Story

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ คีตราชัน ผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจของนักดนตรีไทยหลายชีวิต

  • Writer: Montipa Virojpan

“ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็นแจ๊สหรือไม่ใช่แจ๊สก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้าดนตรีคือสิ่งประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยมในคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภทต่างก็มีความเหมาะสมตามแต่โอกาสและอารมณ์ที่ต่าง ๆ กันออกไป”

— พระราชดำรัสแก่นักข่าวช่องวิทยุอเมริกาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2503

 

เราได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงขณะที่พระองค์ทรงดนตรีตั้งแต่เด็ก ๆ จนทุกวันนี้เราก็ยังได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์ รวมถึงได้ภาพบันทึกที่ท่านทรงดนตรีกับนักดนตรีแจ๊สมากความสามารถ สิ่งที่เราได้เห็นและฟังทำให้เราทึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรม เป็นผู้ทรงริเริ่มแนวคิดหรือประดิษฐกรรมหลายสิ่งอย่าง แต่ยังได้เห็นมุมที่ละเอียดอ่อนด้วยการเป็นอัครศิลปินผู้มีพระปรีชาสามารถยิ่งพระองค์หนึ่ง

ในโอกาสนี้ Fungjaizine ขอบอกเล่าเรื่องราวการทรงดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ภายหลังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้พสกนิกรผู้มีใจรักในดนตรีและศิลปะ รวมถึงนักดนตรีหลาย ๆ ท่าน ได้ร่วมรำลึกถึงคีตราชันพระองค์นี้

static1-squarespace-5Photo Credit

พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ชื่อ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาดนตรี” ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มเรียนดนตรีขณะประทับอยู่ไทยและสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้เรียนขับร้อง แต่ไม่ได้เรียนโน้ต เมื่อพระชนมายุ 13 พรรษาก็ทรงลองเรียนแอคคอร์เดียน แต่ไม่สบพระทัย จนเวลาต่อมา พระองค์ทอดพระเนตรวงดนตรีของโรงแรมในภูเขาที่เสด็จประพาสก็เกิดพระประสงค์จะเรียนแตร แต่สมเด็จย่าขอให้เริ่มจากแซ็กโซโฟนเพราะกลัวเป็นอันตรายต่อพระวรกาย

static1-squarespace-6Photo Credit

แซ็กโซโฟนตัวแรกของพระองค์เป็นของมือสองราคา 300 ฟรังค์ ที่ร่วมหุ้นกับพระเชษฐาครึ่งนึง และอีกครึ่งนึงมาจากสมเด็จย่า โดยมีครูสอนดนตรีชื่อนาย Weybrecht เป็นคนขายเรื่องดนตรีและนักดนตรีสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง จนวันที่เริ่มการเรียนการสอน พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลไปซื้อคลาริเนตมาขอเรียนด้วย หลังจากที่ทั้งสองพระองค์ทรงเรียนดนตรีมาได้ระยะหนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลก็ทรงยืมคลาริเนตพระเชษฐามาเล่น ต่อมาก็ทรงซื้อคอร์เน็ต แล้วจึงเป็นทรัมเปต พระองค์สนพระทัยแนวดนตรีแจ๊ส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนว Dixieland (ตามแบบฉบับของเมือง New Orleans) จึงฝึกเป่ากับเพลงของ Sydney Bachet, Benny Carter หรือ Johnny Hodges นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเปียโน ที่ทรงหัดเองและโดยทักษะจากที่เรียนประสานเสียง ทรงกีตาร์ที่ยืมมาจากสหายที่โรงเรียน ทรงไวโอลิน และทรงขลุ่ยด้วยความที่การเล่นไม่ต่างจากการยกนิ้วในแซ็กโซโฟนมากนัก โดยพระองค์มีความเข้าใจ รู้ลักษณะของแตรทุกประเภท ทรงทราบคุณภาพของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดที่พระองค์ทรงเล่นเป็นอย่างดี และทรงซ่อมเครื่องดนตรีด้วยพระองค์เองได้

static1-squarespace-7Photo Credit

ต่อมาพระองค์มีพระประสงค์จะพระราชนิพนธ์เพลงขึ้นด้วยพระองค์เอง จึงมีรับสั่งให้นักดนตรีและนักประพันธ์เพลงสมัครเล่นเข้าไปร่วมบรรเลง และให้ ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ร่วมประพันธ์ทำนองและเนื้อร้องด้วย เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์ จากนั้นทรงจัดตั้งวงดนตรีที่รวมนักดนตรีสมัครเล่นในนาม วงลายคราม เล่นเพื่อออกอากาศในสถานีวิทยุ อ.ส. (อัมพรสถาน) เพื่อเป็นสื่อกลางสารประโยชน์และความบันเทิง

static1-squarespace-8Photo Credit

ด้วยความชื่นชอบในดนตรีของในหลวงก็ส่งไปถึงสมเด็จพระเทพ ฯ ในเวลาต่อมา ซึ่งในหลวงทรงสอนด้วยพระองค์เอง ต่อมาจึงได้เกิด brass band ชื่อ วงสหายพัฒนา โดยมีสมเด็จพระเทพ ฯ ทรงเป็นหัวหน้าวง ที่มีเหล่าข้าราชบริพารในพระองค์เป็นสมาชิก (และเป็นศิษย์ของในหลวง) ร่วมเล่นในโอกาสพิเศษ

Thailand's King Bhumibol Adulyadej (far right) plays the saxophone during a jam session with legendary jazz clarinetist Benny Goodman (far left) and his band in New York on July 5, 1960. The king is an accomplished musician as well as a composer. This year marks the world's longest reigning monarch's Golden Jubilee, and American jazz legends such as the Count Basie Orchestra, Herbie Hancock, and Wayne Shorter have recently come to town to perform in his honor. (AP Photo)

King Bhumibol plays saxophone in a jam session with clarinettist Benny Goodman © AP

 

นอกจากความประทับใจของพระราชวงศ์ที่มีความสนใจดนตรีเช่นเดียวกันแล้ว สำนักข่าว AP ได้เขียนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ในกลุ่มของนักดนตรีแจ๊สต่างรู้กันดีว่าพระองค์คือ “King of Swing” ที่ทรงวางพระองค์เหมือนไม่มีความสามารถทางดนตรี แต่พอทรงร่วมแจมกับทั้งวงเท่านั้น นักดนตรีระดับโลกอย่าง Benny Goodman, Stan Getz, Jack Teagarden, Les Brown หรือ Lionel Hampton ต่างชื่นชมและยกย่องพระอัจฉริยภาพของในหลวงที่ทรงบรรเลงได้อย่างเฉียบขาดและเข้ากันดีกับนักดนตรีในวง จนในปีพ.ศ. 2507 พระองค์ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ที่มีอายุน้อยที่สุด และเป็นชาวเอเชียเพียงผู้เดียวที่ได้รับเกียรติจาก Academy of Music and Dramatic Arts แห่งกรุงเวียนนา ที่ทูลเกล้า ฯ ถวายประกาศนียบัตร และสมาชิกกิตติมศักดิ์ลำดับที่ 23 แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพระบรมนามาภิไธย ภูมิพลอดุลยเดช ปรากฏอยู่บนแผ่นหินของสถาบัน ในหลวงทรงมีกระแสพระราชดำรัสตอบเป็นภาษาเยอรมัน ใจความว่า

“….ดนตรีทุกชนิดเป็นศิลปะที่สำคัญอย่างหนึ่ง มนุษย์เกือบทั้งหมดชอบและรู้จักดนตรี ตั้งแต่เยาว์วัยคนเริ่มรู้จักดนตรีบ้างแล้ว ความรอบรู้ทางดนตรีอย่างกว้างขวางย่อมขึ้นกับเชาวน์ และสามารถในการแสดงของแต่ละคน อาศัยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า ในระหว่างศิลปะนานาชนิด ดนตรีเป็นศิลปะที่แพร่หลายกว่าศิลปะอื่น ๆ และมีความสำคัญในด้านการศึกษาของประชาชนทุกประเทศด้วย….”

static1-squarespace-10

จากการทรงดนตรีนั้น ทำให้หลายฝ่านมีความสนใจและเกิดการสนับสนุนการเรียนการสอนดนตรีขึ้นในระดับอุดมศึกษา อย่างเมื่อปลายปี 2536 มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดตั้งโครงการวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 50 ปีนั่นเอง และในทุก ๆ ปีจะมีการจัด “วันทรงดนตรี” ที่เดิมเป็นการกราบบังคมทูลเฝ้าของนิสิตเพื่อถวายชัยมงคลเนื่องในวันประสูติของเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ซึ่งพระองค์ก็มีพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าได้ที่เวทีลีลาส สวนอัมพร ซึ่งวันนั้นตรงกับวันศุกร์ ที่ วงลายคราม ต้องเล่นออกอากาศในวิทยุ อ.ส. โดยรับสั่งให้นิสิตทำตัวตามสบาย และทรงเดี่ยวแซ็กโซโฟน พระราชทานแก่ผู้ที่อยู่ร่วมงานวันนั้น ต่อมาจึงกลายเป็นวันทรงดนตรีที่พระองค์จะเสด็จไปทรงดนตรีตามคำกราบบังคมทูลเชิญของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นประจำทุกปี จนต้องยกเลิกไปเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่เอื้อต่อการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีและพระราชกรณียกิจมากมาย

static1-squarespace-11

แม้บทบาทการทรงดนตรีของท่านจะค่อย ๆ เลือนไปจากภาพจำในชีวิตประจำวันของพสกนิกร แต่เชื่อว่าหลายคนยังระลึกถึงพระปรีชาสามารถด้านนี้ของพระองค์อยู่เสมอ ที่สำคัญยังได้พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์กว่า 48 บทเพลง เป็นเครื่องเตือนใจให้เรารำลึกถึงพระอัจฉริยภาพในด้านนี้ของพระองค์ Fungjaizine ตอนหน้าจะขอนำเสนอบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บางคนอาจจะยังไม่เคยฟังหลาย ๆ เพลงในนี้ก็เป็นได้

อ้างอิงข้อมูลจาก
http://kanchanapisek.or.th/articles/music.th.html
http://www.kingramamusic.org/th/article/7_พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2006/06/13/AR2006061300147.html
http://www.softbizplus.com/our-king/657-king-musical
Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้