Story

Sasi หลีกหนีความซ้ำเดิมผ่านเสียงดนตรีในแบบ Bampola

  • Writer: Montipa Virojpan

static1-squarespace-2

คุณอาจจะเคยได้ยินมาก่อนว่า Sasi (ศศิ) คือ วงดนตรีที่มีสมาชิกหลักคือ เดือน จงมั่นคง นักเขียน ช่างภาพ และนักดนตรี ที่เคยฝากผลงานไว้ทั้งหนังสือ “ปู่บอกให้ออกเดิน” ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวของ จิตต์ จงมั่นคงศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) ปู่แท้ ๆ ของเธอผ่านภาพถ่ายในมุมมองของเธอเอง และยังมีงานเพลงสไตล์โฟล์ก อะคูสติกที่หลายคนคงได้ฟังกันตามเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ที่การแสดงแต่ละครั้งของเธอทำให้สัมผัสได้ว่าเพลงเหล่านั้นเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ถ่ายทอดจากข้างใน

แต่ที่จริงแล้ว ศศิ คือ การรวมตัวของคนสี่คน ที่จังหวะชีวิตของทุกคนโคจรมาเจอกันที่ Bamsha Cafe ร้านกาแฟบนถนนพระสุเมรุ เดือน แวะมาดื่มกาแฟที่ร้านนี้จนได้รู้จักกับ แบงค์ ที่เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งเมื่อแบงค์รู้ว่าเดือนก็แต่งเพลงและร้องเพลงจึงชวนเธอไปเล่นอะคูสติกที่ร้าน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ชวนเธอมาทำเพลงโดยแบงค์จะเป็นมือกีตาร์อีกคน และได้ โบ๊ท มือกลอง มาเล่นด้วยกัน ส่วน ทอฝัน สมาชิกที่เข้ามาร่วมทีมคนสุดท้าย ก่อนหน้านี้เขารู้จักกับแบงค์อยู่แล้วจึงได้ฟังเพลงที่ เดือน แบงค์ โบ๊ท ทำไว้ก่อนหน้า เขาเกิดชอบขึ้นมาและคิดว่าเพลงของทั้งสามมีพื้นที่ให้ทำอะไรในนั้นได้เยอะพอสมควร จึงลองถามดูว่าวงสนใจจะเพิ่มมือกลองอีกคนหรือเปล่า ซึ่งคือตัวเขาเอง เมื่อทางวงเปิดโอกาสรับสมาชิกอีกคนจึงกลายเป็นจุดเด่นและสีสันที่ตามปกติวงดนตรีจะมีกีตาร์สองตัว แต่วงนี้มีกลองสองชุด

แล้ววงดนตรีที่มีกลองสองชุดจะแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ทอฝันเล่าว่า ไลน์หลัก ๆ โบ๊ทจะคิดมาแล้วพอสมควรก่อนที่เขาจะเข้ามา ส่วนเขาจะเป็นคนช่วยเติมเต็มจุดยังขาดหายไป อย่างเช่นวงนี้เป็นวงที่ไม่มีเสียงเบส ทำให้บางครั้งย่านเสียงต่ำของเพลงก็จะลดลงไป จุดนี้เขาก็จะเสริมพวกกลองที่เสียงต่ำ ๆ ลงไปแทนเสียงเบสเพื่อให้เพลงยังฟังดูเต็มอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น หรืออย่างท้ายเพลง ใจ ก็จะมีช่วงที่กลองสองชุดได้ระเบิดใส่กัน ช่วยขับเน้นความรู้สึกของเนื้อเพลงได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

static1-squarespace-3

แต่ก่อนที่จะได้ชื่อ ศศิ นี้มา สมาชิกคนอื่น ๆ อยากจะให้ใช้ชื่อ “เดือน” ไปเลยด้วยซ้ำ แต่เดือนรู้สึกว่านี่เป็นวงของทุกคนจึงไม่อยากให้เป็นชื่อของตัวเอง เลยได้ลองหาคำภาษาไทยที่มีความหมายว่า “ดวงจันทร์” เช่นเดียวกัน ก็ได้มาเป็น “ศศิ” ที่เจ้าตัวคิดว่าชื่อ ศศิ นี้ก็ดูเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึง ส่วนชื่อของอัลบั้ม Bampola ก็มีที่มาจาก Bamsha Cafe ซึ่งร้านนี้จะมีความเป็นชุมชนเล็ก ๆ ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมและรู้จักอุปนิยสัยกันมาประมาณนึง สมาชิกก็จะชอบพูดเล่นกันว่า คนที่แบมช่าออกจะมีอาการเป็นพวกสองบุคลิก (Bipolar Disorder) เลยเนอะ เลยได้สร้างศัพท์ใหม่ที่ใช้เรียกอาการแบบนี้ว่า “Bampola” โดยเฉพาะ

เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม Bampola นี้ จะเป็น psychedelic folk แต่บางเพลงก็มีส่วนผสมของแนวดนตรีอื่น ๆ ที่พวกเขาชื่นชอบ อย่างเพลง ไปวันวัน จะเพิ่มความเป็นเร็กเก้ลงไป หรือเพลง แสงแดดที่ผิดกฏหมาย ก็จะมีความเป็น free jazz ผสมลงไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้จะมีเพลงเก่าของเดือนที่เคยร่วมแต่งกับเพื่อน ๆ นักดนตรีอยู่สองเพลง แต่การนำมาเล่นใหม่ในครั้งนี้จะเป็นการตีความใหม่ในแบบศศิ มีเพลงนึงที่จะใส่ท่อนใหม่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย ส่วนเพลงที่พวกเขาและเธอปล่อยออกมาให้ได้ฟังได้ชมกันแล้วอย่างเพลง ใจ เจ้าตัวเล่าว่าความหมายของมันคือการหนี แต่ใจและกายเป็นสิ่งที่เราหนีไม่ได้ และหลายครั้งเราก็ควบคุมให้เป็นดังที่ตัวเราต้องการไม่ได้เหมือนกันซึ่งมันได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเรา จนตลอดชีวิตเราก็คงจะเกิดซ้ำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แต่ทางวงบอกว่าที่เราได้เห็นกันเป็นแค่ official audio ให้ฟังเพลงกันก่อนเฉย ๆ ส่วนมิวสิกวิดิโอตัวเต็มถ่ายเสร็จเรียบร้อย จะได้ดูพร้อมกันช่วงต้นเดือนหน้าอย่างแน่นอน

และสำหรับงานเปิดอัลบั้ม Bampola ที่กำลังจะมีขึ้น ผู้ร่วมงานสามารถจับจองซีดีอัลบั้มได้ที่นี่ ใครที่อยากฟังเพลงอื่น ๆ ของวงต้องรีบมาซื้อกันที่นี่ ส่วนดาวน์โหลดคงต้องรอกันอีกสักระยะ พร้อมได้ชมโชว์จากวง และแขกรับเชิญ ย้ง จากวง Chladni Chandi กับเพื่อน ๆ ของเขา โดยก่อนหน้านี้ย้งเคยมาเล่นไวโอลินให้เดือนตอนที่เล่นอะคูสติกกีตาร์ กับอีกหนึ่งวงเปิดที่เดือนแอบบอกว่า เป็นสาวสวย หน้าตาคุ้นเคยแน่นอน แต่เป็นคนขี้อายเลยไม่อยากเปิดเผยตัวล่วงหน้า ก็ต้องมาดูมาฟังกันเองว่านักดนตรีปริศนาคนนี้จะเป็นใคร ในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม ที่ Method to My Madness ลาดพร้าว ใกล้ MRT พหลโยธิน

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/events/1145384572183898/

 

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้