Feature เห็ดหูหนู

Koy Aratchaporn Playlist

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Neungburuj Butchaingam

GOY’S PLAYLIST

10 เพลงโปรดจาก ก้อย อรัชพร โภคินภากร ที่คัดสรรมาอย่างดี มาดูกันว่าสาวแสบจากซีรี่ส์ฮอร์โมนคนนี้จะชอบฟังเพลงแบบไหนกันบ้าง

dscf1826

รักอัญชลี จงคดีกิจ

เป็นเพลงที่ฟังตั้งแต่เด็ก ฟังเรื่อย ๆ นึกถึงก็ฟังได้ ความหมายก็ดีอยู่แล้ว ถ้ามีความรักก็จะอิน

Bang Bang Bang – Big Bang

เราเป็นคนที่ชอบเต้นมาก ถ้าเพลงไหนที่ฟังแล้วทำให้เราอยากเต้นได้ก็จะชอบทุกเพลงแหละ แต่เพลงนี้มันสนุกดี ชอบ G Dragon เราไม่ได้เป็นติ่งนะ แต่คิดว่าเขาจัดดี คือคาแรกเตอร์เขามันดูสุดทางอะ เห็นแล้วแบบ ไหน ๆ จะมาทางนี้แล้ว คนนี้ก็มาสุดทางในเวย์ของเขา เป็นผู้ชายกรีดตา ก็ดูเท่ในเวย์ของเขาดี เราเป็นคน mass มาก คืออันไหนที่กระแสมาโดนเรา เราก็ฟังหมด แล้วเพลงนี้มันกระแสมากเลยนะ เปิดในคณะบ่อยมาก

คำยินดี – Klear

ชอบความหมาย ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคนชอบเสพดราม่าหรือเปล่า เพราะบางทีมีแฟนแล้วก็ไม่ได้อะไรนะ แต่ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกอิน ชอบ

Counting Stars – One Republic

จริง ๆ เพลงมีมานานแล้ว แต่เพิ่งมาฟัง ปกติไม่ได้ฟังเพลงอะ ชอบความหมายมาก ชอบท่อนที่มันบอกว่า Everything that kills me makes me feel alive รู้สึกว่าช่วงนี้เรามีความกดดันเยอะ เลยฟังแล้วฮึกเหิม หลาย ๆ เรื่อง งาน เพื่อน แฟน ด้วย เป็นการบิวท์ตัวเองว่า มาเลยค่ะ ถ้าจะหนักขนาดนี้ก็ดาหน้าเข้ามา ฟังมา 3-4 วันติดแล้ว

วิหคเหินลม – เพลงเชียร์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป็นเพลงคณะ เราเป็นเด็กติ่งคณะนี้มาก รู้สึกว่าเพลงนี้ฟังเมื่อไหร่ก็จะคิดถึงคณะ ไม่ว่าจะจบไปแล้วกี่ปีก็ตาม มันเป็นเพลงที่ให้แต่ละรุ่นคิดถ้าเต้นของตัวเอง แต่ละรุ่นก็เลยจะมีท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ จริง ๆ เป็นเพลงสุนทราภรณ์ ความหมายคือการอยากเป็นนก โหยหาอิสระเสรี เป็นสัญลักษณ์ของคณะ แล้วมันทำให้เรารู้สึกผูกพันกับเพื่อนในรุ่น

ขอบคุ๊วีดีโอจาก คุณ nottapon b

แค่ที่รัก – 3.2.1

เราว่าจริง ๆ Kamikaze อาจจะดูแจ๋นแหลน ๆ แต่เราก็ชอบ แต่เราร้องได้ทุกเพลงเลยนะ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ติดหูที่สุด ที่จริงจังหวะมันก็โอเคนะ บางเพลงนี่ดีเลยแหละ

ช่วงที่ดีที่สุด – BOYdPOD

เป็นเพลงที่บิวท์มาตั้งแต่มัธยมจนเรียนจบมาแล้วมันก็ยังอยู่ในชีวิต แบบอมตะเหลือเกิน เป็นเพลงที่โผล่มาในทุกช่วงชีวิต มันคือเพลงที่อยู่ในทุกการจากลาของเรา มันคงเป็นเพลงที่ touch มาก ๆ แล้วคนชอบใช้ mass มาก ๆ ก็รู้สึกว่า คนที่แต่งเพลงแล้วคนเลือกมาใช้ได้เยอะขนาดนี้ มันเป็นเพลงที่เจ๋งอะ

Friction – Imagine Dragon

จริง ๆ แล้วเราไม่ใช่คนฟังเพลงแนวนี้เลย แต่ว่ามีเพื่อนเปิดให้ฟัง ดนตรีนี่อย่างโหด เราว่ามันเป็นดนตรีแบบกึ่ง ๆ แขก ๆ ฟังดูตะวันออก เราก็รู้สึกว่าทำไมมันเทพจังวะ การทำให้ดนตรีแบบนี้ลงตัวได้ขนาดนี้ มีความเป็น world music ฟังวน ๆ ได้เป็นสิบ ๆ รอบ

Low – Flo Rida

ชอบเพราะว่าเต้นมาตั้งแต่เด็ก แล้วเต้นมาจนโต เราเป็นคนชอบเปลี่ยนสถานะตัวเอง คือเวลาเราดาวน์ เราจะฟังเพลงแบบนี้ทันที เพื่อให้ตัวเองมี energy เราจะไม่ชอบตอนตัวเองดาวน์ พอฟังเพลงเต้นแล้วได้เต้นก็จะหายเลย เราก็เลยเป็นคนที่ฟังเพลงเต้นบ่อยมาก แล้วเราชอบ Step Up ด้วย

กระแซะเข้ามาซิ – พุ่มพวง ดวงจันทร์

ฟังบ่อยมากในสัปดาห์นี้ จริง ๆ คือเต้นให้ยายดูตั้งแต่เด็ก ยายชอบให้เต้นพุ่มพวงให้ดู พอโตขึ้นมาก็เริ่มโหลดเพลงเป็น แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ฟังนานมาก แก็ปช่วงมัธยมคือไม่ฟังเลย พอเข้ามหาลัยอยู่ดี ๆ ก็กลับมาฟังแล้วรู้สึกว่า สนุกจัง ฟังแล้วมันนึกถึงตอนเป็นเด็กเต้น ๆ จริง ๆ แล้วเพลงมันเพราะด้วย ชอบพุ่มพวง

Exclusive Talk With Goy

download-8

ก้อยคือใคร

ก้อยเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ อยู่ปีสี่แล้ว เรียนภาควิชาประชาสัมพันธ์ วิชาโทการแสดง ตอนนี้ก็เรียนอยู่ แล้วก็มีงานแสดงเข้ามาบ้าง ที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้เพิ่งเล่นละครเวทีประจำปีของคณะ เรื่อง The Villa Smaris นี่เพิ่งกลับเข้าสู่ชีวิตปกติ

เข้าวงการบันเทิงได้ยังไง

ตอนปีสอง เล่นละครเวทีของนิเทศ แล้วก็มีคนที่มาดู ชวนไปแคส แล้วก็ติดบท ดิว ในฮอร์โมน เลย มีความจับพลัดจับผลูแล้วรู้สึกว่า อุ่ย โชคดีจัง ส่วนนอกนั้นจะเล่นหนังสั้น หนังประกวดมากกว่า

เป็นคนชอบการแสดง

ตอนแรกไม่รู้ว่าตัวเองเล่นละครได้ แต่เป็นคนที่เสพละครหนักมาก ชอบดูละคร ช่อง 7 ช่อง 3 ดูแล้วเราก็เล่นตาม ตอนนี้ไม่เล่นตามแล้วนะ (หัวเราะ) แต่ตอนเวิร์กช็อปละครเวทีก็อาจจะต้องมีเล่นตามด้วยเพื่อหา reference คือดูเสร็จแล้วเล่นตาม คือการเล่นตามนี่ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็เล่นกับพี่กับน้อง

ละครที่เล่นตามตอนเด็ก ๆ แล้วอินมาก ๆ คือเรื่องอะไร

เคยเล่นเป็นปริศนา (หัวเราะ) ก็รู้สึกอยากเล่นเป็นทุกตัวที่ดังในตอนนั้น แล้วก็เล่นเป็นนางร้าย มีเรื่องที่แอน ทองประสม เล่นกับชาย ชาตโยดม ชื่อ แต่ปางก่อน หรือเล่นเรื่องอังกอร์อะไรอย่างนี้ เล่นเยอะมาก ดูแล้วชอบหมด แต่ที่เล่นง่ายสุดคือเล่นเป็นตัวร้าย เพราะมันก็แว้ด ๆ ๆ ๆ ๆ สมัยก่อนมันก็ stereotype หนักมาก ก็เล่นกับพี่สาว สนุกดี

ได้เล่นให้คนอื่นดูหรือเปล่า

เล่นให้พ่อแม่ดูเนี่ยแหละ เรามีพี่ชาย แต่คนที่เราเล่นด้วยเป็นญาติ มีกันสามคน อายุไล่เลี่ยกัน แล้วตอนเด็ก ๆ ปิดเทอมทุกคนก็จะมารวมตัวกันที่บ้านยาย เราจะเตรียมโชว์กัน แล้วพอวันอาทิตย์พ่อแม่ก็จะมารวมตัวกันดูละครเรา แล้วพ่อแม่ก็จะตบมือให้ลูกของเรา (ยิ้มเจื่อน) ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ก่อนเราเป็นลูกล่อเพราะพี่เป็นตัวนำ แต่เหมือนพี่คงไปเจอจุดเปลี่ยนในชีวิตอะไรสักอย่าง ตอนนี้พี่กลายเป็นคนเรียบร้อยไปเลย ส่วนเราก็กลายเป็นว่าขึ้นมาแทนจุดนี้

download-9

เลยทำให้อยากมาเรียนนิเทศด้วยหรือเปล่า

ไม่ คือตอนนั้นก็ชอบเล่นละครมาตลอดแหละ แต่บ้านเราอยากให้เราเป็นหมอ คือเราเรียนสายวิทย์มาเพื่อเป็นแพทย์เลย แต่เราไม่ติด เราก็เคว้ง งง ว่าจริง ๆ แล้วเราชอบอะไร เพราะก็ทำตามพ่อแม่ แล้วเราลองมานั่งคิดว่าเราเป็นคนชอบทำกิจกรรมหนักมาก ก็คิดว่า อะ คณะนี้ก็แล้วกัน แต่ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกนะว่าเข้ามาแล้ว คณะจะเป็นยังไง

แล้วตอนที่เล่นฮอร์โมน เวลาออกอากาศ เราได้ดูไหม

จริง ๆ เป็นคนไม่ชอบดูตัวเองเล่นอะ มันมีความเขินอะ พอดูก็ต้องดูคนเดียว ดูกับคนอื่นไม่ได้ มีความน่าอาย ดูแล้วจะสงสัยว่า มึงเป็นอะไรของมึงปะเนี่ย

บทที่ได้เล่นนี่เล่นเป็นตัวเองหรือเปล่า

เราว่ามันเป็น stereotype นางร้าย มีอะไรที่เราชอบเล่นอยู่แล้วในระดับนึง อย่างตอนที่พี่ปิง (เกรียงไกร วชิรธรรมพร ผู้กำกับฮอร์โมน) บรีฟ พี่ปิงบอกว่าอีเด็กนี่ชอบดูละครหนักมาก แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรไปว่า กูเนี่ยแหละดูละครหนักมาก (หัวเราะ) มันก็เลยสนุกที่จะเล่น คือเขาฟรีมาก มันเป็นกึ่ง improvise คือมีบทมา มีโครง แต่เลือกจะด่าอะไรก็ด่า มันก็เลยสนุกมาก ตัวบอสที่เราเล่นด้วย เขาก็กึ่ง improvise กลับมา พอเขาด่ามา เราก็ด่ากลับ สลับไปเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกว่าสนุกจังเลยอะ

“เราว่าการเต้นมันเป็นการปลดปล่อยพลังงานไปสู่คนรอบข้าง แล้วเมื่อคนรอบข้างส่งกลับมา มันคือการออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ”

ตัวละคร ดิว งอแงไหม

ตอนแรกเราอ่านบทแล้ว เราขัดกับมันมากว่า อะไรคือตรรกะของตัวละครตัวนี้ อะไรที่หล่อหลอมให้มึงเป็นคนอย่างนี้ แต่พอเราไปเล่นจริง ๆ เราก็รู้สึกว่ามันแค่เป็นคนที่ไม่แคร์คนอื่น ก็แค่นั้นเอง มันค่อนข้างแบนในแง่ที่มันตรงมาก จริง ๆ คนแบบนี้ในสังคมมันก็ไม่ได้แย่หรือเปล่า แค่ฉันชอบคนนี้ ไม่ชอบคนนี้ ไม่ชอบการกระทำเขา แล้วฉันก็จะทำแบบนี้ แค่มันไม่ได้เกิดการคอนโทรล สังคมมันก็เลยเกิดการ blame รู้สึกว่ามันไม่ผิดเท่าไหร่

มี feedback ยังไงบ้าง

ไม่รู้อะ แต่ว่า คนด่ากันแบบโอ้โห โอ้หลั่นล้ามาก แต่คนด่าก็โอเคนะ ชอบ ก็ดี ด่าแรงดี แต่ก็จะมีคนที่เห็นตัวจริงเราแล้วก็ยังเกลียดเหมือนเดิม เราก็เลยรู้สึกว่า เหย เมิงงงงง มีเพื่อนเอาคอมเมนต์มาให้ดูว่า นี่ขนาดกูเห็นหน้าตัวจริงแล้ว กูยังไม่ชอบหน้ามันเลย เราก็แบบ เอ๊ หรือผิดที่หน้ากูวะ หรือไปอ่านในเพจแบบ หูย นี่จะด่าแม่เลยป่าวเนี่ย แต่ว่า ไม่รู้สิ ก็ดูแล้วตลกดี แล้วเพื่อนเรา ลูกหมี ที่เล่นเป็นน้ำชา ก็เป็นอีกตัวละครที่โดนด่า แต่ก็ไม่เป็นไร มีเพื่อนโดนด่าไปด้วยกัน ก็เลยรู้สึกสนุกจัง ตอนเปิดดูก็คือดูอยู่ด้วยกัน

คนเกลียดเยอะแล้วรู้สึกยังไง อยากเล่นนางร้ายต่อไหม

คือก็ได้ แต่ถ้าเอาจริง ๆ ก็ไม่อยาก เรารู้สึกว่าเราชอบการแสดง เราไม่ต้องการให้คนติด perception ว่าเราเล่นได้อย่างเดียว ถ้าเล่น เราอยากเล่นอย่างอื่นมากกว่า อย่างปริศนามันก็ไม่ใช่เวย์เรานะ แค่ชอบเล่นตอนเด็ก ๆ เราชอบเล่นอะไรสนุก ๆ ตลก ๆ แบบ sit-com อะไรแบบนี้ จริง ๆ กำลังจะมีเข้ามา แต่ยังไม่ได้เปิดกล้อง

download-10

สรุปแล้วเงินค่ากีฬาสีอยู่ไหน ให้ตอบแบบคาแรกเตอร์ดิวนะ

ม่ายยย ก็อยู่ที่หลีด คือมันเป็นเรื่องปกติมากเลยนะ อย่างสมัยก่อนเราอยู่มัธยม เราก็ต้องจ่ายตังห้าพันเพื่อหลีดจริง ๆ นะ เพราะเราเป็นหลีด เราก็รู้สึกว่ามันไม่ผิด คือการเป็นหลีด คุณต้องเช่าชุด คุณต้องแต่งหน้า ต้องไปนอนโรงแรม ยังไงเงินมันก็ต้องเยอะอยู่แล้ว เงินคนอื่นอาจจะต้องออก แต่เราก็เอามาบริหาร มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นไง ซึ่ง ณ ตอนนั้นมันทำให้เราคิดนะว่า ทำไมเราต้องออกเงินให้หลีดวะ แต่สุดท้ายก็เข้าใจไง ว่าต้องอยู่ที่หลีด เราตั้งใจทำหลีดมาก

แต่เล่นละครคณะนี่ได้เป็นนางเอกด้วย รู้สึกยังไง

ตอนแรกที่จะต้องเล่นบท ต้องตา เป็นนักข่าว เราแทบจะหาคาแรกเตอร์ชัด ๆ ไม่ได้เลย มันไม่นิ่ง มีการเปลี่ยนบทบ่อย เราเลยสงสัยว่าอะไรเป็นแก่นของตัวละครตัวนี้ ที่เราเล่นแล้วจะรู้สึก free คือมันก็ต้องมี sense of comedy นิดนึงอะ แล้วตัวละครไม่ใช่ตัวละครเส้นเรื่องหลัก ถ้าจะให้เด่นมันก็ต้องตบ ๆ ให้ตัวละครสร้างสีสันมากกว่านี้

แล้วจริง ๆ แล้วเราเป็นคนแบบไหน เพราะคนชอบมองว่าเป็นนางร้าย เป็นคนตลก ไม่ก็เป็นเลสเบี้ยน

เออ ทำไมมันดูสุดทางไปหมดเลยอะ แต่ที่งงสุด ๆ คือเลสเบี้ยนเพราะเราไม่ได้เป็น ตัวจริงเป็นผู้หญิงปกติ ดูละครหลังข่าว แต่จะมีความเป็นผู้ชายสูงมาก ทำอะไรที่ง่ายที่สุดในชีวิต จะสกปรกนิดนึง ก็จะเป็นคนไม่ประณีต เพราะมีพี่ชายด้วยนะ เล่นบาส แต่ความจริงแล้วเราก็มีความเป็นผู้หญิงสูงมาก แค่ภาพมันออกมาดูแมน ๆ อ๋อ เพราะว่าดู Crows Zero บ่อยมาก คือตอนเด็ก ๆ ชอบมาก ดูทุกภาค ชอบเกนจิ ชอบซุซุรันมาก ความเป็น gangster กับเรา มันคงจะติดมา

อะไรทำให้ชอบเต้น

จริง ๆ ก็ไม่ได้ชอบเต้นแบบเต้นจริงจัง แต่เราว่าการเต้นมันเป็นการปลดปล่อยพลังงานไปสู่คนรอบข้าง แล้วเมื่อคนรอบข้างส่งกลับมา มันคือการออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ การที่คุณต้องไปฟิตเนสแล้วออกกำลังกายท่าเดิมมันน่าเบื่อมาก แต่การเต้นมันไม่น่าเบื่อ คือคุณเปิดเพลงมา คุณสามารถทำท่ายังไงก็ได้ เวลาเราอยู่บ้าน เราเต้นคนเดียวด้วยซ้ำ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่ทำ แต่เราทำ มันเป็นกิจวัตรประจำวันของเราสุด ๆ อยู่ดี ๆ ก็เต้น เราว่าการที่คนเราขยับตัวแล้วมันหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมันเลยทำให้เรามีความสุข

download-11

แต่ก็มีความสุขไปหน่อย เพราะเต้นแรงมากจนไปปรากฏภาพบนหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ฉบับหนึ่ง

(หัวเราะ) เป็นช่วงรับน้องแล้วเขามาทำข่าววัน First Date ของจุฬา ฯ เพื่อนก็เรียกเราให้ลุกขึ้นเต้น ประเด็นคือเราไม่รู้สึกแปลก เพราะคณะนี้มีคนแบบเราเยอะมาก มันเลยมีความที่ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรนะ เพราะทุกคนก็เต้นแร้งแรง ก็เลย สนุกจัง ยิ่งเต้นแรงขึ้นไปอีก แต่ก่อนเข้าคณะนี้ เราไม่ได้เต้นแรงเท่านี้หรอก

อะไรคือการที่คนชอบชวนให้ไปเล่นหนังที่มีความเป็น feminine สูง หรือหนังเลสเบี้ยนอยู่บ่อย ๆ

เขาบอกว่าเราอะหน้าดี้ คือเราเป็นดี้มาก่อน หมายถึงว่าเราเคยคบทอมมาก่อน แต่เราไม่ได้เลสเบี้ยนนะ คือคงจะไม่ชอบผู้หญิง เพราะสำหรับเรา ทอมก็คือผู้ชายนั่นแหละ เราก็เลยงงว่าทำไมเหมือนกัน ด้วยความที่เรามีความแมน ๆ นิดนึงด้วยมั้ง อาจจะทำให้รู้สึกว่า ผู้หญิงก็ไม่ใช่ จะทอมก็ไม่ทั้งหมด มันเลยดูมีความเลสเบี้ยนหรือเปล่า น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ตัวเราเองไม่รู้สึกว่าเราเป็นนะ

แล้วชอบผู้ชายแบบไหน

ชอบผู้ชายไม่งี่เง่า ไม่ง้องแง้ง จริง ๆ เคยคิดว่าชอบผู้ชายที่โตกว่า แต่ก็ไม่เกี่ยว โดยลักษณะนิสัยก็คือต้องดูแลตัวเองได้ ไม่ยุ่งกับเรา ไม่จู้จี้จุกจิกมากเกินไป จะไม่ยุ่งกับการแต่งตัวของเรา เพราะเราจะแอบโป๊นิดนึง จะต้องเป็นเรื่องของใครเรื่องของมัน นี่เรียกว่าสเปคปะวะ (หัวเราะ) ชอบเข้ม ๆ คม ๆ

“แต่เอาจริง ๆ มันคือการชอบตัวคนนั้นแหละ ไม่เกี่ยวกับว่าเขาเพศอะไร อนาคตเราอาจจะเป็นเลสเบี้ยนก็ได้ถ้าในอนาคตคน ๆ นั้นคือคนที่ใช่จริง ๆ สำหรับเรา”

แล้วมีทัศนคติต่อคนที่ชอบเพศเดียวกันยังไงบ้าง

ปกติมาก ก่อนเราจะเป็นดี้ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะชอบทอม คือเราไม่ได้ชอบทอม เราชอบคนนั้นน่ะ ซึ่งพอเราชอบคนนั้น แล้วเราเคยคบทอม มันทำให้สเปคเราเปิดกว้างขึ้นว่าเราคบผู้ชายก็ได้ คบทอมก็ได้ เฉย ๆ แต่เอาจริง ๆ มันคือการชอบตัวคนนั้นแหละ ไม่เกี่ยวกับว่าเขาเพศอะไร อนาคตเราอาจจะเป็นเลสเบี้ยนก็ได้ถ้าในอนาคตคน ๆ นั้นคือคนที่ใช่จริง ๆ สำหรับเรา

พอไปเล่นหนังสั้นแล้วได้รางวัล รู้สึกยังไง

อู้หู อย่างฟิน ตอนได้รางวัลนี่งงนิดนึง แต่เราเป็นคนที่ถ้าได้เล่นหนังสั้น ทุกครั้งเราก็จะเล่นถวายหัวมาก ไม่รู้ทำไม เพราะรู้สึกว่า ปีนึงมีครั้งเดียว แล้วกางจอ (งานแสดงผลงานนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาภาพยนตร์) เป็นงานที่ทุกคนตั้งใจทำ แล้วเราชอบเล่นด้วย คนก็เลยเห็นความตั้งใจของเราตรงนั้นมั้ง ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้ขนาดนั้น

เป็นนักแสดงเจ้าบทบาท

ยังไม่ถึง อันนั้นมันบูมขึ้นมาด้วยการที่ตัวละครตัวนี้มันสุดทาง คนก็เลยอินง่าย คือถ้าไปเล่นตัวละครที่ซับซ้อนกว่านี้ ที่มันเป็นคนจริง ๆ ที่ทำให้คนนึงเชื่อในคนนั้นจริง ๆ อันนั้นเราว่ายาก ซึ่งถ้าใครทำได้ อันนั้นเราว่าค่อยว่ากัน

ให้เลือกตัวละครในฮอร์โมน เราอยากเล่นเป็นใคร

เราชอบบอสมาก แต่ว่าดันเป็นผู้ชาย คือมันเป็นคนที่ความคิดสุดทาง เป็นตัวแทนของความ liberal ซึ่งเราเป็นคนที่ไม่มีความ liberal ในตัวเลย เราเลยอยากรู้ว่าคนที่มีความ liberal ในตัวเขาจะทำแบบนี้ เขาคิดอะไรอยู่ ถ้าเราได้ไปเล่น เราคงเข้าใจว่าในสมองเขาคิดอะไรถึงได้พูดแบบนี้ออกมา แล้วพีมันเล่นดีด้วยอะ ดูจิต ๆ นิดนึง ด้วยหน้า ด้วยแว่น อะไรแบบนี้ ถ้าตัวละครนี้เป็นผู้หญิงจะเป็นยังไง

การแสดงทำให้เราอยากเข้าใจคนอื่นมากขึ้นหรือเปล่า

ใช่ ๆ แล้วยิ่งกว่านั้นคือต้องรู้จักตัวเองก่อนจะไปเล่นเป็นคนอื่น ไม่งั้นจะเล่นแปลกมาก ๆ

download-12

ทุกวันนี้รู้จักตัวเองดีหรือยัง

รู้แล้วแต่ก็ยังไม่พอ ละครมัน crack เยอะนะ เช่น เราเป็นคนขี้อิจฉา สมัยก่อนเราจะไม่ยอมรับตัวเองหรอก แต่ละครมัน crack ตัวเราได้ว่า รู้ใช่ไหมว่าเป็นคนขี้อิจฉา แล้วพอเรายอมรับตัวเองได้ก็จะรู้แล้วว่าจริง ๆ เราเป็นคนแบบนี้นะ สิ่งที่ทำได้คือต้องควบคุมมันให้ได้ พอรู้ตรงนี้แล้วมันฟินเลย คือเอาทักษะจากในละครมาปรับใช้กับชีวิตได้ แต่เราก็ยังไม่เจอตัวเองทุกมุมนะ แต่การแสดงละครเวทีมันสามารถ crack ไปจนเจอจุดด้อยที่สุดของคุณคืออะไร

ชอบบทไหนที่สุดที่เล่นมาทั้งหมด

บทน่ารัก เป็นเด็กอายุ 14 ที่แก่น ๆ วัน ๆ ไม่ทำอะไร ชอบผู้ชายที่ชื่อจากัวร์ มีความ 90s โย่ ๆ ๆ ไม่คิดอะไรมาก เป็นตัวละครในละครเวทีคณะที่เราได้เล่นตอนปีสอง เล่นตอนนั้นสนุกมาก เพราะใช้พลังเยอะ เข้าถึงคนง่าย คนดูก็เลยโอเคกับตัวละครนี้ แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครที่ชอบที่สุดขนาดนั้น แต่มันคือตัวละครเริ่มต้นที่ทำให้เรามีงานอื่นเข้ามา ตอนที่เราเล่นบทนั้น เรายังเล่นละครงง ๆ อยู่เลยว่าอะไรคืออะไร แต่ว่าบทนั้นเป็นขั้นแรกที่ทำให้คนมองเห็นว่าเรามีทางให้ไปต่อ เราก็เลยรู้สึกรัก เหมือนขอบคุณตัวละครตัวนี้ที่ทำให้ตัวละครตัวอื่น ๆ เข้ามาหาเรา

การทำงานในกองถ่ายแต่ละกอง ความยากง่ายต่างกันยังไง

ถ้าเป็น process การทำงาน เราชอบละครเวทีมากที่สุด เพราะว่ามันคือการอยู่ร่วมกันกับคนตลอดสามเดือน การสร้างละครเวทีขึ้นมาเรื่องนึงมันยากมาก มันคือการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การที่ต้องหาคาแรกเตอร์เพื่ออยู่กับตัวละครตัวนั้นจริง ๆ รู้สึกว่าอันนี้โหดมาก ต้องรักการแสดงระดับหนึ่งถึงจะอยู่กับละครเวทีได้ แต่ว่าการทำงานสายฟิล์ม มันดูใช่ทางเรามากกว่า ความที่เราตัวเล็ก การเล่นละครเวทีมันใช้พลังเยอะ แล้วถ้าต้องเล่นสิบรอบมันเหนื่อย กินเครื่องดื่มชูกำลังทุกวัน กินจนไตจะวายแล้ว แต่มันดีมากเลยอะ เราชอบ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ไม่เคยกินเลย แต่มันช่วยจริง ๆ แล้วมีคนมาดูเป็นร้อยมันเลยต้องเล่นใหญ่ เพราะตัวเราเองเล่นน้อยมันจะไม่ค่อยส่งพลังไปถึงคนดู ดังนั้นแล้วเวิร์กช็อปการแสดงละครเวทีจะเวิร์กสุด ส่วนหนัง เราแค่รู้สึกออกมาจริง ๆ เล่นออกมา มันจะดูจริง เป็น magic คนละอย่าง แต่ถ้าถามว่าอันไหนเราถนัดกว่า เราถนัดหนัง แต่ในกองจริง ๆ กับกองนิสิตมันก็ต่างกัน กองจริงจังนี่คือมีความมืออาชีพมาก ที่ต้องเร็ว แสงช้าเขาก็ด่าเลย ไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรก็ได้ นักแสดงไม่อ่านบท เขาก็ด่าเลย แต่อย่างของนิสิตมันมีความเป็นพี่เป็นน้องกัน จะอะลุ่มอล่วย กองเลทเป็นปกติ ซึ่งเราก็ได้เตรียมใจไว้แล้วว่าเราจะเจออะไร การทำงานกับมืออาชีพมันก็จะ effective มากกว่าอยู่แล้ว

เล่นโฆษณาด้วย

มีบ้าง เป็นสายที่เราไม่ถนัดที่สุดเลย เพราะมันคือการบอกว่า น้องขยับหัว คือการ coach ท่า เราไม่ใช่คนสวย หน้าเรามันไม่เหมาะจะมาทำ ads คนมาทำ ads จะต้องมีความเป๊ะแบบ หันปึ้ง สวย หันปึ้ง สวย ซึ่งเราจะแบบ พี่ มันไม่ใช่ โฆษณาอันเดียวที่เราจะเล่นได้ก็ต้องเป็นพวกที่เป็น viral เป็นเรื่องราวให้เราเล่นเหมือนหนังสั้นหน่อยอะไรแบบนี้ ถึงจะเล่นดี แต่โฆษณาถ่ายรูป ยืนเฉย ๆ เราจะมีความเจื่อนแรงมาก แบบ ไม่โอเค้ รู้สึกแปลก ๆ หน้าแย่มาก แย่ไปหมด ก็ตลกดีค่ะ

เรียนจบไปอยากทำอะไร

อยากทำการแสดงเนี่ยแหละ คือถ้าไปสุดทางได้ก็จะไป ก็จะเรียน พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ให้สุดในทางนี้ แต่ต้องยอมรับว่าการแสดงมันไม่ใช่อาชีพที่เราเลือกได้ เพราะคนอื่นเลือกเรา แต่ถ้าเราไปในทางนี้ได้ไม่สุด เราก็จะเบนไปเบื้องหลัง หรือทาง PR เลย

ฝากถึงคนที่ด่าดิว และคนที่ติดตามผลงานของก้อย

ถึงคนที่ด่า ชอบ ด่ามาเลย ดีอะ ขอบคุณที่ด่า เพราะการที่มีคนด่า หมายถึงการที่มีคนรู้จักเราจากตัวละครนี้ คือเราเล่นออกมา เพื่อในภาพรวมต้องการให้คนมี feedback ประมาณนี้อยู่แล้ว ส่วนคนที่ชอบเรา เราก็ชอบเขาเหมือนกัน เราก็จะพัฒนาตัวเอง ไปเรียนเพิ่ม ในละครที่เราจะเล่นทุกเรื่องมันจะดีขึ้น

download-13

ฝากผลงาน

เราจะมีซีรี่ส์ช่องทรู เขาจะให้ไปเล่น แต่ยังไม่ได้อ่านบทเลย ใกล้เปิดกล้องแล้วค่ะ

อยากเจอตัวจริงต้องทำยังไง

มาที่คณะเล้ย อยู่ทุกวัน แต่อย่าตบเลย ซึ่งเวลามีคนมาก็จะถามเล่น ๆ ว่า ตบได้มั้ย เราฟังแล้วก็จะมีความเจื่อนแรงอะ ว่า เออะ ต้อง react ยังไง แบบ เอาเลยข่าาาา จริง ๆ ก็อย่าเลยนะทุกคน (หัวเราะ)

Facebook Comments

Next:


Neungburuj

หนึ่งบุรุษ นักสร้างวิดิโอคอนเทนต์และช่างภาพแห่งฟังใจ เป็นฝาแฝดกับแรปเปอร์ไทยนาม Repaze ปัจจุบัน หนึ่งบุรุษกำลังมีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง ติดตามฟังได้เร็ว ๆ นี้