเองให้เป็น recording studio อาจจะทำ live session ได้ ยังไงรออัพเดต พอเรื่องอัดอยู่ตัวแล้ว ค่อยคิดว่าจะทำอะไรเพิ่มอีกที

หมดค่า renovate ไปเท่าไหร่

เยอะ (หัวเราะ) ตัวเลขอย่าไปบอกเค้าเลย ดูน่ากลัว คือโซนตรงนี้เดิมมันเป็นบ้านจัดสรร แต่ก่อนทุกหลังหน้าตาเหมือนกันเพราะมีคนออกแบบคนเดียวกัน สร้างมาเมื่อประมาณ 30-40 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพ่อเรามาจากต่างจังหวัด ย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ฯ ก็มาซื้อที่นี่ไว้ พ่ออยู่ที่นี่ตั้งแต่มาเริ่มทำงาน จนเราเกิดถึงซัก 7-8 ขวบก็ย้ายทั้งครอบครัวไปอยู่บ้านยายที่ซอยอารีย์ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ แล้วที่นี่ก็ปล่อยให้คนเช่า แล้วมันก็ทิ้งมาซักพักละ

ตอนแรกกะจะทำห้องซ้อมที่ซอยอารีย์ด้วยซ้ำ ทำเป็นบล็อกขึ้นมาเป็นห้องซ้อมดนตรี เสร็จก็ล็อกทุกอย่างกลับบ้านนอน แต่แม่บอกว่าที่มันแพง ทำแล้วกลัวมันจะไม่คุ้ม เสียที่ไปฟรี ก็เลยกลับมาทำตรงนี้ แล้วพอมาอยู่ที่นี่มันทำไม่ได้ มันไกล แล้วเค้าก็เลยแบบ เออทำเป็นบ้านไปเลย แล้วก็อยู่นี่เลย ก็คือรีโนเวตบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นแบบนี้ จริง แต่ก่อนมันสุดแค่ตรงหน้าห้องซ้อมเอง แล้วก็ขยายเพิ่ม ทำห้องนอนข้างบน แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่นี่เลย

ตอนแรกก็แบบ หงุดหงิดพ่อ ไม่อยากทำแพง อยากทำถูก จ่ายนิดเดียว เท่าที่มันต้องใช้งานจริง มันจะได้ไม่เสีย cost เยอะ แต่สุดท้ายเค้าก็บอก ถ้าได้บ้านเลยก็ดี เดี๋ยวอยู่ไปเรื่อย ก็จะรู้สึกว่าดีเอง ซึ่งพอย้ายมาอยู่นี่ก็โอเค ก็นับว่าเป็นบ้านที่ใหญ่สำหรับสองคน

Ap 2nd Studio BKK

คิดมานานแค่ไหนว่าอยากทำห้องซ้อม

ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เหมือนห้องซ้อมเป็นความฝันอย่างนึงของเราอยู่แล้ว เราได้แรงบันดาลใจมาจากห้องพี่ติ (Music Group) เพราะเราไปตรงนั้นแล้วเรารู้สึกว่าสนุกดีด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้นะ ทั้งที่ห้องแกไม่รู้มีอะไรเป็นพิเศษไปกว่าห้องซ้อมปกติอะ (หัวเราะ) แต่อยากทำให้ environment ป็นอย่างนั้นได้บ้างอะ แล้วรู้สึกว่า ถ้าทำดี อะ มันจะเป็นพื้นที่ที่อบอุ่นพื้นที่นึง

คือเราเป็นคนชอบอยู่บ้านอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าอยากทำอะไรแบบนั้นให้มันเกิดขึ้นเป็นของเราบ้าง เราก็เตรียมตั้งแต่มหาลัยปีสามปีสี่ก็เริ่มคิดแล้วว่าอยากทำว่ะ ดูที่ตั้งแต่ที่อารีย์ ว่าขนาดเท่าไหร่ ออกแบบแปลนเสร็จหมดแล้วอะ แล้วก็ย้ายมาที่นี่ แต่ถ้าถามว่าทำไมยังไม่เสร็จซักทีเพราะการสร้างบ้านมันเยอะ เพราะตอนแรกเราจะทำแค่บล็อกห้องซ้อม แต่มันเปลี่ยนจากห้องซ้อมมาเป็นต้องทำบ้านทั้งหลัง เพื่อที่มึงจะต้องมาอยู่ไปทั้งชีวิต จะต้องอาบน้ำยังไง ซักผ้าตรงไหน อะไรยิบย่อยตรงไหน คือเหมือนแม่เค้าก็ห่วงเรื่องนี้ ก็เลยกระดึ๊บ มาเรื่อย พ่อเค้าก็ห่วงแค่โครงสร้าง พอโครงสร้างบ้านเสร็จ ทุกอย่างเสร็จ แม่มาดูก็ ซักผ้าตรงไหน? เราก็ต่อท่อ ต่อเครื่อง ซักผ้า ใช้เวลาเดือนนึง ซักพักแม่เดินมา เอ้า ตากผ้า ล้างจาน ครัวล่ะ ทำยังไง ก็โทรหาช่าง ทำครัวอีกเดือนนึง เสร็จครัวปึ๊บ ทำไมบ้านไม่มีมุ้งลวดล่ะ ต้องติดมุ้งลวดด้วยนะ ไม่งั้นมันก็ร้อน อากาศมันไม่ถ่ายเท ก็โอเคแม่ มุ้งลวดต่ออีกเดือนนึง จนแม่งยืด (หัวเราะ) ยืดมาจนมาอยู่ได้ช้าไปนิดนึง จริง ๆ ทำเสร็จมา 4-5 ปีละ แล้วก็มีปัญหาใหม่เรื่อย

จากศิลปินมาเป็นเจ้าของห้องซ้อม ต่างกันไหม ต้องปรับตัวไหม

มันต่าง (ระหว่างสัมภาษณ์แอ๊ปกรีดร้องขึ้นมาเพราะคุณทูทู่ข่วน) คือมันเหมือนเราแยกเป็นคนละส่วน ส่วนศิลปินเราก็ต้องทำหน้าที่ตรงนั้น เราเป็นแอ๊ป Mattnimare เราก็ต้องทำทุกอย่างโดยเป็นวง อันนั้นมันก็ต้องห่วงภาพรวมวงทั้งหมดอีก 4 คน ต้องยังไง เราจะต้องคิดเราจะต้องพูดยังไง แต่พอมาเป็นตรงนี้เราก็กลายเป็นแอ๊ปเฉย mindset มันคนละแบบเลย เราเป็นคนที่ทำตรงนี้ ดูแลที่นี่ เราอยากทำให้มันเป็นยังไง ทำในสิ่งที่เราต้องการแล้วก็ push มันออกไป

สำหรับเรามันก็คนเดียวกันแหละ แค่เปลี่ยนบทบาท เราก็อาจจะชิลกว่านิดนึง คือช่วงแรกแม่งก็แอบยากเพราะเราเป็นคนที่คุยกับคนไม่เก่งอะ พอมีคนเข้ามาก็แบบ (ทำเสียงเบา) ‘หวัดดีค้าบ เชิญค้าบพี่’ ตอนแรกไม่ชวนคุยเลย คือถ้าเจอคนคุยเก่งที่ชวนเราคุยก็โชคดีไป มันก็เริ่มไหลต่อได้ แต่ถ้าเดินเข้ามามึน ไม่คุยด้วยก็หวัดดีค้าบพี่ ห้องนี้ครับ เชิญครับ ๆ’ ก็ปรับตัวไป เพราะเราก็ต้องรับแขก แต่ตอนนี้โอเคขึ้นเยอะละ พอรู้เรื่องละ

Ap Mattnimare 2nd Studio BKK

พอห้องซ้อมเปิด 24 ชั่วโมง เคยเจอคนมาซ้อมเวลาแปลก ไหม

ทั้ง 24 ชั่วโมงเคยมีคนมาซ้อมทุกเวลาละ ถ้าถามว่าตีสามเคยมีคนมาซ้อมมั้ย? มี พี่เจ็ดโมงเคยมีคนมาซ้อมมั้ย? มี มีหมดแล้ว แต่ไม่ใช่วันเดียว 24 ชั่วโมง ถ้าเรื่องแปลก จากช่วงเวลาแปลก คือมันเป็นแบบ ‘จองห้องซ้อมหน่อยครับ 5-7 อะครับพี่’ นี่ก็แบบ อ้อห้าโมงถึงทุ่มใช่ไหมครับ’เอ่อ ตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้าครับ’ นี่ก็แบบ หืม? (หัวเราะ) มึงเป็นใคร ในใจคือแบบ มึงเอาจริงใช่มั้ย (หัวเราะ)​ แต่เราก็เปิด 24 ชั่วโมง ก็ต้องแบบ ได้ค้าบ อะจดลงคิวไว้ให้ จริง เค้าก็เหมือนพวกเราแหละ ที่เลิกงานแล้วอยากมาซ้อมดนตรี แค่เค้าทำงานกะดึกเท่านั้นเองอะ เค้าเลิกตีสาม ตีสี่ แล้วเค้าก็มาซ้อมต่อ

ด้วยความที่ต้องเฝ้าห้องซ้อม มีเวลาพักผ่อนไหม

มี ๆๆ ถึงบอกว่าเปิด 24 ชั่วโมงแต่เอาเข้าจริง มันก็มีแค่อาทิตย์ละวันสองวันที่คนจะมาดึก หลังตีหนึ่ง หรือมาเช้า ถ้าให้นับจริง ตั้งแต่ตี 1 ถึง 10 โมงก็คือไม่มีคนแล้ว มีบ้างนาน ๆ ที ส่วนใหญ่ไม่มี ซึ่งถ้ามีก็คือตื่นมา เราก็นอนเหมือนคนปกติแหละ ไม่ได้ต้องเปลี่ยนหรือฝึนอะไร ก็อาจจะเฉพาะวันที่เค้ามา แต่จริง แฟนเราอยู่ด้วย บางทีมันมีทั้งดึกทั้งเช้า ก็จะเหลือแค่คนเดียวอยู่กลางคืน อีกคนก็ตื่นเช้า

Lifestyle เปลี่ยนไปขนาดไหนบ้าง อดไปเดินห้าง ดูหนัง

ไอ้เรื่องที่เปลี่ยนอะ มันไม่ใช่เรื่องการนอนเรื่องอะไรหรอก มันเปลี่ยนไปแบบ มึงไปไหนไม่ได้นะ (หัวเราะ) กินเหล้าก็กินที่บ้านเนี่ย แล้วถ้าวันไหนที่มันว่างก็ต้องใช้โอกาสนั้นออกไปข้างนอก

เรา concern เรื่องนี้ประมาณนึงพอมาทำห้องซ้อม แต่ก่อนเราก็ไม่ค่อยได้สนใจที่บ้านเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่า เราอยู่ที่บ้าน หมกอยู่ในห้อง เล่นคอม เล่นอะไร ไม่ค่อยได้ออกจากห้อง ถ้าเค้าจะเรียกเราก็เปิดประตูมาก็เจอ แต่พอย้ายมาตรงนี้ เค้าเปิดประตูมาก็ไม่เจอแล้วอะ แล้วเราก็ไม่ได้มีเวลาที่แน่นอนว่า เราจะไปหาเค้าได้วันนู้นวันนี้ ทั้งที่บ้าน หรือแฟนด้วยก็ตาม คือว่างปั๊บแม่ ไปกินข้าว’ ก็จะพยายามกลับไปหาเค้ามากขึ้น ที่เปลี่ยนคือเวลาหายไป แล้วก็ระยะทางกับที่บ้านที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็เลยพยายาม connect กันไว้

ช่วงไหนกลางวันหรือเย็นว่าง ก็พาแฟนไปข้างนอกบ้าง คือแต่ก่อนอะ ข้างนอกแม่งคือที่ของเรา ในบ้านคือมานอนอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้ในบ้านแม่งคือที่ของเราแล้วอะ (หัวเราะ) เราต้องอยู่ในบ้าน 24 ชั่วโมงอะ ข้างนอกแม่งเป็นที่แปลก (หัวเราะ) ทุกคนคืออยากกลับบ้าน อยากไปพัก เราแม่งอยู่บ้านทั้งวัน เราต้องเอาตัวเองออกจากห้องเหี้ยนี่บ้าง (หัวเราะ) แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการลูกค้านะ มึงเข้ามากันนะ (หัวเราะ) มาซ้อมนะ กูเอาตังค์นะ มาซ้อมก่อน เดี๋ยวเวลาว่างกูหาเวลาออกไปเองไม่เป็นไร (หัวเราะ)

เคยตั้งใจออกจากบ้าน แล้วก็ กริ๊ง โทรศัพท์เข้า อดไป

มี บ่อยด้วย (หัวเราะ) หรือบางทีแบบออกไปแล้วกะจะอยู่ทั้งคืน กินข้าว แล้วไปแดกเหล้าต่อ สองทุ่มโทรมาละ พี่สี่ทุ่มว่างมั้ยครับ ก็ไปกินเหล้าไม่ได้ก็ต้องกลับ แต่ก็ให้ลูกค้าเป็น priority หลัก ยกเว้นไปต่างจังหวัดกลับไม่ได้ (หัวเราะ)

มีแผนจะจ้างคนมาเฝ้าไหม

ไม่ ขอดูอีกพักนึงก่อน แต่ความตั้งใจหลักเลย คือเราดูเอง เราเชื่อว่าการที่เราอยู่เอง กับจ้างคนมาอยู่ ความใส่ใจมันไม่เหมือนกัน การดูแลแม่งไม่เท่ากันมาก แล้วมันรู้สึกได้ไปถึงลูกค้า ถ้าพูดว่าให้ใครมาดูแทน ตอนนี้คือไม่เลย ไม่เด็ดขาด แต่ถ้าแก่ ไม่ไหว หรืออะไรก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

ก็มีจำเป็น ก็เคยให้พ่อแม่มาช่วยดู แค่แบบ นิดเดียว มีแค่ 2 วัน… วันเดียวด้วยซ้ำมั้ง ที่ให้พ่อแม่อยู่ให้ เพราะต้องไปเล่นจริง แล้วจองไว้แล้ว ก็บอกเค้าว่าเดี๋ยวเข้ามาไม่อยู่นะ แม่อยู่พ่ออยู่ มาได้เลย’ ก็เหมือนอย่างพี่ติที่มาดูแล้วนั่งเฝ้าเอง ซึ่งเราก็เชื่อว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น เพราะว่าลูกค้าหลาย คนก็บอกนะ ว่าแบบ บางทีห้องซ้อมอื่น ของพัง บอกกับเด็กเฝ้าห้องแม่งไม่ได้ผลเท่ากับบอกกับเจ้าของเอง หรือบางทีเค้าอยากบอกเจ้าของโดยตรงเลยว่าพี่ อันนี้แม่งเป็นอะไรไม่รู้ ไปดูให้หน่อย’ เราก็จะได้เห็นจริง ว่ามันเป็นอะไร บางทีเค้าไม่อยู่แล้วมันก็ช้าไปหมด ถ้าเจ้าของไม่รู้ว่าเสีย กว่าจะเอาไปซ่อมของก็พังไปนานแล้ว ลูกค้าเค้าก็แบบว่า ดีที่เจ้าของอยู่เอง

แต่หลัก ก็คือเราอยากอยู่เองด้วย เราเชื่ออย่างนี้ เราเชื่อว่ามันเป็นสิ่งสำคัญของห้องซ้อมเจ้าของต้องอยู่เอง ของเราตังค์เรา ยิ่งห่วงอะ บางคนถูกจ้างมานั่งเฝ้าเฉยไม่ใช่ว่าว่าคนที่ทำอาชีพนี้นะ แต่มันก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะไม่ได้ห่วงของ ใส่ใจเท่ากับคนที่เป็นเจ้าของเอง

มีปัญหาอะไรจากการเปิดห้องซ้อมไหม

ปัญหาของเราอะ แม่งมีอย่างเดียวเลยคือที่จอดรถ ข้างบ้านไม่ได้ว่า โชคดีอย่างที่เสียงไม่ออกข้างนอก คือจริง อะ ตอนแรกสุดไม่ได้กะจะเปิด 24 ชั่วโมงนะ คิดไว้ว่าเสียงมันคงดังออกไปแล้วคงโดนแน่เลย ก็คุยกับแฟนแล้วสรุปกันว่า เดือนแรกเปิด 24 ชั่วโมงไปก่อน ไหวก็ไหว ไม่ไหวก็ค่อยว่ากัน ฝืนไปก่อน แล้วพอทำจริง ปุ๊บ ข้างบ้านยังเดินมาบอกเลยว่า ทำไมไม่ได้ยินเลย เดินมาถามว่ามีคนมาใช่มั้ย’ (หัวเราะ) บอกว่าขอดัง หน่อยได้มั้ยเผื่อฟังด้วย’ (หัวเราะ) คือแซว กลายเป็นพอมันเป็นแบบนั้นก็แบบ เราเปิด 24 ชั่วโมงได้นี่หว่า ไหวก็ทำไป มันเหมือนเรามีลิมิตของตัวเองอยู่ เพราะมันคือรายได้ต่อชั่วโมง 24 ชั่วโมงก็มีแค่นั้น ยิ่งเพิ่มก็ยิ่งได้ แล้วก็โชคดีที่มันไม่มีปัญหาเรื่องนี้

แต่ก็มีปัญหาเรื่องที่จอดรถอยู่พอสมควรตอนแรก เพราะในใจเราคิดว่าจอดได้ 4 คัน ก็น่าจะไหวแล้วม้าง วงละ 2 คัน ไอ้ห่า แม่งมาวงละ 5 คัน (หัวเราะ) มันมีวงที่ขับมาคนละคันแบบนี้ก็มีปัญหาเหมือนกัน เราเชื่อว่าไม่ว่าใครจะทำแม่งคงมีปัญหาอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนมาใหม่ รอบ เค้าอยู่กันมานานแล้ว เค้ามีแบบแผนของเค้าอยู่แล้ว แล้วเรามาใหม่ แล้วมีรถคนอื่นมาจอดเพิ่ม ตอนแรกก็มีกับทุกบ้านนะ อย่างอาทิตย์แรกก็เริ่มคุยกันแล้วว่าจอดตรงไหนได้บ้าง ก็โชคดีที่เค้านิสัยดีว่าแบบ จอดตรงนี้ได้นะ จอดตรงนี้ไม่ได้ ตรงนี้ขอ เราก็ค่อย ปรับไปว่า บ้านนั้น ห้ามจอดตรงนู้น ตรงนี้ได้ บ้านถัดไป จอดตรงไหนได้ ตรงไหนไม่ได้ ก็คือค่อย ปรับไปไปเรื่อยจนตอนนี้โอเคระดับนึงแล้ว เพราะพอสรุปแล้ว ทั้งซอยเราจอดได้ 9 คัน ซึ่งมันถือว่าเยอะมาก ถ้าเต็มจริง ก็ค่อยไปจอดข้างนอก

แต่ตอนนี้เราเหมือนมีตารางจอดรถล่องหนอยู่ในหัวว่า จอดตรงนี้ ๆๆๆ แล้วจะไม่โดนใครด่า เวลามีลูกค้ามาก็จะจอดตรงนี้นะครับ’ บางทีเค้าก็แบบทำไมวะพี่ แม่งต้องขนาดนั้นเลยเหรอ’ ก็แบบ นิดนึง แค่ขยับอีกนิดเดียวแม่งก็จอดได้อีกคันแล้ว อะไรแบบนี้ กับอีกอย่างที่โชคดีคือทั้งซอยมีแค่บ้านเดียวที่มีรถ นอกจากนั้นก็เป็นบ้านที่ไม่มีรถกับบ้านร้าง มันเลยจอดได้เยอะหน่อย แต่ไม่รู้อนาคตคอนโดขึ้นจะเป็นยังไง ค่อยว่ากันอีกที

แล้วมีวงที่ปรับตัวไหม แบบวันนี้ซ้อมห้องพี่แอ๊ป ไม่เอารถมานะ

ไม่ (ตอบทันที) เราก็ยืนยันให้เค้าได้ว่าเรามีที่จอดรถให้ มันมีอะ มันไม่ใช่ไม่มีเลย แต่ก็ได้ยินเสียงมาเหมือนกันว่าห้องนี้แอบจอดรถยากนิดหน่อย เราว่ามันก็ไม่ยากมากนะ (เสียงสูง) ก็คงยากกว่าพวก RCA เพราะมันมีที่จอดเป็นที่เป็นทาง

จัดการห้องซ้อมยังไง

เป็น google sheet ตารางห้องซ้อม เป็นของแต่ละวัน เป็นอาทิตย์ ไป ก็ดูกับแฟนสองคน แชร์กันสองคน ไม่ได้ให้คนเข้ามาพิมพ์ได้เลย ไม่เป็นว่ะ (หัวเราะ) โลว์เทค

เรื่องประทับใจที่สุดในการเปิดห้องซ้อม

เป็นความรู้สึกแปลก อันนึงที่แอบรู้สึกดีใจ แต่ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเหมือนกัน คือเวลาที่ได้ไปดูวงที่มาซ้อมที่นี่เล่นสด ไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ เราดีใจได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย เป็นอาจารย์ก็ไม่ใช่ ไปช่วยเค้าซ้อมก็ไม่ใช่ (หัวเราะ)​ เค้าก็มาจ่ายตังค์ให้เราอะ แต่พอไปเห็นเค้าเล่นแล้วรู้สึกแบบ เค้ามา prep ที่เราอะ เราเป็นสถานที่ให้เค้าได้ซ้อมอะ เราว่าอันนี้เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดที่ทำห้องซ้อมมา ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน จะถือว่าแปลกหรือเปล่า แปลกมั้ง (หัวเราะ)​

บางห้องซ้อมเค้าก็อาจจะไม่ได้มีเวลาไปดู แต่เราเป็นคนชอบดูคอนเสิร์ตอยู่แล้ว ถ้ามีงานคอนเสิร์ตอะไรก็ปิดห้องซ้อมหนีไปดู ถ้าอย่างเรื่องราวตลก ที่เคยเจอก็อย่างที่ Phum Viphurit มาซ้อม ตอนนั้นกินข้าวอยู่แล้วภูมิอะโทรมาจอง แล้วโทรศัพท์ภูมิมันไม่ค่อยดีมั้ง ก็ จองห้องซ้อมครับ เวลานี้ เราก็แบบ ขอชื่อลงจองหน่อย น้องก็แบบ ภูมิครับ แล้วเราฟังไม่ได้ยินก็แบบ ตูนใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ครับ ภูมิครับ บูม ไม่ใช่ แล้วก็บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจดเบอร์ไว้ มาได้เลยครับ พอมาถึงปุ๊บก็เดินออกไปรับ มันลงรถมาก็ ภูมิเองครับพี่ (หัวเราะ) เราก็ เอ๊า (หัวเราะ) เราก็แบบ โทษที ฟังไม่รู้เรื่อง ภูมิก็ โทรศัพท์ภูมิไม่ค่อยดีครับ (หัวเราะ) ตลกดี ตอนนั้นไม่ได้เตรียมว่าจะเป็นใครเลยนะ ก็คิดว่าคนทั่วไป จดเบอร์ไว้ แล้ววันนั้นแฟนไม่อยู่ แฟนกรี๊ดใหญ่เลย

Ap 2nd Studio BKK

มีพี่ติเป็นไอดอลในการโพสต์รูปมั้ย

นิดนึง ตอนหลังสู้แกไม่ไหวว่ะ สู้เรื่องแคปชั่นไม่ไหว อันนั้นยอมตั้งแต่หน้าประตูเลย (หัวเราะ)​ แล้วหลัง เราก็ลงเท่าที่ลงไหว ขยันไม่เท่าแก แกลงไม่หยุดจริง อะ แต่ก็เชื่อว่าลงรูปไว้มันก็ดีอะ น่ารักดี อย่างบางคนที่ร้านขายอุปกรณ์ดนตรี ที่เราซื้อของกับซ่อมของกับเค้า เค้าก็บอกว่าลงรูปเยอะ ดีแล้ว น่ารักดี จริง ก็พยายามทำตามพี่ติแหละ คือแก๊งเรามันมาจากที่นั่นเยอะ แล้วเราพยายามยก culture ที่มาจากที่นั่นมาด้วย แต่ก็ไม่ไหวละ ถ้าไปฝืนทำแบบเค้าเลยมันก็ทำไม่ได้หรอก มันไม่ใช่เรา เราก็ทำเท่าที่เรารู้สึกว่าโอเค เราชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบแคปชั่นอันนั้นของแกมากเลยอะ สุดเหี้ย (หัวเราะ)​ ที่เป็นวงฝรั่งมาซ้อม แล้วบอกว่าศาสดามีทุกศาสนา แต่ไม่ลงมาเพราะกลัวโคโรน่า’ อะไรก็ไม่รู้อะ ดีชิบหาย (หัวเราะ)​ โคตรดี ไม่สู้อะ ยอม

มีคนเคยลืมของแปลก ๆ ไหม

สุดเหี้ย ไม่ไหวแล้วอะ เอามาทำไม มันคือมีดพับที่ใช้ควงอะ มีดแบบ มีดอะ (หัวเราะ) ช็อกมากเลยอะ ไม่รู้จะมาฆาตกรรมกันในห้องป่าว คนลืมน่าจะเป็นวงฝรั่ง วางลืมไว้บนตู้กีตาร์ ลืมอะไรสุดตีนอะไรขนาดนั้น

ถ้าพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้ทำห้องซ้อม เคยคิดมั้ยว่าจะทำอะไร

ไม่เลย โล่งเลย ปล่อยทิ้งไว้อยู่ เพราะก่อนหน้านั้นให้เช่า แล้วคนเช่าก็ออก แล้วก็ปล่อยทิ้งร้าง จริง ที่บ้านก็ไม่ได้มีแผนจะทำอะไรกับที่นี่ด้วยซ้ำ เพราะว่าจริง เราจะทำที่บ้านนู้น แล้วก็โดนไล่มาทำที่นี่ (หัวเราะ) แต่จริง แถวนี้คือ อย่างบ้านข้าง ก็ร้าง คนที่ยังอยู่ก็เป็นคนแก่หมดแล้ว อาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่นกันบ้างแล้ว ตอนแรกคิดจะทำ Airbnb ด้วย แต่มันวุ่นวายไปว่ะ ไม่ไหว

แต่จริง ถ้าเตรียมแต่แรกก็พอได้นะ ตอนนี้ก็ยังทำได้ ตอนแรกคิดไว้คร่าว ว่าประตูของ Airbnb ก็เป็นประตูข้าง มีคีย์การ์ด เค้าเดินเข้าอีกทาง ก็แยกโซนกันไป แต่ข้างบนมันก็ห้องนอนเรา แล้วเราก็ต้องดูตรงนี้ด้วย มันก็เลยน่าจะวุ่นวาย ไม่ไหว (หัวเราะ)

คำถามจากคุณ Tritled S.O.L.E.: คิดว่าจะขยายห้องซ้อมไปเป็นธุรกิจอื่น มั้ย? เช่นเปิดร้านหมูกระทะ

หมูกระทะสั่งมาแดกมั้ย ไม่ไหว (หัวเราะ)​ แค่ทำกับข้าวยังคิดแล้วคิดอีกเลย ตอนแรกก็คิดว่าจะทำกับข้าวขายง่าย แต่อยู่คนเดียวทำไม่ไหว ถ้าต้องผัดข้าวแล้วถึงช่วงเปลี่ยนห้องพอดี มันก็ตาย เพราะแฟนเราก็ยังทำงาน เค้าไม่ได้มาอยู่ที่นี่ 24 ชั่วโมง ถ้าอยู่ 2 คนอะพอไหว แต่ขายหมูกระทะเกินเหตุเหี้ย ละ (หัวเราะ) ก็อาจจะมีขายข้าวผัดกะเพรา ข้าวหมูกระเทียม แล้วเดี๋ยวนี้สั่งเดลิเวอรี่อะไรก็สะดวก

เปิดมากี่เดือนแล้ว แฮปปี้ไหม

4 เดือนนิด ละ แฮปปี้นะ ลูกค้ามาเยอะกว่าที่คิดไว้ตอนแรก จริง ตอนแรกก็หวังไว้ต่ำมากด้วย แค่อยู่ได้ก็พอ คนก็มาเยอะ แล้วสิ่งที่แฮปปี้กว่าคนมาเยอะคือคนมาซ้ำ มันแปลว่าเค้าโอเคกับที่นี่ ฟีดแบคก็โอเค จริง ตอนแรกแอบเสียดายเหมือนกันที่ลงไปเยอะขนาดนี้ ทั้งที่จริง ถ้าเทียบเรื่องควอลิตี้ คือตอนแรกที่คิดไว้ในหัวมันต่ำกว่านี้เบอร์นึง แล้วทีนี้พอทำแล้วพี่เค้าทำออกมาเป็นแบบนี้ ตอนแรกแบบเหี้ย แพงจังวะ เมื่อไหร่จะคืนทุน แต่สรุปสุดท้ายที่ได้มาคือความต่าง แม่งไม่ได้เพิ่มอะคูสติกที่ได้แค่เรื่องเสียงซึ่งคนก็ไม่รู้ ความต่างของเงินตรงนั้นมองเห็นด้วยตา อันนั้นคือสิ่งที่โอเคมาก ดีใจที่ทำเป็นแบบนี้ เพราะมันเห็นได้ มันไม่ได้เสียไปกับอะไรก็ไม่รู้ decoration ที่เค้าทำให้มันโอเค ก็แต๊งกิ้ว พี่ธี ซาวด์เอ็นจิเนียร์ทำให้ Violette Wautier, The Paradise Bangkok Molam International 

ทูทู่ 2nd Studio

เจ้าของห้องซ้อมคนใหม่น้องแมวทูทู่มาจากไหน

ไปรับมานั่นแหละ มันมาแบบงง เพราะคุยกันแฟนเล่น ว่าเค้าอยากเลี้ยงสัตว์ซักตัว ตอนแรกก็บอกไม่เอาเพราะที่บ้านก็มีแมวอีกตัวนึง ที่เลี้ยงอยู่แล้ว ตัวนั้นมันเป็นเปอร์เซีย แล้วขนมันร่วงเยอะ ถ้าเอามาที่นี่ก็จะมีปัญหาเยอะ จริง เคยเอามาแล้ว แล้วมันขี้กลัว เอามาแล้วมันไม่ยอมลงจากห้องนอนเลย มันจะอยู่แต่ห้องนอน ลงมาก็ไม่เอา ตรงนั้นก็ไม่เอา ถ้าเอามันลงมาปุ๊บ มันจะวิ่งปรู๊ดกลับห้องนอนไปเลย แล้วคือจะให้เอามาก็สงสารมัน เพราะตอนอยู่บ้านนู้นมันไปไหนก็ได้ มีที่ให้ไปเยอะ

แล้วเราก็นั่งเสิร์ชเว็บอะไรไปเรื่อย ดูเล่น ไปเรื่อย ทั้งที่บอกว่ายังไม่ต้องเอาหรอก วุ่นวาย แล้วอยู่ดี ก็จองน้องมาเลย แบบงง (หัวเราะ) ถูกชะตา หน้าแม่งกวนตีนดี แต่มาแล้วก็ไม่วุ่นวาย ปัจจุบันนะ กลายเป็นว่าขนแม่งน้อยกว่าที่คิดไปล้านเท่า เนี่ย ตรงกางเกงนี่คือไม่มีขนเลย ป่วน นิดหน่อย ตอนนี้ห่วงเรื่องมันจะวิ่งหนีออกจากบ้าน แต่จริง อะ ไม่ได้กะว่าจะเลี้ยงไว้ในห้องนี้นะ กะว่าจะเลี้ยงห้องนู้น (ห้องที่ตอนนี้ใช้เก็บของ) มันยังเด็กด้วย เลยต้องดูก่อน เดี๋ยวรอปีสองปีก่อน อาจจะเอาไปไว้ห้องนู้น แต่มันก็อยู่ห่างแค่นี้แหละ อาจจะเอาออกมาซักสองชั่วโมง ไม่งั้นโซฟาก็พังหมด ทุกคนก็รักน้อง เค้าบอกว่าโตแล้วจะนิ่ง แต่ว่าแมวเด็กมันก็ซนหมดอะ วิ่งกระจุย

เจเจคือใคร

นู่นคือเจเจ (ชี้ไปที่หุ่นยนต์ทำความสะอาด) เจเจคือแม่บ้าน ประจำแค่ห้องนี้ห้องเดียว อยากได้ล้วน (หัวเราะ) แม่งเท่ดี ที่ชื่อเจเจเพราะว่า แม่บ้านที่บ้านอารีย์ชื่อพี่แจ๊ว แล้วพี่แจ๊วคือแม่บ้านที่เซียนเหี้ย ทำทุกอย่างแบบกริ๊บ อันนี้ก็มาเป็นแม่บ้านของที่นี้ มันก็เลยเป็นลูกน้องของพี่แจ๊ว เลยชื่อแจ๊วจูเนียร์ แล้วก็มาเป็นเจเจ (หัวเราะ)

Ap 2nd Studio BKK

ขายของหน่อย แจกส่วนลดก็ได้

ไม่แจก! (หัวเราะ) ​เดี๋ยวทำอะไรเรื่อย แหละ จริง คือเราเป็นคนไม่ชอบ 10 ฟรี 1 ลดราคาต่าง เพราะมันไปลำบากเค้า ต้องมาเก็บนู่นนี่ พะวงนู่นนี่ จะครบยัง เราไม่ชอบ แล้วถ้าว่ากันตรง มันก็ไม่ได้แพงอยู่แล้วที่นี่ ถ้าเทียบกับควอลิตี้ที่ได้ เรามีอะไรสนุก เตรียมทำอยู่ละ รอเลย

ที่คิดไว้มาถึงเร็วที่สุดน่าจะปีใหม่ มีอะไรหนุก แน่ กะว่าจะทำแบบ lucky draw แต่ไม่ได้โง่ กะว่ารางวัลที่ 1 น่าจะเป็นแบบ takamine ซักตัว อีกอย่างที่เราอยากทำคือทำให้มันสนุก ไม่ได้เพื่อขายอย่างเดียว มันก็คืนกำไร ในรูปแบบที่ไม่ใช่ส่วนลด จริง อยากทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เราเพิ่งเปิด ยังไม่ได้ตังค์เลย ขอได้ตังค์ก่อน

ฝาก 2nd Studio BKK ด้วยครับ ตั้งใจทำสิ่งดี ให้มาใช้งานกัน อยากให้มาลองกัน เราเชื่อว่ามันมาแล้วมันได้รับบรรยากาศที่เราอยากให้มันเป็น แล้วก็รู้สึกโอเค ถ้าไม่ลำบากเกินไปก็อยากให้มาลองกัน อย่างน้อยซักครั้งนึงก่อนก็ได้ เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนแล้วมาซ้อมดนตรี เชิญจ้า facebook.com/2ndstudiobkk 0851579775 โทรมาจองห้องซ้อมได้หรือ แมสเสจมาในเพจก็ได้

Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่