คนรักซิตี้ป๊อปไม่ควรพลาด Mama Cook อัลบั้มเต็ม Mamakiss กับ 9 เพลงอร่อยหู
- Writer: Yanabhus Suriyajai
ก่อนจะมีอัลบั้ม Mama Cook ในวันนี้ Mamakiss จาก Welfare 6 เคยปล่อยซิงเกิ้ลมาแล้วก่อนหน้าสองเพลง นั่นก็คือ เธอผู้กอบกู้โลก ในปี 2014 กับ Ice Cream ในปี 2017 หากเราลองไปฟังสองเพลงนี้ แล้วลองมาเปรียบเทียบกับเพลงต่าง ๆ ในอัลบั้ม Mama Cook จะสัมผัสได้เลยว่าพวกเขาเก่งและมีสไตล์เด่นชัดขึ้น ซาวด์ดนตรีซิตี้ป๊อปแบบญี่ปุ่นทั้งอัลบั้ม ไม่มีเพลงไหนหลุดโทนออกมาเลย ถือว่าเก่งมากในการควบคุมแนวดนตรีและคาแร็กเตอร์ของวง
Prologue
อัลบั้มเปิดมาด้วยเพลงบรรเลง คล้ายกับให้สัญญาณกับคนฟังว่าคุณจะได้ฟังอะไรในอัลบั้มนี้ เราสามารถสัมผัสได้ถึงพัฒนาการของวงได้ตั้งแต่เพลงแรก ทั้งซาวด์ดนตรีซิตี้ป๊อปชัดเจน และอารมณ์เพลง ที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมานั่งบาร์เพื่อพักผ่อน จากการใส่ซาวด์แอมเบียนต์จากบาร์ที่ไหนไม่รู้ที่มีคนชนแก้วและคุยกัน บวกกับกรูฟชวนโยกและทำนองที่น่ารัก ทำให้รู้สึกประทับใจและตื่นเต้นอยากจะฟังแทร็คต่อไป
ใคร (Who Called Me?)
เริ่มฟังตั้งแต่ท่อนเวิร์สแรกทำให้รู้สึกเหงาตามเพลง เนื่องจากบอกว่าไม่มีใครเลย พอถึงพรีฮุกเริ่มทำให้รู้สึกเอะใจว่าเพลงมันยังเหงาจริง ๆ อยู่ไหม พอฮุกเท่านั้นแหละ เพลงนี้มันอินเลิฟนะครับ เนื้อหาเพลงกำลังบอกว่ามีคนคุยหรือมีแฟนแล้ว พอฟังจบก็แอบหมั่นไส้เพลงนี้เหมือนกัน ว่าหลอกกันได้ว่าเหงา ที่แท้ก็อินเลิฟอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าผมกำลังอินเลิฟก็อยากฟังเพลงนี้นะ ฮ่า
เพื่อนซี้ (Friendzone)
เวลาที่เราเจอคนที่คิดว่าใช่ ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้เป็นมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่ด้วยความกลัวว่าถ้าบอกความในใจไปจะทำให้เขาคนนั้นหนีห่างเรา ความกลัวนี้จึงสั่งให้เราอยู่ในโซนและห้ามทำอะไรเกินเลย แล้วหันกลับมาเก็บเกี่ยวความสุขรอบข้างกันเถอะ อย่างในตอนท้ายของเพลงที่ร้องไว้ ‘แค่เธอมองในแววตาที่เธอเคยใช้ แค่นั้นความหมายก็มากพอ’ เอาเข้าจริง ๆ อาจไม่จำเป็นที่ต้องพัฒนาความสัมพันธ์ก็ได้ แค่ทุกวันเขาไม่หายไปก็พอแล้ว
Third Time Lucky
เปิดเพลงมา เสียงเครื่องสายก็เล่นขึ้นมาเหมือนเป็นทำนองนำของเพลงนี้ และเมโลดี้ก็ช่างงดงามเหมือนเคยได้ยินอะไรแบบนี้จากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ญี่ปุ่นหวานซึ้งสักเรื่อง
เพลงนี้เล่าถึงความเชื่อที่ว่า ‘ครั้งที่ 3 มันต้องสมหวัง’ ทางวง Mamakiss จึงนำความเชื่อนี้มาใช้ในการบอกรักใครสักคน เพื่อหวังว่าครั้งที่สามนี่แหละ จะทำให้เขาคนนั้นยอมรับรักของเราไป และในท่อนโซโล่ซินธ์ คุณผู้ฟังอาจจะลองเต้นแอโรบิกไปด้วยก็ได้ เพราะความเร็วของเพลงนี้ก็เหมาะจะทำได้ แต่ก็เกรงใจกับเสียงเครื่องสายที่งดงามในท่อนอื่น ๆ เอาเป็นว่าฟังไปเพลิน ๆ อาจดีกว่า ถือว่าให้เกียรติเพลงที่มีทำนองเพราะ ๆ เพลงหนึ่งของอัลบั้ม
คนกันเอง (Speaker Killer)
เพลงนี้จะมีกรูฟที่ซับซ้อนกว่าเพลงก่อนหน้านี้ แต่ไม่ถึงกับฟังยาก และเบสมีการสแล็ป เพลงนี้พูดถึงความสนิท เพราะบางครั้งคนเราจะเข้าใจว่าเวลาคนเราสนิทกันจะสามารถทำอะไรกันก็ได้ จะแกล้งแรงแค่ไหนก็ได้ หรือจะพูดทำร้ายความรู้สึกแค่ไหนก็ได้ ยังไงก็เพื่อนกัน เพื่อนไม่โกรธหรอก แต่จริง ๆ แล้วเพื่อนคุณอาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้น แค่ที่คุณเห็นว่าเพื่อนไม่โกรธ อาจจะเพราะว่าเพื่อนไม่ได้แสดงออกมามากกว่า
สำหรับโซโล่กีตาร์ในเพลงนี้ถือว่าเป็นทีเด็ด เพราะมือกีตาร์เล่นซะเหมือนโกรธใครมา แต่เพิ่งมาระบาย จึงทำให้รู้สึกสะใจเป็นบ้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้แนวเพลงเปลี่ยนแต่อย่างใด กลับทำให้รู้สึกว่าการเรียบเรียงเพลงนี้ฉลาดและเข้ากับเนื้อหามาก
Flashback!
บางทีการบอกความในใจกับคนที่ไม่ได้คิดเหมือนกับเราก็เหมือนกับการทำอะไรโง่ ๆ ลงไป ถ้าใครที่เพิ่งแห้วมากับรักครั้งก่อนและหลงมาฟังเพลงนี้อาจจะทำให้รู้สึกอับอายตนเองก็ได้ เพราะความรู้สึกดี ๆ ของเรามันไม่ได้ดีกับเขาคนนั้นเลย พูดแล้วมันก็เศร้า แต่ทำไงได้ เมื่อความรู้สึกมาถึงจุดหนึ่งที่เกินจะทนไหว มันก็ต้องระบายออกไปให้เขาได้รับรู้ สุดท้ายจะผิดหวัง หรือสมหวัง มันก็ไม่เกี่ยวประเด็นแล้ว เพราะมันเกินจะทนไหวแล้ว จะให้ทำยังไงต่อล่ะ
Skip
ฟังมาเรื่อย ๆ จนจบเพลง ระหว่างฟังไปมันก็เกิดภาพสองภาพตีกันในหัว ภาพแรก คือคน ๆ หนึ่งกำลังบอกใครอีกคนหนึ่งให้รอหน่อยนะ เดี๋ยวจะมีอะไรเจ๋ง ๆ ให้ดู กับภาพที่ 2 คือ วง Mamakiss พูดกับคนฟังนี่แหละ ว่ารออีกสักนิดเดี๋ยวจะมีอะไรเจ๋ง ๆ ให้ดู แต่ไม่ว่าจะเกิดภาพไหนในหัว ก็ถือว่าเพลงนี้เจ๋งดี เพราะพูดถึงคนที่มีแผนการบางอย่างที่จะทำให้ใครอีกคนประทับใจในแบบไม่ซ้ำใคร พอฟังไปฟังมา ไม่ว่าจะเกิดภาพไหน เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่น่ารักอีกเพลงหนึ่งในอัลบั้มนะครับ
Cheat Day
ในปี 2019 นี้ ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านมี New Year Resolution กันบ้างหรือเปล่า จะมีสักข้อไหมที่ตั้งว่า ‘จะลืมรักครั้งเก่าให้ได้’ ผมคาดการณ์ไว้ว่าถ้าพวกเรามีเป้าหมายกันแบบนี้ มันต้องมีสักวันแหละที่เราไม่ทำตามปณิธานโดยช่วยไม่ได้ คือวันที่จู่ ๆ เราก็คิดถึงเขาขึ้นมาเพียงเพราะการฟังเพลงเพลงหนึ่ง ดูหนังเรื่องหนึ่ง หรือเผลอผ่านสถานที่เดิม ๆ ในอดีต ก็อาจจะทำให้วันนั้น
ดาวเคราะห์แคระ (Dwarf Planet)
เพลงนี้เป็นแทร็คสุดท้าย และเป็นแทร็คที่ผมประทับใจในการเล่าเรื่อง คือการทำให้ดาวพลูโตมีความเย่อหยิ่ง เมื่อมีใครมาเห็นค่าในวันที่สายเกินไป และมันสามารถเชื่อมโยงกับคนเราได้จริง ๆ เมื่อตอนอยู่ด้วยกันไม่เคยให้ความสำคัญ พอจากกันไปก็กลับมาง้อ แต่เราก็คงไม่กลับไปหรอก เช่นเดียวกับดาวพลูโต ที่เราจะให้ความสำคัญเท่าไหร่ สุดท้ายเขาก็ไม่กลับมาร่วมวงโคจรกับเราเหมือนก่อน
ครบถ้วนกันไปแล้วกับทั้ง 9 เพลงในอัลบั้ม Mama Cook หลาย ๆ เพลงมีการเขียนเนื้อร้องที่แปลกใหม่ ส่วนเรื่องดนตรี ใครชอบซิตี้ป๊อปอยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดอัลบั้มนี้อย่างยิ่ง เพราะถือว่านี่คือวงที่ทำดนตรีแนวนี้ได้ถึงมาก ๆ วงหนึ่งของไทย ว่าไปแล้วก็อยากจะลองฟัง Mamakiss เล่นเพลงในอัลบั้มนี้สด ๆ สักครั้ง เพลงเจ๋ง ๆ แบบนี้ก็ต้องลองไปเสพตอนเล่นสดคงจะฟินน่าดู คงเหมือนอยู่ญี่ปุ่นยังไงอย่างงั้น