Feature Head talk

Have A Goose Day!

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Thanawat Petchan
  • Stylist: Varach Chotchotiros
  • Art Director: Pitshaya Chonato

ถ้าคุณลองเปิดแม็กกาซีนเล่มเก่าๆ ที่วงเราเคยไปให้สัมภาษณ์ จะเจอคำตอบแบบนี้ครับ แต่ถ้าให้ตอบแบบเท่ๆ มันก็จะตอบว่า ห่านมันเป็นสัตว์ที่ใฝ่ฝันอยากจะบินแต่บินไม่ได้ไกล แค่นั้นเอง

แสงแดดยามบ่ายกับบรรยากาศภายในสนามเทนนิสที่สุดแสนจะเงียบเหงา วันนี้ผมมีนัดสัมภาษณ์กับวงดนตรีวงหนึ่งที่เพลงของพวกเขาร้องว่า “แค่เพียง…ความทรงจำที่ฉันและเธอเคยมีต่อกัน” ทุกครั้งที่เปิดเพลงนี้ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ จนอยากออกตามหาว่าใครเป็นคนทำเพลงนี้ขึ้นมา ผมไม่เคยเห็นหน้าตาของพวกเขามาก่อน เวลาเปลี่ยนแปลงพวกเขาไปแค่ไหน ภาพที่ผมเห็นอยู่ข้างหน้า ณ ขณะนี้คือ ภาพวงดนตรีวงหนึ่งกำลังถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนานราวกับพวกเขาได้พบปะสังสรรค์กันแบบเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันนาน และเมื่อสิ้นสุดเสียงชัตเตอร์ลงบทสนทนาที่ผมรอคอยมาแสนนานก็เกิดขึ้นกับวงดนตรีที่มีชื่อว่า ‘GOOSE’

Goose

จากภาพขวาไปซ้าย
โต้ง-นเรศ วิโรจน์ธนะชัย (ร้องนำ, กีตาร์)
นิ้ม-บัญชา เธียรกฤตย์ (กีตาร์)
อาร์ท-อรรณพ มุสิกโปดก (กีตาร์)
บะ-อภิชาติ งามเลิศ (กลอง)

 

การรวมตัวของฝูงห่านในตำนาน 

GOOSE: จุดเริ่มต้นของวงเราในตอนแรก ‘โต้ง’ ชวน ‘นิ้ม’มาทำเพลงสองคน โดยมี ‘ก้อง’ มาร่วมแจมด้วยทำกันมาได้สักพักก็มีงานเลี้ยงวันเกิดของก้องเกิดขึ้น ‘อาร์ต’ มาแบบสภาพเมาเลย อยู่ๆก็คลานมาจับแขนนิ้มแล้วบอกว่า “กูขออยู่วงนี้ด้วยนะ” เลยมีสมาชิก 4 คนตั้งแต่นั้นมา พอมาถึงในช่วงทำเพลงกันในอัลบั้มแรกได้ครึ่งหนึ่งแหละ มานั่งคิดกันได้ว่า เฮ้ย วงดนตรีมันต้องมีมือกลองวะ เพราะเราเล่นกีต้าร์กันสามคนอย่างเดียวแล้วใครจะตีกลอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้อาร์ตมันตีกลอง แต่พอบอกว่า อาร์ตมึงตีกลองให้หน่อย มันก็ไม่มาซ้อมอีกเลย (หัวเราะ) จนตอนหลังอาร์ตก็พา ‘บะ’ มา อาร์ตก็กลับมาเล่นกีต้าร์ประจำตำแหน่งเดิม เริ่มลองซ้อมกันดูปรากฏว่าเข้ากันได้เลยตั้งแต่ครั้งแรกที่ซ้อม พวกเราเลยยืนพื้นสมาชิกไลน์อัพนี้มาตลอดตั้งแต่นั้นมา

ส่วนชื่อวง GOOSE มาจากก้อง ซึ่งพวกเราถามทีไร ก้องก็จะตอบที่มาของชื่อไม่เหมือนกันสักครั้งเลย (หัวเราะ) มันจะตอบว่าแถวบ้านผมอยู่ลำลูกกา ข้างๆ บ้านผมเลี้ยงห่านผมเลยเอามาตั้ง ถ้าคุณลองเปิดแม็กกาซีนเล่มเก่าๆ ที่วงเราเคยไปให้สัมภาษณ์ จะเจอคำตอบแบบนี้ครับ แต่ถ้าให้ตอบแบบเท่ๆ แล้วมันก็จะตอบว่า ห่านมันเป็นสัตว์ที่ใฝ่ฝันอยากจะบินแต่บินไม่ได้ไกล แค่นั้นเอง

2

10 ปีที่หายไปของ GOOSE

GOOSE: พวกเราแยกย้ายกันไปในช่วงเสร็จจากทัวร์อัลบั้มสอง (20 GUNS POINT IN YOUR FACE ) แต่ละคนเริ่มมีชีวิตแตกต่างกันออกไป สมาชิกในวงเราเริ่มจาก บะ ก็ต้องไปเรียนต่างประเทศ ก้อง ไปบวชนานถึงปีครึ่งเลย มันก็เลยทำให้พวกเราเริ่มรู้สึกแล้วว่า เวลามันเริ่มไม่ค่อยลงตัวกันเมื่อสมัยก่อนแล้วนะ พักไว้ก่อนแหละกันก็เลยหยุดพักกันมาจนถึงเวลานี้ส่วนตอนนั้นมีแนวคิดเรื่องจะทำอัลบั้มใหม่ไหม เราขอตอบเลยว่า พวกเราแทบไม่ได้คิดเลย อยากทำก็อยากนะ แต่ด้วยหน้าที่ของแต่ละคนที่เริ่มแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพอื่นๆ กันแล้วอย่าง นิ้ม – ไปดูแลเกี่ยวกับเรื่องค่ายเพลง Smallroom, บะ – ไปทำกราฟิกที่ Ductstore, โต้ง – มีธุรกิจที่บ้านบินไปมาต่างประเทศอยู่บ่อยๆ มีครอบครัวให้ต้องดูแล,อาร์ต – เล่นดนตรีให้ Gene Kasidit , Knock the Knock และ Brown Flying ทำให้ทุกคนรอให้เวลากลับมาลงตัวและซ้อมดนตรีกันอีกครั้งเท่านั้นเอง พวกเรารู้สึกว่าประจวบเหมาะพอดีในช่วงเวลานี้ ที่เราจะกลับมาซ้อมมาเล่นดนตรีกันอีกครั้ง

ช่วงนี้เรียกได้ว่าเวลาตรงกันที่สุดในรอบ 10 ปีแล้วหรือยัง

GOOSE: ถ้าถามว่าเรามีเวลาว่างตรงกันแบบเป๊ะๆ เหมือนแต่ก่อนไหม มันก็ยังไม่ว่างแหละครับ (หัวเราะ) คนเราเติบโตขึ้นมันไม่สามารถมีเวลาว่างได้เหมือนเดิมหรอก แต่ก่อนซ้อมดนตรีกันวันละ 5 ชั่วโมง ซ้อมแบบนี้เป็นประจำ ปัจจุบันนี้มันไม่มีเวลาจะซ้อมกันมากกว่า แต่เวลาเจอกันเรายังมีอยู่นะ แต่เวลาในการซ้อมดนตรีมันแทบจะไม่มีเลย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เวลาไปงานดนตรีคนเจอพวกเราจะชอบมาถามกันตลอดเลยว่า GOOSE เมื่อไรจะเล่น เมื่อไรจะกลับมา มีคนเอางานมาเสนอวงเราตลอด ซึ่งเราก็ปฏิเสธไป เพราะสมาชิกมันไม่ครบอ่าเนอะ แต่ละคนมันยังไม่มีช่วงเวลาที่กลับมาทำตรงนี้ได้มันไม่พร้อมเลยยังไม่เล่นดีกว่า

10 ปีที่แล้วกับวงชื่อ GOOSE เป็นอย่างไรบ้างเล่นดนตรีกันสนุกไหม

GOOSE: สมัยนั้นคนดูวงเราไม่เยอะนะ ยุคก่อนมันเป็นช่วงของงานปาร์ตี้มันเพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน วงเรามีงานเล่นบ่อยนะ แต่งานนึงมันก็มีคนดูไม่เกิน 100 คนเลย สนุกดี ตอนนั้นแนวเพลงแบบวงเรามันไม่มีนะเลยไม่เคยรู้เลยว่ามันคือแนวอะไรกันเนี่ยที่เราเล่นกันอยู่ ตอนนั้นมันก็จะมีแนวร็อค แนวโพส-พังค์ กลุ่มจัดงานจะเปลี่ยนที่จัดไปเรื่อย สถานที่แรกที่วงเราเล่นจำได้ดีเลยคือ ร้านย่านสีลม ได้เงินค่าตัวมา 500 บาท วงมี 5 คนซื้อเบียร์กินก็เข้าเนื้อตัวเองอีกจบกัน (หัวเราะ) แนวเพลงของวงมันมาชัดเจนก็ตอนมาเจอโคอิชิ เขาจัดงาน SO : ON เราเห็นเด็กๆ รุ่นใหม่ที่เล่นแนวนี้กันหลายวงเลยช่วยดึงๆ กันมาเล่นทั้ง Desktop Error, อัศจรรย์ จักรวาล ทุกวงก็เกิดมาพร้อมกันหมดเลยในช่วงยุคนั้น  เรียกว่ายุคนั้นมันเป็นยุคบุกเบิกของวงดนตรีแนวเราเลยก็ว่าได้

แนวเพลงของวง GOOSE

GOOSE: จริงๆ พวกเราไม่เคยกำหนดแนวเพลงนะ ที่เขาเรียกๆ กันให้เนี่ย คนฟังตั้งให้หมดเลย พวกเราไม่เคยตั้งเลยว่าแนวเพลงเราคือแนวเพลงอะไร เพลงของวงเราเน้นแจมกันมากกว่า รู้ใจกันว่าตรงไหนใครชอบอะไร เพื่อนชอบตรงนี้ กูชอบตรงนี้ โอเคเรามาลองปรับกันดูทำสิ่งที่เราชอบ มันคือการทำงานแบบศิลป์ ถ้าเราไปกำหนดว่าคือแนวเพลงอะไรพอทำเพลงมาเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นว่าเราไปเหมือนเขาไปลอกเขามาอีก คาแร็คเตอร์เรา 5 คนมันจะต่างกันอยู่แล้ว เรานำสิ่งที่ชอบของแต่ละคนมาร่วมกันเจอกันตรงกลางนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วแหละ

‘สิ่งดีดี’ เพลงชาติของวง GOOSE

GOOSE: มันเป็นถึงเพลงชาติเราเลยหรอ ? (หัวเราะ) เพลงนี้เริ่มจากอาร์ตแต่งทำนองมากับวงเก่า ก่อนที่จะมาทำวง GOOSE เพลงมันไม่มีเนื้อร้องเลยทำมาหลายเวอร์ชั่นมากเลยลองเอามาให้นิ้มฟังดู จากนั้นจะต้องแต่งเนื้อเพลงด้วยก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี เพื่อนที่มีในตอนนั้นของพวกเราก็คือ อ้วน – อาร์มแชร์ เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมา ก็เลยให้อ้วนมาแต่งเนื้อเพลงนี้ให้โดยไม่รู้ว่ามันจะดังอะไรขนาดหรอก เพราะเรารู้ตั้งแต่แรกแหละว่าตอนทำอัลบั้มแรก เราไม่กล้าส่งค่ายไหนกันเลย ทำเองขายเองแหละกัน แต่ดันโชคดีที่คนสนใจมากกว่า ทุกวันนี้เวลาไปตามงานดนตรีเห็นวงอื่นเล่นเพลงนี้ก็รู้สึกดีใจนะ ดีใจเอาไปเล่นแต่ก็อยากจะบอกว่าเล่นเพลงอื่นบ้างก็ได้ นี่เราไม่ได้ว่าคนฟังเพลงเรานะ แค่อยากบอกว่าพวกเรามีหลายเพลงนะ ยังไม่เคยเห็นคนโคฟเวอร์เพลงอื่นของวงเราแบบสดๆ เลย อยากเห็นเหมือนกัน  (หัวเราะ)

ทุกวันนี้เวลาไปตามงานดนตรีเห็นวงอื่นเล่นเพลงนี้ก็รู้สึกดีใจนะ ดีใจเอาไปเล่นแต่ก็อยากจะบอกว่าเล่นเพลงอื่นบ้างก็ได้ นี่เราไม่ได้ว่าคนฟังเพลงเรานะ แค่อยากบอกว่าพวกเรามีหลายเพลงนะ

3

สัญญาใจกับค่ายเพลงที่มีชื่อว่า SMALLROOM 

GOOSE: ช่วงเวลาที่ไปอยู่ค่ายตอนนั้นเพลงวงเราแทบไม่ต้องส่ง DEMO เลย พี่รุ่งบอกเราว่า จะทำชุดสองใช่มั้ย งั้นกูให้เวลา 6 เดือน แล้วกลับมาส่งเพลงให้กู ก็นั่งทำเพลงมิกซ์เพลงกันเองส่งมาให้เขาทันตามกำหนด ทุกอย่างมันแค่นั้นเองสัญญาที่เซ็นต์กับ SMALLROOM มีแค่กระดาษสองแผ่นเอง เหมือนเป็นสัญญาทั่วๆ ไปที่หลายวงเขาเซ็นต์กันเลย แต่ใจความมันสรุปได้ว่า “ทำงานอย่างตั้งใจ ตั้งใจทำงานนะ” สัญญาเราทำกันน่ารักๆ หน่อยแบบพี่น้องกัน ช่วงนั้นก็ทัวร์อยู่พักนึงไปกับวง Armchair  วงขอนแก่น  วง Slur วงเรากลายเป็นพวกวงดุร้ายไปเลย เพราะพวกเขาป๊อปๆ น่ารักกันหมด รู้สึกสนุกดีไปเจอเรื่องราวแปลกๆ ที่แฮปปี้เหมือนกันกับการทำงานที่ SMALLROOM ในตอนนั้น

4

เพลงวง GOOSE  ไม่เหมาะกับคลื่นวิทยุ เพลงวง GOOSE เหมาะกับแผ่น Vampire 

GOOSE:  จำได้ว่ามันเป็นช่วงปี 2005 – 2006 อัลบั้มสองนี่เกิดขึ้นหนักเลยเรื่องนี้ เอาเอ็มวีเพลงเราไปส่งที่ไหนก็ไม่มีใครเปิดให้ ทุกคนจะเปิดแต่เพลงป๊อปหมดเลย ไม่มีใครเปิดเพลงแนวอื่นเลย ตอนนั้นเรามีค่ายแล้วก็ส่งเพลงไปตามคลื่นวิทยุกระจายไปแทบทุกคลื่นไม่มีใครเปิดเลย มันอยู่ในช่วงที่วงการวิทยุบ้านเราเปลี่ยนระบบกันทุกคลื่นพร้อมใจกันเปิดแต่เพลงป็อป เพลงเราเลยกลายเป็นไม่ได้เปิดเลย ทำไงได้เพลงเราไม่ป็อปนิหน่า พวกกูไม่มีคิตตี้ในห้องนะเว้ยจะทำให้ทำไงล่ะ มันก็มีความรู้สึกเซ็งๆ นะ ว่าแบบทำกันลุยกันมาตั้งนานชุดสองเนี่ย ช่วงเปิดหน่อยได้มั้ยสักรอบก็ยังดี วงเรามันเปลี่ยนแนวเพลงไม่ได้หรอก เราไม่เคยจำกัดแนวเพลงของตัวเองอยู่แล้วก็เลยไม่ได้เปิดในคลื่นใดเลยในที่สุด แถมความพีคของยุคนั้นพวกเราดันไปเจอเพลงของวงเราอยู่ในแผ่น Vampire อีกมันเป็นแผ่นรวมเพลงวงอินดี้ พวกเราจะรู้สึกไม่ดีก็ไม่เชิงนะ เพราะ Vampire มันก็ไม่ได้เอาโลโก้ของเราแปะ มันทำรูปวงขึ้นมาใหม่ หน้าปกก็ไม่ใช่รูปเรา เป็นรูปเงาลางๆมีคนอยู่สองคน แปะคำว่า Goose แต่เพลงในนั้นแม่งเป็นเพลงเราหมดเลยไง (หัวเราะ) ตอนนั้นก็เซ็งปนขำๆ นะว่าเออวิทยุไม่เปิดเพลงวงกู แต่ Vampire มีเพลงวงกูนะ คิดในใจก็กูดังใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย (หัวเราะ) สรุปสุดท้ายคืออัลบั้มสองแม่งก็ยังขายไม่หมดมาจนถึงทุกวันนี้เลยไง เราปั้มมา 3 พันแผ่น 10 ปียังขายไม่หมดเลย คนชอบคิดว่าแผ่นเราหาไม่ได้จริงๆ มันยังไม่หมดนะครับมันยังมีจริงๆ นะ ถ้าเจอช่วยกันซื้อนะครับ

เพลง GOOSE ดาร์กแล้วคนทำเพลงต้องดาร์กใช่มั้ย ลองนึกภาพตามนะคนดาร์ก มาทำเพลงดาร์กอีก ชีวิตแม่งเหี้ยเลยนะ รู้สึกแค่ว่า พวกเราเป็นคนสนุกอยากมีพาร์ทเท่บ้างเท่านั้นเอง

GOOSE ไม่ใช่วงดาร์ก GOOSE คือวงตลก 

GOOSE: เพลง GOOSE ดาร์กแล้วคนทำเพลงต้องดาร์กใช่มั้ย ลองนึกภาพตามนะคนดาร์ก มาทำเพลงดาร์กอีก ชีวิตแม่งเหี้ยเลยนะ (หัวเราะ) เรารู้สึกแค่ว่า พวกเราเป็นคนสนุกอยากมีพาร์ทเท่บ้างเท่านั้นเอง บางทีคนที่ทำเพลงป๊อปเนี่ยเขาอาจจะมีความดาร์กกว่าเราอีกนะ พวกแม่งเป็นคนตลกเหี้ยๆ แค่บนเวทีเราต้องพรีเซ็นต์สิ่งที่เราคิดออกมา เหมือนเราอยากด่าใครสักคนแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ ไปใส่ในเพลงแล้วพูดแทนดีกว่ามันก็เลยทำให้คนมองว่าเฮ้ยเพลงแบบนี้ชีวิตต้องเศร้าหมองนะ คิดผิดแล้วบอกเลย อย่างวง Desktop Error แม่งก็เพลงหม่นหมองนะลงเวทีมาก็ตลกแบบเราเนี่ยแหละ (ยิ้ม)

ความสงสัยเกี่ยวกับหน้าปกอัลบั้ม 20 GUNS POINT IN YOUR FACE 

GOOSE: หน้าปกอัลบั้มนี้เป็นรูปชะนีครับ รูปออริจินอลมันเป็นรูปชะนีอยู่คู่กัน โดยแนวคิดตอนนั้นคือ ชะนีมันเป็นสัตว์ที่ถูกไล่ล่าบ่อยมาก มันเปรียบเหมือนกับสังคมทั่วไปที่มันซีเรียสอยู่ในทุกที ตอนนั้นที่เกิดเป็นปกอัลบั้มนี้จำได้ว่านิ้มอัดเพลงเสร็จแล้วไป ตื่นมาก็เจอรูปปกเนี่ยเลยแล้วทั้งวงก็บอกกันว่าเออเอาอันนี้แหละปกอัลบั้ม เราไม่อยากได้อะไรที่เหมือนคนอื่นในสมัยนั้นก็เลยลองทำแบบที่เราอยากทำดีกว่าเริ่มจากกระดาษที่ใช้ก็เป็นกระดาษลายผ้าพิมพ์ซึ่งต้องส่งตรงจากประเทศอังกฤษเลยทีเดียว ราคามันก็ค่อนข้างสูงเลยนะกระดาษนี้ พวกเราก็จัดเต็มกันเลยใช้วิธีทั้งการปั้มฟอยด์หน้าปกเรา ทำที่ใส่ซีดีแบบที่วงอื่นเขาไม่ทำกัน สุดท้ายออกมาผลปรากฏว่าคนซื้อไม่เยอะเลย พูดตามความจริงบ้านๆ ก็คือมันขายได้ต่ำกว่าเป้านั้นเอง (หัวเราะ)

วงการเพลงไทยในสายตา GOOSE 

GOOSE: วงการเพลงบ้านเราตอนนี้เอาจริงๆ แล้วมันเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นะ มันเปลี่ยนที่ตัวคนและกระบวนการทำงานของมันมากกว่า ด้วยความที่ทำง่ายขึ้นมีคอมพิวเตอร์ก็ทำเพลงแปปเดียวเสร็จก็มีวงแหละ สมัยนี้ทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงผลงานมากขึ้น ไม่ต้องไปออกอัลบั้มก็ได้ แต่กูมีเพลงของตัวเอง กูทำได้ แต่วิธีและขั้นตอนการทางความคิดมันจะไม่เหมือนยุคตอนเราที่ทำเพลงกัน สมัยนั้นมันเป็นช่วงแรกๆ ที่เริ่มมีโปรแกรมทำดนตรีเข้ามา คนธรรมดาก็เริ่มใช้แล้ว ตอนนั้นเปิดมาก็มึนเหมือนกันทำไม่เป็นเพราะมันไม่มีใครสอนเราใช้ เราขอแค่เพียงกดอัดแล้วเสียงมันดีก็โอเคแหละ ตอนนั้นกว่าจะเล่นให้ตรงเมโทรนอมได้นี่ก็ยากแหละ เพียงมาเรียนรู้กันว่า อัดเพลงมันต้องมีเมโทรนอมนะ คือตอนที่ทำชุดแรกเราอยากทำอัลบั้มกันก็ไปซื้อเครื่องมาทีละอันกันแล้วก็มานั่งมั่วกันทำเพลงออกมาได้ในที่สุด ส่วนเรื่องวงดนตรีบ้านเราตอนนี้ แต่ละวงมันมีความเด่นของแต่ละวงนะ มันจะมีความรู้สึกว่าเพลงนี้แม่งเจ๋งวะ เราฟังแบบโลกสวยเพราะจังทำมาอีกนะให้กำลังใจกัน พวกเราไม่ค่อยอคติมีแต่ให้กำลังใจน้องๆ รุ่นใหม่กันมากกว่า ส่วนตอนนี้วงไทยที่ชอบก็วง POLYCAT เลยมันทำให้รู้สึกถึงช่วงเวลาที่เราฟังเพลงรุ่นเทปของแม่อยู่ ให้ความรู้สึกนึกถึงตอนเด็ก ๆ ดี นั่งในห้องกินขนมฟังเพลง , วง YELLOW FANG ด้วย เรารู้สึกว่าพวกเขาใช้คำไม่เยอะดี ทำเพลงออกมาง่ายๆ ใช้คำให้กระชับ วงนี้ทำให้รู้ว่าเนื้อเพลงที่มันดีไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องราวก็ได้นะ แค่เอาเรื่องอะไรไม่รู้มาเขียน ให้เมโลดี้มันเข้ากัน มันก็เกิดความเพราะแล้ว มันมีความพอดีของเขาเอง Solitude is Bliss ก็ดีชอบ มันมีวงใหม่ๆเกิดขึ้นมาเยอะเลย มีความคึกคักดีสำหรับวงการเพลงบ้านเรา

ช่องทางออนไลน์ที่วง GOOSE ไม่ได้สร้างขึ้นมา  

GOOSE:  ใครทำวะ??? (หัวเราะ) มันมีสองอันมั้งที่เห็นใน Facebook ตอนนี้ ขอ บอกกันตรงนี้เลยนะครับว่า พวกเราไม่ใช่คนทำขึ้นมานะ สมัยนั้นมันยังไม่มีเฟสบุ๊คเลย เราไม่มีเพจ ไม่มีช่องติดต่อแฟนเพลงเราเลย ยุคนั้นมันยังเป็นยุค HI5 อยู่เลย อันนี้พวกเราก็งงๆ เหมือนกัน แถมบางทีมีคนมาตอบแทนเราด้วยนะ เป็นนิ้มแทน เป็นบะแทน เรายังงงเองเลยว่าเราไปตอบตอนไหน (หัวเราะ) ตอนแรกเราจะหาเพลงวงในยูทูปฟังก็ไม่มีเลย ตอนนี้มีทุกเพลงเลย เราไม่ได้ลงไว้เลยมีแต่คนทำให้ ตลกดีแหมือนกัน พวกเราขอบคุณมากๆ เลยมีปกมีวงให้ด้วย แถมบางทีเห็นว่าเขาตอบแฟนเพจด้วยว่า กำลังทำอัลบั้มใหม่กันอยู่อยู่ แล้วมันก็จะมีข่าวมาหาพวกเราว่า GOOSE ทำอัลบั้มใหม่กันอยู่ใช่มั้ย อยากจะบอกว่าเปล่านะ เอามาจากไหนกันวะเนี่ย (หัวเราะ)

ตอนนั้นก็เซ็งปนขำๆ นะว่าเออวิทยุไม่เปิดเพลงวงกู แต่ Vampire มีเพลงวงกูนะ คิดในใจก็กูดังใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย

เห็ดสด 2 กับ GOOSE 

GOOSE: สิ่งที่จะได้เห็นคือ เห็นเราเล่นเลยครับอันดับแรก (หัวเราะ) ไม่ได้เล่นกันมา 10 ปี ไม่อยากให้ทุกคนคาดหวังว่า พวกเราจะเล่นกันแบบระเบิดระเบ้อ มันจะมีเด็กรุ่นใหม่ที่ได้ยินมาว่าวงเราดีอย่างนี้เล่นสดสุดยอดเลย ไม่อยากให้ทุกคนคาดหวังกันมาก เราจะตั้งใจเล่นให้มากที่สุด เล่นตามที่เราทำได้ มันก็อาจจะมีดีบ้างไม่ดีบ้างไม่อยากให้คาดหวัง เราแค่อยากให้เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูพวกเราเปลี่ยนฟิวมาดูเล่นสดบ้าง แล้วสนุกกับในงานเพราะมันก็ไม่ได้มีแค่วงเรา พวกเราเป็นวงที่ดาร์กบนเวทีแต่ข้างล่างเวทีตลกนะ (หัวเราะ) งานวันนั้นถ้ามันสนุกก็สนุกๆ ไม่สนุกก็อย่าให้กูรู้ ล้อเล่นนะ (หัวเราะ) แล้วก็เรื่องของที่ระลึกในงานวันนั้นเราทำแน่นอนครับ แต่เป็นอะไรนั้นไปลุ้นกันได้ในงานนี้เลยนะครับ มันพิเศษแน่นอน

ฝากเนื้อฝากตัวหน่อย  

GOOSE: มาถ่ายแบบสนุกมากครับ (หัวเราะ) พวกเราไม่ค่อยเจอกันเท่าไรวันนี้สนุกดีครับ อยากฝากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณทุกคนที่ยังอยากจะมาดูเรา อยากให้เราไปเล่น ตั้งใจจะมาดู แต่ขอย้ำนะครับว่าไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก แต่เราบอกเลยว่าเราให้ทุกสิ่งที่ทำมาอย่างเต็มที่ สิ่งที่คิด สิ่งที่ซ้อมกันมา ให้ทุกคนสนุกเต็มที่แน่นอนในงานเห็ดสด จะมากจะน้อยไปดูกันนะครับ ถ้ามีอะไรใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับพวกเราจะรีบมาบอกกล่าวให้เร็วที่สุดเลยครับ ฝากพวกเราด้วยครับวง GOOSE

5

ช่วงเวลาที่ผมนั่งพูดคุยกับพวกเขาวง GOOSE ผมได้เห็นรอยยิ้มและแววตาที่ส่งมาให้เห็นถึงความสุขที่พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันในครั้งนี้ มิตรภาพที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขามันช่างงดงามมากไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานอีกกี่ปีก็ตาม ผมเชื่อว่าพวกเขาจะอยู่ในใจของคนฟังเพลงตลอดไป ในงานเห็ดสดครั้งที่ 2 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ผมรับรองได้เลยว่าภาพที่วง GOOSE กำลังเล่นอยู่บนเวทีนั้นจะเป็นภาพที่ติดตาผมไปตลอดชีวิตแน่นอน

สำหรับงานเห็ดสด#2 นอกจาก GOOSE แล้ว ยังมีวงแจ๋วๆมาเล่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Yellow Fang, Summer Dress, Srirajah Rockers, Part Time Musicians และ DCNXTR

สำรองที่ยืนได้แล้ววันนี้ ที่ Thaiticket Major ทุกสาขา: http://www.thaiticketmajor.com/concert/concert-detail.php?sid=2878

 

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง