World music อาจไม่ใช่ดนตรีที่ใครหลายคนมีโอกาสได้ฟังบ่อย ๆ แต่ดนตรีแนวนี้คือประตูที่จะเปิดหูเปิดใจเราให้ออกไปจากกรอบเดิม ๆ ที่เรายึดเหนี่ยวไว้ ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายทั่วโลก ทำให้ดนตรีมีความผสมผสานกันได้อย่างไม่มีสิ้นสุด น้อยคนเหมือนกันที่สามารถทำดนตรี world music ให้น่าสนใจได้เหมือนวง Yaan ด้วยสมาชิกทั้ง 9 คนที่แตกต่างกันทั้งรสนิยมและเชื้อชาติ ทำให้ขีดจำกัดทางดนตรีของพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว

Earthen O ก็เหมือนรวบรวมสิ่งละอันพันละน้อยจากทั่วโลกมารวบรวมไว้ในอัลบั้มนี้ ด้วยความที่วงใช้เครื่องดนตรีจากหลายประเทศ รวมถึงเครื่องดนตรีไทย มาร้อยเรียงให้กลายเป็นดนตรีร่วมสมัยคละแนว นอกจากความสามารถอันล้นเหลือของสมาชิกในวง ก็คือหัวใจที่รักในเสียงดนตรีจนสนุกกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อ กล้าทดลองสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ให้กับโลกได้ถึง 16 เพลง (แม้บางเพลงจะมาจาก EP ก่อน) เราเลยอยากให้ลองเปิดหู เสพอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครดูด้วยตัวเอง

Forever Twin Hearts part 1

วอร์มหูกันเบา ๆ ด้วยซาวด์แอมเบียนต์นุ่มนวลผ่อนคลาย ลูบไล้เราด้วยซินธ์เปรี้ยว ๆ กับแฮนด์แพนละมุนละไม มีเครื่องสายอีกชิ้นที่คอยเลี้ยงอารมณ์อุ่น ๆ ของเราไป

Overture in Asia Minor 1st Movement : Fantasy Unisonous

เสียงกองไทโกะเข้ามาอย่างน่าเกรงขามท่ามกลางเครื่องสายสวย ๆ แล้วเติมเครื่องดนตรีทุกชิ้นเข้ามาให้วาไรตี้น่าฟัง ก่อนจะซีตาร์จะบรรเลง พาเราล่องลอยไปกับเมโลดี่หวาน ๆ ชวนฝัน ไวโอลินเข้ามาขั้นให้แทรกเติมให้อารมณ์นุ่มขึ้น

Overture in Asia Minor 2nd Movement : The Siriusgazer

ไวโอลินบิดคลายตัวออกมาเป็นซาวด์อันน่าฉงน สร้างความอยากรู้อยากเห็นเวลาฟัง เติมเครื่องสายกับกลองเข้าไปก็เย้ายวนใจซะเหลือเกิน

Overture in Asia Minor 3nd Movement : Arrived in the White Elephant Land

ต้อนรับสู่ดินแดนแห่งช้างเผือกด้วยเสียงแคนหวานจับใจ มีดีเจมเบ้กับไวโอลินที่เป็นตัวแทนจากต่างแดนมาผสมผสานกันได้หวานหูมาก มีโมดูลาร์ลูปหวาน ๆ อยู่ห่าง ๆ โชว์ความหลากหลายที่เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด ไวโอลินก็วาดลวดลายงดงามได้ใจมาก

Cabaña De Ritmo

เพอร์คัสชั่นค่อย ๆ ประกอบตัวเองขึ้นมาพร้อม didjeribone ที่นำเสียงทะเล้นน่าดู ดีเจมเบ้ก็เข้ามาเติมให้ครื้นเครง มีกีตาร์ไฟฟ้าเข้ามาเติมความสนุกลงไป เรียบเรียงจังหวะให้เบิกบานชวนเต้น เมโลดี้ก็สดชื่นให้อารมณ์บอสซ่าหน่อย ๆ ทุกฮุกที่ซินธ์ยึกยักยุกยิกนี่มันชวนอารมณ์ดีจริง ๆ ช่วงท้ายก็เติมความร็อกของกีตาร์ลงไปหน่อยให้มันขึ้น จนเพลงนี้กลายเป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มเลย

Alapana

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Alapana ซึ่งเป็นชื่อเรียกดนตรีคลาสสิกของฝั่งฮินดู ซีตาร์เลยแผลงฤทธิ์อีกครั้งด้วยโซโล่เดียวยาว ๆ ทั้งเพลง ที่ค่อย ๆ บรรเลงเล่าเรื่องอะไรบางอย่างด้วยความชดช้อยงดงาม ลองหลับตาฟังแล้วจินตนาการถึงอาหารอินเดียที่เราเคยกินก็รื่นรมย์อยู่

Manasuna Yaman

ซีตาร์กับซาวด์สังเคราะห์สร้างแรงดึงดูดบางอย่าง ไวโอลินก็ชักชวนเราเข้ามาแล้วประสานกับซีตาร์ไปได้อย่างหวานเยิ้ม ดีเจมเบ้ก็ทำให้มันรื่นเริงเข้าไปอีก ซีตาร์วาดลวดลายเต็มที่โดยมีกีตาร์ไฟฟ้าเข้ม ๆ อยู่ข้างหลังอีกที แล้วเร่งจังหวะกันให้เบิกบานไปหมด ช่วงกลางเพลงก็สลับจังหวะให้เป็นเร้กเกเฉยเลย โอ้ย เผลอโยกตัวตามทันที ซีตาร์ก็เปล่งเสียงหวาน ๆ ให้เราชื่นใจ มีไวโอลินที่เติมเสียงแหลมบาดใจจนเรายิ้มออกมา ช่วงท้ายก็กลับมาจังหวะเดิมซักหน่อย ทิ้งท้ายความสนุกไว้ แล้วระบายซาวด์สังเคราะห์อีกนิดหน่อยตอนจบ

Toey Khong

แคนค่อย ๆ สร้างจังหวะขึ้นมาผสมกับปี่ภูไทชวนสงบ บรรเลงล้อกันไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะใช้ didjeribone แทนจังหวะกลองมี modular ระบายไว้ใกล้ ๆ กลายเป็นหมอลำม่วน ๆ ชวนโยกย้ายร่างกาย มีกีตาร์ไฟฟ้ามาเติมความเข้มลงไปได้เท่มาก ยังไงแคนก็ทำงานกับร่างกายเราได้ง่ายสุดละ

Amanita Tambura

ซาวด์สังเคราะห์ค่อย ๆ กระเทาะตัวเองออกมาเบา ๆ เติมด้วย ก่อนกลอง dun dun จะเข้ามาเติมให้มีไดนามิกของเพลงที่สนุกขึ้น ล้อไปกับซาวด์ลอย ๆ อันนี้ได้เพลินใจ มีเพอคัสชั่นกับเครื่องสายอีกชิ้นเข้ามาเติมให้ดนตรีหวานหน่อย ซาวด์สังเคราะห์ก็ค่อย ๆ แผดเสียงอย่างแหลม ๆ ในช่วงท้ายได้น่าสนใจ

Yaannikka

เปิดด้วยโซโล่กลองดีเจมเบ้ ก่อนจะเติมเข้ามาด้วยซีต้าร์พร้อม แล้วใส่เสียงกีตาร์นุ่ม ๆ เข้ามากลางเพลงให้มันละมุนขึ้นล้อเล่นไปกับซีตาร์ได้เพลิดเพลิน แถมค่อย ๆ ปล่อยของออกมาทีละนิด ๆ จนกรู๊ฟมาก ไวโอลินก็ร้ายเอาเรื่อง แล้วเร่งจังหวะให้เร้าอารมณ์ ปาดเข้ามาด้วยโมดูลาร์เท่ ๆ ให้อารมณ์อันหลากหลาย มีจังหวะน่ารัก ๆ ให้เครื่องดนตรีทุกชิ้นได้โชว์ด้วย

Hymn of Polyphonic Bronze

รวมเพอคัสชั่นเบา ๆ สบาย ๆ ชวนผ่อนคลาย โยกย้ายเข้ามาน้อย ๆ แล้วเติมเข้ามาด้วยกลองชวนครื้นเครง ค่อย ๆ เร่งจังหวะจนอวัยวะทุกส่วนของเราต้องขยับตาม แล้วค่อย ๆ fade out ออกไปอย่างสงบ

Dunya Hapi

เสียงก้องกังวานของแฮนด์แพนสั่งให้เราต้องหลับตาตั้งใจฟัง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเมโลดี้นุ่ม ๆ พวกนี้ เติมความทะเล้นของ didjeribone ลงไปหน่อยก็ครึกครื้นขึ้นมาหน่อย มีเมโลดี้ลอย ๆ ของซินธ์เข้ามาเติมให้มันพิศวงชอบกลชวนหลงใหล แล้วเร่งจังหวะแฮนแพนให้ตื่นเต้นขึ้นหน่อย เติมซาวด์ต่าง ๆ ลงไปให้ซิ่ง ๆ หยักไหล่ตามได้ง่าย ๆ

Yamuna

ซีตาร์ค่อย ๆ คลี่คลายตัวเองออกมาเป็นเมโลดี้หวาน ๆ เหมือนสายน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ยมุนาที่ไหลช้า ๆ ผ่านใจกลางอินเดีย ก่อนจะเติมเข้ามาด้วยกีตาร์ไฟฟ้าที่ทำให้ดนตรีอบอุ่นขึ้น ค่อย ๆ ถักทอกันออกมาเป็นสายธารแห่งดนตรีที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ดนตรีไหน ใครฟังก็รู้สึกเย็นไปทั้งใจทั้งอารมณ์ ช่วงท้ายเพลงก็สลับจังหวะให้สนุกชวนเบิกบาน

E-San Whakanui

เสียงแคนคุ้นหูเริงระบำขึ้นอย่างเบิกบาน เฉลิมฉลองความเป็นดนตรีพื้นบ้านของอีสานอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเติมด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ didjeribone ที่ให้เสียงทุ้มสอดประสานไปกับเสียงหวาน ๆ ของแคนได้เพลินใจ สลับจังหวะด้วย didjeribone นำแล้วตบแต่งด้วยแคนม่วน ๆ มีเพอร์คัชชั่นมาเติมความชุ่มชื่นใจอยู่ข้าง ๆ บรรเลงกันได้อย่างสนุกสนาน ตลอดทั้งเพลงก็มีลูกเล่นการเป่า didjeribone ได้น่าสนใจมาก เสียงประหลาด ๆ เข้ากับแคนได้น่าทึ่ง

Echoes of Silalaeng

กีตาร์โปร่งเหงา ๆ ที่สร้างบรรยากาศอันหว้าเหว่ ทำให้เสียงปี่ภูไทอันยิ่งรวดร้าวเข้าถึงกลางใจเรา อ่อนไหวชดช้อยไปมาล้อเล่นกับเสียงกีตาร์ได้ไพเราะ แต่ยังซ่อนความเจ็บปวดลึก ๆ อยู่ในทุกเมโลดี้ เสียงปี่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ที่ฟังแล้วรู้สึกคิดถึงใครทุกที

Forever Twin Hearts part 2

ปิดท้ายได้ชุบชูใจไปกับเครื่องดนตรีหลากหลายที่ค่อย ๆ ร้อยเรียงกันขึ้นมาเป็นดนตรีที่อ่อนโยน ก่อนจะแทรกเข้ามาด้วยเสียงอวยพรเราแบบหลอน ๆ แล้วดนตรีก็ค่อย fade out ช้า ๆ ราวกับถึงปลายทางแห่งชีวิตแล้ว

ส่วนตัวสนใจ world music มาตลอด และขอยกให้อัลบั้มนี้เป็นสมบัติของชาติได้เลย จากการประยุกค์ดนตรีทุกแขนงมาไว้ด้วยกันได้น่าทึ่งมาก เสียดายที่คลาดกันตลอดไม่เคยดูเล่นสดซักที แต่เราเชื่อว่าทุกโชว์ของพวกเขาไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงแน่นอน ตอนนี้ก็สามารถฟังอัลบั้ม Earthen O ได้แล้วบน ฟังใจ หรือถ้าถูกใจเป็นพิเศษ สามารถติดต่อขอซื้อซีดีหรือกดไลค์เป็นกำลังใจให้พวกเขาได้ที่เพจ YAAN ญาณ

• Twitter
• Line