เหตุผลที่เราอยากเปิดเพลงในงานศพของตัวเอง
- Writer: Sy Chonato
- Illustrator: Tunlaya
งานศพที่เราไปมักจะไม่แตกต่างกันมากนัก ยกเว้นดีเทลต่าง ๆ ที่แต่ละวัดจัดอาจจะไม่เหมือนกัน อย่างดอกไม้หน้าโลง หรือโลงศพ ดังเช่นทุกคนที่มีรสนิยมที่แตกต่างหลากหลาย เหมือนเพลงที่พวกเราฟัง
วันใดวันหนึ่ง ความตายจะเกิดขึ้นกับเราและคนใกล้ตัวที่เรารัก แต่เพราะพวกเราชาวบ้านทั่วไปฟังภาษาบาลีไม่ออก การฟังเพลงร่วมกันก็เป็นกิจกรรมทางสังคมที่อบอุ่นและเชื่อมต่อกันได้อย่างละมุน และน่าจะทำให้ผู้ที่มางานของเราเข้าถึงสารได้ง่ายกว่า
อาจดูแปลกสำหรับคนไทยเพราะเห็นไม่บ่อย แต่งานศพของชาวต่างชาติแถบตะวันตกมีการเปิดเพลงร่วมสมัยหรือเพลงที่ชอบของผู้ตายกันอย่างปกติ เพราะงานศพมีไว้รำลึกถึงผู้ที่จากไป ดังนั้นการร่วมฟังในสิ่งที่เขาชื่นชอบ น่าจะเป็นการทำให้ผู้ที่มางานได้รำลึกถึงเขาและบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
ฟังใจสงสัย จึงลองถามไปในเพจว่า หากเลือกเพลงในงานศพตัวเองได้จะเลือกอะไร ซึ่งก็ออกตัวว่าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นลางร้าย เพราะเชื่อว่าทุกคนมีเพลงในใจที่อยากให้เปิดในวันนั้น
คำตอบที่ได้มาหลากหลายแนว เหตุผล น่าสนใจมากจนน่าเขียนถึง รวบรวมเอาไว้
มีคนเข้ามาตอบมากมายถึง 2,000 คอมเมนต์ ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราที่อยากให้มีเพลงพิเศษสำหรับงานศพของเรา หลาย ๆ คนวางแผนและเลือกสรรเพลงอย่างตั้งใจ เพราะเราต่างตายได้แค่ครั้งเดียวใช่ไหม
เหตุผลที่ 1 เปิดเพลงที่ชอบฟัง หรือเพลงผลงานของเรา
คนทุกคนต่างกัน เพลงที่ฟังก็เช่นกัน บางคนอยากให้งานศพมีความพิเศษขึ้นมาหน่อย ไม่เหมือนงานศพทั่ว ๆ ไป ไม่วันที่เราไม่อยู่แล้ว หลาย ๆ คนเลยอยากให้คนได้ซึมซับโลกของเขาจากเพลงที่เขาฟัง หรือเพลงที่เขาทำ คงจะดีไม่น้อยที่คนที่รู้จักเราจะได้รู้จักเรามากขึ้นหลังจากที่ตายไปผ่านบทเพลงที่เรารักและอย่างแบ่งปัน แบ่งกันฟังจนนาทีสุดท้าย ซึ่งหลากหลายแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนมาก ๆ บางคนก็จัดมาเป็นเพลย์ลิสต์เลย
หากใครมีเพลงที่ทำไว้ อยากให้คนอื่นได้ฟังก็ได้เหมือนกัน เป็นโอกาสที่เพลงของคุณจะได้เจอผู้ฟัง
เหตุผลที่ 2 ให้เพลงรำลึกถึงความทรงจำที่มีต่อกัน บอกลา
เหตุผลนี้จะก่อมวลอารมณ์เศร้าสักหน่อย หลาย ๆ คนที่เข้ามาแสดงความเห็นว่าอยากเปิดเพลงงานศพแบบไหน เลือกเพลงที่สื่อถึงความทรงจำ นึกถึงสิ่งดีๆ ที่มีร่วมกัน เพื่อจะบอกลาว่า “ไปแล้วนะ” เนื้อหาประมาณว่า “ลาก่อนนะ จะไม่อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว” แต่ก็ทำให้ผู้ที่ยังอยู่เศร้าได้เศร้าอย่างเต็มที่ในขั้นแรก งานศพเป็นงานที่คนสำคัญที่สุดของงานไม่อยู่แล้ว นี่เป็นโอกาสที่จะบอกลากันผ่านเสียงเพลง เพื่อจะก้าวต่อไปในชีวิต
- ความทรงจำที่ถูกทิ้ง – KOBE
- ลาลับ – Abstraction XL
- ลา – polycat
- หมุน – Greasy Cafe
- สิ่งดีดี – Goose
- เลือนลางและจางหาย – 23’ O
- นํ้าค้าง – Desktop Error
- แค่อดีต – Inspirative
- เธอยังยืนดูดาวหรือเปล่า – Vinegar Syndrome
- I don’t know – Yellow Fang (สุดท้ายแค่เพียงได้บอกลา)
เหตุผลที่ 3 เปิดเพลงที่สดใส ทำให้อบอุ่น สนุก และคลายเศร้า
สำหรับบางคน มองว่างานศพเป็นงานที่เศร้าและหมองหม่น หากเราตายไป เพื่อน ๆ คงจะเศร้า จึงเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ พวกเขาจึงอยากเปิดเพลงที่ช่วยคลายบรรยากาศไม่ให้เศร้าเกินไป ช่วยให้อารมณ์ดี อบอุ่น สดใส และให้ความหวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง เหตุผลนี้น่าสนใจ เพราะว่าเป็นคนละจุดประสงค์กับงานศพแบบดั้งเดิม ที่อยากให้ดูโศกเศร้า บางคนไม่อยากให้คนที่มางานใส่ชุดดำ อยากให้เป็นงานที่รื่นเริงและเต้น
3.1 ให้ความหวังจะกลับมา / ฉันจะอยู่ตลอดไป
แม้ไม่รู้ว่าชาติหน้ามีจริงไหม แม้เราไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกไหม หลายคนอยากเปิดเพลงในงานศพ เพื่อให้ผู้ที่ยังอยู่มีความหวังว่าเราจะพบกันอีกครั้ง
- พบกันใหม่ – Polycat
- วันนี้เรามีนัดกัน – Wave And So
- We Are The Champion – Queen
- ฉันยังคงเดิม – ขอนแก่น
3.2 ทำใจให้สบายใจ อบอุ่น ชิว ๆ ผ่อนคลาย
- ดอกไม้ – Selina and Sirinya
- ดวงอาทิตย์ – Napat Snidvongse
- วันสบาย – อภิรมย์
- การแชร์ – Srirajah Rockers
- sleep tight (3.00 a.m.) – Solitude is bliss
- A Happy Song – Bear Garden
3.3 ดีใจที่ได้รู้จัก
- ยินดีที่ได้พบเธอ ( Stoondio)
- ฉันจะมีเธออยู่ (สิงโตนำโชค )
3.4 เพลงมัน ๆ จัดไปชุดใหญ่ไฟกะพริบ ห้ามเศร้า
เช่น EDM, เพลงเต้น, เพลงเกาหลี, เพลงดีว่า
แนวคิดงานศพมหรสพนี้อาจฟังดูตลกโปกฮาขัดกับบรรยากาศที่งานศพควรจะเป็น แต่วัฒนธรรมงานศพที่รื่นเริงมีอยู่หลายที่ทั่วโลก อย่างงานศพคนผิวสีแบบนิวออร์ลีนส์ ที่เป็นงานศพแบบมีวงแจ๊สมาเล่น มีคนออกมาเต้น เพราะเชื่อว่างานศพควรมีพาร์ตที่เฉลิมฉลองให้กับชีวิตของผู้ตาย
เหตุผลที่ 4 เพลงที่ทำให้ปล่อยวาง
เหตุผลนี้ดูจะตรงกับจุดประสงค์งานศพแบบพุทธมากที่สุด เพราะเสียงพระสวดเป็นภาษาบาลีก็พูดกับคนที่มางานว่าให้ดำรงชีวิตในความไม่ประมาท เพราะความตายเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่เราต่างฟังภาษาบาลีไม่ออกจึงไม่รู้ความหมาย การเปิดเพลงที่ความหมายตรงก็อาจจะทำให้ปล่อยวางได้ดีเหลือเกิน มีเพลงมากมายที่พูดถึงวัฏจักรของชีวิตที่เกิดและดับไป เมื่อพบก็ต้องลา วันใดวันหนึ่งเราต่างต้องลาจากกันไป ไม่ใช่เรื่องเศร้าแต่เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจและยอมรับ
- เรื่องนิดเดียว – เรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธา
- โลกไม่ใช่ของเรา – บัวหิมะ
- ควันบุหรี่ – Freehand
- ความสุข – Mattnimare
- ปล่อยให้ตัวฉันไป – Moving and Cut
- พบ พา ลา จาก – Deasktop error
- แก่ลงอยู่ทุกวัน – จีน มหาสมุทร
- ทางกลับบ้าน – Bodyslam
- เรื่องธรรมดา – Greasy Cafe
- What we are – Little Fox
- เพียงแค่เรา – สภาพสุภาพ
- แค่หนึ่งวัน – Grass Hopper
- Let It Be – The Beatles
- ก่อนดอกไม้จะเน่า ก่อนที่นี่จะว่างเปล่านิรันดร์ – AumDVD
งานศพออกแบบได้ แต่อย่าทำให้ใครลำบาก
งานศพที่เรารู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่กำเนิดมนุษยชาติ มีความแตกต่างหลากหลายในแต่ละวัฒนธรรมซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีถูกผิด ดีงาม หรือเลวทราม (หากไม่ได้ไปทำร้ายใครหรือทำผิดกฎหมาย) แล้วแต่ความชอบ การตกลงกันในเครือญาติและเพื่อนฝูง งานศพก็เหมือนพิธีกรรมต่าง ๆ บนโลกที่มีวิวัฒนาการและเหตุผลจนเกิดการเปลี่ยนแปลงตามสังคมคนที่เคลื่อนไปข้างหน้า
อย่าประมาท ชอบเพลงไหนอย่างไรก็จงฟังให้พอใจตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ชอบวงไหนก็ไปดูเขาเล่นตอนที่ยังมีชีวิต อย่าหวังให้เขามาเล่นในงานศพเรา เพราะน่าจะวุ่นวายคนที่ยังเหลืออยู่ การจัดคอนเสิร์ตไม่ง่ายเลยยยย ฟังใจ ขอบอก ยิ่งงานคอนเสิร์ตในช่วงที่แสนเศร้า เราอาจต้องยอมปล่อยวางให้เป็นไปตามแรงกายและแรงเงินของผู้ที่เราทิ้งไว้เบื้องหลัง
ความตายมักเกิดขึ้นกะทันหัน ไม่ค่อยได้เตรียมตัวเตรียมใจ ไม่มีใครอยากเตรียมงานศพเผื่อไว้เพราะดูเป็นลางไม่ดี มักจะได้จัดงานศพตามประเพณีที่มีมา แต่เพลงเป็นเครื่องมือสร้างอารมณ์ที่มีพลัง เพียงแค่เปิดเพลง บรรยากาศก็เปลี่ยนไป
เชื่อว่าหลายคนนั้นลึก ๆ ก็อยากจัดงานศพของตัวเองที่พิเศษกว่าทั่วไป ที่สามารถเปิดเพลงได้เพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม ไม่ว่าจะปลอบใจหรือพาให้เศร้าไปกว่าเดิม หากแน่วแน่ว่าอยากให้มี ทางที่ดีจัดเพลย์ลิสต์เอาไว้เลย