Article Story

เด็กฝึกงานฟังใจโอดครวญ ‘ไม่อยากกลับบ้านเพราะผูกพันเกินไป’

  • Writer: Yanabhus Suriyajai

หลาย ๆ คณะ หรือหลาย ๆ มหาวิทยาลัย ถ้าจะให้เรียนจบครบหลักสูตรคือจะต้องไปฝึกงาน (บางคณะก็ไม่มีการฝึกงาน) และคำถามที่นักศึกษาคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะต้องตอบให้ได้แล้วว่า ‘จะฝึกงานที่ไหน?’ จริง ๆ เราเกือบไม่ได้ไปฝึกงานที่ฟังใจหรอก เพราะเห็นว่าช่วงฝึกงานของเราไม่ตรงกับช่วงที่เขาให้ฝึก เราก็เลยไปหาที่ฝึกงานอื่นก่อนแต่นึกไม่ออกเลย แต่เหตุสำคัญที่ทำให้เราได้ไปฝึกงานที่ฟังใจ คือมีเพื่อนสนิทของเราจะลองส่งพอร์ตโฟลิโอไป

เหตุการณ์ง่าย ๆ แค่นี้แหละที่บันดาลใจให้ผมจึงลองส่งพอร์ตโฟลิโอไปบ้าง และตำแหน่งที่ผมเลือกฝึกนั่นก็คือ นักเขียน จำได้ว่าตอนนั้นผลงานยังไม่เยอะพอจึงมีการไปคิดคอนเทนต์มาเขียนเพิ่ม แล้วก็ลองส่งไปเลย อยากจะบอกว่ารอพี่ ๆ ที่ฟังใจตอบกลับนานมาก นานจนต้องไปหาที่ฝึกงานอื่นเผื่อไว้ จำได้ว่าตอนนั้นรอนานจนแทบจะตัดใจอยู่แล้วแต่ยังเหลือความหวังอยู่อีกประมาณห้าเปอร์เซนต์ ต้องขอบคุณความหวังห้าเปอร์เซนต์นั้น เพราะในคืนหนึ่งได้มีเบอร์แปลกโทรมา ตัวเราก็รับสายไปแบบไม่คิดอะไร ตอนนั้นจึงรู้เลยว่าอาการสตันเป็นยังไง เพิ่งจะเข้าใจแบบจับจิตจับใจก็คืนนั้นแหละ ในสายนั้นคือเสียงจากพี่อิ๊ก บก. Fungjaizine ที่บอกกับเราว่าสนใจเราและอยากจะถามเวลาสะดวกที่จะสัมภาษณ์ ซึ่งช่วงเวลาที่รอฟังใจติดต่อมาเคยเกิดคำถามว่า หรือว่าพอร์ตที่เราส่งไปจะไม่ถึงพี่ ๆ เขาวะ?‘ แต่ในคืนนั้นทำให้รู้คำตอบที่ชัดเจนว่ามันถึงโว้ย เราจึงนัดแนะกับพี่อิ๊กไว้ช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี และจำได้ว่าพี่อิ๊กมีสั่งงานด้วย เราก็รับงานแบบไม่คิดอะไรแล้ว วางสายนั้นเราก็ทำงานที่สั่งต่อเลย (โคตรจะเป็นเด็กมีแพชชั่น)

วันสัมภาษณ์ก็เพลิดเพลินดี แต่แอบตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะได้คุยกับพี่อิ๊ก (ตอนนั้นเราเปรียบพี่อิ๊กเป็นนักเขียนเซเลปคนหนึ่ง เคยอ่านที่พี่แกเขียนมาเป็นร้อยงาน แต่คราวนี้เราจะได้คุยกับเขาแล้วอะ) ตอนสัมภาษณ์ก็ผ่านไปด้วยดีนะ เราก็พยายามเป็นตัวของตัวเอง (แบบในตอนนั้น) ให้มากที่สุด หลังสัมภาษณ์เสร็จก็ไม่มีอะไรแล้ว มีแต่รออย่างเดียว คือการรอคำยืนยันว่าจะรับฝึกงานหรือไม่ จำได้แม่นว่าพี่อิ๊กส่งอีเมลมาตอนบ่ายของวันจันทร์ เป็นประโยคแสนสั้นว่า ‘เจอกันมกราจร้าา’ ตอนที่รู้คำยืนยันนั้น เราจึงทำท่าดีใจเหมือนยิงประตูเข้ากลางห้องเรียนเลย แต่ทำแบบเบา ๆ นะ ไม่ได้ประเจิดประเจ้อ เพราะกลัวอาจารย์ด่า

เทอมนั้นเราไม่ห่วงอะไรละ แค่เรียนให้มันออกมาโอเคและไม่แย่เกินไปก็พอ เพราะเรามีที่ฝึกงานเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ แล้ว ผลการเรียนเทอมนั้นจึงออกมาตามคาด คือไม่ดีมากและไม่แย่มาก ประมาณปลายธันวาคมจึงเริ่มขนของลงกรุงเทพ ฯ เวลาว่างก่อนฝึกงานประมาณ 5-6 วัน คือการลองไปนู่นไปนี่ตามกรุงเทพ ฯ เพื่อศึกษาเส้นทาง เพราะไม่คุ้นเคยเส้นทางในกรุงเทพ ฯ เลย ไม่จำเป็นก็จะไม่ไปกรุงเทพฯ สรุปคือ 5-6 วันที่ใช้ไปทำให้เราเข้าใจเส้นทางในกรุงเทพ ฯ ประมาณหนึ่ง และแล้วก็มาถึงวันฝึกงานวันแรก วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พุทธศักราช 2562

วันแรกคือวันที่เสียงในหัวเถียงกันดังโหวกเหวกมาก ซึ่งเถียงในประเด็นที่ว่า ‘กูควรทำตัวยังไง’ ยิ่งเรามีความ introvert สูงใช้ได้เลย การเจอผู้คนใหม่ ๆ คือเป็นอะไรที่เนื๊อยเหนื่อย แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว คิดเรื่องนี้มาตลอดทางรู้ตัวอีกทีตัวเราอยู่ก็หน้าออฟฟิศฟังใจแล้ว ตอนนั้นจึงบอกตัวเองว่าไม่มีเวลาแล้ว อีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้คือการเปิดรับมิตรภาพใหม่แล้วนะ เปิดประตูเข้าไปคนแรกที่เราทักทายคือพี่หนุ่ม (หัวหน้าทีม community) แล้วพี่อิ๊กจึงตามมาเป็นคนที่สอง บรรยากาศของเช้าวันแรกของการฝึกงานเหมือนเราเป็นคนตาบอดอะไรทำนองนั้นเลย เพราะต้องรอให้คนพาไปนู่นพาไปนี่ และชี้แจงอะไรต่าง ๆ นานา สำหรับที่นี่วันแรกของการฝึกงานคือเริ่มทำงานเลย โดยพี่อิ๊กให้โจทย์ง่าย ๆ คือ ‘อยากเขียนอะไรก็เขียน’

โจทย์เหมือนจะง่ายแต่ก็แอบยาก เพราะเราไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพาะกลัวคอนเทนต์ไม่โดนอะไรประมาณนี้ แต่พี่อิ๊กก็ยังคงย้ำว่าเขียนเรื่องที่เราอยากเขียนไปเลย เราจึงบอกกับตัวเอง ‘เอาว่ะ ลองดู‘ เราจึงนึกถึงบทความสัมภาษณ์ของฟังใจเพราะหลาย ๆ บทความเราชอบมาก และอยากจะทำบ้าง ตอนนั้นเราจึงนึกหาศิลปินใหม่ ๆ ที่กำลังมาแรง โป๊ะเชะเลย เรานึกถึงวง Anatomy Rabbit เพราะคิดว่าปี 2019 วงนี้ต้องมาแน่ ๆ (ซึ่งมาแรงจริง) ในตอนนั้นไม่มีสื่อไหนจะสัมภาษณ์วงนี้เลย เราจึงคิดว่านี่คงเป็นโอกาสที่ฟังใจจะบุกเบิกสัมภาษณ์วงนี้เป็นสื่อแรก หลาย ๆ คนที่ติดตามวงนี้อาจเคยอ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว อันนั้นคืองานแรก ๆ ของเราเลย แล้วก็ตามมาด้วยรีวิวอัลบั้ม Mama Cook ของวง Mamakiss เราชอบโทนอัลบั้มนี้มาก เพราะศิลปินเจ๋งกันมาก ทุกเพลงดูไปด้วยกันด้วยดีทั้งหมด พอฝึกงานไปซักพักเหมือนชีวิตการฝึกงานจะเริ่มราบรื่นแล้ว แต่ก็ต้องมาเจอกับปัญหาต่อไปคือ เราต้องคิดคอนเทนต์ให้ได้ทุกสัปดาห์ ในตอนนั้นคิดในใจ ‘กูจะทำยังไงวะเนี่ย’ เพราะไม่เคยคิดคอนเทนต์เป็นเวลาสม่ำเสมอแบบนี้เลย ปกติจะชอบทำอะไรชิล ๆ ไป นึกอะไรได้ก็เขียน แต่คราวนี้เราคงต้องบังคับให้ตัวเองคิดคอนเทนต์แล้วอะ มันดูสวนกับพฤติกรรมส่วนตัวพอสมควร แต่ก็ต้องลองดู เพราะเรากำลังฝึกงานอยู่ เราก็ต้องฝึกฝนตัวเองดิ

หลังจากนั้นเราจึงได้วิธีคิดคอนเทนต์แบบหลายวิธีมาก ทั้งแบบคิดคอนเทนต์ตามกระแสไปเลย หรือคิดคอนเทนต์จากฟอร์มที่มีคนอื่น ๆ เคยทำ หรือคิดคอนเทนต์จากการเชื่อมโยงอะไรไปเรื่อยแล้วก็เกิดเป็นคอนเทนต์ใหม่ และอะไรอีกหลายวิธีมาก แต่ละคอนเทนต์เราใช้วิธีคิดไม่เหมือนกันเลยด้วยซ้ำ ฮ่า (มาแบบมวยวัดมาก) อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเราก็ได้ฝึกแล้ว ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วหลังจากการฝึกฝนเราอาจไม่ได้กลายจอมยุทธ์ที่เก่งกาจ แต่มันก็ทำให้เราได้พัฒนาขึ้นแน่นอน ขอบคุณฟังใจที่เปิดโอกาสให้เด็กที่ไหนไม่รู้มาเที่ยวเล่นบนเว็บไซด์นี้ ฮ่า บอกได้เลยการฝึกงานตำแหน่งนี้ทำให้เรามีมุมมองต่องาน content creator เปลี่ยนไปเยอะเลย เนื่องจากตอนแรกเรามองว่ามันเป็นอะไรที่ต้องยากแน่ ๆ แต่พอมาได้ลองทำจริงจึงรู้ว่า มันไม่จำเป็นต้องเก่งกาจถึงขั้นระดับอาจารย์แต่ขอให้มีไหวพริบและฉลาดหน่อยก็จะสามารถปรุงแต่งคอนเทนต์ให้คนต่าง ๆ อ่านได้แล้ว

การฝึกงานย่อมมีวันเวลาสิ้นสุดลงแน่นอน เราเพิ่งมาสำนึกถึงเรื่องนี้ก็ตอนใกล้จะฝึกงานเสร็จ ยอมรับว่าบางวันไม่ได้คิดว่าตัวเองมาฝึกงานเลยเหมือนตัวเองเป็นคน ๆ หนึ่งในฟังใจที่ต้องทำงานให้สาธารณชนมากกว่า นอกจากทักษะการทำงานที่ได้ก็มีมิตรภาพนี่แหละที่ได้รับไปเต็ม ๆ เราคาดคะเนไว้ตอนแรกว่า 3 เดือนคงไม่อาจทำให้เราผูกพันจนเกินไปหรอก แต่วันท้าย ๆ จึงรู้ว่ามันไปไกลกว่าคำว่าผูกพันมาก ช่วงวันท้าย ๆ เราจึงได้แต่รู้สึกแปลก ๆ เพราะความรู้สึกหลาย ๆ อย่างมันตีกันข้างในทั้งเศร้าและสุข

สุดท้ายจึงอยากจะขอขอบคุณฟังใจที่ทำให้วัยรุ่นคนหนึ่งได้เติบโตไปอีกขั้น ยอมรับเลยว่าการฝึกงานมันมีประโยชน์ต่อเราจริง ๆ และอยากขอบคุณฟังใจที่เปิดรับความดีและความห่วยของเรา และให้โอกาสตัวเราได้แก้ตัวเสมอ ๆ รักฟังใจมากจริง ๆ ครับ

 

5 งานเขียนของตัวเองที่เราชอบกลับไปอ่านมากที่สุด

1.ทำความรู้จักดูโอ้กระต่ายจากอุดร ฯ ที่มาแรงในขณะนี้ Anatomy Rabbit

 
2. รวม 5 MV ที่ ดุ่ย Youth Brush / Two Million Thanks ร่วมแสดง
dui youth brush
 
3. รอนาน ๆ มันอาจจะบั่นทอนหัวใจ: รวมเพลงเอาไว้ฟังตอนรอเลือกตั้ง

 
4. MIDLIFE อัลบั้มล่าสุดของ Poomjit ที่ว่าด้วยชีวิตวัยกลางคนธรรมดาได้ไม่ธรรมดา

 
5. ‘ฝากไว้กับดาว’ ซิงเกิ้ลที่แฟนคลับ Whal & Dolph ยังคงกอดรับอย่างอบอุ่น

Facebook Comments

Next: