Zweed n’ Roll ช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ใช้ดนตรีบำบัดความรู้สึกอัดอั้นในใจ
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayot
นับตั้งแต่เพลง ธันวาคม Zweed n’ Roll ถือเป็นวงดนตรีไม่กี่วงที่เราเฝ้าติดตามผลงานอย่างสม่ำเสมอเพราะตัวดนตรีที่น่าสนใจ เสียงร้องที่มีเสน่ห์ และเนื้อเพลงที่งดงามระคนหม่นเศร้า จนล่าสุดได้ปล่อยงานชื่อ ช่วงเวลา เพลงสุดรวดร้าวที่ฟังหนแรกก็ต้องกดฟังซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้งให้จมลึกให้ถึงที่สุด และตอนนี้เราจะมาคุยกับพวกเขากันว่า ช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
สมาชิก
พัด—สุทธิภัทร สุทธิวาณิช (ร้องนำ)
นิว—นิติ นิติยารมย์ (เบส)
ปูน—ณัฐพัชร์ สมิตนุกูลกิจ (กีตาร์)
มิน—ณัฐกร ศิลวัฒน์ (กีตาร์)
ทัน—ธรรม์ ดำรงรัตน์ (กลอง)
จากวันแรกที่ปล่อยเพลง ธันวาคม มาจนถึงวันนี้ Zweed n’ Roll มีความเปลี่ยนแปลงทั้งกับตัวเองและการทำงานเพลงยังไงบ้าง
นิว: พอชีวิตผ่านอะไรมาเรื่อย ๆ มันก็จะเหลือไม่กี่อย่าง Zweed n’ Roll ก็เป็นอย่างนึงที่เราคิดว่ามันจะอยู่กับเราไปเรื่อย ๆ ก็เลยต้องมาจริงจังกับมันมากขึ้นหน่อย
พัด: น่าจะเป็นวิธีการทำงานที่จริงจังขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น เมื่อก่อนเรียนกันอยู่ด้วยก็เลยติดชิล
เลยทำให้ Zweed n’ Roll ปล่อยเพลงช้าด้วยหรือเปล่า
นิว: ก็ส่วนนึงครับ เราอยากทำให้งานมันดีที่สุดด้วย อีกส่วนนึงคือเราก็ไม่ได้เร่งมันขนาดนั้น เราไม่มีเดดไลน์ทุกอย่างมันก็เลยช้า หลังจบมหาลัยเวลาของแต่ละคนก็ไม่ค่อยตรงกันด้วย
เป้าหมายตอนที่ทำ Zweed n’ Roll ในตอนแรกกับตอนนี้ยังเหมือนเดิมไหม
นิว: เราไม่ได้คิดว่าจะทำเพลงกันด้วยซ้ำครับ เริ่มมาจากว่าเราไม่ได้มีเงินกันทุกคนเนอะ เรียนมหาลัยก็อยากเล่นดนตรีกลางคืนหาตังค์เท่านั้น แต่แล้วก็อยากเล่นแนวเพลงที่ชอบอีก ก็เลยไปลองหาร้านที่เขาจะรับเรา พอได้ไปเล่นพี่เจ้าของร้านเขา ก็คือพี่โบ๊ต Play Yard แหละครับ เหมือนสัมผัสอะไรบางอย่างในตัวของวงได้ แล้วอยากให้ทำให้มันชัดกว่านี้ เขาก็ให้คำแนะนำมาว่า ลองลงคลิปคัฟเวอร์ชัด ๆ ไหม ให้วงมีตัวตนขึ้นมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นทำให้โกลเราเริ่มเบนไปนิดนึง จากที่เล่นกลางคืนก็มาเล่นเฉพาะทาง พอเล่นเฉพาะทางเราก็มาทำให้มันชัดขึ้นอีก เริ่มจากคัฟเวอร์เพลงพี่อรอรีย์ กับของ The Cranberries เป็นสองคลิปแรกที่ปล่อย ตอนนั้นพัดก็แต่งเพลงพอดี ทุกคนได้ฟังเพลงของพัดในเฟซบุ๊ก เป็นพัดเล่นคนเดียว เพลงธันวาคมเนี่ยแหละครับ ก็เลยบอกพัดว่าเอาเพลงนี้มาทำกับวงดูไหม ก็เลยได้มีเพลงนี้เป็นแรกของวง ก็ไปปล่อย Cat Radio ช่วง Bedroom Studio
ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเขียนเพลงขึ้นมา
พัด: แต่งให้แฟนเป็นของขวัญครบรอบหนึ่งปี
นิว: ธันวาคมเป็นเพลงรักนะครับ ไม่ใช่เพลงเลิกกัน (หัวเราะ)
บางวงก็เลือกที่จะทำเหมือนเดิมตลอด บางวงก็เลือกที่จะเปลี่ยนทุกอัลบั้ม อย่างผมก็ยกย่อง Radiohead ที่พยายามหาอะไรใหม่ตลอด แล้วถึงเราจะหาอะไรใหม่ ๆ แต่เราต้องไม่ลืมสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราเป็นด้วย — นิว
แล้วทำไมถึงทำดนตรีออกมาหม่น แทนที่จะสอดคล้องไปกับเนื้อหาของเพลง
นิว: ธันวาคมนี่เคยทำเป็นเวอร์ชันร็อกสาด ๆ เลยนะครับ แต่พอฟังไปฟังมาพัดก็บอกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เพลงจะสื่อสาร ก็เลย โอเค งั้นเรามาทำแบบฉบับเดิม ส่วนเรื่องโซโล่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับ
มิน: มันเกิดมาจากความสนใจมากกว่าว่าแต่ละคนฟังเพลงแบบไหน แล้วก็ได้อิทธิพลมา แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันดาร์ก
งั้นแต่ละคนฟังเพลงแบบไหน ช่วงนั้นกับช่วงนี้ยังฟังเหมือนเดิมไหม
ทัน: หลากหลายมาก ๆ ครับ ฟังวนไปวนมา ส่วนใหญ่จะติดพวกดั๊บ เร็กเก้ อิเล็กทรอนิกก็มีครับ บางทีก็มาร็อก อัลเทอร์เนทิฟบ้าง วนอยู่แค่นี้
มิน: ผมฟังเพลงไทยเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่เด็ก ชอบเนื้อเพลงที่เขียนดี ๆ พอเข้ามหาลัยหรือมาอยู่วงนี้ก็ได้รู้ว่าเขาฟังอะไรกันบ้าง แต่เหมือนเป็นคนเปิดรับหมดอยู่แล้ว อย่างทันฟังอิเล็กทรอนิกเยอะ ได้ฟัง oldies จากพัด ฟังฮิปฮอปจากนิว ผมก็รับมาหมด
ปูน: สมัยนั้นกับสมัยนี้ค่อนข้างเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้ฉีกมาก แล้วก็เปิดรับมากขึ้น แล้วก็คิดว่าที่วงฟังกันอยู่แล้วมีจุดเชื่อมกันน่าจะเป็นอัลเทอร์เนทิฟร็อกทั่วไปครับ แล้วก็ลึกไปถึงพวก Radiohead, The Cranberries ที่คิดว่าทั้งวงจะชอบเหมือนกัน ส่วนตัวผมก็ชอบแบบ Erlend Øye หรือพวกโฟล์กที่กีตาร์โปร่งเพราะ ๆ หนึบ ๆ ครับ
นิว: การฟังเพลงตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันเรื่อย ๆ ตามช่วงวัยครับ มัธยมก็เริ่มจาก Bodyslam แล้วเริ่มมาอพาร์ตเมนต์คุณป้า แล้วก็มา Slur แล้วก็ไปเจอฝั่งอังกฤษ ตอนนั้นรู้สึกมันวัยรุ่นดี ชอบ แล้วพอขึ้นมหาลัยก็ได้ฟังแจ๊ส คือเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้วก็เลยเปิดรับทุกแนว ผมว่าจะอินเป็นช่วงเวลามากกว่า บางช่วงชีวิตเราอินกับฮิปฮอป ดั๊บก็ฟัง แต่ชอบ Brit pop เพราะพอเล่นแล้วรู้สึกว่ามันมีอะไรที่เชื่อมพวกเรา
พัด: เราเริ่มชอบโอลดี้มาก่อนเพราะที่บ้านเปิดให้ฟังบ่อย ๆ พอเข้ามหาลัยก็ได้ฟังบริตป๊อปจากพวกปูน นิว แล้วก็ชอบ ก็ตามหาฟังเรื่อย ๆ แจ๊สก็ชอบ ไม่ชอบก็ต้องชอบ เพราะต้องเรียน (หัวเราะ) ส่วนใหญ่จะชอบเพลงที่เมโลดี้เพราะ ๆ ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่
การที่ชอบเมโลดี้เพราะส่งผลในการเขียนเพลงของ Zweed n’ Roll ด้วยหรือเปล่า ให้ความสำคัญกับเนื้อเพลงหรือเมโลดี้มากกว่ากัน หรือเท่า ๆ กัน
พัด: เราเน้นเมโลดี้มาก่อนแล้วค่อยแต่งเนื้อเพลงทีหลัง แต่ว่าส่วนใหญ่มันจะพอแต่งเมโลดี้แล้วมันชอบมีคีย์เวิร์ดมาพร้อม ๆ กันแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามันต้องเป็นเรื่องแบบนี้แหละ คือฟังดนตรีแล้วมันทำให้นึกถึงเรื่องแบบนี้
ใช้เกณฑ์อะไรตัดสินใจว่าจะเขียนเพลงนั้น ๆ ออกมาเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
นิว: เรื่องเนื้อเพลงหรือเมโลดี้หลัก ๆ จะเป็นพัดแล้วค่อยส่งมาถึงวงครับ
พัด: ถ้าแต่งเพลงไทยเราจะตั้งไว้เลยว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงไทย เพราะเหมือนว่าวิธีการคิดเมโลดี้จะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ ก็ไม่ได้กังวลว่าถ้าแต่งภาษาอังกฤษแล้วคนฟังจะฟังไม่รู้เรื่องหรือเปล่า เพราะเราทำเมโลดี้แบบฟังง่ายอยู่แล้ว
ทำไมถึงทำแต่เพลงช้า จะได้ฟังเพลงเร็วจากวงบ้างไหม
พัด: เราเป็นคนเริ่มแต่งเพลงแล้วเรามีสกิลเล่นกีตาร์แค่เท่านี้ มันเลยออกมาแบบช้า ๆ แต่เพลงเร็วก็พยายามให้ทุกคนช่วยกันเริ่มโครงมาก่อนแล้วค่อยให้เราแต่งเมโลดี้ ซึ่งก็อาจจะได้เพลงเร็ว
ปูน: จริง ๆ เพลงต่อไปที่จะปล่อยก็ค่อนข้างมีจังหวะนะครับ ตอนแรกเป็นพาร์ตที่ขึ้นมาช้า ๆ แต่เราก็จะอัพเทมโป้ให้เป็นเพลงเร็ว
นิว: สังเกตจากเล่นสดที่ผ่านมา บางทีเราก็โอเค แต่ก็กลัวคนดูจะรู้สึกว่ามันเนือยไปหรือเปล่า ก็เลยพยายามอัพจังหวะบางอย่าง อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากขึ้น ตอนนี้อัลบั้มก็ทำใกล้เสร็จแล้ว ก็มีเพลงเร็วสุดเพลงนึงที่น่าจะหนักสุดในอัลบั้ม
อัลบั้มเต็มมีกี่เพลง จะเป็นเพลงใหม่หมดเลยหรือเอาเพลงเก่ามารวมด้วย
มิน: ก็จะมีตั้งแต่เพลงแรกที่เราเริ่มทำ คือธันวาคม มาจนถึงเพลงล่าสุดที่เราทำเสร็จ ทั้งหมด 9 เพลงครับ
นิว: น่าจะได้ฟังกันกลางปีนะครับ เพราะวงเราก็หลายปีแล้ว น่าจะถึงเวลาที่ต้องปล่อยอัลบั้ม จริง ๆ เพลงที่อยู่ในอัลบั้มมันก็ค่อนข้างนานแล้วสำหรับวงเรา แต่บางคนก็ยังไม่ได้ฟัง เพราะไม่ได้อัด ไม่ได้ปล่อย ก็ยังมองถึงอัลบั้มต่อไปด้วยที่จะมี material ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอยากจะทำต่อ
ที่บอกว่ามี material จะไปใช้กับอัลบั้มใหม่ อยากรู้ว่าแนวดนตรีจะเปลี่ยนไปเลยหรือเปล่า แล้วการเปลี่ยนแนวดนตรีทุกครั้งเมื่อมีอัลบั้มใหม่เป็นเรื่องจำเป็นของศิลปินไหม เพื่อจะให้คนฟังรู้สึกตื่นเต้นกับทุกการกลับมา
นิว: มันก็แล้วแต่แนวคิดนะ บางวงก็เลือกที่จะทำเหมือนเดิมตลอด บางวงก็เลือกที่จะเปลี่ยนทุกอัลบั้ม อย่างผมก็ยกย่อง Radiohead ที่พยายามหาอะไรใหม่ตลอด แล้วถึงเราจะหาอะไรใหม่ ๆ แต่เราต้องไม่ลืมสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราเป็นด้วย
พัด: เราว่ากลิ่นมันอาจจะเป็นเหมือนเดิม แต่ที่คิดไว้คืออยากให้มีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยทำเพลงวัยรุ่นเท่าไหร่ (หัวเราะ) รีบแก่ไปหน่อย
ทัน: ผมว่ามันอยู่ที่การแจมด้วยครับ เพราะตอนนี้การฟังเพลงของแต่ละคนก็เปลี่ยนไปด้วย
จะบอกคนที่ไม่เคยฟัง Zweed n’ Roll ว่าเป็นวงแบบไหน
นิว: ล่าสุดผมไปเล่นงานปล่อยของที่ Play Yard แล้วเขาบอกว่าวงเราเป็นดาร์กป๊อป ก็เป็นคำที่น่าสนใจสำหรับผมนะ แต่ไม่แน่ใจว่าอธิบายได้หมดหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้เราใช้คำว่าอัลเทอร์เนทิฟแต่มันกว้างจริง ๆ เพราะเป็นดนตรีทางเลือก
พัด: บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คำว่าดาร์กสำหรับเรา มันไม่หม่นขนาดนั้น ก็เป็นบริตป๊อป แต่ไม่ได้ซ่าขนาดนั้น ก็นิ่ง ๆ เรียบ ๆ ประมาณนึง
ใช้เวลาการทำแต่ละเพลงนานที่สุดเท่าไหร่
พัด: น่าจะเป็นเพลงช่วงเวลาที่เพิ่งปล่อยออกมาใช้เวลานานที่สุด เพราะภาษาไทยมันค่อนข้างเขียนยาก ก็จะติดว่าท่อนนี้ยังไม่มีเนื้อเพลงที่สมบูรณ์สักที ก็เลยใช้เวลาคิดตรงนั้นเยอะ เพลงส่วนใหญ่เราใช้เวลาทำกันแปปเดียว ไม่นาน แต่การที่เราคิดจะทำอะ มันนาน (หัวเราะ)
นิว: จังหวะมันไม่ได้ไง ก่อนหน้านี้ที่เราจะมีเพลงใหม่แต่ละที เรามักจะต้องมีงานเล่น แบบ งานนี้เราจะต้องมีเพลงใหม่นะ เราถึงจะทำเสร็จ (หัวเราะ) งานนี้เปิดอัลบั้มคนนี้นะ เราต้องมีเพลงใหม่ ก็จะทำเสร็จ ต้องมีตัวกระตุ้น เหมือนจังหวะช่วงชีวิตวงทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว มันไม่ได้แบบต้องเสร็จทันที เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
มิน: อย่างว่าเราไม่มีคนดูแล เราทำกันเอง
แล้วอยากให้มีคนมาดูแลไหม
พัด: อยากด้วย ไม่อยากด้วย อยากให้มีคนมาคอยกระตุ้นเรา แต่ว่าถ้ามันมีคนเพิ่มมามันก็ต้องมีอีกความเห็นนึงเข้ามา มันก็ค่อนข้างจะยากสำหรับเรา
นิว: เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกันด้วยครับ เพราะเราจะทำอะไรประมาณนี้แหละ ตอนนี้เรามีอัลบั้มต้องทำให้เสร็จก่อน ไม่ค่อยจะมีเรื่องโน้นนี้นั้นเข้ามาให้ต้องคิด ทำทีละอย่างครับ
การกลับมาของวงกับเพลง ทุกช่วงเวลา มีกระแสตอบรับดีมาก รู้สึกยังไงที่แฟน ๆ ยังติดตามอยู่
ปูน: ก็รู้สึกดีมาก ๆ โล่งมาก ๆ เพราะความรู้สึกก่อนหน้านั้นมันอึดอัด เก็บกด (หัวเราะ) ความรออะครับ รอทุกสิ่งทุกอย่าง ความทรมาน คนฟังก็รอ เราก็รอจะปล่อยเพลง แล้วคิดว่าพอมันออกมา จะออกมาได้เหมือนกับที่ทุกคนรอคอยไหม แล้วพอกระแสมันโอเคเราก็รู้สึกดีครับ
ที่มาของเพลงมาจากอะไร
พัด: มันเหมือนเป็นความรักที่อยู่จุดนึงมันจะต้องมีปัญหา ถ้าให้พูดตรง ๆ คือเรื่องของเรา ทุกครั้งเวลาที่เรามีความรัก เราจะมีความรู้สึกอย่างนี้ โดนกระทำ เหมือนเราต้องวิ่งอยู่คนเดียว ก็เหนื่อยอะ ก็เลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อระบายความรู้สึกตัวเอง
ได้ เอ้ กุลจิรา มาเล่น mv ด้วย ทำไมต้องเป็นเอ้
พัด: เหมือนเราคุยกันว่าอยากได้นางเอกที่มีความดังระดับนึง มีคนรู้จัก ก็เลยเอาเอ้ละกัน เป็นเพื่อนกันด้วย ค่าจ้างน่าจะไม่แพงมาก (หัวเราะ)
การที่พัดไปประกวด The Voice ส่งผลกับวงยังไงบ้าง
พัด: คนก็รู้จักวงมากขึ้นนะ เหมือนเขาก็ตาม ๆ ในอินเทอร์เน็ตว่าเรามีวงนี้นะ มีเพลงนี้นะ ก็เข้ามาฟังกัน
ในบรรดาเพลงของ Zweed n’ Roll ธันวาคมเป็นเพลงที่เสียงร้องของพัดหวานที่สุด ต่างกับเพลงอื่น ๆ ที่หม่นหมดเลย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
พัด: เราว่าตอนนั้นมันเป็นเพลงแรกแล้วเรายังเด็กอยู่ เสียงเลยออกมาแบบนั้น ตอนนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว เราก็ฟังอะไร เจออะไรมาหลาย ๆ อย่างจนผสมกันมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นอีกโทนเสียงนึง
มิน: คือจะอัดร้องใหม่ก็ไม่ได้แบบนั้น เลยต้องใช้แบบนั้น เพราะพัดบอกว่าร้องแบบนั้นไม่ได้แล้ว (หัวเราะ)
แต่ละคนมีโปรเจกต์อื่น ๆ กันด้วย
ทัน: ก็ไปช่วยเล่น Whal & Dolph ครับ เขาอยู่กันสองคนอยู่แล้วแต่ผมไปแจมเฉย ๆ
มิน: มีช่วยเล่นให้พี่พุธ Wednesday ครับ
ปูน: เล่นกีตาร์ให้ Safeplanet ครับ
นิว: มีโปรเจกต์ชื่อ Shark Boys Alive ก็ยังป่วน ๆ กันอยู่ครับ ชีวิตแต่ละคนโลดโผน การเจอกันก็ทำให้ต้องเรื่อย ๆ ไปก่อน แล้วก็มีวงที่อยู่ Genie Records ชื่อ Rubber Duck ตอนนั้นประกวด Hotwave Music Awards ชื่อวง ดอกเบี้ยบานแบนด์ พอได้ที่หนึ่งก็ได้คุยกับทางแกรมมี่อยู่ตลอด ล่วงเลยจนถึงตอนนี้ก็เพิ่งได้ออกซิงเกิ้ลครับ
พัด: เล่นกลางคืนที่ Loyshy แล้วก็ไปช่วยร้องในเพลง Sunny Talk ของ Summer Dress พี่เต๊นท์ชวนไปร้อง แล้วก็ไปแจมกับ Solitude is Bliss ตอนคอนเสิร์ตของค่าย Minimal เพลง Lost in Jane ก็สนุกดี เป็นวงที่เล่นดี (หัวเราะ)
เวลาที่ไม่ได้ทำเพลงแต่ละคนมีกิจกรรมหรือกิจการอะไรบ้าง
ทัน: ไม่ได้ทำเพลงก็เล่นเกมครับ PlayerUnknown’s Battlegrounds (PUBG) แล้วก็สนใจพวกดีเจมีเครื่องมิกซ์เล่นที่บ้าน อยากไปเปิดเหมือนกันแต่ช่วงนี้ต้องยุ่งกับกลองก็เลยไม่มีเงินไปลงกับตรงนั้น เลยขอวางไว้ก่อน
มิน: ก็หาช่องทางทำมาหากิน (หัวเราะ) ช่วงนี้ก็ไปทำกาแฟที่ Good Space ครับ
ปูน: เราก็สนใจด้านถ่าย ๆ อยู่แล้ว ก็มีไปตามสนามแข่งม้า มีโปรเจกต์เล็ก ๆ กับเพื่อนถ่ายสารคดีเกี่ยวกับม้าแข่งตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วโตมาเป็นม้าแข่ง ไปศึกษาม้า ดูเขาแข่ง ลงตังค์บ้าง (หัวเราะ)
นิว: วุ่นอยู่กับสามวงที่มีอยู่ก็แล้วแต่จังหวะไปทำ ถ้าว่างจริง ๆ ก็ดู Netflix ครับ
พัด: นอนค่ะ ก็ไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่เพราะเล่นดนตรีกลางคืน แล้วก็ดูหนัง
มีแพลนจะทำอะไรต่อ
นิว: หลังจากที่ปล่อยเพลง ช่วงเวลา ไปก็เริ่มมีงานมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ไม่มีงานเลย ช่วงนี้ก็น่าจะออกไปเล่นสด ไปเจอแฟนเพลงใหม่ ๆ แล้วก็แฟนเพลงเก่า ๆ ที่รออยู่มากขึ้นครับ ก็ถ้าอัลบั้มเสร็จก็คงเตรียมเรื่องโชว์แล้วก็ทำอัลบั้มต่อไป ต้องทำอัลบั้มให้เสร็จก่อน
เร็ว ๆ นี้จะมีงานเล่นที่ไหนบ้าง
พัด: วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้มีงาน Art Ground ที่ Jam Factory คลองสาน แล้วก็ 17 กุมภาพันธ์ที่มะขวิด ป่าละอู หัวหินค่ะ
ฝากผลงาน
พัด: ก็ขอฝากเพลงนี้ไว้ด้วยนะคะ ตั้งใจทำให้ทุกคนฟังง่ายขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น แล้วก็เนื้อหาเพลงเราเป็นคนนึงที่ทำเพลงมาเพื่อระบายสิ่งที่ไม่ดีหรือรู้สึกแย่ออกไป ก็อยากให้คนฟังอย่าไปจมกับมัน คิดซะว่าเป็นการระบายเหมือนกับเรา ให้ฟังแล้วรู้สึกว่ามีเราที่รู้สึกเหมือนกัน เรายังอยู่ด้วยกัน ไม่ได้เฟลคนเดียว
ติดตามพวกเขาได้ที่เพจ zweednrollband