Frung Narikun Playlist
Frung’s Playlist
Love Yourself – Justin Bieber
เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังแล้วไม่เบื่อเลย ดนตรีมันสบาย สามารถฟังซ้ำได้เรื่อย ๆ จริง ๆ ฟรังชอบเพลงอัลบั้มนี้ของ จัสติน บีเบอร์ มากนะ รู้สึกถึงความพิถีพิถันในการทำงานอัลบั้มนี้ของเขาเลยว่าเขาตั้งใจทำมันมาก ๆ
I’ll show you – Justin Bieber
เพลงนี้ความหมายดี ไม่รู้ว่าเพลงนี้เขาเขียนถึงตัวเขาเองหรือเปล่า แต่เราว่า เราเข้าใจความรู้สึกที่สื่อออกมาประมาณว่า มีคนจ้องมองเราและเกิดความคาดหวังในตัวเรามาก ๆ มันคล้าย ๆ กับตัวฟรังเองที่มักมีคนมองว่า เราต้องดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ ทั้งที่จริงแล้วเราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง อาจจะต้องมีผิดพลาดกันได้เนื้อหาดีมากเพลงนี้
Darling U – Ost. Oh My Venus
(หัวเราะ) เป็นเพลงประกอบซีรีส์ Oh My Venus ฟังสบาย ๆ ดี ตอนนี้ซีรีส์จบไปแล้ว ฟรังชอบเพลงนี้มาก พอหลังจากดูเรื่องนี้เสร็จถึงกับต้องย้อนไปดูหนังที่พระเอกคนนี้เล่นด้วย เพลงนี้ทำให้เรานึกถึงผลงานการแสดงของพระเอกเรื่องนี้ไปเลย ชื่นชอบผลงานเขามาก
When We Were Young – Adele
ส่วนตัวฟรังเองก็ชอบ Adele อยู่แล้ว เขาเป็นนักร้องเสียงดี น้ำเสียงทรงพลัง สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านบทเพลงได้ดีมาก ๆ เลย เพลงนี้จึงเป็นอีกเพลงที่ฟรังชอบมากเหมือนกัน
Locked Away – R. City
เพลงนี้ฟรังชอบฟังตอนออกกำลังกายค่ะ มันรู้สึกมีแรงฮึด จังหวะดนตรีมันเหมาะกับการออกกำลังกายด้วย ฟังแล้วร่างกายขยับเอง (หัวเราะ)
“จริง ๆ แล้วฟรังฟังเพลงหมดทุกแนวเลยนะ ส่วนมากจะได้ยินเพลงที่อยู่ในกระแสหลักมากกว่า อาจจะเป็นเพลงที่ได้ยินจากวิทยุบ้าง หรือเพื่อนเปิดบ้าง ถ้าชอบเพลงไหนก็จะไปเสิร์ชหาเพลงนั้นด้วยตัวเอง”
Exclusive Talk
วินาทีแรกที่ผมได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนี้เสียงเพลง เวลาเธอยิ้ม ของวง Polycat ก็ผ่านเข้ามาในหูของผมโดยอัตโนมัติ “ไม่รู้ต้องโตท่ามกลางหมู่ดอกไม้มากมายขนาดไหน” การพูดคุยกับน้องฟรังในครั้งนี้ ส่วนตัวผมอยากคุยกับเธอเรื่องเรียนมาก ๆ เพราะที่ผ่านมาเราอาจจะได้เห็นเธอในลุคของเด็กสาวที่ชื่อ ออย จาก Hormones the Series กันซะเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ไหน ๆ เราได้เจอกันในครั้งนี้แล้วมาคุยกันหน่อยสิว่าตอนนี้ฟรังทำอะไรอยู่ แล้วเรื่องการสอบของเธอตอนนี้มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง (ปัจจุบันน้องฟรังสอบติดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ได้เวลาไปรู้จักชีวิตของเธอกันแล้วครับ
ชีวิตของฟรังที่กำลังจะเรียนจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาเป็นอย่างไรบ้าง
ช่วงก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นช่วงที่หนักหน่วงของชีวิตฟรังมาก เพราะเราเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ค่อนข้างหนักเอาการอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้งานไม่มีละ สอบเสร็จแล้วสบายมาก ตัวฟรังเองเรียนสายวิทย์-คณิต (คุณภาพชีวิต) มันเลยจะหนักมาก คือที่โรงเรียนฟรัง (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) จะมีสายวิทย์-คณิตยืนพื้นอยู่ แต่ในวิทย์-คณิตนั้นก็จะแยกย่อยอีก เป็นสาขาคุณภาพชีวิต บริหาร คอมพิวเตอร์ แล้วก็มี วิทย์-เยอรมันด้วย ซึ่งมันจะมีคาบสอนเสริมตามสาขาที่เลือกอย่างของฟรังที่เรียนก็จะมีวิชาเพิ่มขึ้นมาพวกสุขภาพวัยรุ่น การทำ CPR หรืออะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อให้มันสามารถต่อยอดกับคณะที่จะเลือกในอนาคตได้ ดังนั้นการบ้านหรือเรื่องเรียนมันจะค่อนข้างหนักมากสำหรับฟรัง
ทำไมถึงเรียนสายวิทย์-คณิต
ตอนที่เลือกช่วงนั้นยังไม่รู้ว่าอยากเรียนสายไหนเป็นพิเศษ แต่ด้วยความที่ผู้ใหญ่มักบอกเราเสมอว่าสายวิทย์จะกว้างกว่า มีตัวเลือกเยอะ เพราะเราสามารถเลือกเรียนคณะที่เป็นสายวิทย์หรือสายศิลป์ก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกเรียนศิลป์ถ้าอยากเลือกคณะที่เป็นสายวิทย์ก็ไม่สามารถทำได้ ตอนนั้นเรายังตัดสินใจไม่ได้ก็เลยเลือกเรียนสายวิทย์ไปก่อนแล้วกัน ผลปรากฏว่าพอมาเรียนแล้วสนุกดีแต่ก็ยากนะ ยากมาก (หัวเราะ)
“เราคิดว่าไหน ๆ ก็ตั้งใจสอบแล้ว ก็อยากให้มันเป็นปีเดียวไปเลย ปีหน้าจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยซ้ำ ปีเดียวก็คืออยากให้ติดหมอไปเลยเพราะฟรังอยากเรียนหมอไง ถ้าไม่ได้ ปีหน้าเราก็ต้องเหนื่อย ต้องซิ่ว ก็เลยอยากให้เหนื่อยทีเดียว หนักก็หนักให้สุด”
เคยตั้งเป้าหมายรึเปล่าว่าเรียนต้องได้ เกรดเฉลี่ย 4.00
ไม่ขนาดนั้นค่ะ อย่างตอน ม.4 – ม.5 ก็เรียนเรื่อย ๆ พอให้ผ่านพอแล้ว แต่ว่าเรื่องเกรดดีก็โอเค เหมือนเป็นโบนัสอะไรแบบนี้มากกว่า พอมาช่วง ม.6 มันก็จะเป็นช่วงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว รู้สึกว่าต้องจริงจังกับตัวเองมากขึ้น จะมีการจัดตารางเวลาอ่านหนังสือว่าวันนี้จะอ่านวิชาอะไรบ้าง เราก็พยายามอ่านหนังสือเกือบทุกวันตั้งแต่ขึ้น ม.6 มา อย่างตอนที่ถ่าย Hormones The Series ก็ต้องอ่านหนังสือไปด้วย เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียนหนักมาก ว่างก็ต้องอ่าน บางวันถ้าเหนื่อยมากก็นอนเลย นอนไม่เป็นเวลาเท่าไรช่วงนั้น แต่เราก็คิดว่าไหน ๆ ก็ตั้งใจแล้ว ก็อยากให้มันเป็นปีเดียวไปเลย ปีหน้าจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยซ้ำ ปีเดียวก็คืออยากให้ติดหมอไปเลยเพราะฟรังอยากเรียนหมอไง ถ้าไม่ได้ ปีหน้าเราก็ต้องเหนื่อย ต้องซิ่ว ก็เลยอยากให้เหนื่อยทีเดียว หนักก็หนักให้สุดไปเลยแล้วกัน
ฟรังชอบเรียนวิชาไหนมากที่สุด
ชอบวิชาภาษาอังกฤษที่สุดค่ะ เพราะว่าทำได้ดีสุดแล้ว ส่วนวิชาสายวิทย์ก็ชอบชีววิทยาค่ะ เพราะรู้สึกว่าเรียนแล้วสนุก เหมือนเป็นเรื่องราวในร่างกาย แต่อย่างฟิสิกส์คือไม่ถนัดเลย ไม่ค่อยชอบเลขเท่าไหร่ จริง ๆ ก็สนุกนะถ้าเข้าใจ ส่วนเคมีเรารู้สึกว่ามันยากไปหน่อย (หัวเราะ)
ได้เรียนพิเศษเพิ่มเติมไหม
เรียนค่ะ ฟรังเป็นคนเรียนพิเศษเหมือนกันนะ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ได้มีสมาธิที่จะอ่านหนังสือเองตลอดทั้งวัน ก็จะเรียนแล้วกลับมาทวนในสิ่งที่เขาสอน แต่ให้อ่านเองไม่ไหวอะ สมาธิไม่ดีขนาดนั้น ก็ไปเรียนกับแก๊งเพื่อนมากกว่า
ในหนึ่งวันอ่านหนังสือกี่ชั่วโมง
สมมติเลิกเรียนประมาณบ่ายสาม เรียนพิเศษเลิกประมาณทุ่มหรือสองทุ่ม กลับบ้านไปก็ไปอ่านหนังสือต่อถึงประมาณห้าทุ่ม ถือว่าเนิร์ดมากนะ (หัวเราะ) ละครก็ไม่ได้ดู แต่มีเล่นโซเชียลบ้างแต่ไม่มาก ช่วงนั้นก็ต้องงดซีรีส์หรืออะไรที่ยาว ๆ กลัวติด ต้องพยายามยับยั้งใจตัวเองนิดนึง
คิดอย่างไรเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยในตอนนี้
รู้สึกว่าการศึกษาไทยซับซ้อนยุ่งยาก ทำไมต้องจัดให้สอบหลายครั้งจังเลย คือไม่รู้ว่าจัดสอบหลายครั้งนี่เป็นการให้โอกาสหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าอยากให้มันเป็นระบบเดียวไปเลย จริง ๆ ได้ข่าวว่า PAT 1 ปีนี้ง่ายขึ้นนะ เหมือนได้ยินมาว่าเขาอยากปรับจูนให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ 9 วิชา แล้ว 9 วิชาก็จัดให้มันยากขึ้นเพื่อจะได้เป็นฐานเดียวกับ PAT 1 แต่ก็ยังรู้สึกว่ายากอยู่ดี
“รู้สึกว่าการศึกษาไทยซับซ้อนยุ่งยาก ทำไมต้องจัดให้สอบหลายครั้ง คือไม่รู้ว่าจัดสอบหลายครั้งนี่เป็นการให้โอกาสหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าอยากให้มันเป็นระบบเดียวไปเลย”
ถ้าฟรังได้มีโอกาสทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ อยากปรับอะไรบ้าง
อยากจัดสอบให้เป็นแบบปีละครั้งก็พอ ครั้งเดียวหรือสองครั้งก็พอแล้ว เพราะรู้สึกว่าทุกวันนี้มีการสอบเยอะแยะไปหมด แล้วแต่ละที่ก็ใช้คะแนนคนละอย่าง ก็อยากให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไปเลยน่าจะดีกว่า
วีรกรรมเด็ด ๆ ระหว่างเรียนอยู่มีอะไรบ้าง
นึกก่อนนะ (หัวเราะ) น่าจะเป็นโดดเรียน ม.6 ฟรังโดดเรียนบ่อยมากจริง ๆ จนรู้สึกผิด รู้สึกผิดต่ออาจารย์ที่สอน อาจารย์ไปสอนแต่ไม่มีใครในห้อง แต่เราไม่ได้โดดเรียนเพื่อไปเล่นนะ คือบางช่วงที่ไม่ค่อยมีเรียนอย่างช่วง ม.6 ที่ไม่ค่อยเรียนหนักเท่าช่วงอื่น ๆ ก็คิดว่าโดดไปข้างนอกอาจจะได้อะไรเยอะกว่า ก็เลยออกไปกับแก๊งเพื่อน วิ่งหนียามออกไป มันจะมีช่วงที่เขาไม่ให้ออกก็จะมีคนไปเจาะสังกะสี แล้วมุดออกไป แต่ช่วงเรียนจะจบแล้วก็ไม่โดดแล้ว รู้สึกรักโรงเรียน เลยกลับตัวกลับใจเป็นเด็กดี แต่วันนี้ที่สัมภาษณ์อยู่ก็โดดนะ (หัวเราะ) จริง ๆ ก็รู้สึกผิดต่ออาจารย์เหมือนกัน แต่เราจะแบบ ขอโทษนะคะ สอบเสร็จเดี๋ยวจะกลับมาเรียนนะ เป็นเรื่องปกติของเด็ก ม.6 นะ
ช่วงเวลาที่เรียนจบม.6 มาแล้ว เรามีความผูกพันกับเพื่อนหรือโรงเรียนอย่างไรบ้าง
ผูกพันมาก จริง ๆ ไม่อยากเรียนจบนะ ช่วงนี้เป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดเลยอะ สอบเสร็จหมดแล้ว ผลประกาศออกมาแล้ว มันยังไม่ได้ขึ้นมหาวิทยาลัยเลย เราก็จะรู้สึกว่าภาพการอยู่โรงเรียน อยู่กับเพื่อน ๆ เล่นกีตาร์ กินขนมอะไรงี้ มันเป็นช่วงที่ดีมาก ฟรังได้ยินมาเยอะว่าช่วงมหาวิทยาลัยไม่เหมือนมัธยม เหมือนมหาวิทยาลัยจะมีการแก่งแย่งมากขึ้น เพื่อนก็อาจจะไม่เหมือนเพื่อนมัธยม ชอบชีวิตช่วงนี้มาก แต่ถ้าให้กลับไปเรียน ม.4 ใหม่ ก็ไม่เอาอะ เพราะไม่อยากผ่านช่วง ม.6 ใหม่ เพราะช่วง ม.6 มันทรมานและเหนื่อยมาก
ชีวิตประจำวันของฟรังทุกวันนี้ทำอะไร
ช่วงนี้กำลังติดซีรีส์ค่ะ ส่วนมากก็ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์อังกฤษก็ดูบ้างตามโอกาส จริง ๆ ก็ชอบวาดรูปนะ แล้วทำของ D.I.Y อยู่กับบ้านด้วย ช่วงนี้เริ่มหันมาออกกำลังกาย เพราะช่วงสอบกินเยอะมาก ๆ ก็มีไปวิ่งสวนลุมพินีด้วย เพราะบ้านเราอยู่แถวนั้น
ปัจจุบันเวลาไปไหนมาไหนมีคนทักเป็นออยไหม
ยังมีอยู่ค่ะ แต่จะทักฟรังเยอะกว่าแล้วตอนนี้ เคยมีที่ทักแล้วก็วิ่งหนีก็มี (หัวเราะ) เราก็ไม่เข้าใจ อ้าว แล้วเราต้องทำตัวยังไง เหมือนเรียกชื่อเราพอเราหันไปเขาก็วิ่งหนี เหมือนแกล้ง ๆ มากกว่า
ทุกวันนี้มีกลุ่มแฟนคลับของตัวเองรึยัง
มีค่ะมี มีแบบถือป้ายชื่อ เราก็รู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีคนทำแบบนี้ให้ มันเป็นอะไรที่แบบ เขาคอยติดตามเรา คอยสละเวลามาหาเรา ทั้งแฟนคลับในเว็บเพจหรือไอจี เขาสร้างเพจมาให้เรา แล้วเรารู้สึกแบบ โห เขาทำเพื่อเราขนาดนี้ อย่างบางรูปเป็นรูปที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เอามาจากไหน บางทีก็เอาของมาให้บ้าง
อยากทำอะไรในสายงานวงการบันเทิงนอกจากเล่นละคร
ก็อยากลองทำหลายอย่างนะ อยากเล่น MV อยากรู้ว่าเป็นยังไง ส่วนงานพิธีกรก็เคยทำ แล้วก็มีไปเป็นแขกรับเชิญบ้าง รู้สึกว่าสนุกดี แต่รู้สึกว่าตัวเองพูดไม่รู้เรื่องแต่ก็อยากลองอยู่เหมือนกัน
ขอย้อนกลับไปคำถามเกี่ยวกับเรื่องซีรีส์ที่ตัวเองเล่นหน่อย ตัวละครออยอมอะไรอยู่ในปากเหรอ
(หัวเราะ) จริง ๆ เหมือนเป็นตอนที่เราอยากร้องไห้แต่ต้องกลั้นไว้ แล้วตอนที่เราต้องฮึบ! มันเลยเหมือนอมอะไรสักอย่างมั้ง จริง ๆ ไม่ได้อมอะไรเลยนะคะ อย่างตอนนั้นเวลาเห็นกระทู้ถามหรือแซวเราก็รู้สึกเออตลกดี เพราะบางคนเขาแคปมาทุกช็อตเป็นเรื่องเป็นราว อ่านแล้วก็ตลกดี มีคนอ่านในพันทิปเยอะมากเรื่องนี้ เราก็อ่านเหมือนกัน จริง ๆ ฟรังเห็นหมดแหละกระแสอะไรพวกนี้ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเท่าไร
“ช่วงนี้เป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดเลยอะ สอบเสร็จหมดแล้ว ผลประกาศออกมาแล้ว มันยังไม่ได้ขึ้นมหาวิทยาลัยเลย เราก็จะรู้สึกว่าภาพการอยู่โรงเรียน อยู่กับเพื่อน ๆ เล่นกีตาร์ กินขนมอะไรงี้ มันเป็นช่วงที่ดีมาก”
ตอนที่เป็นออยเวอร์ชันร้าย กระแสแรงไหม
กระแสแรงมาก แต่ไม่ถึงกับโดนทำร้ายอะไรนะ แต่ก็มีคนเดินมาหามาบอกว่า พี่เกลียดหนูมากเลย เราก็ ค่ะ (หัวเราะ) จริง ๆ เราก็อ่านหมดคำติชมเนี่ย เผื่อจะใช้ปรับปรุงอะไรได้บ้าง แต่ถ้าสมมติอะไรที่เขียนมาเหมือนไม่ชอบเรา อคติกับเรา หรือเขียนถึงเราในเชิงที่แบบแย่มาก ๆ เราก็จะพยายามไม่อ่าน เพราะจริง ๆ แล้วเราเองก็เป็นคนที่แคร์คนอื่น แคร์ว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเรา บางทีอ่านดูแล้วเครียดเราก็เลยไม่อ่านเลยดีกว่า
มีคนมาชวนไปเล่นละครไหม
ยังไม่มีค่ะ จริง ๆ ก็อยากลองเล่นดูเหมือนกัน เห็นเขาบอกว่าละครกับหนังถ่ายไม่เหมือนกัน ก็อยากลองดูถ้าเป็นไปได้ ก็เห็นมีเพื่อน ๆ ได้ลองไปเล่นกันบ้างแล้ว ถ้ามีใครสนใจก็ชวนหนูไปเล่นได้เลยนะ (หัวเราะ)
สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงคนอ่านหน่อย
ก็ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ (หัวเราะ) เขาอุตส่าห์นั่งอ่านบทสัมภาษณ์เราไง แล้วก็ฝากถึงเด็ก ๆ แอดมิชชั่นว่า สู้ ๆ แล้วกันค่ะ ทำหน้าที่ตอนนี้ให้ดีที่สุด จริง ๆ เราก็รู้ว่าเหนื่อย ท้อ เราเองก็ท้อหลายรอบ ร้องไห้ก็มี แต่ก็อยากบอกว่าอย่าหยุด สู้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็จบ พอมองย้อนกลับไปเราจะรู้ว่าแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว แล้วเราก็จะรู้สึกภูมิใจที่ผ่านมาได้กับช่วงชีวิตที่ทรมานอะ เป็นช่วงที่ทรมานมาก แต่ว่าก็สู้ ๆ แล้วกัน แล้วก็อยู่กับเพื่อนเยอะ ๆ เพื่อนทำให้เรารู้สึกดีมาก บางทีแบบถ้าเครียดก็จะโทรหาเพื่อน ก็จะช่วยเราได้เยอะ ก็สู้ ๆ นะทุกคน ถ้ามีผลงานอะไรก็อย่าลืมติดตามกันนะคะ