แกะกล่องอัลบั้ม Out of Time งานชุดแรกของ Old Fashioned Kid
- Writer: Wathanyu Suriyawong
- Photographer: Chavit Mayot
Old Fashioned Kid คือศิลปินเดี่ยวที่เพลงของเขามีดนตรีโฟล์กร็อกเป็นส่วนผสมหลัก แต่ถ้าสืบลึกไปถึงเบื้องหลังจะพบว่า นี่คือโปรเจกต์เดี่ยวของ ติน มือกลองวง Shopping Bag
หลังจากที่ปล่อยผลงานเป็นซิงเกิ้ลมาสักระยะ ในที่สุด Old Fashioned Kid ก็มีอัลบั้มเต็มในชื่อว่า Out of Time ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของเพลงที่จะเกี่ยวกับเวลาทั้งหมดที่มีกำลังหมดลง ทั้งหมดเวลาอกหัก หมดเวลาของความเศร้า หมดเวลาที่จะมัวกังวลและก้าวเดินต่อไป โดยอัลบั้มนี้ได้ร่วมงาน บิว—ปิยทัศน์ เหมสถาปัตย์ โปรดิวเซอร์มือดีที่เคยร่วมงานกับ Yanin และ TELEx TELEXs มาโปรดิวซ์ให้กับอัลบั้ม Out of Time นี้ด้วย
ก่อนจะไปถึงตัวเพลง เราแวะมาที่แพ็คเกจซีดีกันสักเล็กน้อย
อัลบั้มนี้บรรจุอยู่ในกล่องซีดีใส ปกเป็นรูปคนกอดกันโทนสีน้ำเงินทึม ๆ หน่อย เหมือนจะบอกว่ามนุษย์ที่มีความทุกข์เหมือน ๆ กัน กอดเพื่อปลอบประโลม ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หรืออาจจะหมายถึงการผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปด้วยกันก็เป็นได้ ซึ่งปกซีดีก็ก็ไม่ใช่ปกกระดาษหน้าเดียว แต่เป็น booklet ที่มีภาพศิลปะ เนื้อเพลง และเครดิตผู้ทำงานเบื้องหลังระบุไว้ด้วย ทั้งหมดนี้ออกแบบโดย ดีน—ธนกร ศิริรักษ์ หรือศิลปินนักวาดภาพประกอบที่ชื่อ Slver Water นั่นเอง
เอาล่ะได้เวลาฟังเพลงแล้ว
#1 เดิน (Kinabalu)
เป็นเพลงที่สื่อถึงการเดินทางสู่จุดหมายที่หวังไว้ แม้เส้นทางนี้จะอีกไกลแค่ไหนหรือยังข้ามไปไม่ได้ก็จะไม่ยอมถอยหลัง จะยืนอยู่ตรงนี้เพื่อรอการก้าวเดินต่อไป และจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำไม่ว่าจะมีใครจะว่าอะไรก็ตาม ถ่ายทอดผ่านเสียงร้องแสนมีสเน่ห์ของตินได้อย่างลงตัว
พาร์ตดนตรีบรรเลงด้วยเสียงกระเดื่องย้ำ ๆ ชวนให้อยากย่ำเท้าก้าวไปข้างหน้า กับเสียงกีตาร์ฟุ้งไกล ๆ ได้ฟีลเหมือนฟังเพลงอยู่ท่ามกลางหุบเขายังไงยังงั้น จนพบกับความสดใสที่กลางเพลง เรียบเรียงไดนามิกเพลงให้ฟังได้อย่างเพลิดเพลิน
#2 เก็บอาการ (Hide)
เป็นเพลงที่เกี่ยวกับการถูกคนรักทิ้งไป ราวกับการที่เคยบอกว่ารักกันมันไม่มีอยู่จริง กลายเป็นคนไม่รู้จักกันอะไรประมาณนั้น สำหรับดนตรีเพลงนี้ ออกไปทางร็อก จังหวะกลองมีความพังก์แต่กลับดูละมุนละม่อมและสื่อถึงความเจ็บช้ำได้อย่างไพเราะ ไม่ได้เดือดดาลโวยวายอะไร เอาเป็นว่าฟังเพลินและได้อารมณ์จนรู้สึกว่าเพลงสั้นไป พอมาดูกลับพบว่าเพลงนี้มัน 4 นาทีเลยนะ เป็น 4 นาทีที่สั้นมาก
#3 ไม่มีเธอ (Empty ft. ปลาย Monomania)
สำหรับเพลงนี้ก็ได้ ปลาย Monomania มา featuring นับว่าเป็นการร่วมงานที่เข้าขากันมาก อารมณ์เพลงและซาวด์มันเศร้าได้ใจเหลือเกิน และตินร้องออกมาเศร้าจนฟังแล้วอยากจะร้องไห้ พอมาถึงช่วงท้ายก็มีความทุกข์ทรมานแบบโหยหวน ซาวด์ดนตรีก็เล่นใหญ่เล่นดีซะเหลือเกิน
#4 อย่าไป (Don’t Go)
เป็นเพลงที่ได้อารมณ์ทรมานของการรักคนที่ไม่รักเรา แม้จะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง แต่พาร์ตดนตรีกลับสื่ออารมณ์ความผิดหวังได้อย่าง positive เหมือนกับยอมรับความจริงได้ แต่ขอระบายหน่อยแล้วกันอะไรประมาณนี้ พอมาถึงช่วงท้ายของเพลง รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยความอัดอั้นอะไรบางอย่าง เป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วอยากดูเล่นสดเลย
#5 หลอกตัวเอง (My Own Mistake)
เพลงนี้มีดนตรีที่ฟังง่าย เรียบเรียงได้ราบรื่น ซาวด์ดนตรีมีความสดใส ส่วนเนื้อเพลงกลับไม่ใช่เรื่องแฮปปี้ซะทีเดียว เป็นความรู้สึกผิดที่ทำให้คนรักต้องทิ้งไป แต่ก็ยังเยียวยาตัวเองด้วยการหลอกตัวเองว่าเธอยังรักเราอยู่ เป็นการหวังลมแล้ง ๆ ที่ทำให้มีแรงใช้ชีวิตต่อไป มาถึงเพลงนี้เริ่มรู้สึกว่าการที่ทำเพลงเนื้อหาเศร้า ๆให้ออกมา positive คืองานถนัดของ Old Fashioned Kid เลยล่ะ
#6 เพราะเธอ (You ft. Monik)
เป็นเพลงรักที่ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงพลังความรักที่งดงามและยิ่งใหญ่ เมโลดี้สวยสดหยดย้อย เสียงร้องที่แสนโรแมนติกของติน แถมยังเพิ่มความสวยงามด้วยเสียงเพราะ ๆ จาก มน Room 39 หวานใจของตินอีกด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงรักที่สมบูรณ์มาก ๆ และความพิเศษของเพลงนี้ที่เราไปแอบรู้มาก็คือ เป็นเพลงที่มาจากความรู้สึกของตินที่มีให้มนจริง ๆ เพราะเพลงนี้ตินตั้งใจแต่งให้มนนั่นเอง
#7 รักคือการให้ไป (Love Let Go)
เพลงนี้คือเพลงรักที่ตั้งอยู่บนความเสียสละ คือการรักโดยไม่หวังอะไรตอบแทน เพียงให้คนที่เรารักมีความสุขเป็นพอแล้ว ท่อนฮุคที่ร้องว่า “รักจึงให้เธอไป รักจึงให้อภัย” เหมือนกับเวลาที่คนเราติดอยู่กับความผิดหวัง แต่พยายามพร่ำบอกตัวเองว่าเราทำถูกแล้ว ส่วนพาร์ตดนตรีแรก ๆ จะดูเงียบ ๆ มีเพียงกีตาร์และเสียงร้อง จนมาเพิ่มความใหญ่ด้วยดนตรีแบบ full option ช่วงกลางของเพลง เสียงกลองโดดเด่นเพิ่มความทรงพลังให้เพลงนี้อย่างลงตัว
#8 นิดนึง (Out of Time)
จากหลาย ๆ เพลงที่ผ่านมาจะขึ้นด้วยเสียงร้องของตินพร้อมเสียงกีตาร์ เพลงนี้ก็เช่นกัน แต่ที่ต่างออกไปคือเสียงร้องมีการใส่เอฟเฟกต์ฟุ้ง ๆ เหมือนเสียงกระซิบจากความฝัน เพลงนี้จะมีการเรียบเรียงแบบกราฟค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปจนถึงจุดพีคอย่างสวยงาม เมโลดี้ร้องก็เพราะอีกเช่นเคย โดยเฉพาะท่อน “ให้ฉันได้มีเธออยู่ตรงนี้อีกนิดนึง” เพลงนี้สอนให้รู้ว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดที่สำหรับคนที่เรารักไม่ใช่การให้เงินทอง ไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่เพียงความรู้สึกอย่างเดียว แต่มันคือ “เวลา”
#9 ไม่รู้ตัว (I’m Sorry to Love You)
เป็นเพลงที่เศร้าโดยสมบูรณ์ น่าจะเกี่ยวกับการที่เผลอไปรักเพื่อนหรือคนใกล้ตัว จากท่อนที่ร้องว่า “ผิดที่หัวใจ ที่คิดเกินไปไกล ไม่ทันรู้ตัว” เพลงนี้ตินร้องได้เศร้ามาก ๆ คล้ายคนสะอื้นไปร้องเพลงไป พาร์ตดนตรีมีเพียงกีตาร์โปร่งและเชลโล ทำให้เราต้องยกเพลงนี้เป็นเพลงที่เศร้าที่สุดในอัลบั้ม
#10 Bonus Track – You (Movie Version)
เป็นเพลงบรรเลง จากชื่อน่าจะเป็นเพลงเดียวกับเพลง “เพราะเธอ” ที่บรรเลงด้วยเปียโนล้วน ๆ เพลงนี้ไม่ได้เอาไปประกอบภาพยนต์แต่อย่างใด แต่เป็นเวอร์ชันที่ได้ฟีลเหมือนเพลงประกอบหนัง เอาเป็นว่าหากใครได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจเอาไปประกอบหนัง สามารถติดต่อเจ้าตัวได้เลย
++++++++
ความตั้งใจ ความทุ่มเททั้งหมดอัดรวมอยู่ในกล่องซีดีอัลบั้มนี้ หากเคยได้ฟังเพลงใดเพลงหนึ่งมาแล้ว อยากบอกว่า ยังมีเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้ รอให้คุณมาชอบอีกหลายเพลง จากที่ฟังมา เพลงในอัลบั้ม Out of Time ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความผิดหวังเสียใจ ความทุกข์ที่ต้องเผชิญ แต่ตินสามารถทำให้มันออกมาเป็นแง่บวกได้อย่างไม่น่าเชื่อ พอฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนกำลังได้รับพลังบวกจากแต่ละเพลง หรือไม่ก็เหมือนมีคนตบไหล่ว่าเราเข้าใจเรื่องที่นายเจออยู่นะ ส่วนตัวรู้สึกเลยว่านี่คือความหวังของวงการเพลงบ้านเรา และคำนี้คงไม่มากเกินไปสำหรับ Old Fashioned Kid
ใครที่สนใจจะซื้ออัลบั้มมาครอบครอง สามารถติดต่อได้ที่ inbox เพจของวงเข้าได้เลยนะ ราคาแผ่น 350 บาทเท่านั้นเอง