คุยกับ Xueiyuan ผู้ปลุกดนตรี R&B ให้ซู่ซ่าในซีนดนตรีไต้หวัน จนได้อยู่ใน Cinema Sessions
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Photographer: CINEMA SESSION
- Art Director: Karin Lertchaiprasert
เสียงเพลงของ David Tao เจ้าพ่อแห่งวงการเพลงป๊อปของไต้หวันเป็นแบ็คกราวด์ในสตูดิโอช่วงบ่ายคล้อยวันนี้ โดยวง Xueiyuan เป็นคนคัดสรรเพลงในวันนี้ด้วยตัวเอง กลิ่นอายของดนตรี r&b แสนโรแมนติกในเพลงนี้เติมบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายท่วมใบหู และทำให้นึกถึงงานของพวกเขาที่ปล่อยออกมาเมื่อปีที่แล้ว Wind Blowing ที่สามารถเรียกร้องความสนใจจากทุกคนในซีนดนตรีนอกกระแสได้ทันที
น่าเสียดายที่ชื่อวง Xueiyuan ไม่ได้มีที่มาจากนางแบบญี่ปุ่นชื่อดัง Kiko Mizuhara (ในภาษาจีนชื่อของเธอออกเสียงคล้ายกัน) แต่ชื่อวงมาจากชื่อถนนแห่งหนึ่งในไทเปเป็นที่ตั้งสตูดิโอของพวกเขาเอง วงเพิ่งก่อตั้งเพียงปีเดียว ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่มาก ๆ ในซีนนี้ และยังมีอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อย แต่คนรุ่นใหม่ย่อมมาพร้อมพลังที่ทำให้วงการเพลงนอกกระแสสะท้านได้ทุกครั้ง อย่างวงนี้ก็เป็นสมาชิกจากหลาย ๆ วงมารวมตัวกันทั้ง Bacbeth, Wake Up! Explosion และ Boycany แต่ Xueiyuan ก็มีแนวทางดนตรีที่แตกต่างจากวงก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง รสนิยมและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเกินตัวไปมาก จนทำให้ดนตรีของพวกเขากลายเป็นเทรนด์ใหม่ในไต้หวันทันที
“พวกเรามีสตูดิโอบนถนนสุ่ยหยวน พวกเรามันจะไปนั่งเล่นกันที่นั่นต่อให้ทุกคนจะมีวงของตัวเองก็ตาม และรวมกลุ่มกันเล่นดนตรีขำ ๆ เลยทำให้เกิดวง Xueiyuan ขึ้นมา” Howie มือกีตาร์ของวงเหล่าให้เราฟัง เขายังอยู่วง Bacbeth อีกด้วย “พวกเราส่วนใหญ่จะเล่นแนวร็อก พอ L8ching หันไปสนใจ R&B ทำให้พวกเราทำเพลงกันได้โดยที่ไม่ต้องคิดมาก จับเล็กผสมน้อยเทคนิกทั้งหลายที่เรามีจนกลายเป็นพวกเราในตอนนี้”
มือกลอง L8ching เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ไม่นานนี้ เขาและ Howie ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tom Misch ทำให้พวกเขาตัดสินใจชวนเพื่อน ๆ มาฟอร์มวงและเขียนเพลงถึงสามเพลงได้ภายในเวลา 4 วัน หลังจากนั้นสองเดือน mv Wind Blowing และ Corny ก็ถูกปล่อยลง YouTube
ใน mv เราจะได้เห็น L8ching ขับรถจากเหนือลงใต้บนถนน Chungshan North Sec.7 ตอนเช้าตรู่ ระหว่างขับรถเขาผ่านถนนแถว Tienmu โรงเรียน Taipei American ห้างต่าง ๆ และ Zhishanyan ก่อนจะหยุดที่สะพาน Waishuangxi ไม่ว่าจะเป็น mv หรือดนตรีของ Xueiyuan เองก็ดึงบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ของไทเปมาถ่ายทอดได้งดงามและรู้สึกได้ว่าพวกเขาเติบโตขึ้นที่นี่จริง ๆ Howie บอกว่า “เพลงที่ทุกคนทำมักจะบอกได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมาจากที่ไหน เพราะวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และทัศนคติจะอยู่ในเนื้อเพลงเหล่านั้น”
นอกจาก Wind Blowing พวกเขายังเตรียมตัวอัดเพลง Do You Have Time อีกเพลง เพลงนี้แต่งโดย Wei-Kai มือกีตาร์ของวงที่ใส่สไตล์แจ๊สแร็ปลงไปด้วย เขาเคยเล่นอยู่ในวงการาจอย่าง Wake Up! Explosion “ผมคิดว่า Xueiyuan ที่เอกลักษณ์ที่ชัดเจนมาก ทุกคนชอบไม่เหมือนกัน วงของเราเลยไม่ติดอยู่กับภาพลักษณ์ใด ๆ เลย” Red มือกีตาร์อีกคนจากวง Boycany เสริมว่า “จุดเชื่อมโยงเดียวของพวกเราคือ David Tao” ระหว่างพัก ทุกคนก็มารำลึกความหลังถึงความหลงใหลในเสียงดนตรีที่มาจากนักดนตรีคลาสสิกป๊อปคนนี้ และเปิดเพลงเขาจากมือถือทันที
ต้องยอมรับว่าเพลงของคนผิวดำมีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงไต้หวันหลายวงมาก นอกจาก Xueiyuan แล้วก็ยังมีวงชื่อดังอีกมากมายทั้ง Linion และ YELLOW หรือ Angry Youth ที่ใส่จิตวิญญาณของพังก์ลงไปผสมกับดนตรีแจ๊สได้ลงตัว พวกเขาสร้างดนตรีใหม่ ๆ ให้กับซีน แถมยังได้ผลตอบรับแง่บวกจากแฟน ๆ อีกด้วย
Alulu เจ้าของโปรเจกต์ Cinema Sessions พูดว่า “เพลงของ Xueiyuan ทำให้คนฟังผ่อนคลาย” เธอเลยทดลองบรรยากาศใหม่ ๆ ให้กับสไตล์ของวง โดยเลือกใช้แสงโทนอุ่น ๆ ที่อยู่ระหว่างกลางวันกับกลางคืน ซึ่งออกมาน่าทึ่งอยู่เหมือนกัน สังเกตว่าเราแอบใส่หุ่นไซเบอร์พังก์ลงไปที่บอร์ดของวงด้วย มันคือหุ่นยนต์สาวในจินตนาการของ Andy Baker ชื่อว่า Vicky เพราะทุกคนในวงเป็นผู้ชาย เขาเลยอยากใส่ความเฟมินินลงไปในห้องนี้บ้าง
เพลงของ Xueiyuan อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนสายน้ำไหลผ่านหูไป อาจจะสงบและซึม ๆ ไปบ้างเป็นส่วนใหญ่ แต่ในส่วนของดนตรีพวกเขาใส่รายละเอียดลงไปเยอะมาก เหมือนที่พวกเขาถ่าย Wind Blowing ไปถึง 10 เทค
บทความใกล้เคียง
ตามมาชมเบื้องหลังดนตรีป๊อปพังก์อันเดือดดาลของ Angry Youth ใน Cinema Sessions
การเติบโตอันงดงามและเบื้องหลังการทำเพลงของ The Fur. ก่อนไปชม Cinema Sessions
Cinema Sessions ส่งตรงวงไต้หวันสุดเจ๋ง ผ่านโชว์สุดเนี้ยบในสตูดิโอโรงหนังเก่า