Hip Hop is My Life : Twopee Southside
- Writer: Gandit Panthong
- Photographer: Chavit Mayot
มึงต่อยกับเพื่อนกูไหมเอ๊า (อย่าทำเป็นหรอยน้องบ่าว)
มึงต่อยกับเพื่อนกูไหมเอ๊า (มึงทำเป็นหรอยแล้วหลาว)
ผมไม่ได้มาท้าตีท้าต่อยใครนะครับ แต่นี่คือเนื้อเพลงของศิลปินที่เราจะได้คุยวันนี้มาให้ทุกคนได้รำลึกความหลังกันก่อนที่จะได้ไปทำความรู้จักกับ โต้ง—พิทวัส พฤกษกิจ หรือ Twopee Southside โค้ชหนุ่มหน้าตาดี ดีกรีแชมป์ rap battle ระดับประเทศ แถมปีนี้ยังถือว่าเป็นปีทองของผู้ชายคนนี้อีกด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณจะได้อ่านกันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวหลากแง่มุมในชีวิตของเขา
เริ่มแรกทันทีที่ได้เจอกันผมเกริ่นกับโต้งไว้ว่าขอย้อนเรื่องราวของเขาหน่อย แน่นอนหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักคุณในฐานะโค้ชรูปหล่อแห่งรายการ The Rapper แต่ก่อนหน้านั้นล่ะ โต้งเป็นใครหลาย ๆ คนยังไม่ทราบ เพราะฉะนั้นพาร์ตแรกที่เราจะชวนคุยกันเลยก็คือชีวิตแร็ปเปอร์ของเขาและวง Southside
จุดเริ่มต้นของแร็ปเปอร์นามว่า Twopee Southside เกิดขึ้นตอนไหน
น่าจะเป็นยุคสเก็ตบอร์ดครับ ผมจะอยู่กับรุ่นพี่ที่เขาซ่า ๆ หน่อย โดยตอนที่เริ่มเขียนแร็ปมันเกิดขึ้นในช่วงที่วง Thaitanium อยู่ที่นิวยอร์ก เขามีแคมเปญ Thaitanium Mixtape เกิดขึ้น ก็คือจะให้คนทางบ้านทำเพลงโดยใช้บีตจากต่างประเทศแล้วก็แร็ปในรูปแบบของตัวเองเพื่อเข้าชิงกันว่า ใครจะได้เข้ามาอยู่ในแผ่นอัลบั้มนี้ของ Thaitanium ตัวเราเองสนใจพอดี ก็เลยเริ่มแร็ปตั้งแต่ตอนนั้นเลย ซึ่งช่วงนั้นอายุแค่ 14 เองนะ ประมาณ ม.1 – ม.2 ครับ
ช่วงเวลาที่เริ่มแร็ป เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนรู้สึกยังไงกับเราบ้าง
ดีครับเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ตอนนั้นก็แบบไอ้เหี้ยแม่งคำหยาบว่ะ แม่งมีคำว่า fuck ด้วย มันเปิดโลกมาก ๆ เลยรู้สึกมัน รู้สึกสนุกครับ
ชื่อ Twopee มีที่มาจากไหน
Twopee ชื่อนี้มันมาจาก ตัว P 2 ตัวที่อยู่ในชื่อจริงกับนามสกุลครับ ชื่อผมเต็ม ๆ ชื่อว่า พิทวัส พฤกษกิจ
จากเด็กหนุ่มที่หัดแร็ปกับการมีวงดนตรีวงแรกในชีวิตที่ชื่อว่า Southside
ตอนแรกผมทำคนเดียวเนี่ยล่ะครับ หลังจากนั้นก็เริ่มชักชวนพี่ ๆ ที่เล่นสเก็ตบอร์ดมาแจมกัน มีเฟรดดี้ที่เคยรู้จักกันอยู่แล้วด้วย เราก็เริ่มมาฟอร์มวงชื่อ Southside โดยชื่อมันเป็นการนำเสนอความเป็นเด็กภูเก็ตของพวกเราครับ โดยแรกเริ่มก็ทำแผ่นขายเองเลยตามพวกงานเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ที่จำได้เลยก็คืองาน Fat Festival ปีแรกที่ไปตอนนั้นจัดที่แดนเนรมิตด้วย พวกเราก็จะทำเพลงไปขายที่งานนี้ทุกปีครับ
ต่อยกับเพื่อนกูไหม เพลงแจ้งเกิดวง Southside อย่างเป็นทางการ
เพลง ต่อยกับเหมือนกุไหม จริง ๆ มันเกิดจากเหตุการณ์จริงนะครับ ไม่รู้โรงเรียนอื่นเป็นไหมแต่โรงเรียนผมเป็น เขาจะชอบหาเรื่องกัน สไตล์เด็กผู้ชายชอบมีเรื่องกันครับ มันจะเป็นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้นะ ชอบแบบว่า ‘เฮ้ย มึงเนี่ยยังไง! เจอพี่กูป่าว เจอเพื่อนกุป่าว เดี๋ยวกูโทรเรียกพวก’ เราก็นึกในใจ เออทำไมมึงไม่ต่อยกันเองวะ เราก็เลยเหมือนทำเพลงเสียดสีสิ่งที่ได้เห็น ก็จะเป็นมุมมองนึงของวัยรุ่นที่หยิบมาแซวครับ โดยเพลงนี้กระแสมันแรงมาก ๆ เลยนะ พ่อผมยังรู้จักเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นเป็นยุคที่ทุกคนใช้โทรศัพท์ Nokia ต้องส่งเพลงผ่านกันด้วยระบบ bluetooth เพลงนี้มันไปเร็วมากครับ ทั้งภาคใต้รู้จักกันหมดเป็นอะไรที่เหลือเชื่อดี ดังเพราะเพลงนั้นเลย
คุณพ่อคุณแม่มีความเห็นอย่างไรบ้างกับการที่ลูกตัวเองแต่งเพลงแร็ปแซวคน
ตอนนั้นเพลงมันเป็นภาษาใต้ด้วย เหมือนเขามาได้ยินก็จะตลก ๆ ขำ ๆ กันไป ผมว่า หลายคนอาจจะชอบคิดว่าคนใต้ ถ้าพูดอะไรมันก็ดูหยาบไปหมด จริง ๆ แล้วเพลง ต่อยกับเพื่อนกูไหม มันก็ไม่มีคำไหนเป็นคำหยาบเลยนะ แต่มันก็ดูแรงดูหยาบเราเองก็อยากให้รู้ว่า มันเป็นธรรมชาติของคนใต้นะ อย่าไปมองว่ามันคือความหยาบคายสิ
ก่อนจะเป็นศิลปินเต็มตัว ผู้ชายคนนี้เคยเป็นแชมป์ rap battle ระดับประเทศ
ตอนนั้นมันมีงานเหมือนเป็น room party จัด rap battle กัน มีคอนเสริต์ในงานนี้ด้วย เราก็รู้สึกว่าอยากลองเพราะที่ภูเก็ตมันก็ไม่ได้มีอะไรแบบนี้ก็ลงแข่งเลยดูไม่ได้คิดอะไรมาก ผลปรากฏออกมาว่าชนะ เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย คนต่างจังหวัดก็สู้คนกรุงได้นะ เราชอบไปคิดว่าเขาเก่งกว่าเรา แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่เสมอไป ช่วงที่ผมลงแข่ง rap battle ช่วงนั้นทุกคนจะแร็ปสดหมดเลย ไม่มีจดสักเท่าไร จะเจอใคร ไม่รู้จักกันมาก่อน หยิบฉลากขึ้นมาซัดกันเลย มันให้ฟีลเหมือนเราอยู่ในหนัง 8 Mile อะครับ แบบนั้นเลย บรรยากาศมันเดือดสัส ๆ มันมาก
จากเด็กที่มีความฝันส่ง mixtape ไปประกวดสู่การมาร่วมงานกับวง Thaitanium อย่างเป็นทางการ
ตอนนั้นเราเพิ่งทำเพลงเสร็จแล้วพี่ ๆ Thaitanium มาเล่นที่จังหวัดภูเก็ตวันนั้นพอดี เราเลยแบบไปกระซิบคนจัดงานว่า ขอเล่นเปิดได้ไหม เขาก็ไปถามทางวงให้ พี่ ๆ เขาก็บอกว่ากล้าขอก็กล้าให้เลยได้ไปเล่นเปิด จากนั้นตอนหลังก็ได้มีโอกาสเอาเดโม่ไปยื่นเรื่อย ๆ ให้ทางพี่เขาฟังจนเหมือนผลงานก็เข้าตาอะไรประมาณนั้น
ความฝันของ Twopee ณ เวลานั้นนอกจากเป็นศิลปินแล้วมีอย่างอื่นอีกไหม
ตอนนั้นยังไม่เคยมีความฝันเรื่องอื่นเลยนะ การเป็นแร็ปเปอร์ สิ่งนี้น่าจะเป็นความฝันแรก ๆ เลยในชีวิตของผม เพราะฉะนั้นแล้วผมจึงตัดสินใจขึ้นจากภูเก็ตมาอยู่ที่กรุงเทพ ฯ ครับ ช่วงนั้นก็ดีครับ อายุ 16 – 17 ปีเอง เราได้มีเพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ แต่มันก็จะแบ่งเวลายากเหมือนกันในช่วงแรก
อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในชีวิตของ Southside
ดีเลยครับ วงเราก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น แล้วก็มีเพลงนึงที่มีชื่อว่า ไหวอะเปล่า เบเบ้ เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวเราที่ทำให้คนรู้จักเราด้วยครับ มีกระแสตอบรับที่ดี มีงานเล่น ทุกอย่างมันดีไปหมดเลย มีการทัวร์เกิดขึ้น แต่ก็อย่างที่ผมบอกครับเราต้องแบ่งเรื่องเรียน เรื่องทำงานด้วย เพราะต้องนอนดึก ตื่นเช้า เรื่องนี้ปัญหาหลักของผมเลย เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ต้องเรียน แต่ว่าอาจารย์ที่โรงเรียนเขาก็ช่วยเราเยอะเหมือนกัน
จุดพลิกพลันของ Southside จากการเป็นศิลปินกลุ่มสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวนามว่า Twopee Southside
ตอนแรกวงเราจะมีสมาชิก 6 – 7 คนเลยใช่ไหมครับ แล้วเหมือนทุกคนทำงานกัน การทำเพลงมันเป็นงานอดิเรกของพวกเขา มีแต่ผมกับเฟรดดี้ที่ทำจริงจัง จนกระทั่งเฟรดดี้เขาเองก็ไปเรียนทำอาหารที่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็เปิดร้านอาหาร ทำธุรกิจกับครอบครัว แต่ผมเองก็ยังอยากทำตรงนี้อยู่ ยังอยากพิสูจน์ตัวอีกสักนิดเลยตัดสินใจทำคนเดียวครับ แต่ก็ยังคงใช้ชื่อ Southside อยู่ ทุกคนยังเป็นครอบครัวของเราเสมอ ว่าง ๆ เฟรดดี้เขาก็มาแจมด้วยครับ เพลงใหม่ผมก็จะมีเขาอยู่ในเพลงแน่นอน
อยากให้พูดถึงเสื้อวง Southside หน่อยที่ทุกวันนี้จะมีขายอยู่ตามตลาดนัดทั่วประเทศ
มันมีสีเขียวด้วย เรื่องนี้มันพูดยากเหมือนกัน ผมจะไปตามจับมันก็ตามจับยาก ถ้าจะตามจริง ๆ มันก็คงได้ แต่ก็แบบไม่ตามดีกว่า ผมเคยเจอด้วยนะ แบบเห็นแล้วเซ็งเลย
หลังจากที่คุยกับโต้งเรื่องวง Southside ไปได้สักพักแล้ว แน่นอนครับเรื่องต่อไปที่ผมกำลังจะชวนเขาคุยต่อก็คงหนีไม่พ้นการเป็นคนของประชาชนชาวไทยอย่างการเป็นโค้ชในรายการฮิปฮอปสุดฮอตอย่าง The Rapper ซึ่งจากรายการนี้เองที่ทำให้เขาได้เป็นที่รู้จักอย่างแท้จริง แถมการเป็นโค้ชในรายการนี้มันมีความยากง่ายขนาดไหน นี่คือคำตอบของโต้งที่อยากเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟังครับ
ช่วงนี้งานของ Twopee เยอะมาก แบ่งเวลาใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง
นอนตอนไหนได้ก็นอน แบบชั่วโมงนึงก็เอา ชีวิตผมช่วงนี้ก็จะมีเท่านี้เลย (หัวเราะ)
ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหมกับการเป็นโค้ช The Rapper
เยอะนะครับ คนรู้จักเรากว้างกว่าเดิมเยอะมากเลย ลูกเด็กเล็กแดง คุณป้าคุณยาย รู้จักหมด เราก็งงแบบฟังเพลงกูกันบ้างรึเปล่าวะ อันนี้ขำ ๆ นะครับ (หัวเราะ) ผมรู้สึกดีมาก ๆ เวลาที่ไปไหนมาไหนมีคนรู้จักเราเยอะขึ้น ไปทำงานตามห้างก็มีทุกคนมาต้อนรับ ทุกคนน่ารักมาก ๆ และจากตรงนี้ก็ส่งพลังให้ผมมีกำลังใจในการทำงานต่อไปครับ
ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าได้มาเป็นโค้ช รู้สึกอย่างไร
พอรู้ว่าเป็นทีมโต๊ะกลมทำกับ Workpoint แล้วก็ได้ยินชื่อโค้ชแต่ละคน ผมก็ตอบตกลงทันทีไม่คิดอะไรเลยครับ รายการนี้ทุกอย่างมันดูสนุกไปหมด มันจะมีแค่ตอนที่นั่งอยู่ในรายการเนี่ยมันอึดอัด อึดอัดแบบว่าเดี๋ยวจะมีคนมาแข่งขันกันนะ ต้องมาลุ้นผู้เข้าแข่งขัน เอาใจช่วยพวกเขา เรียกง่าย ๆ คือ ต้องมานั่งดูโชว์ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของแต่ละคนเลย แถมทุกคนทำเต็มที่ มันก็มีความอึดอัดเกิดขึ้นครับ แต่ไม่ได้กดดันนะ
ช่วงเวลาเหยียบคันเร่ง โชว์แบบไหนที่ทำให้ โต้ง ถึงต้องเหยียบคันเร่ง
หลายคนเขาก็ดังมาจากซีน underground อยู่แล้วใช่ไหมครับ คนที่ผมเหยียบคันเร่งนี่คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามในรอบนี้คุณทำได้ดี ผมก็จะเหยียบ แต่เก่งให้ตาย แล้วโชว์ทำออกมาไม่ดี ผมก็ไม่เหยียบ ผมมองเป็นรอบ ๆ ไป มองแบบเท่าเทียม ใครทำได้ดี ซ้อมมาดีก็ได้ไป
ลูกทีมที่ไม่คิดว่าจะได้มาอยู่ในทีมของ Twopee มีใครบ้าง
น่าจะเป็นเคนน้อยร้อยลีลาก็ชอบนะครับ Ironboy ก็ดี ส่วนใหญ่ทีมผมจะไม่เป็นคนที่ดังมาก่อนมากกว่า จะเป็นหน้าใหม่ ๆ หน่อย ผมรู้สึกแฮปปี้กับตรงนี้ เหมือนเราได้ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
โค้ชที่ชอบไปแกล้งที่สุดคือใคร
น่าจะปู่จ๋านนะครับ เขาดูน่าเล่นด้วยดี เฟรนด์ลี่โยนอะไรให้ก็เล่นได้หมด นึกว่าอยู่ตลก 6 ฉาก ส่วนพี่โจ้กับพี่ขันจะหันไปเล่นด้วยยากหน่อย พี่เขานั่งอยู่ข้างบนต้องเงยหน้าไปมันลำบาก (หัวเราะ) ปู๋จ๋านนั่งตรงข้ามผม ผมก็จะโยนไปบ่อยมากกว่า
ในมุมมองของ Twopee คิดว่าใครจะได้แชมป์
ผมว่า Ironboy ได้แชมป์อะ ทีมผม
หน้าที่โค้ชอย่าง Twopee เราสอนอะไรลูกทีม
แล้วแต่คนที่อยู่ทีมของเราด้วยครับว่า แต่ละคนมีข้อด้อย ข้อดีอย่างไรกันบ้าง อย่างบางคนแร็ปชัดมาก แต่บนเวทียังโชว์ไม่ดี เราก็เพิ่มความสามารถของเขาบนเวทีให้หรือบางคนเล่นดีมาก แต่เสียงหอบ แร็ปไม่ชัด เราก็ต้องปรับจูนให้เขา หน้าที่โค้ชมันก็เหมือนกับการขุนบนกระดานอ่ะในความคิดผมนะ หน้าที่ของเราก็คือ ดึงศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด ประมาณนั้นครับ
กระแสรายการ The Rapper ที่ตอนนี้ดังมาก ๆ รู้สึกยังไงบ้าง
รู้สึกดีไม่รู้จะพูดยังไงเลย รู้สึกดีแทนพี่ ๆ ทุกคนที่ทำกันมาไม่ว่าจะเป็น Thaitinium, พี่โจ้ Joey Boy พวกเขาสร้างกันมานานแล้ว มันน่าดีใจมาก ๆ สำหรับวงการฮิปฮอปไทย
ความแตกต่างของวงการฮิปฮอปสมัยก่อนกับสมัยนี้ล่ะ แตกต่างกันขนาดไหน
แตกต่างกันเยอะเลย อย่างเมื่อก่อนก็ถ้าจะขายเพลง ทุกคนต้องร้านดีเจสยาม เว็บไซต์ที่เอาไว้โปรโมตเพลงแลกกันก็ siamhiphop.com ยุคนั้นยังไม่มี YouTube แมกกาซีนนาน ๆ ออกที ปีนึงก็จะมี hip-hop issue ใครอยากเจอก็ไปตามในงานโพสต์ตามเว็บไซต์ ประมาณนั้น แล้วก็มีงาน Fat Festival ที่จะมีเพลงใหม่ออกทุกปี
อนาคตของวงการฮิปฮอป ในสายตาของ Twopee
อันนี้จริง ๆ ก็กลัวว่ามันจะฟุ้งเยอะเกินไปเหมือนกัน วันนึงคนอาจจะรู้สึกว่า มากเกินไปรึเปล่า แบบบางคนวงอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จักชื่อมาก่อน แต่ยอดวิวคนดูแบบสิบยี่สิบล้านวิว ทุกวันนี้เพลงผมบางเพลง สามแสนวิวนะ กลัวว่ามันจะล้นไปเหมือนกันวันนึง ก็อยากให้คนชอบเหมือนที่ชอบเพลงลูกทุ่งบ้านเรา อยากให้ชอบด้วยความจริงใจไม่ใช่กระแส
สมมติให้ตั้งทีม Twopee United ขึ้นมา 1 ทีม ให้ออกไปแร็ปกู้โลก สมาชิกในทีมทั้ง 5 คนจะมีใครบ้าง
เอาท่านนายกตู่, โน้ส อุดม, Rap Ake, พี่มดดำ, พี่อ้อย-พี่ฉอด ครับ
หลังจากที่ได้คุยกันในพาร์ตของการเป็นแร็ปเปอร์ และเป็นโค้ชประจำรายการ The Rapper กันไปแล้ว ผมและโต้งก็เห็นพ้องกันไปในทางเดียวกันแล้วว่า งั้นเราลองเปลี่ยนมาคุยในเรื่องสบาย ๆ เรื่องชีวิตกันบ้างดีกว่า
ถ้าตอนเด็ก ๆ ไม่ได้ตัดสินใจจะเป็นแร็ปเปอร์ คิดว่าวันนี้ตัวเองจะทำอาชีพอะไร
น่าจะทำงานเป็นผู้กำกับโฆษณา หนัง มิวสิกวิดีโออะไรอย่างนี้แบบนี้ครับ เพราะเราเรียนสาขานี้มาเลย
กิจกรรมของ Twopee Southside ถ้าไม่นอนหลับพักผ่อน วัน ๆ ทำอะไรบ้าง
เป็นคำถามที่ดีครับ ผมกำลังจะตอบว่า นอน (หัวเราะ) ชอบไปเที่ยวกับเพื่อน หรือเรียกว่า แดกเหล้า เนี่ยล่ะ (หัวเราะ) พูดซะดูดีเลยแล้วก็มีเข้าสตูดิโอ เดินห้างบ้าง พยายามออกกำลังกายให้เยอะที่สุด ชอบกิน ผมชอบตระเวนกิน แต่แค่เฉพาะโซนทองหล่อนะ ทุกวันนี้ไม่เคยออกจากหน้าปากซอยเลยผมกลัว (หัวเราะ) แต่ผมจะเป็นคนที่ถ้าออกจากโซนนี้แล้ว มันรู้สึกแปลก ๆ …ผมแกล้งเล่นครับ ปกติเป็นคนขี้เกียจ เพราะที่ทำงานอยู่แถวนี้ บ้านก็อยู่ตรงนี้ ร้านอยู่ละแวกนี้ ผมไม่ใช้รถด้วย จะนั่งมอเตอร์ไซค์ซะส่วนใหญ่
คนอย่าง Twopee นิสัยเป็นอย่างไร
ผมเป็นคนมีหลายอารมณ์นะ หลายคนเขาบอกว่า คนที่มีหลายอารมณ์ เขาเรียกว่าเป็น ไบโพลาร์ ใช่ปะ ผมก็คิดนะ คนอะไรจะมีอารมณ์เดียวตลอดเวลาใช่ไหม มันมีทั้งดีใจ ทั้งเศร้า แต่ผมก็อาจจะไม่ใช่ขนาดนั้น ผมแค่เซนซิทีฟมากกว่า ความรู้สึกผมมันก็เปลี่ยนไปตามอารมณ์ แต่ของผมมันแค่จะแบบเด่นชัดหน่อยเท่านั้นเอง
เหตุการณ์ที่เจอแฟนคลับแล้วพีคที่สุดในชีวิต
มีตอนที่ไปเล่นจังหวัดภูเก็ตครับ มีป้ามาทักว่า เฮ้ย Twopee ผมก็ตอบไปว่า ครับผม แล้วก็ยิ้มให้ เขาก็บอกว่า ‘เออไม่มีอะไรละ’ ผมก็คิดในใจว่าเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย (หัวเราะ) ทิ้งให้ผมอยู่กับความงงสักพัก อีกอันก็ตลกครับผมยืนฉี่อยู่ก็มาทักในห้องน้ำเลย ดีที่ว่าไม่ได้ยกมือรับไหว้ด้วย (หัวเราะ) แต่ก็สนุก ๆ น่ารักดีครับผม เวลาผมเจอแฟนคลับผมก็จะคิดว่าเขาเป็นเหมือนเพื่อนเรา จะชวนคุยกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ด้วยความที่ระยะการทำงานแต่ละวันของเรามันรีบด้วย คนเยอะ เราเองก็ไม่ได้มีเวลาเปิดใจกับทุกคนขนาดนั้น ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยครับ
เจอคนเยอะขนาดนี้ มีช่วงเวลาที่เราแบบเบื่อคนเยอะ ๆ บ้างมั้ย
มีบ้างครับ บางทีก็เหนื่อยจริง ๆ แต่ผมเป็นคนที่แฮปปี้กับการถ่ายรูปมากเลยนะ แต่มันจะมีบางเคสที่แบบบอกเราว่า เฮ้ย ไม่เอาพี่ ขอเอามุมนี้หน่อย ก้มหน่อย ๆ ยิ้มเห็นฟันด้วย เรียกเพื่อนมาช่วยแบบ เฮ้ยมึงถ่ายให้กูหน่อย เอากล้องมึงดิ บางทีเราก็เหนื่อยนิดนึงอาจจะมีเบื่อบ้างครับ
ชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนทองหล่อที่รู้จัก Twopee Southside มากขึ้น
คนโซนนี้เขาเจอหน้าผมจนเบื่อแล้ว แต่พี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าบ้านเนี่ย นั่งมา 5 ปียังไม่เคยคุยกันเลย ตอนนี้ถามยับเลย ใครเข้ารอบยังไง เราเลยบอก พี่ก็รอดูดิพี่ (หัวเราะ)
ล่าสุดกับการไปดูฟุตบอลโลกถึงขอบสนามถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิตไหม
จริง ๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบดูฟุตบอลครับ แต่พอไปดูในสนามทุกอย่างแบบมันมาก ตะโกนกันสุดฤทธิ์ แถมได้ไปนั่งแบบที่นั่งที่ดีที่สุดในนั้น มันมาก ๆ เป็นประสบการณ์ที่แบบครั้งนึงในชีวิตควรมาเลย ผมเชียร์สเปนด้วยนะ แต่ตกรอบไปล่ะ ถ้าให้เดาผมคิดว่า บราซิลน่าจะได้แชมป์
มุมมองความรักของหนุ่มฮอตแห่งปี
มุมมองความรักเหรอครับ แน่นอนว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามที่มนุษย์เราสร้างขึ้นนะครับ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถามว่าคิดจะแต่งงานไหม ตอนนี้ยังนะ แม้ลึก ๆ ก็คิดเสมอว่ามันต้องมีวันนั้นแน่นอน
ถ้ามีลูกเราจะสอนลูกแร็ปไหม
น่าจะนะ แต่อาจจะให้เขาฝึกเองด้วยนะ เป็นโค้ชอยู่ห่าง ๆ แต่ก็อยากให้เขาชอบอะไรอย่างที่เราชอบด้วย
ถ้าให้ Twopee มาเป็นนายกได้หนึ่งวัน จะแก้ไขอะไรในประเทศไทยเป็นสิ่งแรก
อาจจะแก้เรื่องรถติดครับ มันจะต้องมีอะไรที่ดีขึ้นมากกว่าถนนในกรุงเทพบ้างล่ะ บางทีรถติด คนหงุดหงิด ทะเลาะกัน ถ่ายคลิปด่าอัพลงในอินเทอร์เน็ต ไอเหี้ยน่าเบื่อ มันน่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้
เพลงที่ชอบมากที่สุดตั้งแต่ทำ Southside มาคือเพลงอะไร
ผมชอบเพลง Get Lost นะ อาจจะไม่ใช่เพลงที่ชอบที่สุด แต่ผมขอเลือกเพลงนี้ละกันครับ ผมชอบความประณีตของมัน มันเหมือนมีเพลง 3 เพลงรวมกัน แล้วก็ความหมายที่ผมร้องมันอธิบายยากเพราะ มันค่อนข้างลึกซึ้ง เหมือน get lost เป็นแบบคนที่หายไปหรือลอยไป มันเป็นอะไรที่แบบต้องฟังถึงจะเข้าใจ
อัลบั้มที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ คืบหน้าไปประมาณกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
80% แล้วครับ อัลบั้มนี้มันเป็นอัลบั้มแรกในนาม Twopee Southside เลยครับ ทุกเพลงมันเหมือนเราได้อ่านไดอารี่บทนึง เพราะฉะนั้นเรื่องราวชีวิต เรื่องเล่า ความคิดทุกอย่างมันจะอยู่ในนี้ แล้วก็ผมเชิญศิลปินที่ผมชอบในเมืองไทยมาอยู่ในอัลบั้มนี้ทั้งหมด ผมตั้งใจทำมากครับ มันเป็นเรื่องเล่าที่ผมอยากจะแชร์ให้ทุกคนฟัง
พอจะบอกได้ไหม ชื่อศิลปินที่มาร่วมตอนนี้มีใครบ้าง
มี Stamp, Youngohm, Hugo, Getsunova, Sunny Day, Freddie Southside เพียบเลยครับ แต่มีอีกเยอะเลยขอบอกแค่นี้พอก่อน
อัลบั้มนี้จะออกช่วงไหน
น่าจะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ครับ แต่ซิงเกิ้ลแรกจะออกวันที่ 24 กรกฏาคมนี้
เรื่องราวของการไป cypher ที่ได้ไปทำกับ MTV ASIA
ตื่นเต้นมากครับอันนั้น ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นขนาดนั้นมานานมาก ๆ แล้ว ไรห์มทั้งหมดเราก็เพิ่งเขียนด้วย อีกอย่างพอมันเป็นภาษาอังกฤษ มันก็ยิ่งตื่นเต้น แต่ผมเองก็ยังรู้สึกเฉย ๆ กับตัวเองอยู่ เพราะเราก็ทำได้ยังไม่เต็มที่เท่าไร ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปแก้มือใหม่ครับ ส่วนคนที่ผมชอบวันนั้นเลยก็คือผู้หญิง Zamaera คนนี้เก่งมาก ๆ
สุดท้ายหลังจากที่ได้รู้จักชีวิตของ Twopee ทุกด้านทุกมุมแล้ว อยากบอกอะไรกับคนที่ติดตามบ้าง
อยากให้ติดตามกันต่อไปนะครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามทั้งแฟนเพลงใหม่แฟนเพลงเก่า แล้วก็อัลบั้มที่กำลังจะออก มันเป็นการเล่าเรื่องความในใจของผมเลยนะครับ อยากให้ฟังเพลง อยากให้ติดตาม จริงๆ อยากให้โฟกัสกับผลงานเพลงของผมด้วยนะครับ ชอบผมแล้วก็อย่าลืมชอบเพลงผมด้วย (ยิ้ม)
สิ้นสุดคำถามนี้ผมกับโต้งยังนั่งคุยกันต่อถึงเรื่องของดีจังหวัดภูเก็ต โดยเราทั้งสองได้รับข้อมูลที่น่าสนใจกันพอสมควรสำหรับเรื่องนี้และหลังจากที่คุยทุกอย่างจบแล้ว ผมได้พาโต้งไปถ่ายรูปต่อทันที เพราะเนื่องจากระยะเวลาของผู้ชายคนนี้มีจำกัดจริง ๆ ผมเองก็อยากให้เขาได้พักผ่อนมาก ๆ เพราะ ทัวร์ของ Twopee ตอนนี้จัดว่าเดือดมาก ๆ การคุยกันของพวกเราในวันนี้มันจึงเป็นเรื่องที่ผมยินดีและดีใจมาก ๆ ที่ได้เจอเขา ที่สำคัญหลังจากอ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว ผมก็เชื่อเหลือเกินว่า คุณจะได้รู้จักเขามากขึ้นที่สำคัญผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะ เพลงเขาก็เจ๋งนะ ไม่เชื่อลองไปฟังกันดูครับ
ปล. บทสัมภาษณ์ เห็ดทอล์ก นี้เป็นบทสัมภาษณ์ใหญ่ของผมครั้งสุดท้ายกับทาง Fungjaizine แล้ว ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่น่ารักและเข้าใจพวกเรามาเสมอ หลังจากนี้หวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสพบกันอีกนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนผ่านตัวอักษรเหล่านี้จริง ๆ ครับ แล้วพบกันใหม่เมื่อวันนั้นมาถึงครับ — กันดิศ ป้านทอง
บทความที่คุณอาจจะสนใจ