เห็ดหูหนู

10 เพลงโปรดของ ‘ออกแบบ’

10 เพลงโปรดของ ‘ออกแบบ’

The Rubeสีดา

RhyeThe Fall

Stoondioยินดีที่ได้พบเธอ

The 1975Robbers

ShuraIndecision

AnnemarieApple

프라이머리 (Primary) – 입장정리 (Feat. 최자, Simon D)

Jelly Rocketลืม

SupersubClock

Tatsuro YamashitaDaydream

“ออกแบบเป็นคนชอบฟังเพลงนะ จริง ๆ ไม่ได้เจาะจงว่าเพลงของใคร ถ้าฟังแล้วแนวดนตรีมันใช่สำหรับความรู้สึกก็ฟังต่อเรื่อย ๆ”

Exclusive Talk

static1-squarespace

ออกแบบ ชื่อนี้ใครออกแบบให้ ?

ชื่อ ‘ออกแบบ’ มาจากคุณพ่อตั้งให้ คุณพ่อของออกแบบเป็นวิศวกร ที่บ้านของเราจะมีชื่อเป็นตัวอักษรที่นำหน้าด้วย อ อ่างหมดเลย ตอนที่ช่วงที่ออกแบบเกิดไม่รู้ว่าดวงสมพงษ์กับคุณพ่อหรืออะไร  ช่วงนั้นเป็นยุคที่เศรษฐกิจมันล้มละลาย ฟองสบู่แตก ช่วง IMF พ.ศ. 2539 แต่ปรากฏว่าช่วงนั้นคุณพ่อได้งานเยอะมาก พ่อรับเขียนแบบอะไรแบบนี้เยอะด้วยเลยตั้งชื่อลูกสาวว่า ‘ออกแบบ’  ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นเลย ตอนเด็ก ๆ ชื่อว่า เด็กหญิงออกแบบ จึงเจริญสุข แต่พอโตขึ้นมาพระก็ตั้งชื่อให้เราใหม่ว่า ชุติมนฑน์ แปลว่า แสงสว่างค่ะ มันมีอีกความหมายด้วยว่า อัญมณีสุดท้ายของวงตระกูล

อยากบอกเพื่อน ทุกคนว่าไม่ได้ตั้งชื่อ ออกแบบ เองนะ

ตอนเด็ก ๆ เพื่อนจะชอบเรียกชื่อเราว่า ออก หรือ แบบ อะไรแบบนี้ไปเลย เพื่อนจะไม่ค่อยชอบคนชื่อแปลกกัน เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เราก็ไม่ค่อยชอบชื่อตัวเองนะ เพื่อนชอบหาว่าเราตั้งชื่อเอง แม่งคนชื่อแปลก (หัวเราะ) ตั้งแต่ป.1 เราจำได้ว่าเพื่อนล้อเราว่า เราตั้งชื่อเอง จนมาถึงเข้าวงการนางแบบแล้วทุกคนจะบอกว่า ออกแบบตั้งชื่อนี้เอง เลยต้องไปค้นใบสูจิบัตร ถ่ายรูปลงเป็นรูปแรกในอินสตาแกรมของออกแบบเลย ไปย้อนดูได้ว่า ชื่อเด็กหญิงออกแบบจริง ๆ นะ แต่ก็เคยมีวูบนึงอยากเปลี่ยนชื่อตัวเองด้วย อยากชื่อโหลบ้าง ชื่อ พลอย ชื่อแบบนี้คนจะได้ไม่หาว่าเราชื่อแปลก แต่ก็อยากบอกให้รู้ว่า เราไม่ได้ตั้งชื่อนี้ด้วยตัวเองจริง ๆ นะ

ก้าวเท้าเข้าสู่วงการนางแบบ

มันไม่ใช่ความตั้งใจของเรานะที่ต้องการจะเข้าวงการนางแบบ ช่วงเวลานั้นมันเป็นตอนสมัยเรียน ม.5 ที่โรงเรียนสตรีวิทยา ปีนั้นเขาจะมีจัดงาน 111 ปีของโรงเรียน ซึ่งบังเอิญว่า เพื่อนทำอยู่ชมรมนาฏยะ อยู่ฝ่ายโสต เขาชวนเราไปทำงานด้าน Backstage เลยไปช่วยเพื่อนทำแล้วก็ได้ไปทำในส่วนของจิตอาสา ปรากฏว่าพอไปทำเจอรุ่นพี่ศิษย์เก่าเยอะมาก เจอหลายคนเลยมีรุ่นพี่นึงชื่อ ป๊อปปี้ เขาเดินมาตอนที่เรากำลังนั่งโง่ ๆ อยู่แล้วบอกเราว่า “น้องคนนั้นอ่ะ สนใจจะเป็นนางแบบไหม” เราก็งง หน้าอย่างหนูเป็นได้ด้วยเหรอคะพี่ เขาก็ตอบเราว่า “แบบนี้โมเดลลิ่งน่าจะชอบ ชอบแน่ ๆ” ตัวเราวันนั้นตื่นเต้นมาก ในใจแบบเชี่ยได้เป็นนางแบบเลยนะ ซึ่งตัวเราเองไม่ได้รู้จักนางแบบเยอะเลยช่วงนั้น รู้จักแค่พี่แพนเค้ก พี่โย ยศวดี พี่บี น้ำทิพย์ แค่นั้นเองมันเป็นอะไรที่ใหม่ในชีวิตเรามาก ๆ

เด็กใหม่ในวงการ การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

พอหลังจากที่พี่เขาชวนไป เราก็ยังไม่ได้ตอบตกลงนะ แค่บอกว่า ขอลองคุยก่อน แม่เราก็จะชอบมาบอกว่า “โดนหลอกไปขายตัวแน่ ๆ เลย ลูกสาวของเราต้องโดนส่งข้ามประเทศแน่เลยทำไงดี” (หัวเราะ) จากนั้นก็ได้ไปเรียนเดินแบบค่ะ จริงจังเลยต้องมีปรับบุคลิกตัวเอง ปรับหลาย ๆ อย่างเลย โดยปกติคนอื่นเขาจะเรียนกันไม่กี่ครั้ง แต่เราเรียนอยู่ 3 เดือน ด้วยความที่หลาย ๆ อย่างเรายังไม่ได้ ออกแบบเป็นคนขาหนีบ เขาก็พยายามสอนว่าให้เดินยังไงดูขาไม่หนีบ มันก็ยากมากกว่าเราจะทำได้ แต่พอทำได้แล้วมันก็โอเคเราสามารถไปต่อได้ในสายงานนี้

static1-squarespace-1

ท้อได้…แต่ห้ามถอย

            เราร้องไห้หนักมากช่วงเวลาที่เรียนปรับพื้นฐานในอาชีพนี้ เหมือนเราคาดหวังว่าจะได้ทำงานที่จริงจังในรูปแบบของนางแบบเลย ซึ่งก็คือ การเดินแบบ แต่สุดท้ายงานแรกที่ทำของเรา คือ งานฟิตติ้งให้พี่คณะแฟชั่นที่มหาวิทยาลัยนึง ซึ่งพอหลังจากถ่ายให้เขาแล้วก็ได้รู้จักกับพี่คนนึง ชื่อ ทับทิม เขาก็ได้ส่งออกแบบไปให้คุยกับพี่ที่หนังสือ Cheeze จากนั้นเราได้ลงปกแรกของ Cheeze คือ Shopping Guide จากนั้นก็ได้มีโอกาสเริ่มเดินแบบมากขึ้น ได้งานถ่ายโฆษณามาเราก็ไปถ่ายไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ความรู้สึกของออกแบบกับเวทีแรกที่ได้เดินแบบ คือ เราตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นขนาดเดินผิดเลย วันนั้นเดินเหมือนนกเพนกวินมาก จำได้ว่างานนั้นเวทีเป็นรูปตัว U แล้วมีกลุ่มคนที่เขานั่งอยู่ เขาจะชี้มาที่เราแล้วบอกว่า “น้องคนนี้เดินเหมือนนกแพนกวินเลยแก” พูดดังมาก เดินอยู่ได้ยินชัดเจนเลย ลงมาโดนโมเดลลิ่งด่าด้วยวันนั้นว่า “ออกแบบ เดินอะไรทำไมไม่ได้เรื่องเลย” ก็มันเดินไม่ได้จริง ๆ ก็โดนไป แต่หลัง ๆ ก็ปรับตัวมากขึ้นก็เดินได้โอเคขึ้นแล้ว (หัวเราะ)

“ออกแบบรู้สึกว่า ถ้าโอกาสมาแล้วก็อยากลอง ถ้าเราลองแล้วไม่โอเค มันก็ยังเลือกได้ เรารู้ตัวเองว่าเราคิดอะไรอยู่ ทำไปให้เต็มที่จะดีที่สุด”

เป็นนางแบบ อินเนอร์ต้องมี ความมั่นใจต้องมา

การเป็นนางแบบสำหรับออกแบบแล้ว มันต้องมีอินเนอร์นะ ส่วนตัวเราไม่รู้เหมือนกันว่าของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่เวลาออกแบบใส่ชุดถ่ายแบบหรือเดินแบบแล้ว มันจะมีอินเนอร์ของมัน สมมติชุดหวานมันก็จะโพสต์ท่าออกมาได้เอง ชุดไหนเปรี้ยว ๆ เราก็จะมีสไตล์ในการโพสท่าของเราที่แตกต่างกันออกไป บางทีเราใส่ชุดหวานจะให้โพสต์ท่าเท่ ๆ มันก็ไม่ได้อะ มันก็จะถ่ายงานยากนิดนึงสำหรับเรา เพราะฉะนั้นแล้วควรรู้สึกอะไรแล้วก็ถ่ายทอดออกไปเลยจะดีกว่า อินเนอร์ในตัวเองสำคัญมากสำหรับออกแบบ

อาชีพนางแบบ คือ อาชีพที่ไม่มีอะไรแน่นอน

วงการนางแบบมันเหมือนอาชีพฟรีแลนซ์ล่ะ มันคือการที่เรารับงานมาทำเรื่อย ๆ แต่ว่ามันจะมีวันหมดอายุของมันแหละ ถ้าอย่างในบ้านเราอายุ 25 ปีก็ต้องไปเดินแบบต่างประเทศละ เพราะ คนต่างประเทศส่วนใหญ่อายุ 25 ปี เขาจะเริ่มแก่แล้ว แต่คนเอเชียจะหน้าเด็กตลอดเวลาไง ก็เลยทำงานได้ต่อ คือ ถ้าไม่เป็นดาราต่อ ก็ต้องทำธุรกิจเป็นของตัวเองให้ได้ ทำอะไรที่มันมั่นคงกว่านี้

เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาอายุ 25 ปีของออกแบบ คิดว่าตอนนั้นตัวเองจะทำอะไรอยู่

น่าจะไม่ได้ไปเดินแบบต่างประเทศค่ะ (หัวเราะ) คิดว่าคงไปเรียนต่อ MBA ถ้าว่างก็คงอยากไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยเลย แต่เป้าหมายหลักคือเรียน MBA ก่อนเลย

เงินก้อนแรกที่ได้รับจากการเป็นอาชีพนางแบบ

ได้ 1,000 บาทค่ะ ได้รับจากการฟิตติ้งชุด เป็นเงินก้อนแรกในชีวิตเลย จำได้ว่าให้คุณแม่ ซึ่งทุกวันนี้ก็ทำอยู่ ให้เงินคุณแม่ทุกครั้ง แม่ก็ดีใจทุกครั้งที่ได้เงินจากเรา (หัวเราะ)

static1-squarespace-2

เคล็ดลับเพิ่มความสูงสไตล์นางสาวออกแบบ

ดื่มนมเยอะ ๆ ค่ะ ออกแบบจะกินนมจิตรลดาเยอะมาก ๆ ตัวที่มันไม่ใช่ UHT นะคะ กินแบบเป็นถุงเลย กินอยู่ยี่ห้อเดียวด้วย ตอนเด็ก ๆ โรงเรียนที่เรียนสมัยประถมจะเป็นโรงเรียนของรัฐบาล เขาจะบังคับให้เด็กกินนม แล้วเราก็จะได้กินนมของจิตรลดาตลอดเลย ที่นี้เพื่อน ๆ ก็จะไม่ค่อยกินกันแล้วก็จะมาบอกเราว่า งั้นมึงกินให้กูหน่อย เพราะว่า ตอนเด็ก ๆ กินนมจะเช็คชื่อด้วย เราก็จะแย่งเพื่อนกิน (หัวเราะ) ที่บ้านแม่ก็จะหิ้วมาให้กินด้วยตอนเด็ก ๆ เลยสูงแบบนี้เลย

อยากสูง เล่นกีฬาด้วยจะดีมาก

ออกแบบจะว่ายน้ำ เล่นบาสเกตบอลนิดหน่อย เคยเรียนยิมนาสติกด้วย เรียนถึง ป.4 แล้วก็เลิก เพราะทนโค้ชไม่ไหว เขาเปลี่ยนโค้ชบ่อยแล้วยิ่งเป็นโค้ชฝรั่งด้วย โหดมาก ไม่ไหวเลยไปเน้นว่ายน้ำแทนดีกว่า

ความรู้สึกของการเป็นนางแบบแล้วได้มีโอกาสขึ้นหน้าปกนิตยสาร

ตื่นเต้นนะตอนแรกที่เห็น แต่ยังไม่ถึงขั้นขนาดมีคนมาขอลายเซ็นนะ ไม่เคยมีลายเซ็นเป็นของตัวเองด้วย ไม่คิดว่าตัวเองจะดังอะไร ไม่เคยคิดเลย แต่ก็ภูมิใจทุกครั้งที่ได้ขึ้นปก อย่างปกที่ออกแบบชอบแล้วเคยไปขึ้นคือของ Cheeze กับ Numero Thailand เป็นสองปกที่ทำให้ได้คอนเนกชันของโมเดลต่างประเทศเยอะมาก อย่างที่โด่งดังที่สุดที่เคยถ่ายเลยก็คือนิตยสาร Harper’s Bazaar ของ UK ยกกองมาถ่ายทำที่ไทย อันนั้นคือสุดยอดมาก ๆ แล้ว

static1-squarespace-3

จากนางแบบวัยรุ่นสุดฮอตสู่นางเอกมิวสิกวิดีโอ

            จริง ๆ ออกแบบอยากเล่นมานานแล้ว พวกมิวสิกวิดีโอ พวกภาพยนตร์ ด้วยความที่เป็นคนชอบท้าทายอะไรใหม่ ๆ ให้ตัวเอง เลยรู้สึกว่าสนุกตื่นเต้นดี ก่อนหน้านั้นออกแบบเคยเล่นเอ็มวีของวง Mrs.Slave มาแล้วนะ ชื่อเพลง ผจญภัย เป็นเอ็มวีตัวแรกในชีวิตเลย หลังจากนั้นมาก็มีผลงานเข้ามาคือ เพลง เพราะความรักไม่เลือกเวลาเกิด ของ Lomosonicแล้วก็มาเป็นตัวล่าสุดกับเพลง Unfriend ของ Helmetheads ศาสตร์การแสดงเป็นอะไรที่น่าสนใจนะ ตอนนี้ก็เรียนแอคติ้งเพิ่มเติมด้วย เหมือนพอเราได้ไปเล่นแล้ว ได้ศึกษามันมีเรื่องของอารมณ์ การสื่อสาร การแสดงออกมาด้วยว่าตัวละครตัวนี้ทำอะไรอยู่แล้วรู้สึกอย่างไร คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ อยากศึกษาพัฒนาตัวเองมาก ๆ เพราะว่า ตัวเองเหมือนเป็นศูนย์ในด้านการแสดงเลย มันเลยสนุกดีที่เราได้มีโอกาสทำอะไรแบบนี้

กระแสตอบรับที่ได้มาจากผู้ชมเป็นอย่างไรบ้าง

(หัวเราะ) ออกแบบเคยไปอ่านในยูทูบ มันก็จะมีคอมเมนต์แบบ เชี่ย ตกใจนึกว่าตุ๊ด ในเพลง Unfriend อ่ะค่ะ ตกใจแบบนึกว่าเราเป็นกระเทย แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสนะมันขำ ๆ ดี

การเดินทางของนางเอกมิวสิกวิดีโอสู่นางเอกภาพยนตร์สั้น เต๋อ-นวพล

เริ่มจากการไปแคสติ้งปกติเลยค่ะ ไม่มีการโทรมาหลังไมค์ใด ๆ ทั้งสิ้น คือ จริง ๆ พี่เต๋อ เคยจะให้ไปแคสภาพยนตร์ Mary is happy , Mary is happy ด้วย แต่เกิดการผิดพลาดทางการสื่อสารทำให้อดไป (หัวเราะ) พี่เต๋อถึงพิมพ์ในเฟซบุ๊คของพี่เขาว่า ไม่ได้เจอกันนาน เราก็เลยได้ไปแคสติ้งโฆษณาตัวนี้แทน ปรากฏว่าพี่เต๋อเลือกแล้วตัวลูกค้าเขาก็เลือกด้วย เราเลยได้ไปเล่นค่ะ โดยศาสตร์การแสดงแบบนี้มันก็จะต่างจากเดิมไปอีกนะ

ชอบการแสดงแบบนี้ไหม

ชอบนะ ยิ้มทั้งวันเลย ยิ้มจากใจ (หัวเราะ) แต่ว่าไอ้ฉากกินขี้มูกอ่ะ ถ่ายวันเวิร์คช็อป มันก็เลยประหยัดเวลาไปได้มาก กินจนจะอ้วกอ่ะ แต่ไม่ใช่ของจริงนะ (ออกแบบยิ้มมุมปากเล็กน้อย) ที่กินไปมันคือ แป้งราดหน้าที่พี่เขาไม่ได้ใส่น้ำตาลให้ แล้วเขาทำมาเยอะมาก ปรากฏว่า ตอนกินใช้เวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง กินจนรู้สึกแบบไม่ไหวแล้ว แต่ก็ต้องกิน เพราะพี่เต๋อเขาบอกว่าช็อตที่เรากินตอนแรก ๆ มันยังไม่ได้ พอหลังจากกินเสร็จทุกวันนี้ยังไม่กล้าแตะราดหน้าอีกเลย

คิดอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Thank You For Sharing

ถ้าเจอแบบนั้นจริง ๆ ใช่ไหม คงรู้สึกอย่างนั้นเลย เอาจริง ๆ ถ้าเป็นออกแบบคงไม่ย้ายโรงเรียนนะ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเปล่าวะ ไม่ได้เอาขี้มูกไปป้ายคุณนี่ เราก็กินของเรา มันคงรู้สึกอึดอัด แต่ก็คงต้องอยู่ให้จบ เรียนให้จบ

ชีวิตจริงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้รึเปล่า

เคยเจอสมัยมัธยม ด้วยความที่เราอยู่โรงเรียนหญิงล้วน แล้วมันจะมีอาการความอิจฉากันเกิดขึ้น จะมีการจิกกันด้วยท่าทางหรือสายตาอะไรแบบนี้ คือ ออกแบบไม่รู้ว่าออกแบบคิดมากเกินไปรึเปล่า แต่ด้วยความที่เราได้เข้าสู่โลกของการทำงานก่อนคอนื่น เลยได้เห็นมุมมองอะไรมากกว่าคนอื่น เหมือนทุกคนมองเราเปลี่ยนไปแต่จริง ๆ แล้วเราก็เหมือนเดิม แค่นิ่งขึ้นในบางเวลา แล้วเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นคือ เพื่อนเราเข้าห้องน้ำอยู่ แล้วมีรุ่นน้องพูดกันว่า “อีออกแบบแม่งไม่เห็นจะสวยเลย เป็นนางแบบได้ไงวะ” เพื่อนที่เข้าอยู่ในห้องน้ำเลยออกมาด่ารุ่นน้องให้ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตเรา ซึ่งทุกวันนี้ออกแบบก็รู้สึกเข้าใจและรับรู้เกี่ยวกับการเกิดขึ้นของมัน แต่เพียงว่ามันต้องใช้เวลาในการทำใจจนกว่าที่เราจะรู้สึกช่างแม่งได้ มันต้องใช้เวลา เมื่อก่อนถ้าไม่พอใจออกแบบจะแสดงออกทางสีหน้าเลย แต่เดี๋ยวนี้ก็เก็บไว้เงียบ ๆ พอแล้ว

อยากบอกอะไรคนดูบ้างในฐานะตัวแทนของ จุก

จากใจจุกนะคะ อยากให้ทุกคนคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นด้วย เอาจริง ๆ ไม่รู้หรอกบางทีเราแชร์คลิปอะไรกันบนโลกออนไลน์ เราไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร เราแชร์แล้วจะส่งผลอะไรบ้าง เราอาจจะไม่ได้คิดกัน แต่ถ้าวันนึงเราเจอกับตัวเองจริง ๆ แล้ว มันจะย้อนกลับมาคิดได้ว่า การที่เราทำแบบนั้นไปมันเหมือนเป็นการทำลายให้ชีวิตของคนนึงแย่ลงไปเลย ฉะนั้นแล้วอยากจะทำอะไรบนโลกออนไลน์ให้คิดให้ดีก่อนที่จะทำ

อนาคตอยากเป็นนักแสดงแบบจริงจังรึเปล่า

ถ้ามีโอกาสก็อยากลองนะ ตอนนี้ก็มีคนมาชวนไปเล่นหนังด้วย แต่ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน อยากลองดูค่ะ ว่าเราจะไปได้ถึงขนาดไหนเหมือนกัน แต่งานนางแบบก็จะไม่ทิ้งนะ รับตลอด

ชีวิตประจำวันของนางสาวออกแบบ

ปัจจุบันออกแบบเรียนอยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขึ้นชั้นปีที่ 3 อยู่สาขามัณฑนศิลป์ เอกนิทรรศการศิลป์ ชีวิตประจำวันของออกแบบจะเป็นคนเปื่อย ๆ ลั่น ๆ ใช้คำว่าลั่นเลยล่ะ แบบส่งงานพรุ่งนี้ ‘เชี่ย เรายังไม่ได้ทำเลยว่ะ’ จริง ๆ ก็มีส่วนหนึ่งที่งานเยอะด้วย ลั่นจนพี่ด่าว่าต้องมีสตินะ จะลั่นเกินไปแล้วนะ (หัวเราะ)

นิสัยส่วนตัวที่อยากรู้ไว้

เฮ้ย นิสัยส่วนตัวเราเป็นคนยังไงวะ (ออกแบบหันหน้าไปถามเพื่อนสนิท ชื่อ พลอย)

พลอย : ออกแบบเป็นคนลอย ๆ เดี๋ยวมันก็ติสท์ เดี๋ยวมันก็อารมณ์ดี อยู่ ๆ ก็กระโดด เวลามันอารมณ์ดีมันจะร้องเพลงอะไรของมันก็ไม่รู้ แต่ถ้ามันอารมณ์ไม่ดี มันจะหน้าบึ้ง ๆ ซึม ๆ นั่งคนเดียวเงียบ ๆ แต่เวลาออกแบบร้องเพลงให้ฟังจะเดินหนีเลย (หัวเราะ)

คนชอบคิดว่าออกแบบหยิ่ง

เขาไม่รู้มากกว่าว่าออกแบบเป็นคนยังไง คนอื่นจะชอบมองว่าหยิ่ง ก็เก่งแล้ว ดังแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับออกแบบนะ เราเข้าใจ เราไม่สามารถบอกได้ทุกคนว่าเราเป็นคนยังไง เพราะฉะนั้นให้เวลามันตัดสินจะดีกว่า

ความรัก…ออกแบบได้

ความรักมันเหมือนการที่คนสองคนดูและกันและกัน ไม่ว่าจะเดือดร้อนอะไรก็ตาม ต้องอยู่ข้างกันเสมอ แล้วก็เป็นที่ปรับทุกข์ให้ได้ เหมือนเป็นคุณหมอให้ คุณหมอจิตวิทยาอารมณ์นั้นเลยค่ะ จริง ๆ รู้สึกว่าความรักมันเป็นทุกอย่างเลย เป็นทั้งพ่อแม่ เป็นทั้งเพื่อนด้วย เตือนได้ดุได้อะไรแบบนี้

สเปกหนุ่มในฝัน

ขาวตี๋ (ออกแบบตอบอย่างรวดเร็ว หนุ่ม ๆ ผิวสีอย่าได้เสียใจไปครับ) ไม่รู้อะ คือตอนแรกก็ไม่คิดว่า ตัวเองจะชอบคนขาวตี๋ (หัวเราะ) แต่ที่คบมาก็แบบนี้เกือบหมดเลย มีครั้งนึงตอนม.3 ชอบผู้ชายคนนึง อ้วนไม่สูงมาก แต่เขาไม่ชอบเรา อกหักเลย หลังจากนั้นที่คบมาก็มีขาวตี๋แบบไม่ได้ตั้งใจมาตลอด (หัวเราะ)

อยากแต่งงานตอนอายุเท่าไร

30 ปีเป๊ะ ๆ รู้สึกว่าถ้าตอนนั้นสถานะการเงินพร้อมก็อาจจะมีลูกเลย แพลนตัวเองไว้ช่วงนั้นเลย

static1-squarespace-4

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ทุกวันนี้มีคนติดตามชีวิตมากขึ้น

            รู้สึกว่าอิสระกำลังจะหายไป เศร้าปะ แต่มีอีกแง่มุมนึงที่คิดก็คือ มีคนชอบเรา เคยปรึกษาเพื่อนเหมือนกันว่าทำไงดี มีคนตั้ง FC ให้ด้วยอะ เพื่อนก็บอกว่า ทำอะไรไม่ได้ เราจะไปบังคับให้เขาไม่ชอบเราไม่ได้ ก็อยู่นิ่ง ๆ ไปถ้ารู้สึกว่ามันไม่ได้แย่อะไร ไม่ได้คุกคามชีวิตเราแบบมากมาย ก็ปกติไป เลยรู้สึกว่ามันก็โอเคล่ะ แสดงว่าคนสนใจเรา เขาก็ทำหน้าที่ของ FC ไป เราก็อยู่ของเราทำผลงานให้ดีต่อไป เคยมีครั้งนึงออกแบบไปห้างกับเพื่อนที่เป็นดาราแล้ว เราหิวข้าวมาก ก็บอกเพื่อนว่า “มึงกูหิวข้าวมากเลยไม่ไหวแล้ว” แล้วก็พาเพื่อนวิ่งเลยอารมณ์เหมือนที่ดาราต่างประเทศเขาชูนิ้วกลาง ใส่ช่างภาพประมาณนั้น ซึ่งมันก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดีล่ะ

คิดว่าตอนนี้เราอายุ 20 ปีแล้ว โตกว่าเด็กคนอื่นไหม

โตขึ้นนิดนึงละกัน จริง ๆ เป็นคนกลวงนะ ค่อนข้างปัญญาอ่อน แต่ถ้าเรื่องความคิดก็นิดนึงนะปรึกษาอะก็ช่วยได้นะ มีคนเคยปรึกษาทาง ask.fm เมื่อก่อนเล่น ก็ให้น้องแอดเฟซมาคุยกัน น้องสอบไม่ติดจุฬาฯ มาสองปีแล้ว ที่บ้านก็หวังมาก เราก็เลยเลยบอกไปประมาณว่า การสอบติดที่ไหนสักที่ไม่ได้เป็นการวัดว่าคุณเก่งหรือไม่เก่ง เพราะฉะนั้นแล้ว อยากทำอะไรก็ทำให้สุดไปเลยดีกว่า ไปคุยกับพ่อแม่ดี ๆ เหมือนลูกพี่แนะนำน้อง ๆ อีกที (หัวเราะ)

ฝากถึงคนที่อ่านบทสัมภาษณ์

อยากฝากเรื่อง Thank You For Sharing มากกว่าค่ะ การแชร์อะไรไม่ว่าจะเป็นคลิปตลกหรือคลิปอะไรก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เราเคยแชร์คลิปคนหัวฟาดพื้น เราก็แย่ที่เราเคยแชร์ ความรู้สึกตอนดู คือ มันฮาใช่ไหม แต่จริง ๆ แล้วคนที่โดนทำแบบนั้นมันไม่ฮานะ คุณอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าตอนจบมาเขาอาจจะอยู่ ICU แล้ว ถ้าวันนั้นเขาตายจะเกิดอะไรขึ้น นี่แค่คิดนะ เพราะฉะนั้น การที่เราแชร์อะไรก็ตามโดยที่เราไม่รู้ บางทีมันแย่ อยากให้คิดก่อนแชร์นิดนึง ตอนนี้สังคมมันเปิดกว้างด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์กใช่ไหม อยากให้ทำอะไรก็คิด แคร์คนที่คุณไม่เคยรู้จักบ้างก็ดี ส่วนชีวิตออกแบบก็ติดตามได้ใน Facebook ชื่อ Aokbab Chutimon เลย แล้วก็ทาง Instagram : Aokbab

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง