หลายวันก่อนเพื่อนหลายคนในเฟซบุ๊กพร้อมใจกันแชร์เพลงชุดนึงของวง ครูเพลง โดยใส่แคปชันทำนองเชิญชวนให้ต้องรีบเข้าไปฟัง เราก็ไม่รอช้าคลิกเข้าไปสิ ทันทีที่ฟังจบก็นิ่งไป 5 วิ แล้วกดฟังซ้ำอีกรอบด้วยความรู้สึกเบลอ ๆ เพราะเพลงสั้น ๆ ไม่ถึง 1 นาที แต่มีดนตรีหลายแนวผสมอยู่ เปิดตัวด้วยจังหวะแจ๊สสวิงฟังกำลังเพลิน อยู่ดี ๆ กลายเป็นดั๊บสเต็ปเฉย มีปั่นกีตาร์ส่งท้ายด้วยแฮะ ระหว่างนั้นมีเสียงกวน ๆ สำเนียงใต้โผล่มาเซอร์ไพส์เป็นระยะ นี่สินะที่เขาเรียกกันว่า ‘โนเวฟ’  โนเวฟของจริงต้องไม่มีคลื่นเสียงแบบนี้โว๊ยย! เราจึงแอบไปสืบ พบว่า วงนี้มีกัน 3 คน สมาชิก 2 คนเป็นมือกีตาร์และคีย์บอร์ดอยู่วง ขนิษฐา พวกเขาจะกวนเหมือนเพลงที่ทำไหม ไปดู

สมาชิก
ครูเพลง—กฤตนน รักนุ่น
แฮม—ฐาณิศร์ สินธารัตนะ
มินิม—ศิวกร หัตถกิจวิไล

ครูเพลง เป็นการรวมตัวกันของ ครูเพลง แฮม และมินิม 3 สหายแห่งสาขาดนตรีแจ๊ส คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ต้องการปลดแอกตัวเองออกจากขนบดนตรีเดิม ๆ รู้สึกว่าการเล่นแจ๊สทุกวันนั้นเครียดและต้องคิดเยอะ เลยระบายความอัดอั้นออกมาผ่านเสียงดนตรี ด้วยการนำแจ๊สไปผสมผสานกับความเป็นท้องถิ่นไทย เพราะเหตุนี้แฮมและมินิมจึงทดลองทำดนตรีโดยให้ครูเพลงอัดเสียงภาษาใต้ที่ตลก ปั่นประสาทเข้าไป แล้วเรียกแนวดนตรีนี้ว่า Thai traditional no wave (ไม่ใช่ no wave จริง ๆ แต่ล้อกับคำว่าไม่มีคลื่นเสียง ปั่นประสาท จับความไม่ได้ เช้ยเฉยนาจา) ส่วนชื่อวงก็เอามาจากชื่อของสมาชิกนั่นแหละ พวกเขาบอกว่าจริง ๆ แล้วควรชื่อ ครูเพลงและคณะ แต่อยากให้เรียกครูเพลงอย่างเดียวเพราะเท่กว่า (โอเค้)

“เรารวมแนวดนตรีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเข้ามาไว้ด้วยกัน และใส่ความเป็นไทยด้วยการแทรกคำพูดที่เป็นภาษาท้องถิ่นลงไปในเพลง แบบพูดเฉย ๆ ไม่มีทำนอง หลังจากนั้นก็ทำซาวด์ปั่น ๆ คือเราต้องการเอาดนตรีตามแบบแผนที่เรียนมาทำให้เละ เรียกว่าเป็นการล้างฟอร์มเพลงเลย มันไม่ต้องคิดมากเหมือนตอนเรียน ไม่ทำท่อนฮุค ไม่ต้องมีโซโล่ ถ้ายังมีโอกาสทำเพลงต่อ ๆ ไปอีก อาจจะเพิ่มเครื่องดนตรีพื้นบ้านของไทยเข้ามาด้วย”

แม้จะฟังออกบ้างแต่ก็ยังแปลไม่ถูกว่าเนื้อเพลงพูดถึงอะไร แถมเพลงก็สั้นเว่อร์จนพี่ฟังไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็ อ้าว จบแล้วเหรอ จนต้องกดฟังอีกรอบ ฟังไปฟังมาดันติดหูเฉย แอบลองไปถามเรื่องที่มาของเพลงก็ได้คำตอบว่า ส่วนมากได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ถ่ายทอดผ่าน application ทำเพลงในมือถือนาม GarageBand  แถมใช้เวลาไม่นาน 30 นาทีเท่านั้นก็เพียงพอ

“ที่ทำเพลงสั้น ๆ เพราะเราวิจัยมาแล้ว รู้ว่าคนส่วนใหญ่สมาธิสั้น เพลงยาวถ้ามันไม่โดนเปิดไปเดี๋ยวก็ปิด เราจึงเน้นสั้น ๆ แต่มีคุณภาพ คุณภาพคับแก้ว แก้วเล็กแก้วชาก็พอไม่เน้นปริมาณ ชาดีแก้วเล็กกินจิบนึงก็ถึงใจแล้ว ชาไม่ดีกินเท่าหม้อมาม่าต้มยำเจ๊โอวก็ไม่ถึงใจ อีกอย่างคือตอนทำเพลงชุดนี้เราก็ใช้เวลาทำกันสั้น ๆ ประมาณ 30 นาที เพราะผมฟังฮิวโก้มาเหมือนกัน เพลงดีไม่ต้องทำนาน แต่ถ้าจะรักกันนาน ๆ ต้องทำไงดี อันหลังผมล้อเล่น”

เพลงถำไร่  (45 วินาที)

ถำไร่ ในภาษาใต้แปลว่า ทำไร มันไปพ้องเสียงกับคำว่าทำไร่พอดี แล้วตอนนั้นมีกระแสคำพูด ‘มีนาแล้ว ยังไม่มีแฟนเลย’ เลยเอามาใช้ในเพลง ด้วยการบอกว่าเดือนนี้ ‘มีนาแล้ว มีควายยัง’ คือครูเพลงต้องการถามถึงครอบครัวชาวบ้านว่าเป็นไงบ้าง อยากเชิญชวนให้ชาวบ้านไป ถำไร่ ถำนา ถำสวน ซึ่งชาวบ้านเห็นด้วยกับข้อเสนอและตั้งใจทำมาก จนลูกของชาวบ้านท่านหนึ่งที่ชื่อ เกื้อ มาดี มาบอกกับครูเพลงว่า แม่ทำงานหนักเกินไป พ่อตามให้กลับบ้านแต่แม่ไม่ยอมกลับ

เพลงหนังตะลุง  (53 วินาที)

หนังตะลุง เป็นคำพ้องเสียงในภาษาใต้มีสองความหมายคือ นั่งเถอะลุง กับ หนังตะลุง มันมาจากบรรยากาศตอนอยู่บนรถเมล์สาย 8 ที่ครูเพลงแสดงน้ำใจกับคุณลุงท่านหนึ่งด้วยการบอกเป็นสำเนียงใต้ว่านั่งเถอะลุง แต่เพราะขับรถได้แย่มากดนตรีก็เลยเป็นแบบนั้น

เพลงแหม่เฮ้ย  (1.20 นาที)

แหม่เฮ้ย เป็นคำอุทานของคนใต้ประมาณว่า แหม หรือ โถ่เอ๊ย คือตอนที่พวกเราเล่นเพลงเร็ว ๆ ประเภท fast swing กันแล้วมือเบสที่เป็นคนใต้เล่นตามไม่ทันแม่งจะตะโกนว่า แหม่เฮ้ยเล่นไม่ทัน! ก็เลยเป็นที่มาของเพลงนี้

“กระแสตอบรับโคตรดี คือตอนนั้นทำเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะดัง (หัวเราะ) เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทักกันทั้งคณะ มีคนติดต่อมาขอซื้อเสื้อครูเพลงด้วย ก็รู้สึกแปลกดี ส่วนตอนนี้ทำเพลงใหม่กันอยู่ จริง ๆ มีเพลงในสต็อกเป็น 10 นะ แค่ยังไม่ได้ใส่เนื้อ แต่เราไม่ได้มีแผนทำกันจริงจัง จะมีก็แต่ทำเสื้อกับซีดี เสื้อเอาไว้ใส่กันขำ ๆ เพราะมีคนขอมา ส่วนซีดีนี่อยากจะแจกฟรีเลย เสียดายพวกผมไม่มีตังค์กัน”

ส่วนใครที่รอฟังซิงเกิ้ลต่อไป พวกเขาบอกว่าขอดูฤกษ์งามยามดีก่อน แต่ที่แน่ ๆ จัดให้เลย 2 เพลงไฟกระพริบกับ มนต์รักครูเพลง และ บทกลอนครูเพลง คุณภาพจะคับแก้วเบอร์ไหนต้องติดตาม

รับฟังเพลงของ ครูเพลง ได้บนเว็บฟังใจ ที่นี่

• Twitter
• Line