เมื่อคนกรุงเทพ ฯ ลองฟังเพลงที่พูดถึงกรุงเทพ ฯ โดยไม่รู้มาก่อนว่าหาเพลงเหล่านี้ฟังได้ในกรุงเทพ ฯ
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayot
- Art Director: Benyatip Sittiwej
Fungjaizine ขอต้อนรับศักราชใหม่ด้วยการปัดฝุ่นคอลัมน์ยอดนิยมในอดีตและหยิบกลับมาให้ทุกคนได้อ่านอีกครั้ง และด้วยความที่เล่มนี้เราเลือกจะนำเสนอเรื่องราวของผู้คน ดนตรี และถิ่นที่อยู่ของพวกเขา เพราะเราเชื่อว่าสามสิ่งที่ใกล้ตัวเรานี้มีความเชื่อมโยงกันแบบแทบจะแยกไม่ออก โดยเราจะเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันในมิติที่ต่างออกไป
แต่สำหรับ ลงพื้นที่ รอบนี้เราจะพาไปสำรวจความเห็นจากผู้ฟังมากกว่าหนึ่งอาชีพ เพราะเราเชื่อว่ากรุงเทพ ฯ คือเมืองที่รวบรวมประชากรที่หลากหลายที่สุดแห่งหนึ่ง แม้พวกเขาจะไม่ใช่คนเมืองโดยกำเนิด แต่มีที่พักอาศัย ทำมาค้าขาย หรือเลือกลงหลักปักฐานกันอยู่ที่นี่เป็นเวลานานจนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์กรุงเทพ ฯ และจุดแรกที่เราได้ไปสำรวจกันคือย่านเมืองเก่าที่เรารัก ตั้งแต่พาหุรัด เยาวราช ไปจนถึงซอยนานา โดยเราจะให้คนละแวกนั้นลองฟังสารพันเพลงที่พูดถึงกรุงเทพ ฯ แบบที่พวกเขาไม่เคยฟังมาก่อน ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเพลง แล้วลองบอกเล่าความรู้สึกหลังฟังเพลงเหล่านั้นแบบตรงไปตรงมาที่สุดในชีวิต
ทุกอย่างคนเราคิดอะไรไว้มันไม่ได้ดังหวังทุกอย่างหรอก
พี่หมวย (43)
ผู้ช่วยผู้จัดการร้านอาหารอินเดีย
จริง ๆ พี่หมวยเป็นลูกจ้าง ดูแลแทนตอนเขาไม่อยู่ แต่เวลามีการตัดสินใจอะไรก็ต้องเป็นเขา เจ้าของร้านเป็นคนจีน เป็นอี๊พี่หมวย แฟนเขาเป็นนายห้างคนอินเดีย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาแล้ว เขาไปอินเดียอยู่
ร้านเปิดมานานหรือยัง
ก็เปิดมาได้ 4-5 ปีแล้ว
ทำไมถึงได้มาทำงานที่นี่
ไม่รู้อะ มาได้ไงไม่รู้ เมื่อก่อนไม่รู้จักพาหุรัดนะ ไม่รู้ว่าเป็นยังไง อยู่แต่มหาชัย พี่หมวยอยู่กับพวกถังพลาสติก อยู่กับพวกเคมี ไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ ตอนนั้นอาศัยน้าสาวอยู่ ก็ไปถามว่ามีงานให้ทำมั้ย น้าสาวเมื่อก่อนไม่ให้อยู่นะ ไล่เลยนะ น้าสาวเป็นคนใจดีนะแต่เวลาเจอเราแล้วเขาอารมณ์เสียทันที เขาถาม กงสีหรอ อย่ามานะ จนได้ไปดูแลอาม่า น้าสาวก็เห็นว่าเราเป็นคนแบบพอรู้เรื่อง เลยให้มาทำงานพาหุรัด ก็ให้ไปช่วยคัดซีดี ขายซีดีเพลงอินเดีย แล้วเปลี่ยนไปขายกำยานธูป เขาเห็นว่าเราพอขายของเป็นก็ให้มาช่วยขายของที่ร้านจนทุกวันนี้
อะไรในร้านขายดีสุด
ขายดีสุดก็ซาโมซ่า ลาดูถั่ว ร้านนี้เขาก็ขายแบบราคาประมาณเนี้ย อย่างละ 15 บาท 20 บาท อาหารก็พอขายได้ ขนมก็มีหลากหลาย คนก็เข้าเรื่อย ๆ ลูกค้าก็มีหลายรูปแบบ มีที่กินเสร็จแล้วลุกเลย ไม่จ่ายตัง พอถามว่าจ่ายยังก็มีโมโหด้วย หรือบางทีแขกนะ 7 โมงเช้ามาเขาก็จะมากินราสมาลัย พี่หมวยก็งงว่าเช้า ๆ ทำไมชอบกินของเย็นกัน
เคยขายซีดีแล้วเป็นคนชอบฟังเพลงไหม
พี่หมวยเป็นคนชอบฟังเพลงมาก เติบโตมากับเพลงจีน ชอบฟังเพลงดั้งเดิมแบบชาวจีน ฟังภาษาจีนออกเป็นบางคำ แต่พูดไม่ได้นะ เวลาไปไหนใครด่าก็รู้เรื่องเลย แต่พอมาอยู่ตรงนี้ก็ต้องเปิดเพลงอินเดียฟัง กลางวันฟังเพลงแขก กลางคืนฟังเพลงจีน
แล้วต้องพูดภาษาอินเดียให้ได้ด้วยไหม
อยู่นี่ก็ต้องพูดให้ได้เพราะสื่อสารกับลูกจ้างที่เป็นคนอินเดีย บางทีเราเป็นคนเจ้าอารมณ์ ถ้าใช้เขาแล้วเขาไม่รู้เรื่อง เราก็จะอารมณ์เสีย อารมณ์ร้อน ก็ต้องหัดพูดให้รู้เรื่อง จนพูดได้นิดหน่อย สื่อสารกับเขาได้บางอย่าง
นักร้องที่พี่หมวยชอบ
โบ สุนิตา แล้วก็ ศาห์รุข ข่าน เขาเป็นดาราด้วย ชอบดูละครอินเดีย
เพลงไหนบ่งบอกความเป็นกรุงเทพ ฯ ได้ดีที่สุด
ภูมิแพ้กรุงเทพ ฯ ของป้าง นครินทร์ เพลงนี้พี่หมวยก็ชอบนะ
ฟังเพลง บางกอกใหม่ ของวง อะไรจ๊ะ แล้วรู้สึกยังไง
พี่ฟังเขาร้องไม่ทันอะ ฟังไม่ชัด ฟังแล้วรู้สึกวุ่นวาย ๆ
อะไรที่ชอบและไม่ชอบในกรุงเทพ ฯ
พี่หมวยเป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้ ไม่มีอะไรยุ่งยากในชีวิต ไม่เรื่องมาก ชอบกรุงเทพ ฯ ตรงไหน ไม่รู้ พูดไม่ถูก ชีวิตนี้เกิดมาก็อยู่พระประแดง พระราม 2 พาหุรัด ก็อยู่อย่างนี้มา ไม่มีความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น
อยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงในกรุงเทพ ฯ ไหม
ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก ทุกวันนี้พี่หมวยก็อยู่พาหุรัด ก็อยากให้เศรษฐกิจดีขึ้น การค้าขายมันก็จะโอเคขึ้นหน่อย
เคยคิดอยากย้ายไปที่อื่นไหม
เคยคิด แต่ยังไม่มีโอกาส อยากไปอยู่ต่างจังหวัด ลำปาง ภูเก็ต เชียงใหม่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไป อยากไปอยู่อินเดียด้วย อยากไปอยู่กับชีวิตธรรมชาติ ไม่ต้องใช้เงิน
ถ้าไม่ทำอาชีพนี้จะไปทำอะไร
วัน ๆ ชีวิตพี่หมวยก็มีอยู่แค่นี้ ไม่อยู่หน้าร้านก็หลังร้าน คอยต้อนรับให้เขาเข้าร้าน งานเราขายของ ขายอาหารอะ ถ้าไม่ทำก็จะไปบวชชีโกนหัวเลย เมื่อก่อนขายกำยานธูป เครื่องหอมบูชาเทพ ก็ขายด้วยใจรัก น้าสาวเราอยู่ตรงนี้ก็ได้มาบริการประชาชน ได้บริการลูกค้า ขายขนมบูชาเทพเจ้าก็โอเค ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้ช่วยเขา พี่หมวยจะไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ถ้ามีครอบครัว ถ้ามีอายุ พี่หมวยก็จะไปอยู่อินเดีย เพราะเราไม่รู้ชะตาชีวิตของเราใช่ปะ ที่นี่ก็รับทัวร์ไปอินเดียนะ
น้องปิ่น (15)
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายปัญญา
กินโตเกียวร้านนี้บ่อยไหม
ครั้งแรกค่ะ
ปกติฟังเพลงไหม
หนูฟัง K-pop ค่ะ ชอบวง BTS (Bangtan Boys)
น้องปิ่นคิดว่าคนเราจะฟังเพลงไปทำไม
แก้ปัญหาเวลาเครียดค่ะ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้เราเพลิดเพลินจิตใจได้
ฟังเพลง กรุงเทพ ของ Hugo (Yena cover) แล้วรู้สึกยังไงบ้าง
มันหลาย ๆ อย่างอะพี่ ดนตรีมันสนุกแต่น้ำเสียงคนร้องดูเศร้า ๆ หดหู่ยังไงก็ไม่รู้ มันเหมือนพาหนูไปอยู่ในที่แคบ ๆ บีบ ๆ
เพลงอะไรที่ฟังแล้วนึกถึงกรุงเทพ ฯ
สยามเมืองยิ้ม ของ ตั๊กแตน ชลลดา ค่ะ หนูรู้สึกว่ายุคนั้นมันเป็นตามเนื้อเพลงจริง ๆ
คนเย็นใจซื่อได้ชื่อว่าไทย ร้อนมาจากไหนชาติไทยไม่เคยหวงห้าม ข้ามเขตข้ามโขงถิ่นน้ำขุ่นมาพึ่งใบบุญเมืองสยาม เรายิ้มรับตามที่ท่านต้องการ เลื่องชื่อลือนาม สยามมีแต่น้ำใจ
อยู่กรุงเทพ ฯ มาตั้งแต่หรือเปล่า มีอะไรที่ชอบและไม่ชอบในกรุงเทพ ฯ บ้าง
ที่ชอบก็สถานที่สวย น่าถ่ายรูปค่ะ สิ่งที่ไม่ชอบก็รถติด กับมลพิษค่ะ
อยากเปลี่ยนอะไรในกรุงเทพ ฯ
หนูว่าต้องเป็นทัศนคติบางคนล่ะมั้งคะ บางทีหนูรู้สึกว่า บางคนไม่ค่อยรักษาน้ำใจคนอื่นเท่าไหร่ แล้วก็บางคนเห็นแก่ตัว แซงคิว เลยไม่ค่อยชอบ
แม่สุวรรณพร (76)
เจ้าของร้านขายชุดไทย
ทำไมมาเปิดร้านขายชุดไทย
เป็นคนมหาชัย ทางกระทุ่มแบน สมุทรสาคร ก็แต่งมาที่นี่ สามีเป็นคนที่นี่ แต่ก่อนนี้ขายอย่างอื่น ขายรองเท้าแตะ รองเท้าธรรมดา ขายมา 40 กว่าปี ร้านอยู่ตลาดเก่าทางโน้น เราย้ายเองเพราะเขาต้องสร้างตลาดใหม่ แล้วก็มาเปลี่ยนขายเสื้อ แล้วก็มาเปลี่ยนขายชุดแต่งงาน แล้วก็มาขายพวกนี้ อยากลองดู ร้านนี้เปิดมา 10 ปีได้
กิจการแต่ละกิจการอันไหนขายดีสุด
มันก็เรื่อย ๆ ของมัน พอมาถึงอันนี้ก็คงจะอยู่กับอันนี้แหละ ไม่รู้จะเปลี่ยนไปขายอะไรแล้ว (หัวเราะ)
คนส่วนใหญ่ที่มาซื้อเป็นใคร
ก็พวกนักศึกษาอยู่ตามโรงเรียน ก็ขายได้เรื่อย ๆ
อยู่กรุงเทพ ฯ มา 40 กว่าปี ชอบหรือไม่ชอบอะไรในกรุงเทพ ฯ บ้าง
มันก็ดีทุกอย่างอะ (หัวเราะ) เท่าที่เราอยู่มาได้ ก็มีกินมีใช้ไป
มีอะไรที่ไม่ชอบหรืออยากเปลี่ยนไหม
ตอนนี้คงไม่ได้เปลี่ยนแล้ว ที่ร้านตอนนี้ลูกขายแล้ว ฉันอยู่ข้างบนไม่ได้ขายแล้ว ว่าง ๆ ก็เย็บผ้า (หัวเราะ)
ถ้าย้ายไปที่อื่นได้อยากย้ายไปไหน
ไม่อยากย้ายแล้ว อยู่ตรงนี้พอแล้ว อายุเยอะแล้ว เท่าไหร่แล้วรู้เปล่า (หัวเราะ) 76
ปกติฟังเพลงไหม
เฉย ๆ ฟังก็ได้ไม่ฟังก็ได้ ไม่รู้จะไปชอบนักร้องคนไหนด้วย
ได้ลองฟังเพลง กรุงเทพ ฯ รมควัน ของ อารักษ์ อาภากาศ แล้วรู้สึกยังไง
ก็เฉย ๆ มันก็ดีอะนะ ฟังแล้วก็อยากไปอยู่ต่างจังหวัด คือถ้ามีบ้านอย่างนั้นอยู่ (บ้านตากอากาศ) มันก็ดีน่ะสิ ทีนี้เราไม่มีก็ไม่ได้ไปอะสิ
ต้อง (25)
นักจัดดอกไม้ Oneday Wallflowers Oldtown
เป็นคนกรุงเทพ ฯ หรือเปล่า
เราก็เป็นคนลพบุรี แต่มาอยู่ที่นี่นานแล้ว เรียนมหาลัยในกรุงเทพ ฯ ก็ใช้ชีวิตเป็นคนกรุงเทพ ฯ มากขึ้นมานิดนึง (หัวเราะ)
ก่อนเข้ามากรุงเทพ ฯ เรานึกภาพมันไว้ยังไง แล้วพอเข้ามามันเหมือนหรือต่างจากที่คิดไว้ยังไง
ตอนเข้ามาใหม่ ๆ ก็ยังเด็กอยู่ จำได้ว่าไม่ได้รู้สึก culture shocked มาก แค่มันมีอะไรเยอะกว่าต่างจังหวัดเท่านั้นเอง มันมีห้าง มีที่สำหรับให้เด็กเล่น ก็สนุก พอโตขึ้นก็ยังชอบกรุงเทพ ฯ นะ แต่รู้สึกว่าก็ชอบต่างจังหวัดเหมือนกัน มันจะได้อีกมู้ดนึง
ไม่ชอบอะไรในกรุงเทพ ฯ
การเดินทางมั้ง ส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตแบบ สมมติทำงาน 8 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางไป-กลับบ้าน 2 ชั่วโมง มันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลังงานของเราในหนึ่งวันหมดไป ลองนึกภาพเราทำงานออฟฟิศ ไม่ได้ทำงานร้านดอกไม้ ก็คงจะเหนื่อยมากกว่านี้ แต่ก็ยังดีที่สิ่งที่เรามาอยู่ มาใช้ชีวิตนาน ๆ มันโอเค แบตมันก็ไม่ได้หมดเยอะมาก เพราะมันก็ชาร์จแบตเรื่อย ๆ ตอนที่ทำงานเพราะมันเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ชอบด้วย รวม ๆ ก็แค่ไม่ชอบเรื่องรถติดค่ะ
ปกติตอนนั่งรถชอบฟังเพลงไหม แล้วชอบเพลงแนวไหน
ก็ฟังบ้าง ชอบ r&b จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแนวชัดเจน แต่ช่วงนี้ก็ฟังเกาหลีนิดนึง พวก DEAN แล้วก็ฟังเพลงที่เปิดในร้าน (หัวเราะ)
คนเราจะฟังเพลงกันไปทำไม
ก็เพื่อให้มันไม่เงียบเกินไปมั้ง บางคนชอบเงียบ ๆ จะได้มีสมาธิ แต่บางคนก็ต้องการเสียงนิดนึงเพื่อให้มันคงที่
พูดถึงกรุงเทพ ฯ จะนึกถึงเพลงอะไร
EDM มั้ง ปวดหัวดี มันมีหลายอย่างแจมกันตลอด สั่นประสาท
ลองฟัง อพาร์ตเมนต์คุณป้า เพลง Bangkok Love Story แล้วรู้สึกยังไง
นี่ฟังครั้งแรกเลยจับใจความไม่ค่อยได้ แต่เป็นเรื่องดาว เรื่องจักรวาล ใช่ไหม ก็แปลกใหม่ดี เป็นแนวที่ไม่เคยฟังเลย ฟังแล้วรู้สึกว่ารอบข้างมันเร็ว ๆ ไม่รู้อะ วืด ๆ เหมือนเขาพยายามเล่าเรื่องอะไรสักอย่างแต่รอบข้างวุ่นวายนิดนึง
ร้านเปิดมานานหรือยัง
ประมาณ 2 ปีค่ะ แยกมาจากสุขุมวิท 26 อันนี้มาเปิดหลังจากตรงนั้นประมาณปีนึง แล้วก็ปิดตรงนั้นไป เหลือสาขานี้ แล้วก็จะมีอีกร้านอยู่ที่ Warehouse 30 เจริญกรุง แต่ตรงนั้นจะไม่มีดอกไม้สด เป็นแจกัน เป็นต้นไม้ปลอม ดอกไม้แห้งนิดหน่อย
ทำไมถึงมาทำงานจัดดอกไม้
พนักงานส่วนใหญ่ที่มาสมัครที่นี่คือเบื้องต้นชอบตัวร้าน แล้วก็รู้สึกว่าถ้าได้ทำงานที่นี่ ในบรรยากาศแบบนี้ก็น่าจะดีนะ เบื้องต้นไม่มีใครมีพื้นฐานในการจัดดอกไม้มาก่อนเลย พี่เจ้าของร้านเขาก็จะเป็นคนเทรนให้แต่แรก เราก็ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ น้องหลายคนไม่ใช่คนกรุงเทพ ฯ เลย เป็นเด็กต่างจังหวัดลุย ๆ หน่อย พอมาเรียนกรุงเทพ ฯ ก็หางานพิเศษทำ เริ่มจากเป็นพาร์ตไทม์ก่อน หาเวลาว่างหลังเลิกเรียนมาทำ ไม่ก็ช่วงเสาร์อาทิตย์ ทำไปทำมาก็ชอบ พอเรียนจบก็มาสมัครฟูลไทม์ เราเองก็ชอบดอกไม้ที่มันแปลกตา ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นดอกไม้แบบนี้จากร้านอื่น เลยอยากทำงานที่นี่
ถ้าไม่จัดดอกไม้คิดว่าจะไปทำอะไร
วันนึงคงมีกิจการเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็อยากเปิดร้านดอกไม้นะ มานี่ก็ซึมซับวิธีการ ระบบ อะไรไปด้วย เผื่อมีทุนพอ หลาย ๆ อย่างพร้อม จะได้เป็นเจ้าของกิจการบ้าง ก็คงเดินเที่ยว ใช้เงิน (หัวเราะ)
สมมติทำงาน 8 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางไป-กลับบ้าน 2 ชั่วโมง มันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลังงานของเราในหนึ่งวันหมดไป
พี่สุนทร (60)
ค้าขาย
ปกติฟังเพลงประมาณไหน
ผมฟังลูกทุ่ง ชอบ เอกชัย ศรีวิชัย ผมคนใต้ (หัวเราะ) มาจากจังหวัดตรังครับ แล้วก็ชอบ มนต์แคน แก่นคูน
ฟังเพลง Neuter Lover – Bangkok Sky แล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ฟังแล้วไม่รู้สึกอะไร ก็เป็นดนตรีแต๊วแหน่ว ๆๆๆ ไปเรื่อย ๆ เหมือนเป็นเพลงบรรเลงอย่างเดียวไม่ได้เล่าเรื่องหรือบรรยายอารมณ์เท่าไหร่ ไม่ได้ถ่ายทอดอะไร แล้วบอกไม่ได้ว่าคือแนวไหน เหมาะจะฟังในผับในบาร์ จิบเบียร์กินเหล้าฟังเพลิน ๆ มากกว่า แต่ตอนนี้เลิกหมดแล้ว
ทำไมถึงเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ ฯ
ก็ไม่รู้นะ เห็นเขาเข้ามากันผมก็ตาม ๆ มา หลายปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2519 ตอนนั้นอายุ 19 ตอนนี้ก็ 40 ปีแล้วครับ มาเล่นกลอยู่ที่วงเวียน 22 เยาวราชเนี่ย แล้วก็ไปเล่นที่สนามหลวงบ้าง สมัยก่อนมันมีเล่นกลตามเวทีตลกต่าง ๆ พอไปเล่นซ้ำ ๆ เขาก็ไม่อยากจะจ้างเราเล่นแล้ว ตอนหลังธุรกิจคาเฟ่ก็เริ่มซบเซา พอได้รายได้น้อยเราก็เลิกเพราะเราใช้อุปกรณ์ราคาแพงไง ระหว่างนั้นก็เปลี่ยนมาขายของ ขายที่สนามหลวง มาหยุดตอนในหลวงเสีย… ผมเคยไปถ่าย mv ของคาราบาวด้วย เพลงล่องใต้ ผมก็พ่นไฟเล่นมายากล อันนั้นก็หลายปีมาแล้ว เคยเล่นหนังด้วยนะ เล่น ‘สุริโยทัย’ เป็นเรื่องสุดท้าย พรรคพวกจากที่ผมเล่นกลชวนไป ก็ไปเล่นเป็นตัวประกอบ เป็นทหาร
มุขไหนที่เล่นแล้วคนชอบที่สุด
โยนห่วงครับ
ก่อนเข้ามากรุงเทพ ฯ ทำอาชีพอะไรมาก่อน
จบ ป.4 ผมก็มาอยู่ร้านถ่ายรูป เป็นพวกล้างฟิล์ม สมัยก่อนเป็นฟิล์มขาวดำ แต่ทีนี้พอมีรูปสีเราก็ทำรูปสี แต่งฟิล์มทำฟิล์ม ตอนหลังก็เลิก แล้วมาเล่นกล
ทำไมไม่ทำร้านถ่ายรูปต่อ
พอยุคหลังมันไม่ได้แล้ว คนมาใช้กล้องดิจิทัล พอมาเล่นกลก็เล่นได้ไม่นาน ทุกอย่างมันก็หมดยุคของมันไปตามกาลเวลา
ภาพกรุงเทพ ฯ ในจินตนาการก่อนที่จะย้ายเข้ามา กับตอนที่มาเจอจริง ๆ แล้วเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง
มันก็ไม่ต่างนะ เราอยู่บ้านไม่มีงานทำ กรีดยาง แค่นั้น สู้เรามาหาประสบการณ์ดีกว่า ขายนั่นขายนี่ไปเรื่อยเปื่อย ของเด็กเล่น เสื้อผ้ามือสอง เลิกนั่นมาขายนี่ ขายนี่เปลี่ยนไปขายนั่น อยู่ไม่ค่อยเป็นที่ไงสมัยก่อน อยู่ ๆ ก็ไปมาเลย์ ไปสิงคโปร์ ไปเขมร เวียดนาม พม่า ลาว ไปเหนือ ไปใต้ ไปทั่ว เพื่อนชวนก็ไป ไปรถไฟอย่างเดียว ส่วนมากไปเดือนสองเดือนก็กลับ เราไปหาดูสินค้าว่าตัวไหนพอจะขายได้ สมัยก่อนผมขายเสื้อหนัง ผมเป็นคนแรกที่เอามาจากเขมร เวลาจะไปตอนนั้นก็ลำบาก มันยังไม่มีคนมาขายตามชายแดนหรอก ต้องไปพร้อมรถ UN เพราะมันมียิงกัน ปล้นกัน ก่อนข้ามแดนก็ต้องเสีย 700 พอถึงเราก็จ้างแท็กซี่จากปอยเปตต่อไปอีก 3,000 เข้าไปถึงเมืองหลวงมัน แต่มันไปไม่ถึงทีเดียว จะไปจอดให้เรานอนพระตะบอง (บัตฎ็อมบอง) คืนนึง ค่าโรงแรมมันคิดเป็นเงินดอล แต่ตกอยู่ 1,500 บาทแหละ พอเข้าไปถึงพนมเปญก็คิดคืนละ 1,500 เหมือนกัน อยู่ได้ 7 วัน แล้วเราขนเสื้อหนังออกมาได้ไม่มาก ประมาณ 200 ตัว เพราะมันเป็นรถเก๋งอะเนาะ แล้วเอามาส่งจตุจักร พอมาตอนหลังมันก็ขึ้นราคาเราทุกเที่ยว เราซื้อมันตั้งแต่ตัวละ 150 พอไปอีกเที่ยวขึ้นเป็น 200, 300 ขึ้นจนถึงตัวละ 600 หรือพอมาส่งพวกจตุจักรมันก็รู้ว่าเราไปเอามาจากไหน พวกทุนเยอะมันก็เอาเงินที่มีไปอัดให้ที่พนมเปญ เช่าบ้านให้คนอยู่ แล้วพอมีของเข้ามาก็ให้พวกนั้นซื้อไว้หมดเลย เราไปซื้อก็เหมือนโดนกดราคา ผมดูแล้วไม่คุ้มผมก็เลิก
แล้วทำไมถึงเลือกขายเซ็กซ์ทอย
ผมก็เลือกขายนั่นขายนี่ ขายไปเรื่อย คือผมไม่ได้ยึดอาชีพนี้เป็นหลัก แฟนผมเป็นคนจีนก็ปลูกฝังนิสัยแบบคนจีนคือตื่นเช้า จะกลับมานอนอีกก็ได้แต่ให้ตื่นก่อน ผมตื่นตี 4 ไปตลาดนี่ผมไม่ได้ไปซื้อกับข้าวนะ ไปดูสินค้า หาลู่ทางว่าอะไรพอจะขายได้ กระเป๋าบ้าง แว่นตาบ้าง อะไรพอเลี้ยงครอบครัวได้ก็ทำ เห็นตรงนี้มะนาวขายถูก ลูกละบาท เราจะไปดูว่าตรงนู้นขายเท่าไหร่ ถ้าสมมติขายบาทห้าสิบ มันขายได้กำไรกว่าก็จะซื้อจากตรงนู้นมาขายตรงนี้ ไม่ขายยาเสพติดอย่างเดียวก็พอ ไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเสียหายเดือดร้อน เป็นอันใช้ได้ สังคมเขาจะมองเราว่ายังไงก็ตาม แก่แล้วทำตัวให้เป็นประโยชน์ แต่ตอนนี้ผมมานั่งเล่น ๆ กับเพื่อนอย่างนี้ เดี๋ยวพอหมดงานในหลวงอะไรต่าง ๆ ก็กลับไปขายของอยู่สนามหลวงอีก
ชีวิตในกรุงเทพ ฯ เป็นอย่างที่เราคิดไหม
ไม่ครับ มันก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิดเป็นปกตินั่นแหละ ทุกอย่างคนเราคิดอะไรไว้มันไม่ได้ดังหวังทุกอย่างหรอก
ชอบหรือไม่ชอบอะไรในกรุงเทพ ฯ
ไม่ชอบรถติด อยากให้รถไม่ติดแค่นั้นแหละ ก็ใช้ได้ ไปไหนสะดวกสบาย อย่างอื่นจะเปลี่ยนแปลงอะไร ที่มากที่สุดก็อยากเปลี่ยนนักการเมือง ใคร ๆ ก็อยากอยู่ที่สบาย ๆ ดี ๆ ไม่โกงกิน ทีนี้สังคมเราเดี๋ยวนี้มันเหมือนกันหมด ที่บอกว่าปราบโกง โห เดี๋ยวนี้ เราตายไปสักสิบชาติก็ไม่มีโอกาสหรอก มันติดสันดานมาแล้ว ไม่มีทางแก้ไข เธอว่าไหม
จะกลับไปตรังไหม
ไม่ครับ ผมก็ไป ๆ มา ๆ กรุงเทพ ฯ อยู่บ้านเช่าสามสี่เดือนผมก็ไปบ้านบึง ชลบุรี บ้านแฟนอยู่นู่น อยู่สักอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วก็กลับมานี่เพราะอาชีพเราอยู่นี่
มีที่ไหนอยากไปอยู่เป็นพิเศษไหม
ไม่มีอะครับ ชีวิตก็อย่างนี้ อายุมากแล้วก็อยู่ ๆ ไปอย่างนั้น เดี๋ยวก็หมดเวลาแล้ว
เรื่องราวของประชากรกรุงเทพ ฯ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตาม ลงพื้นที่ ในตอนหน้าว่าเราจะพาไปเจอแง่มุมของเพื่อนร่วมเมืองที่ย่านไหน ประกอบอาชีพอะไร และดนตรีมีบทบาทในชีวิตแต่ละวันของพวกเขามากน้อยขนาดไหน เร็ว ๆ นี้