ไซคีเดลิกร็อกละลายในปาก หลากสีสันจาก VEGA ในอัลบั้มเต็ม Macaron Psych Trip
- Writer: Montipa Virojpan
ถึงแม้ VEGA เขาจะพลาดรางวัลจาก สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 30 ในสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย แต่ผลงานอัลบั้มชุดแรก Macaron Psych Trip ก็ได้ใจชาวไซคีเดลิกร็อกไปเต็ม ๆ กับ 8 บทเพลงคละสี คละลาย แต่ได้รสชาติถูกปาก
ฟังเพลงของพวกเขาได้บน Spotify
VEGA
เริ่มกันที่แทร็คแรกชื่อเดียวกับพวกเขา เกิดมาจากความที่วงอยากจะมีเพลงใช้แนะนำตัวอย่าง My Name is KALA บ้างด้วยการร้องว่า ‘We are VEGA we come from Lanna’ ซึ่งซาวด์ดนตรีอะไรต่าง ๆ ก็เหมาะเหลือเกินที่จะใช้เป็นเพลงสำหรับทำความรู้จักกับตัวตนของทั้งห้าคนนี้ ซาวด์แบบไซคีเดลิกร็อกยุค 70s เด่นด้วยซาวด์กลองโจ๊ะพรึม ๆ เสียงคีย์บอร์ดที่เล่นให้เหมือนออแกน ยุกยิกไปกับลิกกีตาร์ที่เกาอยู่ข้างหูซ้าย ก่อนจะต้องเหวี่ยงหัวไปกับลีดกีตาร์ที่โผล่มาทางหูขวา วิธีการร้องติดกลิ่นเพื่อชีวิตนิด ๆ เป็นอะไรที่ถูกต้องเสียเหลือเกิน
F# (Astonishing)
อินโทรซาวด์คีย์บอร์ดล่องลอย แอบทำให้คอร์ดเพี้ยนไปจากที่ปกติจะเป็นเพื่อให้ดูเหมือนอยู่ในอาการหลอน ซ้อนทับด้วยเสียงซินธ์เป็นจังหวะ แล้วแทรกขึ้นมาด้วยกีตาร์ไฟฟ้าสุดร้อนแรง ความน่าสนใจมาก ๆ ของเพลงนี้คือจังหวะในแต่ละห้องที่มีลูกสับขาหลอกอยู่เรื่อย ๆ จนจับทางไม่ถูก เหมาะเหลือเกินกับการเป็นเพลงที่เอามาเล่าภาวะหลังจากได้ ‘แปะแสตมป์’ เข้าไป จน ‘รู้สึก และเข้าใจทุกอย่าง ในมิติความต่าง’ หลังท่อนฮุกก็มีซาวด์กีตาร์ย้วย ๆ สองไลน์ เอฟเฟกต์ซินธ์พรั่งพรูปั่นหัวคนฟังอย่างสนุก ช่วงนาทีที่ 3.30 นี่เพลิดเพลินมากกับการอัพบีตขึ้นมาแล้วใช้เมโลดี้สดใส ฟังแล้วภาพมา สีมา เนี่ยแหละที่เขาเรียกว่า ‘trip’ เหมือนได้ท่องเที่ยวไปทะลุมิติไปกับเพลงของพวกเขา เป็นหกนาทีที่รื่นรมย์มาก ๆ
Shine For Child
ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนเพลงของวงอยู่ไม่น้อยว่า เอะ ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนมาทำเพลงซอฟต์ ๆ ซะงั้น แต่ในความฟังง่ายกว่าเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้ก็มีการให้ความใส่ใจกับซาวด์ดีไซน์ เน้นความเป็น lo-fi แล้วก็ยังเก็บโน้ตกีตาร์แบบไซคีเดลิกซ่อนไว้ตามเวิร์สนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นเพลงให้กำลังใจที่ฟังแล้วอาจจะได้เชื้อไฟกลับมาในวันที่ท้อแท้
Hystman
เพลงสุดเนิบนาบเพลงนี้นอกจากจะเอาไว้ฟังเพื่อความผ่อนคลายแล้ว ยังเอาไว้ฟังขณะร่วมกิจกรรมเข้าจังหวะด้วยก็ได้… จริง! ทางวงเขาบอกไว้เองว่าเพลงเนี้ยแต่งขึ้นมาเพราะอยากมี baby making song เป็นของตัวเองเว่ย!! ความชวนฝันนวยนาดยวบยาบ ซาวด์ lo-fi และเมโลดี้คีย์บอร์ดสุดงดงาม แต่เนื้อหาตรงไปตรงมาว่ากำลัง make love ขนาดเนี้ย มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วล่ะครับพี่น้องงงงง (ความยาวเพลงหกนาทีกว่า ๆ คิดว่าอาจจะไวไป… กดตั้งเล่นซ้ำไว้เลยละกัน!)
Tiredland (ชายชุดดำ)
ชื่อเพลงนี่ต้องเล่นกับคำว่า Thailand อยู่แน่ ๆ ช่วงต้นของเพลงได้เสียงของเครื่องดนตรีชนเผ่าอะบอริจินอย่างดิดเจอริดู คล้าย ๆ งาช้างยาว ๆ บ้างก็ดูเหมือนบ้อง เอามาเป่าแล้วได้เสียงต่ำ ๆ แปลกหู ซึ่งสร้างบรรยากาศลึกลับน่าสนใจได้ดีในเพลงนี้ ก่อนจะดึงเข้าเพลงจังหวะกลาง ๆ เสียงกลองในช่วงโซโล่บรรเลงให้คล้าย ๆ เสียงกลองในเพลงมาร์ช เพลงเดินทัพ (อุ๊ปส์) เพลงพูดเรื่องทุนนิยมที่ขับเคลื่อนสังคม การซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาตรงกับวันเกิดของผู้นำประเทศคนปัจจุบันพอดี
Salmon Says
ถ้าใครเคยเล่นเกม ‘Simon Says’ ก็น่าจะพอรู้ว่าชื่อเพลงนี้ได้ไอเดียมาจากเกมนี้แหละ คือเวลาไซม่อนพูดอะไร เราก็ต้องทำตาม แต่นั่นเป็นแค่เกมไง อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเราเชื่อสิ่งที่ ‘แซลมอน’ บอก จะเกิดอะไรขึ้น
เพลงที่เชื่อมต่อกับเพลงที่แล้วอย่างแนบเนียนละเมียดหู ซาวด์คีย์บอร์ดฟุ้งสร้างมิติชวนฝันขึ้นในต้นเพลง แล้วช่วงกลาง ๆ เพลงก็ทำให้เรานึกถึงวงนีโอไซคีเดเลียอย่าง Pond อยู่ไม่น้อยเลยกับการผสมเอฟเฟกต์ซินธ์ยุบยับไปหมดแบบนั้น ช่วงท้ายก็เป็นกีตาร์ร็อกกระฉับกระเฉงชวนโยก เราเพลิดเพลินไปกับไลน์กีตาร์กลิ่นอาหรับ และความบิดเบี้ยวในรายละเอียดที่หลากหลายของดนตรีความยาวเกือบเก้านาที หลอมเราด้วยความหวาดกลัวของความจริงอันเป็นเท็จในปัจจุบัน (แซลมอน) นี่เป็นงานภาษาอังกฤษแรกของวงที่ได้เฟนเดอร์ Solitude is Bliss มาช่วยเขียนเนื้อร้องให้ อย่างที่รู้กันว่าทุกวันนี้ข้อมูลมีเยอะแยะมากมาย มีข่าวปลอม หรือวิกิพีเดียที่เป็นแหล่งหาข้อมูลแรก ๆ เวลาทำรายงาน ซึ่งในเว็บนั้นก็เป็นข้อมูลที่จัดทำขึ้นโดยผู้ใช้และมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แล้วมันยังเหลืออะไรที่เราพอจะเชื่อได้บ้าง
Ocean For a Dime?
เพลงที่มีกลิ่นเป็นอัลเทอร์เนทิฟจัดจ้านที่สุดในอัลบั้ม สร้างสรรค์โดย บอย ภาคินัย เพื่อนของพวกเขาที่รับหน้าที่ทำตั้งแต่ขึ้นโครงเพลงและเขียนเนื้อหา ริฟฟ์กีตาร์ร้อนแรง กับจังหวะกลองเท่ ๆ ร่วมด้วยซาวด์อลังการได้บรรยากาศแบบเพลงของ Red Hot Chili Peppers ผสม Muse ยังไงยังงั้น เนื้อหาเพลงพูดถึงมุมมองของคนทั่วไปในสังคม ที่แบ่งแยก เหยียดว่าคนบางพวกจะไม่มีทางประสบความสำเร็จและร่ำรวยได้ และคนอีกกลุ่มที่เชื่อว่าคนชายขอบ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ แม้ความสำเร็จนั้นจะไม่ได้มาในรูปของเงินทอง เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเขาคือการเป็นตัวของตัวเอง ‘ocean’ (มหาสมุทร) จึงสื่อถึงท้องน้ำกว้างใหญ่ ไร้ขอบเขต ประเมินค่าไม่ได้ Ocean for a Dime? จึงเป็นคำถามที่ถามกลับไปว่า ‘คุณจะยอมแลกทั้งมหาสมุทรเพียงเพื่อเงินทองจริง ๆ เหรอ’
Y Reverse (ตายก่อน)
อะคูสติกแช่มช้าแต่บาดลึกที่สุด เกี่ยวกับคนรักที่กลับมา แต่คนที่เคยถูกทิ้งไว้ได้ตายจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนไปแล้ว เพลงนี้ถูกวางไว้เป็นลำดับสุดท้ายของอัลบั้ม ได้ เบียร์ Solitude is Bliss มาร่วมโปรดิวซ์และเขียนเนื้อเพลงในท่อนฮุกให้กับมาการองรสเฝื่อน ๆ ชิ้นนี้
เป็นยังไงกันบ้างกับทั้ง 8 เพลงจากอัลบั้ม Macaron Psych Trip โดย VEGA ที่สีสันดนตรีหลากหลายย่อยยากง่ายต่างกันไป แต่รสชาติอร่อยทั้งสิ้น ใครที่ชอบผลงานของพวกเขาก็ไปอุดหนุนที่เพจ Minimal Records ส่วนวงจะมีเล่นสดที่กรุงเทพ ฯ เมื่อไหร่อีกก็ติดตามไว้ให้ดี ๆ ที่เพจหลักของวงได้เลยนะ