หลังจากเดินทางมากว่า 8 ปี วันนี้ The Whitest Crow ก็ได้ถือโอกาสอำลาร้าน Play Yard ด้วยการเล่นคอนเสิร์ตรวมฮิต greatest_shit (2011 – present) ที่เหมือนเราได้ย้อนรำลึกการเดินทางที่ผ่านมาทั้งหมดของวงเกือบ 20 เพลงตลอดความยาว 2 ชั่วโมง บอกเลยว่าสนุกครบรสสุด ๆ ซึ่งสำหรับใครที่พลาดโอกาส ตามเรามาอ่านได้เลยว่าเหล่ากาขาวจะเล่นคอนเสิร์ตได้ สนุกสุด ๆ ขนาดไหน

วงเปิดด้วย md เสียงปรบมือ และเสียงสังเคราะห์ที่พูดว่า ‘You’re watching the Whitest Crow‘ แค่นี้ก็เท่แล้ว ก่อนจะขึ้นเพลงแรก Feather Bureau เพลงร็อกจังหวะบุก ๆ ที่เราได้เห็นเติ้ล นักร้องนำมาแบบไม่ถือกีตาร์ตอนครึ่งเพลงแรก วันนี้ไฟเวทีมาแบบมืด ๆ ก่อนจะต่อเลยกับ Lotus Analysis  ที่ท่อนเปลี่ยนจังหวะเท่มาก “สวัสดี​ครับพวกเรา The Whitest Crow จากศาลายาครับผม” เติ้ลพูดทักทายคนดู แล้วก็ต้องพูดซ้ำอีก 2 รอบเพราะมีคนตะโกน เอาอีก ๆ ก็เลยพูดอีก ฮ่า ๆ จากนั้นเขาก็ขอเสียงให้เพชรจ้า จากวง don’t be alfred เทคนิเชียนของวงในวันนี้ เข้าเพลงต่อไปกับ Set The Love On Fire ที่เราได้เห็น อ๋อง มือกีตาร์หันมากดซินธ์ ก่อนจะจบเพลงแบบยิ่งใหญ่ “ไหนใครมาดูตั้งแต่วงแรก” เติ้ลถามตอนจบเพลง “วงสอง วงสาม อะไหนใครมาดูแต่ The Whitest Crow บ้าง น่ารักจัง หมายถึง​พี่อ๋องนะ (หัวเราะ)” ก่อนจะอธิบายอีกว่าวันนี้ “คือโชว์ชั่วโมงครึ่ง จะมี 10 นาทีพักชงเหล้านะ (หัวเราะ)”

I.C.S.T.O.Y. ที่ทิ้งท่อนจบไว้ยาว ๆ “เหมือนปาตี้วันเกิดเลย เริ่มงงกับไฟแล้ว (หัวเราะ)” เติ้ลแซวคนทำไฟที่ปล่อยแฟลชแว้บไปแว้บมา ก่อนจะชวนเล่น “ผมพูดว่า ‘ทาน’ คุณพูดว่า ‘อาหาร’ ผมพูดว่า ‘หิว’ คุณพูดว่า ‘น้ำ’ อะ เนี่ย สมองเราเริ่มไม่ไหวแล้วนะครับ (หัวเราะ)” แล้วก็เข้าเพลงต่อไป “มีรุ่นพี่คนนึงชอบวงผมเพราะเท่ แต่พอเจอนิสัยพวกเราเลยเลิกชอบไปเลย (หัวเราะ) ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน ต่อไปเป็น Your Soul ซิงเกิ้ลที่ 2 ต่อจาก Be With You ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้” ตรงกลางเพลงมีท่อนเงียบให้คนร้องตาม ก่อนจะต่อด้วย รู้ก็เหมือนไม่รู้​  ที่ให้กลองโซโล่ขึ้นมาก่อน แล้วเป็น Can’t Get Any Higher, Follow The Heart ที่ฮุกมีช่วงให้คนดูร่วมร้องตามกันอย่างอบอุ่น จากนั้นเป็น Give Up On Love “บางครั้งคนเราก็เศร้า” เติ้ลบอก ก่อนจะเริ่มเพลงมาแบบช้าลงเกือบครึ่งนึง และกลับมาเล่นในความเร็วปกติตรงครึ่งเพลงหลัง

“ไหนใครเคยดูพวกเราครั้งแรกที่นี่บ้าง?” เติ้ลถาม “7 ปีที่แล้วพวกเราเข้าแข่งขันเดินวิ่งระยะไกล ไม่รู้ check point คืออะไร แต่ก็ยังเดินอยู่ ที่เราทำเพลงตัวเองขึ้นมาเพราะเล่นเพลงคนอื่นไม่เป็น เวลาเล่นเพลงตัวเองคนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าเล่นเหี้ยเปล่า (หัวเราะ)” จากนั้นมีเซอร์ไพรส์ผู้เป็นแขกรับเชิญพิเศษของคืนนี้ “ขอเสียงให้มือเบสคนแรก พี่ฮัท ซึ่งหลังจากออกจากวงเขาก็มีกินมีใช้มากกว่าพวกเรา เขาอยู่กับผมทุกวันตั้งแต่ปี 1″ จากนั้นก็ชวนฟังเพลงแรกของวง กาวมนุษย์  ที่ฮัทมาเล่นเบสให้ ‘เพราะมนุษย์อย่างพวกเรา ไม่เคยชินกับการต้องสูญเสีย’ และต่อด้วยอีกเพลงที่เติ้ลบอกว่า จะเล่นที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย กับ เรืออับปาง เพลงนี้เท่มาก ๆ ใครที่ไม่ได้ฟังก็คือพลาดมาก “เมื่อก่อนมา Play Yard เกือบทุกวัน จนกรดไกลย้อน (หัวเราะ)” เติ้ลสารภาพ จากนั้นก็เป็นเพลง Siam Psyche แล้วต่อด้วย Bangkok Blondie ก่อนเติ้ลจะเจอ แอ๊ป มือเบสจากวง Mattnimare เลยได้ร้องเพลง ความทรงจำสีเทา แซว “วันนี้ผมขออย่างเดียว ไม่ต้องร้องตาม เต้นตามก็ได้ แต่อย่าเลิกฟังวงผม”

ช่วงท้าย ๆ ของโชว์กับ Scopolamine ที่ท่อนพีคมีไฟแว้บ ๆ ช่วยเพิ่มความอิน จากนั้นเป็น The Last Little Piece ที่คนดูร้องตามท่อนฮุค ‘So can I keep it?’ กันลั่นร้าน ต่อด้วย Little Fox ที่มากับไฟโทนสีแดง คนดูร่วมปรบมือตามและวงโยกหัวกันอย่างเมามัน จบไปด้วยอินโทรเพลง ฉันออกไปเต้นกับเพลงที่ไม่คิดจะฟัง เวอร์ชัน The Whitest Crow ก่อนไปเป็นเพลง Be With You ที่เติ้ลร้อง ‘Come On, Come On, Come On’ นำให้คนร้องตาม “คือถ้าไม่มีทุกคน พวกผมก็ไม่มีกำลังใจ ขอบคุณ​ทุกคนมากครับ” จบเพลงไปแบบยิ่งใหญ่ “ไหนใครอยากฟังอีกเพลงบ้าง ผมก็เป็นเด็กคนนึงที่มีความฝัน ไม่คิดว่าวันนึงจะได้เล่นให้ไอดอลอย่างพี่แน้ป  Retrospect ฟัง” เติ้ลบอกพี่แน้ปที่ยืนอยู่ในหมู่คนดู “ครั้งแรกที่เราเล่น Play Yard คือ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนแรกคนน้อยมาก ส่วนตอนนี้ก็มีประมาณ 25 คน (หัวเราะ) แต่พวกคุณมีค่ามากกว่าคนล้านคนที่ไม่ได้อยากฟังเพลงของเรา ขอบคุณ​มาก ๆ พวกเราเจอกันตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนี้ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ขอเสียงให้พี่เมษ sound engineer ที่อยู่มาด้วยกัน วันนี้​เป็นวันที่มีความสุขมาก อะ มาลองฟังเพลงอื่นนนอกจาก Be With You ผมสัญญาว่าจะทำเพลงต่อไป แต่ปัญหาคือตอนนี้ผมติดเกมเศรษฐีออนไลน์จนไม่ได้ทำเพลง (หัวเราะ)” โถ่ ตอนแรกมาอย่างซึ้ง ฮ่า ๆ “เพลงนี้ร้องกันได้ช่วยกันร้อง พวกเรา The Whitest Crow ขอเสียงให้ Play Yard ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการใช้ชีวิต พรุ่งนี้เริ่มใหม่”

แล้วเราก็ได้ยินเพลงไม่เป็นไร ดังขึ้น กับไฟสีฟุ้ง ๆ “ขอบคุณนะฮะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุข” ก่อนวงจะลงเวทีไป ซึ่งแฟน ๆ ก็พร้อมใจกันเรียกร้องให้วงขึ้นมาเล่นอังกอร์ เลยได้แถมเพลงที่ 19 ของค่ำคืนนี้กับ Bangkok Blondie และปิดท้ายด้วยการเปิดเพลง S.O.L.E. แล้วทุกคนก็ร่วมเต้นอย่างสนุกสนาน

• Twitter
• Line