NIL-LHO-HITZ
- Writer: Gandit Panthong / Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayot
NIL-LHO-HITZ
แนะนำตัวหน่อย
ชื่อ นพ หอยสังข์ ชื่อเล่นชื่อ แบมแบม หรือ เกม ชื่อ แบมแบม เป็นชื่อที่แม่ตั้งให้ตอนเด็ก ๆ ส่วน เกม เป็นชื่อที่พี่ตั้งให้เพื่อจะได้คล้องจองกับบรรดาพี่ ๆ ที่โตด้วยกันมา
ทำไมถึงชอบฮิปฮอป
จะบอกว่าตอนเด็ก ๆ เกลียดฮิปฮอปมาก มันดูเถื่อน ดูหยาบคาย แต่ตอนนั้นพี่สาวให้ลองแต่งตัวแล้วก็ไปเดินกับพี่ที่สยาม สักพักผมเริ่มติดใจ คิดว่า เออ เท่ดีเหมือนกันนะ แล้วทีนี้ก็เลยเริ่มรับฮิปฮอปมาจากบีบอย แล้วก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเข้าร่วม hip-hop community ตั้งแต่ช่วงประมาณ ม.2 อายุ 14 ปี จนตอนนี้ก็อายุ 20 แล้วครับ
จากบีบอยมาเป็นแร็พได้อย่างไร
ตอนนั้นได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนที่สนใจฮิปฮอปเหมือนกัน มีเพื่อนสนิทผมคนหนึ่งเขาเริ่มจากสายแร็พมาก่อน ส่วนตัวผมมาทางสายบีบอยก่อน ก็มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันจนช่วง ม.5 – ม.6 เพื่อนคนนี้เขาก็เปลี่ยนไปเป็นสายเต้น ส่วนผมก็เปลี่ยนจากเต้นไปเป็นแร็พ
ความยากของการเข้ามาเป็นสายแร็พคืออะไร
สิ่งที่ยากเหรอครับ มันยากทุกอย่างเลยนะ ตั้งแต่การเริ่มต้น การยืนให้อยู่ และการที่จะทำให้คนฟังเรา เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์นะเริ่มจากติดลบเลยครับ (หัวเราะ)
แล้วอะไรถึงทำให้เรามองว่าแร็พมีความหยาบคาย
ตอนนั้นเรามีอคตินะ พอเห็นจากมุมเดียวเราก็มองว่ามันไม่ดีนะ มันไม่โอเคนะ พอได้มาสัมผัสเองถึงได้รู้ว่าจริง ๆ มันเป็นคนละส่วนกันกับเรื่องของความไม่ดี
ชื่อ NIL-LHO-HITZ มาจากไหน
NIL-LHO-HITZ (นิลโลหิต) มาจากคำว่า black blood ที่แปลว่า เลือดสีดำ ความหมายของมันคือเลือดเสีย เลือดที่ไม่ได้รับการสูบฉีด ไม่ได้นำเอาไปฟอกที่ปอด เพราะไม่มีอวัยวะสูบฉีดก็คือไม่มีหัวใจ เพราะฉะนั้นความหมายของ black blood คือไม่มีหัวใจครับ ชื่อนี้เริ่มตั้งช่วงที่กำลังเริ่มแร็พ เพราะวันไหนที่ผมรู้สึกดาร์ก ๆ หน่อย ก็จะกลายเป็นอีกคนไปเลย คล้าย ๆ เป็นคนสองบุคลิกครับ
ปกติเป็นคนยังไง
แล้วแต่สถานการณ์ครับผม ถ้าเงียบก็คือเงียบไปเลย ไม่เอาใครเลย แต่ถ้าเฮฮาก็คือบ้า ๆ บอ ๆ
เวลาขึ้นเวทีเป็นอย่างไร
ในความรู้สึกคือเราจะต้องพยายามควบคุมตัวเองให้ได้ จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงหน่อย แล้วเวลาขึ้นเวทีผมไม่เคยห่วงเรื่องชนะ ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะสื่อสารยังไงให้คนฟังเข้าใจในสิ่งที่เราอยากบอก เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเขาไม่ค่อยมองเห็นกัน บางคนก็จะคิดว่าสไตล์เราต้องแบบนี้ ต้องฟังเรา เราเจ๋งนะ ไม่เห็นใครที่จะมองว่าคนฟังเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสารหรือเปล่า มันไม่ใช่แค่การไปด่ากันแบบหยาบ ๆ แต่คนฟังต้องได้อะไรกลับไปด้วย
ทำไมนิลโลหิตไม่ใช้คำหยาบ
จะบอกว่าอยากฉีกแนวมันก็ใช่นะ แล้วอีกอย่างผมเป็นคนที่ไม่อยากเหมือนใคร ไม่ชอบการลอกเลียนแบบ ผมเลยอยากลองทำอะไรที่เป็นตัวเอง ส่วนที่บ้านเขาก็เข้าใจนะครับว่าฮิปฮอปคืออะไร แต่ผมก็ไม่อยากให้มีคำหยาบ อย่างเวลาอัดเพลงที่บ้านก็ไม่อยากให้แม่ได้ยินคำหยาบนะ แล้วอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมอยากให้คนที่คิดว่าฮิปฮอปดูหยาบหรือไม่ได้สนใจฮิปฮอปสามารถเข้าถึงและหันมายอมรับตรงนี้ได้ด้วย เราก็เลยเลือกที่จะใช้คำหยาบให้น้อยที่สุด เหมือนยิงปืนแล้วมันต้องโดนครับ
แล้วเมื่อก่อนฟังเพลงแนวไหน
ย้อนกลับไปตอน ป.5 – ป.6 ยุคนั้นเพลง ใจเย็น ของวงแพนเค้กดังมาก พีคมาก ผมฝึกร้องท่อนแร็พเพลงนี้เลยนะ เหมือนเป็นสิ่งแรกที่ทำให้รู้จักว่าแร็พคืออะไร เพลงนี้เป็นแร็พสายแมสที่คนรับได้ แล้วพอประมาณ ม.2 ค่อยเริ่มมาฟังแร็พสากลแต่ก็ฟังเหมือนหว่านแห คือฟังไปเรื่อย ๆ แล้วเพิ่งมาเก็บได้ตอนประมาณ ม.5 – ม.6 ที่เริ่มมาแร็พแบบจริงจัง ก็มาฟังเพลงของฝั่ง Illslick, Southside ยุคนั้นจะเป็นยุคที่พี่อิลเฟื่องฟูมาก แต่ตอนนั้นผมซึบซับทาง Southside มากกว่าเพราะเป็นเพลงที่ค่อนข้างจะ aggressive และดูมีพลังในตัว
จะบอกว่าอยากฉีกแนวมันก็ใช่นะ แล้วอีกอย่างผมเป็นคนที่ไม่อยากเหมือนใคร ผมเลยอยากลองทำอะไรที่เป็นตัวเอง แล้วอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมอยากให้คนที่คิดว่าฮิปฮอปดูหยาบหรือไม่ได้สนใจฮิปฮอปสามารถเข้าถึงและหันมายอมรับตรงนี้ได้ด้วย เราก็เลยเลือกที่จะใช้คำหยาบให้น้อยที่สุด
ตอนนั้นเริ่มทำเพลงแล้วหรือยัง
ยังครับ แค่เริ่มลองแต่งท่อนแร็พนะ พอแต่งเสร็จก็เอาไปให้เพื่อนสนิทที่ร้องเพลงแร็พฟัง เพื่อนบอกว่าบ่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย (หัวเราะ) คือเพื่อนคนนี้เขาอยู่กับฮิปฮอปมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ เราก็อยู่กับมันมาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ปรับไป เมื่อก่อนยอมรับเลยว่าเราทำเพลงเพราะอยากดังนะ อยากมีชื่อเสียงจากการทำในสิ่งที่เราชอบ ก็เริ่มลองทำ ลองผิดลองถูกไป ตอนนั้นก็เอนเอียงไปทางสาย Illslick สาย mass หน่อย
เวลา battle รู้สึกว่าเป็นคนกวน ๆ
ใช่ครับ (หัวเราะ) สมัยก่อนจะเก๊กหน่อย ๆ ประมาณว่าแร็พเปอร์ต้องดูเท่นะ ต้องเจ๋งนะ เพิ่งจะมารู้สึกตัวว่าทำไมเราไม่ทำอะไรที่เป็นตัวเอง เลียนแบบคนอื่นทำไม ก็เลยเป็นตัวของตัวเอง ส่วนผลตอบรับก็ตามนั้นครับ (หัวเราะ) จริง ๆ มีอีกคนนิสัยกวน ๆ เหมือนกัน แต่เขาสละสิทธิ์ไปก่อน ชื่อเคนน้อยร้อยลีลา เขาดีกรีเกือบได้แชมป์เลยนะ เคยเจอเขาแข่งที่เชียงใหม่ คนนี้เก่งมากครับ
เข้าสู่วงการ rap battle ได้อย่างไร
ตอนแรกผมทำเพลงมาก็ง่อย ๆ อะ แนวแอบชอบแต่ไม่กล้าบอกตรง ๆ แล้วเราเป็นแร็พเปอร์ เราต้องทำเพลง ดูเท่อะ ตอนนั้นอยู่ ม.5 ทำเพลงออกมาจริง ให้เขาฟังแต่เขาไม่ฟังเลย เราส่งไปให้เขาดูเขาบอกว่าเพราะดีนะ แต่ยอดวิวคือศูนย์อะ (หัวเราะ) ตอนนี้เขาก็ติดตามอยู่ก็พอจะทราบว่า เออเรามาแข่งนะ ตอนแรกทำเพลงรักมาเรื่อย ๆ มีได้คุยกับรุ่นพี่คนนึง เขาเปลี่ยนชีวิตผมเลย เขาชื่อ ปรัชญาไมค์ หรือพี่ปรัช ก็ได้คุยกัน เราลองเอาเพลงให้พี่เขาฟัง พี่เขาก็วิจารณ์ พี่เขาถามว่า ทำเพลงเพราะตลาดใช่ไหม ทำเพราะอยากมีชื่อเสียงใช่ไหม ผมก็ยอมรับตรง ๆ เลยว่าใช่ครับ จากนั้นก็ได้คุยกัน ก็เหมือนได้ปรับจูนทัศนคติ พอมองย้อนกลับไปเราก็คิดว่าสิ่งที่เราทำมันคืออะไร ดูไร้สาระ ทำไมไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่คนเยอะ ๆ บ้าง ก็เลยเปลี่ยนจากความต้องการอยู่ในตลาดมาซึมซับใต้ดินแทน
รายการมันไม่ใช่แค่เรื่องของการ Battle อย่างเดียวแล้ว มันคือการชิงไหวชิงพริบกันทั้งระหว่างคนแข่งและคนดูด้วย
ก่อนมา Rap is Now ก็เคยประกวดมาหลายเวทีแล้วใช่ไหม
ใช่ครับผม ก็มีทั้งไปแข่ง Rap Battle และประกวดก็เคยได้ที่ 1 มา ของ Jone 500 Mixtape Vol.1 เป็นแบบส่ง Audio ไป ส่วนมากเราจะเริ่มจาก Audio มากกว่า ไม่เคยได้ไปพบปะผู้คนเท่าไร งานแรกที่พบปะผู้คนก็น่าจะเป็น Rap is Now The War is on volume แรก ๆ จนได้มาเจอพี่ ๆ ได้ทักทายกัน แล้วก็มีไปงาน 777 party ได้เจอคนก็จะรู้จักเราในนามนิลโลหิต แต่จะเป็นบรรดาแร็พเปอร์ที่รู้กันภายในนะครับ สำหรับรายการแรกที่เคย Battle สด ๆ ผมเคยไปแข่งรายการ Rap God มาก่อน ชนะคนหนึ่งแล้วก็แพ้ Rahboy ไป 2 – 1 รอบนั้นก็สนุกเพราะเป็นการแร็พที่สดแบบสดจริง ๆ
สำหรับการแร็พสดเป็นอย่างไรบ้าง
รู้สึกโล่งมาก เหมือนหัวเราไม่มีอะไรในนั้นเลย สิ่งที่ช่วยเราได้คือประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ สามารถหยิบอะไรมาเล่นได้ก็เล่นทันที มันคือเรื่องของไหวพริบเลยครับ
มีรายการอะไรบ้างที่จัดให้มี rap battle หรือรายการเกี่ยวกับแร็พโดยเฉพาะบ้าง
ก็มี Thai Rap TV, Thai Battle Mc, Rap God และ Rap is Now ครับ
พอเข้ารอบแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
ก็ดีใจครับ เหมือนเราถูกหวยเลย ตอนแรกถูกเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวไปเรื่อย ๆ
เรียกได้ว่าเป็นการแจ้งเกิด NIL-LHO-HITZ
จริง ๆ เหมือนรอบนั้นไม่มั่นใจว่าเรียกแจ้งเกิดได้ไหม แต่ผมไม่อยากเรียกว่าแจ้งเกิดนะ ผมคิดว่าคำที่ผมคิดมันไปโดนใจคนฟังมากกว่า บาร์เดียวเปลี่ยนชีวิตเลยครับ แบบเออ เล่นกูเหรองั้นกูแก้เกมเลยแล้วกัน (หัวเราะ)
หลังจากคลิปออกไปมีคนติดตามเพิ่มขึ้น
แรก ๆ จากตอนที่ยังไม่ลงคลิปก็มีคนติดตามประมาณ 700 พอลงคลิปไปสักพักก็มีคนแอดมาเรื่อย ๆ มีคนติดตามประมาณ 5,000 คน เพิ่งมาบูมอีกทีประมาณช่วงมกรา ประมาณ 10,000 ส่วนตอนนี้มีประมาณ 70,000 แต่พอกลับมาถึงรอบ 8 คน ผมเพิ่งรู้ว่าในรอบ 16 คน ผมทำไว้ดีเกินไป มันพีคเกินไป ผมเลยยอมโดนด่าดีกว่า ยอมที่จะดึงตัวเองลงมาหน่อย แล้วก็วางแผนไว้แล้วว่าให้มันดรอปลง รายการมันไม่ใช่แค่เรื่องของการ Battle อย่างเดียวแล้ว มันคือการชิงไหวชิงพริบกันทั้งระหว่างคนแข่งและคนดูด้วย แต่ก็ยอมรับว่าบีทที่ผมได้รับรอบนั้นมันยากจริง ๆ ยากเกินไปสำหรับการ battle พยายามใส่ความเป็นตัวเองลงไป ใช้คำหยาบให้น้อยที่สุด มันยังไม่ 100% หรอกครับ มันยากจริง ๆ
ใครคือแรงบันดาลใจของเรา
หมายถึงว่าไอดอลใช่ไหมครับ จะบอกว่าผมเหลิงก็ได้นะ แต่ผมไม่มีไอดอลครับ เพราะถ้าเราไปตั้งว่าใครเป็นไอดอล เราจะเดินตามรอยเขามากกว่าเดินตามแนวทางของตัวเอง ผมไม่ชอบเดินตามรอยเท้าใคร ผมชอบที่จะสร้างรอยเท้าใหม่มากกว่า เรามีความสุขของเรา ก็มีโดนด่าบ้างนะ ยังไม่ชินหรอก แต่เราก็จะมองด้วยความตลกมากกว่าว่า เออ ยังไม่รู้จักเราดีเลยก็มาด่าเราซะแล้ว ก็ไม่ได้ซีเรียส
รู้สึกว่าเป็นคนดังแล้วหรือยัง
ยังครับ
เขาเถื่อนมาแต่เราไม่เถื่อนกลับ เราเลือกที่จะกวนกลับ เขาจะดุเดือดมา เราก็ไม่เดือดกลับ ทำตัวเหมือนก้อนหินที่ขว้างลงน้ำ พอหินลงน้ำมันก็จม น้ำก็ยังไหลของมันไปเรื่อย ๆ ผมชอบที่จะแก้รูปแบบเกมได้ตั้งแต่การวางบุคลิก การวางคำ การวางทุกอย่างแต่แรก
เวลาแข่ง Rap is Now รู้สึกว่าคู่แข่งคนไหนน่ากลัวบ้าง
ผมว่าน่ากลัวทุกคนเลย คือสำหรับวงในเขาจะทราบว่าคนไหนมีอะไร ยังไง แต่พอมาเห็นผลงานแต่ละคนก็สุด ๆ เหมือนกันนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า (หัวเราะ) พอมาถึงรอบ 4 คนก็ยังยากอยู่ครับ ถึงเขาจะเป็นแร็พเปอร์หน้าใหม่แต่ฝีมือเขาก็ไม่เบาเลยนะ เขาเก่งนะครับ
ชอบแข่งกับใครมากที่สุด
ทุกคนครับ เพราะแต่ละคนก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป เมื่อแร็พกับน้องที่รู้จักกันก็ให้ความรู้สึกพี่กับน้องกำลังแซวกัน ตอนที่แร็พกับ Rahboy ก็เหมือนเราได้ใส่ความสด ความกวนของเราลงไป อย่างแร็พกับ Killerflow เขาเถื่อนมาแต่เราไม่เถื่อนกลับ เราเลือกที่จะกวนกลับ ส่วน Monkey P เขาจะดุเดือดมา เราก็ไม่เดือดกลับ ทำตัวเหมือนก้อนหินที่ขว้างลงน้ำ พอหินลงน้ำมันก็จม น้ำก็ยังไหลของมันไปเรื่อย ๆ
เรามีการวางกลยุทธ์ในการรบด้วยใช่ไหม
นิดหน่อยครับ
รอบหน้าเจอ MAIYARAP วางแผนไว้อย่างไร
โห ยากอะ เขาเป็นคนที่เล่นยากเหมือนกันนะ
ฝากอะไรถึง MAIYARAP
MAIYARAP หล่อจัง อย่าหันหลังให้นะ (หัวเราะ)
เคยท้อบ้างไหม
ก็เคยมีท้อบ้างเหมือนกันนะ แต่ก็ข้ามจุดนั้นมาแล้ว จริง ๆ คนเรามันก็มีท้อบ้าง ตอนนี้ยังหยุดไม่ได้ แต่สักวันมันก็อาจจะหยุดไป เหมือนเราวาดอากาศบางทีมันก็ไม่มีตัวอักษรขึ้นมาหรอก
เราตั้งเป้าหมายกับวงการนี้อย่างไร
ถ้ามีโอกาสได้เป็นศิลปินขึ้นมาผมก็พร้อมจะทุ่มเทเต็มที่นะ ตอนนี้เรายังติดเรียนติดภารกิจหลายอย่างในชีวิตอยู่
ตอนนี้เรียนอะไร
เรียน Food Science ที่ลาดกระบังครับ บางคนก็บอกว่าผมเหมือนเรียนนิเทศ บางคนก็บอกว่าดูท่าทางเหมือนเรียนช่างกล
สมมติถ้าไม่ได้ทำเกี่ยวกับฮิปฮอป มองอนาคตไว้ยังไง
ผมเคยอยากเป็น QC ครับ แต่พอคิดไปคิดมาก็อยากช่วยธุรกิจของที่บ้าน เพราะที่บ้านก็ทำเกี่ยวกับอาหารอยู่ครับ ตอนนี้ผมก็ยังกึ่ง ๆ อยู่นะ หลังจากได้เรียนแล้วแบบมันไม่ใช่ (หัวเราะ) ก็เลยกะว่าถ้าเรียนจบขอเวลาสักปีเพื่อทำสิ่งที่ชอบก่อน แต่ถ้ามันไม่รุ่งผมก็จะกลับไปทำงาน ณ จุดนั้น แต่ถ้าปีนี้ผมรุ่งได้ สามารถหาเงินให้แม่ได้สบาย ๆ ก็จะทำตรงนี้ต่อไป พยายามทำให้ที่บ้านเข้าใจอยู่ครับ อย่างที่บ้านพี่สาวก็เป็นคนแนวฮิปฮอปอยู่ เขาก็เป็นคนชักจูงเราด้วยนะ
รอบชิงจะให้คนที่บ้านไปดูไหม
ผมไม่อยากให้เขาเห็นจุดนั้นของผมครับ (หัวเราะ) พี่สาวก็ไม่อยากให้มา ขนาดแฟนก็ยังไม่อยากให้มาเลย (หัวเราะ)
ที่บ้านได้ดูคลิปของเราไหม
ดูครับ พี่สาวดู แต่แม่ ไม่เปิดให้ดูเลย ไม่อยากให้เขาเห็นตรงนั้นของเรา คือเราไม่อยากให้เห็นระหว่างทางอยากให้เห็นเราตอนสำเร็จเลยดีกว่า
หวังถึงแชมป์ไหม
ลึก ๆ ในใจก็อยากหวังนะ แต่มันยากนะ ยากจริง ๆ แต่ละคนอย่างน้าเก่งประสบการณ์เขาสูงมาก MAIYARAP เขาก็แร็พมาก่อนผมปีนึง คือเขามาก่อนผมทุกคนเลย ผมเหมือนเด็กมาก
รู้สึกว่าตัวเองเป็นม้ามืดไหม
ก็ไม่มืดนะครับ DARKFACE เขามืดกว่าผมอีก (หัวเราะ) ไม่ใช่สีนะ หมายถึงสไตล์เขา
ใน 4 คนนี้ในใจเราอยากให้ใครเป็นแชมป์
เลือกไม่ได้ครับ เลือกไม่ได้จริง ๆ ทุกคนก็ต้องมีทีเด็ดของตัวเอง
จริง ๆ การแร็พมันไม่ใช่การพยายามทำให้เท่นะ แก่นของการแร็พมันคือการระบายความรู้สึก คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าแร็พมันต้องสัมผัสนะ ต้องคล้องจองนะ ถ้าไม่คล้องจองคือไม่ใช่แร็พ คนก็เลยด่าผมว่า มึงแร็พเหมือนพูดเลยว่ะ คำมันคล้องจองบ้างไม่คล้องจองบางอย่างนี้คือแร็พแล้วเหรอ เป็นเรื่องแล้วแต่คนจริง ๆ
วันที่เปิดตัวเรารอบ 8 คนสุดท้ายตื่นเต้นไหม
ตอนนั้นดีดมาก แต่นั่นเป็นวิธีลดความตื่นเต้นของเรานะ บนเวทีวันนั้นนี่ไข่สั่นเลย (หัวเราะ) สั่นจริงครับ แต่ตื่นเต้นมาก สั่นมาก ถ้าผมปีนเสาได้คงทำไปแล้ว
ในการแข่งขันแต่ละครั้งเตรียมตัวนานไหม
ตรง ๆ ละกัน 2 วันก่อนแข่งครับ (หัวเราะ) คือผมติดเรียนไง เรียนเสร็จถึงจะค่อยมาเตรียมตัว คือผมเกือบรีไทร์มารอบหนึ่งแล้วก็เลยต้องทุ่มเทกับการเรียนเยอะหน่อย พอจบ Rap is Now ก็กลับไปตั้งใจเรียนต่อ ถ้าจบรายการนี้ผมอยากจะลองรีไทร์จากเพลงไปสักพักหนึ่งให้จบปี 4 ก่อน แล้วค่อยกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้ก็ปี 3 แล้วครับ แต่ก็แอบปล่อยผลงานปล่อยคลิปบ้า ๆ บอ ๆ มาเรื่อย ๆ นะ
เพื่อนที่มหาวิทยาลัยว่าไงบ้าง
ก็พอจะทราบครับ คณะอื่นก็พอจะทราบ แต่เวลาอยู่ที่ม.ก็ไม่มีคนทักเพราะผมจะใส่แว่น ใส่เสื้อนักศึกษา คนก็ไม่รู้จัก เวลาแต่งตัวแบบนี้ก็จะกลายเป็นอีกคนไปเลย
สำหรับเราคิดว่าวงการฮิปฮอปไทยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ผมชอบนะ มันพีค แต่ผมไม่ทราบว่ายุคก่อนมันพีคเท่านี้ไหม ยุคก่อนอาจจะพีคในด้านแฟชั่น แต่ตอนนี้พีคในด้านแร็พ ปีต่อ ๆ ไปอาจจะพีคด้านดีเจ บีบอย บีทบ็อกซ์ กราฟฟิตี้ แต่อยากให้พีคเพราะว่าเป็นฮิปฮอป แต่ไม่ใช่พีคเพราะเป็นบางรุ่นเท่านั้นนะครับ ให้คนเขารู้ว่าฮิปฮอปคือฮิปฮอปจริง ๆ
ตอนแรกก็เต้นบีบอย
ใช่ครับ ตอนแรกก็เต้นเพราะโชว์สาว (หัวเราะ) แต่เอาไปเอามาเต้นแล้วมันดีว่ะ ได้เจอเพื่อนได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนด้วย
ทุกวันนี้เล่นเฟซบุ๊กมีสาว ๆ ทักมาบ้างไหม
ทุกวันครับ (หัวเราะ) ทักจนแฟนหึง แฟนเริ่มมีปัญหาละ ส่วนใหญ่ที่ทักมาก็พี่แอดหนูหน่อย ถ้าอย่างนี้ผมไม่ตอบนะ แต่ถ้าทักมาประมาณว่าให้กำลังใจ เช่น เชียร์อยู่นะ สู้ ๆ นะ ผมก็จะขอบคุณครับ แต่ถ้าอย่างเด็กผู้ชายทักมาว่าแบบ พี่เจ๋งว่ะ ผมก็จะกวนกลับไป ก็จะเลือกตอบไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นผู้หญิงอย่างหนึ่ง ผู้ชายก็อีกอย่างหนึ่ง เหมือนเวลาน้องมาขอถ่ายรูป ถ้าถ่ายคู่กับผู้หญิง แฟนก็จะดูว่าเราไปแต๊ะอั๋งอะไรเขาหรือเปล่า แต่กับน้องผู้ชายผมก็จะให้ความเป็นกันเอง กระโดดกอดเต็มที่ ก็มีความเกรงใจแฟนพอสมควรครับ
มีงานเข้ามาเยอะไหม
มี ๆ หาย ๆ ครับ แบบมาลองเชิงก็มี เช่น อยากให้ไปงานนี้นะ สักพักก็เงียบ แต่ถ้ามีงานเราก็พร้อมทำนะ
ชีวิตปกติทำอะไร ถ้าไม่ใช่ฮิปฮอป
ผมน่าจะทำด้านสายศิลปะ ออกแบบ ก็จะทำ comic art พับกระดาษโอริกามิ ก็มี
วาดการ์ตูนมาก่อนหรอ
ใช่ครับ เคยหัดวาดการ์ตูนมาก่อน
คิดว่าชีวิตเราสนุกไหม คุ้มไหม
ผมว่าผมใช้ชีวิตม.ต้นไม่คุ้ม เพราะม.ต้นจะเห็นเพื่อนเฮฮากัน ในขณะที่ผมเออเต้นบ้างเรียนบ้าง แต่ก็ต้องเอาเรียนก่อน แต่พอม.ปลายจะเอาเรียนนะ แต่ก็เผลอไปเต้นเยอะกว่า ก็เลยไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ ชีวิตม.ต้นม.ปลายของหลาย ๆ คน เขาจะได้ลองสิ่งนั้นสิ่งนี้เยอะแยะ แต่ตัวผมไม่ได้ไปแตะเลย ผมรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ไปยุ่งกับตรงนั้น ในตอนนี้เลยไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ได้ยุ่งอะไรแบบนั้นเลย
เสื้อ NIL-LHO-HITZ
อันนี้ผมออกแบบเองเลยนะ
เวลาทำเพลงของตัวเองกระแสตอบรับดีไหม
หลังจากกระแสมา ผมก็หยุดทำเพลงมาปีนึงเลย ก็จะมีคิดเล่น ๆ มากกว่า เพิ่งจะมาดึงพีคในตอนหลัง ๆ
เพลงที่ทำคือเอามาจาก mixtape หรือทำใหม่
เคาะบีทเองเลยครับ เคาะเอง โปรดิวซ์เอง ทำเองหมดเลยครับ
ได้ดูคลิปที่เด็ก ๆ แร็พกันไหม
ก็พอได้ดูบ้างครับ
รู้สึกอย่างไรบ้างเวลาที่มีเด็ก ๆ มาแสดงความชื่นชมในตัวเรา
ก็เขิน ๆ ครับ แต่ละคนจะมีกลุ่มแฟนคลับของเขา บางคนก็จะเป็นกลุ่มสาว ๆ ของผมนี่จะเป็นกลุ่มเด็ก ๆ มัธยมที่ชอบความแปลกใหม่ ก็จะมาทางผม DARKFACE ก็จะมีแฟนคลับชาวใต้ น้าเก่งก็จะเป็นแนวเก๋า ๆ คือเราก็มีเด็กมาถ่ายรูปเรา เราก็ตกใจเหมือนกัน เวลาใครถ่ายรูปก็ยิ้มหวานหรือไม่ก็ทำหน้าบ้า ๆ บอ ๆ ไป ผมไม่ชอบการคีพลุค แปลกเวลาคนถ่ายรูปเขาจะต้องทำไม้ทำมือ ละคือทำไมเราต้องทำมือแบบนั้นด้วยอะ ก็เลยหลุด ๆ ไปเลย เพราะคนปกติจะชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
Rap is Now มีชุดจากสปอนเซอร์ให้
ก็รู้สึกสตั๊นท์นะ มีแอบกังวลว่าชุดจะเข้ากับเราหรือเปล่า แต่ตอนนี้มันก็อยู่ตรงกลาง ลงตัวครับตอนนี้
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ
ขอบคุณครับที่ผลักดันให้ถึงจุดนี้ได้ ทั้งคำชม คำเชียร์ คำด่า คำว่า คำเหยียดหยาม คำเหน็บแนม คำเสียดสี อะไรก็ตาม ถึงจะเกลียดผม ยังไงก็ขอบคุณที่ยังตามมาฟังกันอยู่ ผมไม่เคยโกรธเลยที่เข้ามาด่า หรือว่าอะไรแบบนี้ ผมขอบคุณด้วยซ้ำที่ช่วยมาชี้จุดบกพร่องของเราเพื่อที่เราจะนำไปปรับปรุงต่อไปได้ สิ่งที่อยากฝากอีกอย่างหนึ่งคือไม่อยากให้ฟังฮิปฮอปเพราะชอบคนนี้ คนนั้น ฮิปฮอปไม่ใช่ K popไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ แต่ฮิปฮอปมันคือฮิปฮอป อยากให้ฟังที่ตรงแก่น ตรงหัวใจของมันจริง ๆ ไม่ใช่แค่ว่าฟังเพราะคนนี้ ตามคนนี้ ผมยอมที่จะเป็นสะพานให้พวกเขาข้ามมาจากจุดความเป็นตลาด ให้เข้าถึงความเป็นฮิปฮอป ให้รู้ว่าฮิปฮอปมันคืออะไร แล้วสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่หัดแร็พอยู่ ไม่อยากให้มองผมเป็นหิ้ง ไม่ต้องบูชาผม แต่ให้มองผมเป็นฐาน เหยียบผมขึ้นไป เด็กรุ่นใหม่ต้องเก่งกว่ารุ่นปัจจุบัน
ฮิปฮอปคืออะไร
ฮิปฮอปมันคือ Community เรื่องของความเป็นมิตรภาพมากกว่า เช่น คนนี้ชอบเล่นโยโย่ คนนี้ชอบเล่นกีตาร์ เราก็จะเลือกเข้าหาคนที่มีความชอบเหมือนเรา จุดตรงกลางมันคือสิ่งเดียวกัน ฮิปฮอปก็เหมือนเป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่คนมาใช้ชีวิตในรูปแบบคล้ายกัน เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าฮิปฮอปมันคืออะไร มันกว้าง พูดยาก ความรู้สึกมันอยู่ข้างในมากกว่า เป็นอินเนอร์ เหมือนแร็พของฮิปฮอปมันคือการระบายความรู้สึกออกมา บีบอยมันคือการระบายอารมณ์ออกมา กราฟฟิตี้มันคือการระบายศิลปะในตัวออกมา ดีเจมันคือการระบายความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกมา เพราะฉะนั้นแล้ว สำหรับผมฮิปฮอปคือการระบายสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา เป็นการแสดงออกอีกรูปแบบหนึ่งมากกว่า