Article Between the Lines

เอกรักจอย โดย The Ginkz

  • Writer: Thanaporn Sopolpatanakul

เอกรักจอย
‘The Ginkz’

คำร้อง: วรุตม์ อ่อนอุ่นจิตร
ทำนอง: วรุตม์ อ่อนอุ่นจิตร
เรียบเรียง: The Ginkz

ฉันรักเธอ เธอรักฉัน เรารักรักกัน เราเลิกกัน

ยามที่เรานั่งฟังเพลงช่วงเพลงฮิตของคลื่นวิทยุต่าง ๆ จะสังเกตได้ว่าเราจะพบกับเพลงจำพวกที่เรียกว่า ‘เพลงวงจรรัก’ อยู่มากมาย ช่วงไม่มีใคร ช่วงดูใจ ช่วงรักกันหรือช่วงเลิกกัน ในความคิดของตัวผู้เขียน คิดว่าเพลงวงจรรักเหล่านี้มันคงจะเป็นความรู้สึกศูนย์กลางที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณผู้อ่านทุกท่านต้องเคยมีความรักกันทั้งนั้น ทว่าทุกเพลงล้วนใช้สรรพนาม ‘เธอ’ และ ‘ฉัน’ เพื่อให้คนฟังทุกคนแทนตัวเองลงในเนื้อเพลงได้ ตามอารมณ์ของเพลงในความรู้สึกนั้น ๆ  แต่เพลงรักที่อยากจะนำเสนอในครั้งนี้ มันเกิดคำถามมากมายหลังจากได้ฟังว่าทำไมต้องเป็นเพลง ‘เอกรักจอย’ เพลงรักหวานซึ้งที่ไม่ได้แฝงแค่ความรักของเอกและจอยอย่างเดียว ถ้าอยากรู้ว่ามันแฝงอะไรและทำไมต้องเป็น ‘เอกรักจอย’ ขอเชิญทุกคนอ่านต่อไป ณ บัดนี้

“ตอนแรกแค่นึกถึงต้นไม้ตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีคนแกะสลักชื่อบอกรักไว้ในประโยคแบบว่า ‘ชื่อตัวเอง+หัวใจ+ชื่อคนรัก’เพียงเท่านั้น ส่วนคอนเซ็ปเพลงนี้เราแค่อยากทำเพลงกวนประสาทเพลงตลาดที่ส่วนมากเป็นเพลงรักเท่านั้นเอง เราจึงเริ่มทำเพลงขึ้นมาโดยเริ่มจากท่อนฮุคก่อนเป็นอันดับแรก พวกเนื้อเพลงเพิ่งมาเริ่มเขียนทีหลังโดยเป็นเรื่องเพ้อเจ้อซะส่วนใหญ่ครับ ไม่ได้คิดอะไรมาก”

คำตอบจากคุณวิน วง The Ginkz ช่วยทำให้กระจ่างมากขึ้นของโครงร่างเพลงนี้ การเสียดสีประชดประชันเป็นส่วนหลักในเนื้อหาเพลง ‘เอกรักจอย’ และรวมไปถึงกระบวนการทำเพลงตลาดในเมืองไทยที่พยายามทำให้มันขายได้ ฟังง่าย ทุกสิ่งถูกเปรียบเปรยลงไปในรูปของเนื้อเพลง แทนการพูดกันตรง ๆ ซึ่งมันคงง่ายเกินไป แล้วชวนทำให้โมโห มากกว่าการทำเพลงที่สามารถกระตุ้นความคิดตอนได้ฟัง บวกกับความตลกในเนื้อเพลงมันช่วยทำให้การเสียดสีบางเบาลง

รู้อยู่แก่ใจว่าแต่งเพลงไม่เป็น
เรียกให้ดีหน่อยก็คือเเต่งไม่เก่ง
บางคราก็ก็อปทางคอร์ดเขามา
แต่เพลงฉันห่วยกว่าคนเลยฟังไม่ออก

เริ่มต้นเนื้อเพลงเป็นการเกริ่นเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่จะแต่งเพลงให้หญิงสาวคนรัก แต่ได้สอดแทรกการประชดประชันมาตั้งแต่ต้นเพลงเลยว่า ชายหนุ่มคนนี้ก็อปทางคอร์ดเขามา บ่งบอกให้รู้ถึงเพลงส่วนใหญ่ที่พยายามทำเพื่อเงินอย่างเดียว โดยไม่สนใจกระบวนการสร้างเพลง แค่เพียงก็อปคอร์ดคนอื่นมาประยุกต์ เพื่อนำมาทำเงิน แต่คนฟังนั้นดันฟังไม่ออกว่าเพลงนี้ก็อปมา เพราะว่าคนก็อปทำออกมาได้ห่วยกว่า จนไม่สามารถรู้ว่าเลียนแบบมาจากใคร

ก็อย่างว่าอ่ะนะ ก็คนมันมือใหม่
ที่ทำไปก็ไม่ได้หวังจะให้ใครฟัง นอกจากจอยคนเดียว

ท่อนนี้สร้างขึ้นมาเป็นท่อนพรีฮุคเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วคือกระบวนการทำเพลงตลาดจะต้องสร้างท่อนนี้ขึ้นเพื่อให้คนฟังปะติดปะต่อกับเนื้อเพลงท่อนแรกและท่อนฮุค มันจะให้ความรู้สึกได้ทันทีว่าท่อนต่อไป คือ ท่อนเพลงที่เป็นประโยคโดน ๆ แล้วนะ คำที่ใช้มันก็จะดูเลี่ยนและเสร่อ ๆ เพื่อแสดงความรักของเอกในการเขียนเนื้อเพลงนี้ให้กับจอย

ขอ ขอให้เพลงนี้เป็นบทเพลงที่ดูไม่มีค่า
ไม่มีราคาพอที่ใครจะซื้อมัน
ไม่ต้องมีค่ายดัน แมวมองอย่ามามอง
อย่ามาแคร์อย่าข้องเกี่ยว

เพิ่มความเลี่ยนให้กับเพลง เพื่อเหน็บแนมเพลงรักให้ชัดเจนมากขึ้น อย่างท่อน
นี้สื่ิอว่าทำเพื่อจอยคนเดียวเท่านั้น ถึงแม้มันจะไม่มีค่าสำหรับใคร แต่อยากให้มีค่าสำหรับจอย โดยไม่สนใจว่าค่ายเพลงต่าง ๆ หรือแมวมองจะมาให้ค่ากับเพลงของเอก และความต้องการของผู้แต่งในท่อน ‘ไม่ต้องมีค่ายดัน แมวมองอย่ามามอง อย่ามาแคร์อย่าข้องเกี่ยว’นี้ ยังอยากให้เป็นการร้อยคำที่เวลาร้องจะมีท่วงทำนองคล้ายบทกวีอีกด้วย

ขอ ขอให้เพลงนี้มีแต่จอยเข้าใจแค่เพียงคนเดียว
ให้เรามาเกี่ยวสัมพันธ์ ให้เรารักกันทุกวัน เอกรักจอย

ย้ำไปอีกกับประโยค ‘ขอให้เพลงนี้มีแต่จอยเข้าใจแค่เพียงคนเดียว’ ให้มันดูหวานจนแทบจะสะอิดสะเอียนกับความรักของคู่นี้ แต่เมื่อสังเกตประโยคสุดท้าย คือ ‘เอกรักจอย’ โดยทั่วไปของเพลงรักจะใช้ประโยคว่า ‘ฉันรักเธอ’ ยิ่งทำให้ดูกวนประสาทและเสียดสีเพลงรักเพลงตลาดในบ้านเรา คุณวินได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงใช้ชื่อเอกและจอย เพราะว่ามันเป็นชื่อโหล ๆ มีคนชื่อนี้ซ้ำกันเยอะมาก คล้ายเพลงรักที่นำมาเป็นเพลงดังในคลื่นวิทยุซ้ำไปซ้ำมาทุกครั้ง

ไม่ชอบไม่ว่ากันมันเป็นรสนิยม
ถึงเพลงฉันเสร่อแต่มันก็ไม่เกร่อ
ทำนองอาจไม่เพราะเหมือนเพลงทั่วไป
แต่คำร้องบากบั่นกลั่นมาจากใจ

เมื่อทั้งเพลงมันเขียนใกล้เสร็จหมดแล้ว ตามธรรมชาติของเพลงตลาดมันจะต้องมี Verse2 ซึ่งจะย้อนกลับมาเนื้อเรื่องของเพลงว่า ชายหนุ่มต้องการเขียนเพลงให้หญิงสาวที่รัก แถมดันยังกัดไปอีกทีว่า ถึงเพลงจะเสร่อ แต่มันไม่เกร่อนะ ไม่ได้เหมือนเพลงรักทั่วไป อย่างไรก็ตามคุณวินก็ยังไม่ลืมใส่ความหวานเยิ้มเข้าไปในเพลงอีกว่า ทำนองถึงไม่ได้เพราะ แต่มันบากบั่นมาจากใจนะ มันมาจากหัวใจจริง ๆ

คำขอสุดท้ายที่ผู้เขียนต้องการ คือ อยากขอให้คุณวินเปิดเผยกระดาษที่เขียนเนื้อเพลงนี้มาหน่อยได้รึเปล่า แต่คำตอบที่ฉันได้รับ ทำให้อดขำไม่ได้ถึงความแปลกประหลาดในการทำเพลงของคุณวิน บางครั้งฉันคาดหวังถึงกระดาษแปลก ๆ ที่บอกความสดใหม่ของความคิดแวบแรกเข้ามาแล้วต้องการความรวดเร็วในการบันทึกก่อนที่ประโยคในหัวมันจะหายไป รวมถึงวิธีการทำเพลง มันน่าจะมีความรู้สึกที่เราประทับใจ แล้วอยากส่งผ่านความรู้สึกให้คนฟัง รู้สึกถึงอารมณ์นั้น ทว่าทุกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่มีในวง The Ginkz

“ผมเริ่มแต่งเพลงนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นมันได้แค่ท่อนฮุค จำไม่ได้ว่ามีโครงทำนองมาหรือยัง ถ้าจะถามหากระดาษที่ผมเขียนเพลงนี้ ผมไม่มีครับ เพราะมันอยู่ใน Notepad ของเครื่องคอมพิวเตอร์ผมและมันหายไปแล้วด้วย แต่ก่อนเราแค่พยายามทำเพลงให้ฟังไม่รู้เรื่องแต่ว่ารู้เรื่อง ในรูปประโยคหนึ่งมันต้องมีประธาน กริยา กรรม ซึ่งเราก็แต่งมาครบให้เป็นรูปประโยค โดยเขียนทำนองไปก่อนแล้วค่อยใส่เนื้อเข้าไปให้เป็นรูปประโยค ผมจะใช้สรรพนามงง ๆ แทนทุกครั้ง เราต้องการอยากรู้ว่าคนฟังเพลงไทยเขาฟังกันที่เนื้อหาเท่านั้นจริงหรือเปล่า ทำนองไม่มีผลกับความรู้สึกจริง ๆ หรือ เราเลยอยากพิสูจน์โดยสร้างเมโลดี้ร้องให้ฟังดูโอเค แต่เนื้อหาไม่เป็นสัปปะรังเค ดูสิว่าจะฟังกันอยู่รึเปล่า

ท้ายสุดความประทับใจครั้งแรกที่ได้เลือกหยิบเพลงนี้ขึ้นมาในคอลัมน์นี้ ยิ่งทำให้ประทับใจยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากได้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดที่มาที่ไปของเพลงนี้แล้ว ความสามัญของเพลง The Ginkz ไม่ใช่แค่ความตลก หรือกวนประสาทเพียงอย่างเดียว แต่มันทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าสิ่งที่เขาเสียดสีประชดประชันและถ่ายทอดเป็นเพลง ‘เอกรักจอย’ นี้ มันใช่ความจริงของเพลงในบ้านเราตอนนี้หรือเปล่า อย่างไรก็ตามขอฝากติดตามผลงานของวง The Ginkz ทางhttps://www.facebook.com/theginkz
และฟังเพลงของพวกเขาได้ที่ http://fungjai.com/artist/TheGinkz

Facebook Comments

Next: