ร่วม CRY ไปกับ The Yers และฟ้าฝนในคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม CRY Secret Session
- Writer: Malaivee Swangpol
- Photographer: Genie Records
หลังจาก The Yers ทยอยปล่อยซิงเกิ้ลจากอัลบั้ม CRY มาหลายเพลง ไล่ตั้งแต่ พายุหมุน, เกลียด และ เสียง จนวันนี้เราได้รับฟังอัลบั้มนี้แบบเต็ม ๆ 9 เพลงเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงคิวของงานคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม CRY งานอะคูสติคล้วน ๆ แสนอบอุ่นที่จัดขึ้นท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำที่ About Studio ซึ่งตลอดงานเราก็ได้ดู The Yers ฉบับชิว ๆ ในห้องนอนของอู๋ (บนเวที) ไปพร้อม ๆ กับมองดูสายฝนที่ไหลลงมาจากหลังคากระจก ก็เป็นบรรยากาศที่แปลกไปอีกแบบ
เรามาถึงตอนเพลงที่ 3 คิดเอาเอง กำลังจะจบ เนื่องจากความไม่ชินพื้นที่แถวนั้นทำให้ไปถึงช้า ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วย แล้วเพลงต่อไปก็เป็น แอบรอ ที่ตอนจบเพลง อู๋ เล่าให้ฟังกันว่า “พยามนึกชื่ออัลบั้มที่มีตัว y แล้วนึกชื่อ CRY ได้ตอนอาบน้ำ” ทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะ “ชีวิตมีช่วงดาวน์มาก ๆ จนเกิดเพลงต่อไป mv เพลงนั้นเป็นเพลงที่ผมไม่เคยกลับไปดูเลย ดูอีกไม่ได้เลย ทั้งที่มีแค่พี่ตาร์ Barbies กับแนนโน๊ะ (คิตตี้ ชิชา) เป็นแฟนกัน คือผมเอาภาพมาผูกกับเรื่องตัวเองแล้วมันรุนแรงมาก เป็นเพลงที่เจ็บปวดสุดตั้งแต่เคยเขียนเพลงมา” แล้วเพลง พายุหมุน ก็ดังขึ้น กับเสียง md เครื่องสายเพราะ ๆ ที่ทำให้บรรยากาศหม่น ๆ ของเพลงนี้ออกมาดูอบอุ่นกว่าที่เคยเป็น
“ช่วงที่เราเสียใจมาก ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นอีก” อู๋เล่าหลังจากจบเพลง “เพลงต่อไปคือผมพูดออกมาจริง ๆ ณ โมเมนต์นั้น คือผมเป็นคนที่พูดออกไปแล้วคนไม่ค่อยเชื่อ เอาจริง ๆ คือน้อยใจมาก ๆ ณ ตอนที่เขียน รู้สึกว่าทำไมไม่มีคนได้ยินเลย จนมันออกมาเป็นเพลงต่อไป แต่สุดท้ายแล้วเรานึกได้ว่ามีคนคนนึงที่รับฟังมาตลอด และเสียงของเค้าก็เป็นแรงผลักดัน แรงจูงใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยเขียนเพลงให้เค้ามาก่อน เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เขียนให้เขา ขอให้ไม่ต้องปรบมือนะครับ (หัวเราะ)” แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอยู่ดี ฮา “เค้าคือผู้จัดการวงของ The Yers ครับ แฟนผมเองครับ” เสียงคนดูร่วมใจกันกรี๊ดแซว “นอกจากความหมายที่จะมอบให้เขา อีกความหมายที่แทรกไว้คือ ครอบครัวที่เลี้ยงเรามาจนเติบโต แล้วก็แฟนเพลงที่ทำให้ The Yers ยังเดินหน้าตอนไป ตอนนี้ทั้งสามเสียง อยู่ในสถานที่นี่หมดแล้ว ขอมอบเพลงนี้ให้ทุกคนครับ” ตั้งแต่เริ่มเพลง เสียง แฟนคลับก็พร้อมใจเอามือถือออกมาเปิดไฟฉายแล้วโบก เป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่มีการเปิดเสียงคอรัสเพิ่มด้วย ทำให้ยิ่งรู้สึกซึ้งเข้าไปกับเพลงมากขึ้น
จบเพลง โบ๊ตก็แซวอู๋ซักเล็กน้อยที่มาสวีทกลางงาน ก่อนอู๋จะพูดแบบเกรง ๆ ธรรมชาติว่า “พายุหมุนเล่นไปแล้ว ฝนอย่าตกหนัก ถ้าตกมันจะได้ยินเสียงเป๊าะแป๊ะ ๆ” ก่อนจะซึ้งต่อสักเล็กน้อย “ตั้งใจอย่างยิ่งที่จะมอบเพลงเมื่อกี้ให้คนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต แต่รู้สึกแปลก ๆ ว่าไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหน งั้นผมจะส่งความรักไปหลังเวที ไปที่ชั้นบน ซึ่งสมาชิกครอบครัวของ The Yers นั่งอยู่” แล้วอู๋ก็เล่าให้เราฟังต่อว่า “เพลงต่อไปเป็นตัวละครเดียวกัน คือผมไม่ชอบไอ้หมอนี่เลย มันทำกับผมไว้แสบมาก อาวุธอย่างเดียวที่คนเล่นดนตรีจะทำได้ก็คือปากกา คือเราจะทำยังไงให้เค้ารู้ ผมไม่เคยเกลียดใครมามากเท่านี้ เลยอยากจะเขียนเพลงนี้บอกว่า แค่คนคนเดียวมันทำอะไรกูไม่ได้หรอก พอเขียนเสร็จก็สะใจมาก เพลงนี้ไม่ใช่แค่บ่นแต่เป็นการเชื่อมโยง คือเป็นแค่ตัวเราเองที่ลืมเค้าไม่ได้ เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบแล้วมีความสุขมากที่ได้เขียน” ก่อนเสียงฟ้าผ่าและ เกลียด จะดังขึ้นในช่วงไล่เลี่ยกัน พร้อมกับไฟสีแดงที่ยิ่งทำให้เราเข้าถึงเพลงได้สุด ๆ
ก่อนขึ้นเพลงใหม โบ๊ต บอกว่า “ขออนุญาตให้เครดิตเพื่อนนักดนตรี ในการบันทึกเสียง คือเพลงนี้เป็นเพลงแนว r&b ที่ผมเล่นไม่เป็น จังหวะแบบนี้ที่ไม่ถนัด เลยให้เพื่อนช่วยติว ขอเสียงปรบมือให้เพียว Polycat หน่อยครับ” แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้นรัว ๆ “แต่เค้าไม่ได้อัดนะครับ ให้อัดไม่ได้ เพราะถ้าอัดต้องให้เงิน (หัวเราะ) ผมเลยอัดเอง หลังจากนั้นคือพี่ฝน Superbaker ครับ มาสอนให้ผมเล่นให้แม่นยำมากขึ้น” ถึงตา อู๋ เล่าบ้าง “ช่วงที่อัดอัลบั้มนี้คือช่วงที่ฝนตกเหมือนกัน เสียงฝนที่ในห้องนอนที่ผมได้ยินคือความดังประมาณนี้ แล้วพอฝนตกก็จบเลย อัดเพลงต่อไม่ได้ เราก็นอนรอฝนกัน ถ้างั้นวันนี้เราจะนอนรอฝนหยุดกันนะครับ ล้อเล่นครับ (หัวเราะ)” ไม่ทันขาดคำฝนตกก็ตกหนักขึ้น แง แล้วโบ๊ต ผู้อะเรนจ์เพลงต่อไป ก็ได้พูดถึงเพลงนี้ซักนิดหน่อย “ผมอยากเห็นเพลงของเราเป็นเพลงช้า ไม่กระโดด ไม่มัน ผมเลยมองให้ทุกอย่างเป็นภาพ ความลับของเงา ก็เหมือนผู้ชายที่เสียใจ จมอยู่กับความเสียใจครับ” ก่อนจะชวนทุกคนร่วมกันร้อง “ทุกคนช่วยกันร้องหน่อย กลบเสียงฝน” เพลงนี้มากับไฟสลัว ๆ บวกกับ visual ทึม ๆ
“บรรยากาศตอนนี้เหมาะกับอัลบั้มนี้จริง ๆ ครับ หน้าฝน เข้ากับอัลบั้ม CRY จริง ๆ ” อู๋บอก “อัลบั้มนี้มีเก้าเพลง คือผมตั้งใจให้ทุกอัลบั้มมี 9 เพลงมาตลอด แต่บั้มนี้อยากใส่ความพิเศษลงไป ตอนที่ทำอัลบั้ม CRY เป็นช่วงเวลาที่อยู่ในการตัดสินใจว่าจะทำเพลงเก่าที่เพลง ใหม่กี่เพลง ซึ่งตอนแรกจะทำเพลงเก่าเยอะมาก ๆ แต่มันดูเรียกว่าอัลบั้มเต็มไม่ได้” ก่อนจะโดนขัดจังหวะด้วยฝนที่เริ่มไหลลงมาเป็นสายกลางวงคนดู แต่อู๋ก็พูดติดตลกว่า “อ้าว ฝนตกมาตรงกลาง ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวตอนเพลงเร็วเรามอชกัน อะซ้อมกันหน่อยซิ” แล้วเราก็ได้ยิน บูม มือกลองปั่นสองกระเดื่องเมทัลมาเลย ตลกมาก อู๋พูดต่อ “แล้วมันก็มีเพลงใหม่เกิดเรื่อย ๆ จนเพลงเก่าเหลือแค่ 2 เพลง เลยเลือกมามอบเป็นโบนัสให้กับคนซื้อซีดีเท่านั้น ขอบคุณที่ยังออกจากบ้านไปซื้อซีดีนะครับ มันเท่ พวกคุณเท่มาก ๆ ผมชอบสะสมอัลบั้มเป็นซีดี ไวนิล ผมยินดีที่ได้เจอทุกคนที่ซื้อและสนับสนุนศิลปิน แล้วผมก็อยากเพิ่มความพิเศษให้อัลบั้มนี้ครับ” จากนั้นก็เข้าเพลงต่อไป “ผมเรียกเพื่อนมาแจมที่บ้าน แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ เพลงนี้ชื่อคลายครับ” แล้ว อู๋ ก็เงยหน้ามองเพดานกระจกที่ฝนเทลงมาไม่หยุด ก่อนที่จะขึ้นเพลงใหม่ แต่เอ๊ะ มันแปลก ๆ… “บูมเปิดผิดเพลงครับ! สุดยอดไปเลยครับ บูมเล่นผิดเพลงครับ ผมขอทราบจำนวนคนดูไลฟ์ เพื่อให้บูมรู้สึกผิดขึ้นไปอีกครับ! (หัวเราะ)”
“เพลงต่อไปคุณต่ออะเรนจ์ครับ เพลงเทศกาล” อู๋ส่งไม้ให้ต่อ “คือตอนแรกที่คิดจะทำอัลบั้ม ผมเลยร้องเพลง เทศกาล ขึ้นมา คือผมไม่ค่อยได้เล่นกีตาร์โปร่ง เลยมานั่งคิดว่าเอ้ยเราจะเล่นวิธีไหนดีนะที่จะเหมาะกับเมโลดี้ของเพลงเทศกาล ทั้งหมดเกิดจากการเดาและมั่ว จนมาเป็นเวอร์ชั่นนี้ ลองฟังดูครับ” เทศกาล เพลงนี้มากับไฟสีขาวนวล ๆ วูบวาบที่ดูอบอุ่นดี เป็นอีกเพลงที่ถอดร่างจากเวอร์ชั่นร็อก ๆ มาได้เบาบางและนุ่มนวลสุด จบเพลงอู๋ก็ใช้พื้นที่ขอบคุณทุก ๆ คน “ขอบคุณที่สละช่วงเวลาที่มีค่ามา ขอเสียงปรบมือดีง ๆ ให้ตัวเอง ขอบคุณ Genie Records ที่ไฟเขียวให้ The Yers ทำอัลบั้มในยุคที่ไม่มีใครทำอัลบั้มกันเท่าไหร่ จีนี่น่ารักมาก ๆ ขออะไรก็ให้ จบงานนี้ว่าจะขอเงินซักหน่อย (หัวเราะ) ปรบมือให้จีนี่ครับ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม ก็คิดว่าจะแค่ไปร้าน ไม่คิดว่าจะมีคอนเสิร์ตที่ได้เล่นอะคูสติคจริงจัง ขอบคุณทีมงานทุกคนมาก ๆ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วม ขอบคุณพี่กอล์ฟ Superbaker ที่ร่วมเขียนเพลง คิดเอาเอง, เทศกาล พี่กอล์ฟก็ตรวจเนื้อเพลงแทบจะทุกเพลงมาตลอด ๆ อย่างเพลงอยู่ไหน พี่กอล์ฟใส่เนื้อมาคำนึงแล้วปลดล็อกเลย ขอบคุณพี่ฝ้ายและทีมที่ทำปก ตั้งแต่ออกเพลงเกลียด ผมก็ยุ่ง ๆ แทบไม่ได้อัพเดต ได้พี่ ๆ ช่วยทำให้มันเกิดขึ้นมาจนได้ ขอบคุณพี่แพท Rockademy ที่มิกซ์ มาสเตอร์อัลบั้มนี้ ขอบคุณทีมงานวันนี้ ส่งเสียงดัง ๆ ให้ทุกคนหน่อย และที่สำคัญ ขอบคุณคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำเพลงและทำอัลบั้มนี้เสร็จ ขอบคุณผู้จัดการวง The Yers” ก่อน ต่อ จะแซวว่าเชิญขึ้นบนเวทีเลย (หัวเราะ) “เค้าทำให้ 4 คนเข้ารูปเข้ารอย โดยเฉพาะ 3 คนข้างหลังนี้” อู๋ผายมือไปด้านหลังตัวเอง
“บูมอยากพูดอะไรมั้ย” ต่อแซว ก่อนอู๋จะยุให้บูมซึ่งเป็นนักกล้ามถอดเสื้อโชว์ แล้วเข้าช่วงขอบคุณต่อ “ขอบคุณพ่อกับแม่ ตั้งแต่เล่นมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่พ่อแม่ได้ดู ขอบคุณแฟนเพลงทั้งที่นี่และที่บ้าน เราคิดไม่ถึงว่าจะทำอัลบั้มมาถึง 3 ชุด ขอบคุณที่ยังสนุก ๆ กันต่อไป ขอบคุณจริง ๆ เพลงต่อไปเพลงสุดท้ายจากบั้ม CRY ครับ” แล้วเพลง เสียสละ ก็ดังขึ้น ไฟเวทีก็มืดลงแล้วกลายเป็นไฟดวงเดียวส่องจากข้างบน เท่ไปอีกแบบ “ขอบคุณมากครับ และนี่คือทั้งหมดจากอัลบั้ม CRY The Yers” แล้วทั้งวงก็ลุกเข้าหลังเวทีไปเลย แน่นอนว่าแฟน ๆ ไม่รอช้า ตะโกนอังกอร์กันไม่หยุด
อู๋กลับขึ้นมาคนเดียว ก่อนเสียงคีย์บอร์ดเพลง เพียงหนึ่งครั้ง จะดังขึ้น ตอนท่อน ‘เพิ่งรู้ว่า…’ ตรงกลางเพลง เขาหยุดให้คนดูร้องตาม ซึ่งฟังแล้วรู้สึกฟินแทนกับเสียงแฟน ๆ ที่พร้อมเพรียงร้องเพลงนี้ แล้วจบเพลง อีกสามสมาชิกก็กลับขึ้นมาบนเวที แล้วอู๋ก็รีบแก้ตัว “เป็นการเล่นคนเดียวครั้งแรกในชีวิตของผมเลย ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ ให้อภัยมั้ยครับ?” แฟน ๆ พร้อมใจกันตะโกนว่าให้ ต่อแซวว่า “ให้ครับ ให้เล่นใหม่อีกครั้ง เอาอีกใช่มั้ยฮะ (หัวเราะ)” ต่อด้วย ระหว่างขับรถ กับไฟโทนเหลือง ๆ
เสพติดความเจ็บปวด อีกเพลงที่มากับไฟสีแดง ซึ่งตอนจบ อู๋บอก “แยกย้ายครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ เป็นธรรมเนียม นะครับเวลาเอาอีก เราคิดเพลงละ 500 ครับ กลับเถอะครับ (หัวเราะ)” แต่โบ๊ทก็ยื้อว่า “น่าจะยังกลับไม่ได้ ฝนตก (หัวเราะ)”
ก่อนอู๋จะทิ้งท้าย “ขอบคุณที่ร่วมสนุกกับอัลบั้มนี้จนได้มาเจอกันวันนี้ ถ้าในอนาคตมีผลงานอะไร หวังว่าจะได้เจอทุกคนตลอดไป ขอบคุณมากนะครัข วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก ๆ ขอบคุณครับ” ทิ้งท้ายไปด้วย คืนที่ปวดร้าว “ไม่เหลือใครแต่ยังมีทุก ๆ คนอยู่ที่นี่นะครับ สองมือสูง ๆ ขอเสียงคนมีความสุขหน่อยเร็ว!” จากนั้นทุกคนก็ลุกมาแจกปิ๊ก แจกไม้กลอง ทิ้งท้ายไปด้วยเสียงกรี๊ดลั่นจากแฟน ๆ
ซึ่งหลังจากจบ (ที่ฝนก็ยังคงตกอยู่) แฟน ๆ ก็ได้ร่วมกันตั้งแถวขอลายเซ็นวงอย่างพร้อมเพรียง บอกเลยใครพลาดงานวันนี้เสียดายไปอีกนานแน่ ๆ เพราะบรรยากาศอบอุ่น น่ารัก แล้วก็เป็นกันเองสุด ๆ ต้องขอขอบคุณ Genie Records สำหรับการอำนวยความสะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ