The Clash คือวงพังก์ตัวพ่อที่ฉีกกรอบดนตรีพังก์ไปอย่างสิ้นเชิง กับ 6 อัลบั้มที่ยกซาวด์แปลก ๆ จากทั่วโลกมาใส่ ทั้งเร็กเก้ ดั๊บ สกา ร็อกอะบิลลี วอลซ์ ละติน แจ๊ส รวมถึงดนตรีเชิงทดลองอีกหลายแนว

วงก่อตั้งในปี 1976 และค่อย ๆ แยกย้ายไปทีละคนจนยุบวงในปี 1986 แต่เพียง 10 ปี วงก็ได้เปลี่ยนวงการดนตรีไปในหลาย ๆ แง่มุม ซึ่งสโลแกน ‘The Only Band That Matters’ ที่ตั้งโดย CBS ค่ายเพลงของพวกเขา ก็ไม่ได้เกินจริงจนน่าเกลียด อัลบั้มคู่ London Calling ยังคงติดโพลอัลบั้มที่ดีที่สุดตลอดกาลของสื่อดนตรีทั่วโลก ด้วยดนตรี เนื้อหา ซึ่งไม่ใช่พังก์จ๋า ๆ จนเอียน แต่ก็ไม่ได้เป็นดนตรีทดลองจนฟังไม่ไหว

ในบทความตอนนี้ ขอยกเรื่องราวการเดินทางมาประเทศไทยของวง The Clash ในปี 1982 ใน Far East tour เพื่อซัพพอร์ตอัลบั้ม Sandinista! ซึ่งได้เล่นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1982 แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น วงได้มาถ่ายปกอัลบั้ม Combat Rock อัลบั้มต่อไปแถว ๆ รางรถไฟในกรุงเทพ ฯ และ Paul Simonon มือเบสของวงดันกระโดดลงบ่อโคลนเล็ก ๆ ที่ทำให้เขาป่วยจนวงต้องอยู่ไทยต่ออีกกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ Joe Strummer ได้สนิทกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง และเรื่องราวก็วุ่นวายก็เกิดขึ้นมากมาย

พอล มือเบสของวง ให้สัมภาษณ์ในหนังสือเรื่อง The Clash ว่า “ผมได้ใช้เวลาสุดประหลาดในเมืองไทย เพราะว่าหลังจากคอนเสิร์ต ผมพบกับครูสอนประวัติศาสตร์ของผมที่ตอนนั้นอาศัยอยู่ในเมืองไทย เขาขับรถพาผมไปทั่วเมือง แล้วผมก็ดันกระโดดลงบ่อโคลนเล็ก ๆ ที่แมลงบินว่อนออกมาจากบ่อ หลังจากนั้นผมก็ป่วยและต้องนอนโรงพยาบาลกว่าหนึ่งสัปดาห์ แล้วที่โรงพยาบาล Joe Strummer (นักร้องนำ) ก็พาเพื่อนที่เป็นพระสงฆ์มาด้วย ซึ่งประหลาดมาก”

ระหว่างที่พอลนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีช่วงที่ Mick Jones (มือกีตาร์) หายตัวไป และโจไปเที่ยวอะโกโก้ด้วย

“ที่ไทยเราเล่นแค่โชว์เดียว แต่สุดท้ายต้องอยู่ต่อกว่าสองสัปดาห์” มิกเล่า “ตอนที่กำลังถ่ายปกอัลบั้ม Combat Rock พอลดันกระโดดลงไปในบ่อที่เขาคิดว่าเป็นบ่อน้ำ แต่จริง ๆ คือบ่อโคลนที่มีแมลงเต็มไปหมด เขาพักในโรงพยาบาลเกี่ยวกับโรคเขตร้อนที่เป็นสไตล์โคโลเนียล ผมกับโจไปสนิทกับพระสงฆ์ที่ใส่จีวรสีส้มแล้วเราก็พาพระไปหาพอลที่โรงพยาบาล แล้วพวกเขาก็ตื่นเต้นกับฝักบัวในห้องน้ำมาก ๆ พระก็เลยเริ่มมาที่โรงพยาบาลเพื่ออาบน้ำด้วยฝักบัว ต่อแถวกันอาบน้ำ พวกเรามีวันหยุดที่ดีที่ประเทศไทย จากนั้นเราก็กลับบ้าน”

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 12xu.com บอกว่า วงพักที่ Bangkok Palace Hotel แล้วก็เดินไปตามทางรถไฟเพื่อถ่ายปกอัลบั้ม ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์ได้เดินทางไปตามทางรถไฟเพื่อลองค้นหาที่ ๆ วงใช้ถ่ายปกอัลบั้ม และได้พบสถานที่ที่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าใช่หรือไม่เพราะว่ากรุงเทพ ฯ ได้เปลี่ยนไปเยอะมาก ๆ ลองอ่านการเดินทางของเขาได้ ที่นี่

มีคนให้ข้อสังเกตว่า บนปกอัลบั้ม Combat Rock คือการยืนเรียงลำดับความสำคัญในวง ซึ่งจะตั้งข้อสังเกตแบบนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะโจผู้ยืนอยู่บนสุดของรูป ก็คือยอดพีระมิดของวง The Clash แล้วไล่ลำดับมาเป็นพอล มือเบส ตามด้วย Topper Headon มือกลอง กับมิกผู้โดนไล่ออกหลังจากอัลบั้มนี้ออก ทอปเปอร์โดนไล่ออกด้วยเรื่องยาเสพติด แต่มิกโดนไล่ออกจากวงที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมากับโจ เนื่องจากความเห็นไม่ลงรอยกัน มิกอยากพักผ่อนหลังจากทัวร์ แต่โจไม่ยอม แล้วก็นำไปสู่ความแตกต่างทางดนตรีต่าง ๆ มากมาย

Combat Rock ได้รับการวิจารณ์โดย David Fricke จากนิตยสาร Rolling Stone ว่า “Combat Rock is an album of fight songs,” ซึ่งก็จริง เพราะระหว่างการทำอัลบั้มนี้ ก็มีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างคนในวงตลอด โดยเฉพาะมิกกับโจ ซึ่งเพลงอย่าง Should I Stay Or Should I Go? ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความอึดอัดของมิกในการอยู่ในวง ก็ยังมีการหยิบมาคัฟเวอร์ และใช้ในภาพยนตร์ โฆษณา รวมถึงล่าสุด ใช้ประกอบซีรีส์ ‘Stranger Things’

หลังจากปี 1986 ก็ไม่มีการรียูเนียนของวงอีกเลย จนกระทั่งโจตายในปี 2002 ก่อนวงได้รับการเสนอชื่อเข้า Rock and Roll Hall of Fame เพียงแค่ 3 เดือน

อ้างอิง

35 YEARS AGO: THE CLASH’S ‘COMBAT ROCK’ COVER PHOTO SHOOT PREDICTS THEIR DEMISE
The Clash. (2010). The Clash. Great Britain: Atlantic Books.

อ้างอิงรูป

Combat Rock 1982: The Clash Implode in Bangkok (And That Combat Rock Album Cover).

• Twitter
• Line