Space War สาดซาวด์อันบริสุทธิ์ให้ดนตรีทดลองได้เบ่งบานในอัลบั้มใหม่ ‘0000’
- Writer: Peerapong Kaewthae
ช่วงที่ผ่านมาเหมือนซีนดนตรี experimental ในไทยจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้ง Bangkok Noise Festival 2018 และอีกหลาย ๆ งานที่เห็นผ่านหน้า newsfeed โดยมีผลตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเพราะความแปลกใหม่ที่นำพาให้คนได้ลองฟังกันดู
เชื่อว่าคนไทยน่าจะยังไม่คุ้นเคยกับดนตรีทดลองเท่าไหร่ เพราะมันฉีกทุกกรอบความน่าจะเป็นของคำว่าดนตรีทิ้งไปหมด ไม่มีห้องดนตรี อาจจะไม่มีเนื้อเพลงที่คล้องจองลงจังหวะ มันแปลกแยกและมีเอกลักษณ์ชัดเจนขึ้นอยู่กับนักดนตรีจะตีความและนำเสนอมันออกมา เราอาจไม่ได้กำลังเสพดนตรี ดนตรีเป็นเพียงแค่ช่องทางหนึ่งในการสื่อสารเท่านั้น แต่เรากำลังเสพเรื่องราวและอารมณ์ที่พวกเขาส่งมา พาเราไปผจญภัยในดินแดนแห่งเสียงอันไร้พรมแดนว่าเรารู้สึกยังไง หรือเราตีความมันว่ายังไง แนวเพลงนี้จึงไม่มีผิดไม่มีถูก
Experimental Edge by Space War
หนึ่งในศิลปินที่เราติดใจในสำเนียงดนตรีของเขามาซักพักใหญ่ ๆ แล้วก็คือ SpaceWar ที่หยิบจับเสียงจากต่างโลกมาประกอบกับเสียงพิณ ตบเอฟเฟกต์สาดซาวด์แอมเบียนต์อันอ่อนโยนให้โอบกอดเราอย่างเบามือ บางครั้งก็ดุดันและกรีดแทงเราด้วยเสียงสังเคราะห์แหลมบาดหู บิดเบี้ยวไร้รูปร่าง ลูบไล้ด้วยความเศร้ารันทด เราคงอธิบายถึงตัวตนของเขาได้ไม่ดีเท่าที่เขาอธิบายตัวเองไว้ใน ฟังใจ แน่นอน
Space War คือการล่องลอยไปบนอวกาศที่แสนจะมืดมน ความนิ่งสงบ ความก้าวร้าว และความเป็นจริง ต่างก็ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย มันดึงดูดและรวบรวมพื้นที่และเวลาให้มาบรรจบพบกัน และบิดเบี้ยวสิ่งเหล่านั้นให้เกิดสภาวะ melancholy หลังยุคสมัยที่ทึมเทา SpaceWar ได้รับอิทธิพลมาจากแนวดนตรีต่าง ๆ ในอดีตและปัจจุบันมามากมาย เช่น experimental, post-rock, chillwave, drone, dark ambient, progessive, noise และ folk เราจึงเห็นว่าหากผสมผสาน (improvise) ซากปรักหักพักของสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน เราคงจะสามารถสร้างสุนทรียศาสตร์ในอีกแขนงหนึ่งให้ได้เคลื่อนไหวต่อไปได้ ณ ขณะนี้
ล่าสุดเขาเพิ่งปล่อยอัลบั้ม 0000 ออกมา โดยมีคำเปรยว่า ‘From 0 to 0. From soft to heavy. From low to high. and From the dead inside’ เข้าใจว่ามีแนวคิดอิงสัจธรรมที่ทุกอย่างเกิดมาย่อมดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ต่อให้โลดแล่นขึ้นไปสูงแค่ไหนซักวันหนึ่งก็ต้องกลับสู่สามัญ ซึ่งเขาได้ถ่ายทอดมันออกมาผ่านเสียงสังเคราะห์หลากมิติ ชโลมเสียงแหลมบาดหูเข้ามาก่อนค่อย ๆ คลี่คลายกลายเป็นเสียงทุ้มซ่าแตกพร่า จากความสงบนิ่งเฉยไปสู่ความถี่อันหฤหรรษ์ มีหลายเพลงที่น่าสนใจ และก็มีหลายเพลงที่โดนใจเรามากจนอยากหยิบมาพูดถึง
Newborn Baby
ซาวด์อันปลอดโปร่งแวววาว แทรกเสียงธรรมชาตินานา สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร ราวกับต้อนรับชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้อย่างอ่อนโยน เสียงสังเคราะห์อันหวานเยิ้มเหวี่ยงไปมาเหนือหัวราวกับหลอกล่อเราออกจากความจริง ซ่อนความเจ็บปวดอันเถียงแท้ไว้ให้ใกล้ห่าง นี่คือเวลาแห่งการฉลองให้กับความไม่รู้
He’s Breathing Like a Fish
เสียงพิณเบา ๆ คลอไปกับบรรยากาศอันน่าหวาดหวั่นที่ค่อย ๆ ก่อร่างขึ้นมาในหัวของเรา แล้วคุกคามเราด้วยความกลัวที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวมันผสมกับการคีย์บอร์ดอันรวดร้าว ราวกับความกระเสือกกระสนมีชีวิตที่จอมจมอยู่ใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่
By Looking Above the Fish Bowl
เสียงอันหลอกหลอนเหมือนความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว ถูกแทรกด้วยเสียงสังเคราะห์มากมาย ลงตัวกับซาวด์จากนอกโลกได้อย่างลงตัว โดยมีเสียงพิณกล่อมเกลาอยู่ไกล ๆ ก่อนจะขยี้เอฟเฟกต์ให้แหบพร่า
And Stuck with the Dream
ซาวด์ที่พรั่งพรูออกมาอย่างวุ่นวายบอกเล่าความกระอักกระอ่วน อึดอัดคับข้องใจได้อย่างชัดเจน เสียงบาดหูกวัดแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง ขยี้เอฟเฟกต์ทุกชนิดผสมปนเปลงไป ควบแน่นไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
Feeling Dead Inside
ชอบตั้งแต่ชื่อเพลงยันอินโทรที่เสียงค่อย ๆ ถาโถมใส่เราอย่างน่ากลัว ความตายที่คุกรุ่นอยู่ภายในสามัญสำนึกค่อย ๆ เปิดเผยตัวเองออกมาอย่างช้า ๆ บานทีละชั้น ๆ ผ่านเสียงดนตรีที่เสียดแทงเราอย่างรุนแรงราวกลับดอกไม้ ซาวด์อวกาศนำพาบรรยากาศชวนสำลักยังคงหลอกหลอนเราโดยไม่ลดละไปจนถึงท้ายเพลง
ยังมีอีกหลายเพลงในอัลบั้มที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แนะนำให้ไปลองไล่ฟังดูทุกเพลง อาจจะเจอเพลงที่เราตกหลุมรักด้วยเหตุผลบางอย่างหรือทำให้นึกถึงใครบางคนก็ได้ สามารถติดตามข่าวสารของเขาได้ที่ Facebook Page SpaceWarTH และไปอุดหนุนอัลบั้ม 0000 ของเขาได้ที่ >bandcamp< หรือฟังเพลงของเขาบน ฟังใจ ได้ >ที่นี่<