Playlist ของ บัวลอย-น้ำขิง
- Writer: Montipa Virojpan, Teeraphat Janejai, Sy Chonato
- Photographer: Chavit Mayot
ก่อนอื่น พวกเราอยากแสดงความรู้สึกผิดที่คว้าตัวพวกเธอมาได้ช้ามากทั้ง ๆ ที่พวกเธอก็อยู่ในประเทศไทย และเมื่อเราสำนึกได้ คิวให้สัมภาษณ์ของพวกเธอก็เต็มไปจนถึงปีหน้าเสียแล้ว
พวกเราใช้เวลาในการติดต่ออ้อนวอนขอความเมตตาจากคู่หูบัวลอย-น้ำขิงมาแรมปีเพื่อให้เธอแซงคิวให้เรา จนในที่สุดเราก็ได้คิวสัมภาษณ์ แม้ว่าพวกเธอจะมีเวลาให้เราแค่ 15 นาที แต่ด้วยเวลาเพียงเท่านั้นพวกเธอก็ทำทีมงานทุกคนสดชื่นและซาบซ่านสมชื่อบัวลอยน้ำขิงจริง ๆ
ถ้าตอนนี้คุณสงสัยว่าพวกเธอเป็นใคร (ดัง) มาจากไหน เราก็คงต้องขออนุญาตที่จะไม่เกริ่น ณ ตรงนี้ เพราะเราเชื่อว่าคงมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะไม่รู้จักพวกเธอ คิดเอาแล้วกันว่าคุณไม่รู้จักอยู่คนเดียวอะ จะต้องให้คนอื่นมารอคุณ มันถูกเหรอ หื้มมมมม (มอง)
เราอยากส่งเพลงนี้ให้คนที่เราชอบ เพราะอยากให้ผ่อนคลาย เขาฟังแล้วอาจจะงง ๆ แต่เป็นเพลงที่ความหมายดีนะ
Playlist ของ บัวลอยน้ำขิง
Gayatri Mantra
เราอยากส่งเพลงนี้ให้คนที่เราชอบ เพราะอยากให้ผ่อนคลาย เขาฟังแล้วอาจจะงง ๆ แต่เป็นเพลงที่ความหมายดีนะ เนื้อหาบอกให้เราบูชาพระอาทิตย์ ชอบใครก็อยากให้เขาโชคดี มีบุญ
Cengiz Han’a Övgü -Batzorig Vaanchig (Mongolian Song)
เป็นเพลงมองโกเลียค่ะ ชาวมองโกเลียคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากทำดนตรี เพลงของเขามหัศจรรย์มาก ใครจะเชื่อว่าเสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอจะไพเราะขนาดนี้ ทำพร้อมกันหลายเสียงก็ยังได้ ตอนฟังครั้งแรกนี่อึ้งเลย รู้สึกว่านี่แหละคือดนตรีแห่งจิตวิญญาณ
Mesomedes of Crete – Hymn to the Sun
เป็นเพลงบูชาดวงอาทิตย์ค่ะ /จบ.
คืนความสุขให้ประเทศไทย
เป็นเพลงที่เหมาะกับวันที่ 1 เมษายนมาก ๆ เลย ฟังครั้งแรกเมื่อกี่ปีมาแล้วไม่รู้จำไม่ได้แต่เขาก็ขอเวลาไม่นานอะเนอะ พวกเราเติบโตมากับเพลงนี้ เรียกว่า Coming of Age ก็ได้เลยแหละ คนเราอยู่กับอะไรทุกวันก็คุ้นเคย ชินและรักมันไปเอง (ยิ้ม) ทุกวันนี้ที่มีความสุขมาก ๆ เพราะเพลงนี้แน่เลย ๆ
จัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ ( 130 ) [ Deejay Sunpowz]
ฟังครั้งแรกก็โดนเลย เหมาะสำหรับวับรุ่นแบบเรา จัดไปชุดใหญ่ไฟกะพริบปิ๊บ ๆๆๆๆๆๆๆ สร้างสรรค์มากค่ะ copywriting ขั้น genious เลยนะคะ
คนเราอยู่กับอะไรทุกวันก็คุ้นเคย ชินและรักมันไปเอง (ยิ้ม) ทุกวันนี้ที่มีความสุขมาก ๆ เพราะเพลงนี้แน่เลย ๆ
Exclusive Interview ที่แรก ที่เดียว และที่สุดท้ายในโลก
แนะนำตัวให้คนส่วนน้อยนิดบนโลกได้รู้จักพวกคุณหน่อย
น้ำขิง: ชื่อน้ำขิง เพื่อนรู้จักในชื่อ ขิง ทับสะแก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
บัวลอย: จริง ๆ ชื่อ บัว นามสกุล ลอยด์ เพื่อนเรียกบัวลอย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เชื้อชาติจีน สัญชาติไทย ตอนนี้ทำวงอยู่ 3 วง ค่ะชื่อ โลมาโซนิก, ซูชิ อิน อะแมชชีน และ บัวลอย-นํ้าขิง
อยู่กันสองคนแล้วทำไมต้องมี 3 วง
น้ำขิง: เอ้า ถ้ามีวงเดียวแล้วพี่จะสนใจมาสัมภาษณ์กันเหรอ
บัวลอย: แต่ละวงก็มีคอนเซปท์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างโลมาโซนิกก็จะเป็นร็อกคลื่นความถี่สูง ซึ่งคนทั่วไปจะไม่ได้ยินเพลงของเรา นอกจากโลมาจะเป็นสัตว์ที่ฟังออกเพียงชนิดเดียวในโลกแล้ว เราอยากทำเพื่อโลมา อยากให้รู้ว่าถึงจะไม่มีใครได้ยินเสียงของมัน แต่ยังมีเพลงของเราที่มันจะได้ยิน
น้ำขิง: ซูชิ อิน อะแมชชีน ก็จะเป็นเจป๊อป ไม่ใช่ป๊อปธรรมดา แต่เป็นป๊อปทีน เห็นแล้วปิ๊งใส่แล้วป๊อป แถมเจด้วย เพราะว่าไม่มีเนื้อเลย
แล้วบัวลอย-นํ้าขิงนี่เป็นดนตรีแนวไหน
นํ้าขิง: เราเรียกมันว่าดรีมป๊อปค่ะ
บัวลอย: แปลตรง ๆ ก็คือ แนวป๊อปแบบฝัน ๆ ฝันไปเถอะแก ฝันไปวันวัน แต่ก็จะมีความเผ็ซ ไล่ลมเหมือนดื่มน้ำขิงอะไรงี้
มีสามวง (Lomasonic, Sushi in a Machine, บัวลอยนํ้าขิง) แล้วแบ่งเวลายังไง
บัวลอย: ก็เริ่มจากพยายามแบ่งสติของเราออกเป็นสามส่วน เอาไปเก็บไว้คนละที่ วันไหนอยากใช้อันไหนก็แค่เดินไปหยิบมาใช้
น้ำขิง: จริง ๆ ก็ไม่ต้องแบ่งเวลามากนะ เพราะยังไม่มีงานเข้ามาเลย
อ้าว ไม่มีสักเพลงแล้วทำไมถึงดังพลุแตกขนาดนี้
บัวลอย: น่าจะเป็นเพราะความกล้าพวกเรานะ ลองคิดดูสิว่าจะมีใครกล้าทำแบบเราบ้าง แค่คอนเซปต์วงเราก็กินขาดแล้ว
ทั้งคู่มาเจอกันได้ยังไง
บัวลอย: นั่งรถไฟฟ้า ต่อรถใต้ดินมา แล้วขึ้นรถเมล์ไปลงเยาวราช
นํ้าขิง: แล้วก็แวะกินบัวลอยน้ำขิงแถวนั้น เลย inspire การตั้งชื่อวงของเรา ไม่ได้มาจากชื่อในวงการของเราแต่อย่างใดค่ะ แต่ถ้าถามว่าใครคิด พระเยซูเป็นคนคิดค่า (นํ้าเสียงมั่นใจ)
ก็เริ่มจากพยายามแบ่งสติของเราออกเป็นสามส่วน เอาไปเก็บไว้คนละที่ วันไหนอยากใช้อันไหนก็แค่เดินไปหยิบมาใช้
พอดังแบบนี้ เริ่มมีคนแปลกหน้ามาทักบ้างไหม
น้ำขิง: มีค่ะ เข้ามาทักกันได้เลยนะ ยินดีมากเลยค่ะ เวลามีคนเข้าชื่นชมผลงานของเรา มันทำมีพลังใจขึ้นเยอะเลย ขิงเรียกมันว่า ขิงพาวเวอร์
บัวลอย: ที่ไว้ซื้อของ duty free หรอ?
ขิง: นั่นมันคิงพาวเวอร์! แฮ่!!
บัวลอย: ปกติไม่ค่อยมีคนแปลกหน้าเข้ามาทักนะคะ มีแต่เราไปทักคนแปลกหน้า สนุกดี ได้พบเรื่องราวใหม่ ๆ เอามาเขียนเพลง
นับถือศาสนาอะไร
บัวลอย: นับถือตามที่บ้านค่ะ พวกเราจะนับถือผี ผีในทีนี้ก็คือผีบรรพบุรุษ กินเจด้วยนะคะ แต่ตอนหลังรู้สึกเบื่อผักหญ้าเลยลองกินไก่ดู แต่กินแค่หนังไก่นะ เพราะคนกินเจเขาไม่กินเนื้อกัน จนตอนนี้ก็กลายเป็นสาวกบอนชอนไปซะงั้นค่ะ… เอ้อ เมื่อกี้พี่ถามว่าอะไรนะคะ
ถามว่านับถือศาสนาอะไร
บัวลอย: อ๋อ ๆ ยังเล่าไม่จบค่ะ ก็พอลองกินไก่แล้วติดใจไปพักนึงก็รู้สึกผิด คิดว่าทางที่เดินอยู่นี้มันไม่ถูกต้อง
ก็เลยเดินไปอีกทาง?
บัวลอย: ก็เลยตั้งลัทธิใหม่ที่กินไก่ได้ ชื่อ ‘ลัทธิซูซส์’ ค่ะ ตอนนี้มีสาวกหนึ่งคน พิธีกรรมที่เราทำประจำคือการถวายส้ม บูชาพระอาทิตย์ เรี่ยไรเงินบริจาค ฟังกยาตรีมันตรา ฝึกร้องเพลงแบบทิเบต ว่าง ๆ ก็ไปเต้นสวิงดานซ์ หรือถ้าอยากออกกำลังแขนก็ไปตีกลองเชิดสิงโตค่ะ
ชอบเลี้ยงสัตว์ไหม
น้ำขิง: คุมะมงนี่ถือเป็นสัตว์เลี้ยงไหมคะ? หนูมีทุกคอลเลกชัน ขนาดบัตร BTS ลายคุมะมงหนูก็ยังตื่นแต่เช้าไปต่อคิวซื้อที่สถานีทองหล่อทั้งชุดนอนเลยค่ะ แล้วก็ได้มา ภูมิใจมาก ไฟท์มาก
บัวลอย: เลี้ยงพิราบค่ะ สร้างโรงเลี้ยงไว้ข้างๆ บ้านเลย เรารักมาก เห็นมาตั้งแต่เล็กๆ ทะนุถนอม ให้กินข้าวบาร์เลย์ ดื่มน้ำแร่เอเวียง ก่อนนอนให้วิตามินบี 16 ด้วย พอโตได้ที่ก็จับกิน พิราบนี่เป็นยาชั้นดีเลยนะ เป็นสูตรประจำตระกูล พี่ๆ จะชิมสักหน่อยมั้ยล่ะ
ปกติแล้วเป็นคนเก็บตัวหรือว่าชอบสังสรรค์
บัวลอย: เป็นคนเงียบๆ คบเพื่อนยาก จนวงคาราบาวต้องแต่งเพลงให้เลย ที่ร้องว่า บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก เศร้าเลยค่ะ เอาชีวิตจริงเรามาเล่นทำไม แต่รักใครรักจริงนะคะ (หน้าแดง)
น้ำขิง: ขิงชอบเจอเพื่อนค่ะ แต่เพื่อนไม่ชอบเจอขิง (หัวเราะ)
ปกติเวลาว่างชอบทำอะไรกัน
บัวลอย: ไม่ค่อยอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งค่ะ รักษาความเป็นส่วนตัวด้วย วงคาราบาวเลยแต่งเพลงให้อีกว่า บัวลอยไปอยู่ที่ไหน เคยรู้บ้างไหม โหน่งคิดคำนึง…
นํ้าขิง: โปรดคิดคำนึง!
ฮอต ๆ แบบนี้ หนุ่มในสเป็กเป็นแบบไหน
น้ำขิง: ชอบคนแรง ๆ ค่ะ ตามสุภาษิตที่ว่า ‘ขิงก็รา ข่าก็แรง’ นึกออกป่ะคะ
บัวลอย: ชอบคนสายตาสั้นค่ะ พอถอดแว่นเขาจะได้ไม่เห็นเรา
ชอบกินอะไรหรอ เผื่อหนุ่ม ๆ ซื้อมาฝาก
บัวลอย: ชอบกินถั่ว กินใบไม้ แต่ต้องเลือกใบไม้ให้เป็นนะ ไม่ใช่ว่าจะหยิบข้างทางที่ไหนก็ได้ ถ้าเลือกไม่เป็นก็มาหาเรา เดี๋ยวเราสอนเอง ><
นํ้าขิง: ชอบกินส้มตำ ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านมีต้นส้ม ก็เลยเอาส้มมาตำ
เป็นคนเงียบๆ คบเพื่อนยาก จนวงคาราบาวต้องแต่งเพลงให้เลย ที่ร้องว่า บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก เศร้าเลยค่ะ เอาชีวิตจริงเรามาเล่นทำไม แต่รักใครรักจริงนะคะ
ถูกยกให้เป็นเน็ตไอดอลของยุคนี้รู้สึกยังไงบ้าง
บัวลอย: มันแปลว่าอะไรคะ?
น้ำขิง: ก็ดีใจนะที่เราสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้โดยไม่ต้องเต้นยั่ว ๆ บด ๆ ผ่านทางไลฟ์เฟสบุ๊ก แล้วการเป็นเน็ตไอดอลมันก็มีความท้าทายอยู่อย่างหนึ่งคือ เราจะอดทนที่จะไม่เปิดเพจขายครีมได้นานแค่ไหน แหม ก็อย่างว่านะ รายได้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วด้วยหน้าตากับผิวพรรณเราก็พอไปวัดไปโบสถ์ไปมัสยิดได้ ถ้าเปิดขายก็รวยอะ พูดเลย แต่เราก็ต้องอดทนเพราะเราอยากให้คนโฟกัสที่ผลงานเพลงมากกว่า
คิดยังไงกับโลกใบนี้
น้ำขิง: อยากให้อยู่ใกล้ Trappist-1 กว่านี้ค่ะ อยากไปสำรวจดาวดวงใหม่ อยากให้ Trappist-1 สนุกเหมือนที่อำเภอทับสะแก บ้านเกิดของเราเอง
บัวลอย: คิดแค่เพื่อนค่ะ ไม่อยากเกินเลยไปมากกว่านี้
วางแผนกับเส้นทางดนตรีไว้อย่างไรบ้าง
บัวลอย: อยากพบคนชื่อไข่หวานค่ะ เผื่อจะเกิดการ matching ใหม่ ๆ
น้ำขิง: เอ้า นี่แกจะทิ้งชั้นหรอ หื้ม (จิกตา)
กลัวอะไรแปลก ๆ แบบไอดอลคนอื่นบ้างไหม
นํ้าขิง: กลัวเธอหลบสายตา กลัวเธอหลบหน้ากัน กลัวเธอจะโกรธฉันกลัวเธอไม่สนใจ
บัวลอย: กลัวคนอื่นกลัวเรามากกว่า
ในวัน April Fool’s day อยากให้พูดความจริงหนึ่งอย่าง
นํ้าขิง: เพิ่งอัพโหลดซิงเกิลขึ้นเว็บไซต์ฟังใจ เป็นซิงเกิลที่เราตั้งใจมาก เข้าไปฟังกันด้วยหน่อย
บัวลอย: วงพวกเรามีอยู่จริง ๆ นะ