Story

Final Chapter บทสรุปส่งท้ายของซีรีส์วัยว้าวุ่น

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Neungburuj
  • Stylish: Varach Chotchotiros
  • Art Director: Tunlaya Longsurname

เห็ดหลังบ้าน
ปิง – เกรียงไกร วชิรธรรม
Final Season : บทสรุปส่งท้ายของซีรีย์วัยว้าวุ่น

จุดเริ่มต้นของบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ระหว่างผมกับพี่ปิง (ผู้กำกับ Hormones The Series) มันเริ่มขึ้นจากวินาทีสุดท้ายของ Hormones 3 The Final Season EP.12 สิ้นสุดลงผมค้นพบว่า ทำไมซีรีย์ชื่อดังเรื่องนี้มันมีพลังทำลายล้างความรู้สึกของผมมากเช่นนี้ ผมนั่งอึ้งไปกับฉากเพลง ร่องน้ำตา ของ Greasy Cafe อยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจให้น้องนักเขียนในทีมฟังใจซีนรีบติดต่อหาพี่ปิงโดยด่วนเพื่อสัมภาษณ์ในครั้งนี้

ตลอดระยะเวลาการเดินทางของผมไปที่บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ผมรู้สึกว่า ผมมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะสนทนากับเขาเหลือเกินและเมื่อมาถึงที่นัดหมายของเราทั้งคู่ ประโยคแรกที่พี่ปิงบอกกับผมก็คือ “ณ เวลานี้ยังตัดต่อ EP. 13 ไม่เสร็จเลยครับ EP. 13 มันจะมี 2 เวอร์ชั่นนะ มีเวอร์ชั่นที่ไปฉายที่คอนเสิร์ต GTH Star Theque ด้วย เนื้อเรื่องของมันก็จะยาวกว่าในทีวีนะ พอจบคอนเสิร์ตก็จะปิด Impact Area ฉายให้คนที่อยู่ในงานวันนั้นดูเลย” หลังจากจบประโยคการทักทายของผมกับพี่ปิงแล้ว คำถามที่ผมเก็บไว้ในใจก็ได้เวลาที่จะคลี่คลายแล้ว ณ บัดนี้

Hormones 3 The Final Season ใกล้จบลงแล้วหายเหนื่อยรึยัง

แต่ละซีซั่นมันเหนื่อยต่างกันนะ คือ Season 1 เราจะเป็นแค่ทีมเขียนบทไง ทำบทเสร็จก็จบแล้ว กลับบ้านนอน แต่พอ Season 2 เรามาเป็นผู้กำกับของซีรีส์นี้มันจะกินเวลาเราทั้งชีวิตเลยแหละ เราเป็นผู้กำกับใหม่มากในตอนนั้น เราต้องมาเรียนรู้กระบวนการของมันทั้งหมดเลย ได้รู้ว่าการเล่าเรื่องแบบนี้จะทำให้คนดูไม่สนุกนะ ถ้าเล่าแบบนี้มันจะดีกว่าแน่นอน เรื่องพวกนี้มันก็ทำให้การทำ Season 3 มาตรฐานในการทำงานมันจะสูงขึ้นนะ เราจุกจิกกับรายละเอียดของงานทุกอย่างเลย ทำให้มันใช้เวลาเยอะและเหนื่อยมากจริง ๆ เราเกือบเข้าโรงพยาบาลเลยอะตอนทำ Season 3 มันเป็นความเหนื่อยที่เรารู้ตัวเองเลยว่า เราไม่อยากทำแล้วอะ Season 4 มันไม่มีแน่นอน มันเป็นการคุยไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าจะทำ Hormones The Series ปีนี้คงเป็นปีสุดท้ายแล้ว

เรื่องราวของวัยรุ่นหมดรึเปล่าถึงไม่อยากทำ Season 4 แล้ว

จริงๆ เรื่องราวของวัยรุ่น มันเล่าได้ไม่หมดหรอก เล่าไปอีก 10 ปีก็เล่าได้ มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เคลื่อนตัวตลอดเวลา แต่ว่ามันรู้สึกอิ่มตัวแล้วอ่ะ อยากจบกับมันในวันที่ความรู้สึกเราอิ่มที่สุดมากกว่าอะ เราคิดว่าการจบตรงนี้มันสวยที่สุดแล้วนะ

ทุกวันนี้ตกตะกอนในการทำ Hormones The Series แล้วรึยัง

การทำ Season นี้ส่วนตัวคิดว่าเราใช้ความรู้ที่มีทั้งหมดเท่าที่เคยเรียนมา ประสบการณ์ทุกอย่างไปหมดแล้วเหมือนกันนะ ค่อนข้างจะลงไปทั้งชีวิตเลยอ่ะ เหมือนประสบการณ์ชีวิตเราหลาย ๆ อย่างก็ลงไปตรงนั้น ทีมเขียนบทเองก็ใส่ลงไปหมดทุกอย่างเลยมันเป็นปีที่เหมือนทุ่มสุดตัวแล้วจริง ๆ

พลังในการทำงานของ Season 3 ที่มากกว่า Season 2

เรารู้สึกเหมือนกันนะว่า เราใส่พลังไปมากกว่าภาคที่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าช่วง Season 2 เราไม่ตั้งใจทำนะมันเหมือนช่วงนั้นมันเป็นช่วงของความไม่รู้มากกว่า เราไม่รู้ว่า ต้องใส่อะไรลงไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลที่ได้ในตอนนั้นมันกลายเป็นว่า พวกรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เราคิดไม่ถึงเนี่ย แม่งมีผลต่อความรู้สึกของคนดูมาก ๆ เลย เช่น การวาง Score เพลงผิดนิดเดียว ฉากนั้นความหมายเปลี่ยนเลยนะ เราก็ไปเรียนรู้เรื่องนี้ตอนทำ Season 2 ซึ่งพอมาใน Season 3 เราก็จะรู้แล้วว่าการวาง score เพลงมันต้องมี Reference ที่เยอะพอสมควรนะ ในปีนี้มันมีเพลงเยอะมากแถมจังหวะดีด้วยที่เราลองโหลด Apple Music มาใช้ดูปรากฏว่ามันได้ผล เราเจออาณาจักรเพลงใหม่เต็มไปหมดเลย เพลงที่ไม่เคยฟังยังมีอีกเพียบ เพราะฉะนั้นมันจึงทำให้ Reference ของ Score เพลงในหนังมันฉีกไปหมดเลย ปีนี้เราชอบมาก ๆ มันมีอารมณ์พิเศษ ๆ ไม่ซ้ำกับ Season ไหนเลยนะ เวลาเศร้ามันก็จะไม่ได้มีแค่เปียโนหวาน ๆ แหละหรือเวลามีความสุขก็ไม่ได้มีแต่เสียงมุ้งมิ้งอย่างเดียวแล้วนะ ทุกอย่างมันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างชัดเจน

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในฮอร์โมนส์ คือ เรื่องที่เราทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างดีและมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ”

การคัดเลือกเพลงประกอบ Hormones 3 The Final Season

ตัวเพลงประกอบเราเลือกกันเองตั้งแต่ตอนเขียนบทแล้ว จะมีบางเพลงที่มันงอกขึ้นในช่วงหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมาตอนเขียนบทมากกว่า อย่างเช่น บางเพลงถูกใส่ไว้ในบทตั้งแต่ตอนแรกแล้วปรากฏว่า พอถึงเวลาที่มันมาตัดต่อมันไม่สนุกอย่างที่คิด นึกภาพง่าย ๆ ตอน EP. 1 ซีนเปิดของโรงเรียนเลยที่บอสมันขี่จักรยานเข้ามาในโรงเรียนอ่ะ ที่ทุกคนได้ดูมันคือ เพลง ผจญภัย ของ Mrs.Slave ใช่มั้ยแต่จริง ๆ ในบทมันคือ เพลง รถไฟขบวนแห่งความฝัน ของ Paradox เราลองมาตัดต่อเพลงของวง Paradox เข้าไปแล้วในตอนแรกแต่จังหวะมันจะช้า ๆ หน่อยรู้สึกว่ามันไม่พุ่งวะก็เลยนึกถึงเพลงที่มันเร็วขึ้นมาหน่อยจังหวะสนุก ๆ เราก็เลยนึกถึงเพลงของวง Mrs.Slave เลยเปลี่ยนมาเป็นเพลงนี้แทน มันจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเยอะครับในเรื่องของการเลือกเพลงเนี่ย อย่างเพลงที่มีในบทชัด ๆ แล้วก็คือเพลง ถ้าเธอคิดจะลืมเขา ของ Polycat มันจะมีในบทอยู่แล้วว่าจะ cover ให้ขนมปังร้อง วง See Scape เล่นหรือเพลงช่างมันของ Somkiat ก็มีอยู่แล้วตั้งแต่แรก ที่พิเศษหน่อยคงจะเป็นเพลงล่าสุดของ Better weather เพิ่งมาทำหลังจากเราถ่ายซีรีย์เรื่องนี้เสร็จไปแล้ว ตอนนั้นเรามาดูลิสต์เพลงประกอบใน season นี้แล้วเราตั้งใจจะทำอัลบั้มเพลงประกอบออกวางขาย พอมานั่งดูแล้วก็เจอว่า เฮ้ยคู่พละ – ส้มส้ม ทำไมมันไม่ได้เพลงของมันเลยวะ คู่นี้เราแม่งชอบมาก ๆ มันต้องมีเพลงประกอบนะ ทีนี้ก็เลยต้องไปหาคนมาทำเพลงนี้ให้เพราะรู้แล้วว่าต้องแต่งเพลงนี้ขึ้นมาใหม่ ๆ แน่นอนก็คิดไม่ออกว่าใครทำดีวะ เฮ้ยเอาพี่สแตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) ดีมั้ยแต่ก็คิดอีกมุมคือมันจะเกินเบอร์ไอ้พละไปรึเปล่า ก็ไม่รู้จะไปหาใครแหละเลยเสี้ยนอยากแต่งเพลงด้วยช่วงนั้น เสนอตัวเองเลยครับ เราแต่งเองแม่งเลยแหละกัน (หัวเราะ) ก็มานั่งทำเพลงเนี่ยที่ออฟฟิศเลยพอทำเสร็จก็ลองให้ทีมเขียนบทฟังก็ให้แต่ละคนพูดกันว่า ใครควรร้องเพลงนี้ดีทีนี้พี่กุ๊กหนึ่งในทีมของเราก็บอกว่า เขาฟังแล้วนึกถึง Better weather จังก็เลยลองส่งไปให้เขาทำออกมาดู โดยขั้นตอนของมันเนี่ยโครตน้อยเลยไอ้เพลงนี้มันมีเวลาประมาณไม่กี่อาทิตย์ก่อน EP. 12 ออนแอร์เองอ่ะ ซึ่งผลที่ได้คือพวกเขาทำได้ค่อนข้างถูกใจเราเลย ดีใจที่มีคนชอบเพลงนี้เยอะครับ

ตอนทำเพลง อย่าเสียใจคนเดียว ไหน ๆ แต่งเพลงเองแล้วทำไมไม่ร้องเพลงเองไปเลย

(หัวเราะ) เอาจริง ๆ นะไม่กลัวเลี่ยนกันหรอ ตอนนั้นมีหลายคนมาบอกเหมือนกันว่า ถ้าหานักร้องไม่ได้ก็ร้องเองไปเลยจบ ๆ กันไป เราก็พูดสวนไปเลยว่ามันจะเลี่ยนนะซีรีส์ก็ทำเอง ไปแอบเล่นเองอีก ยังจะร้องเพลงอีกด้วยเนี่ย ผมอายเอาจริง ๆ นะ มันตลกเกินไปอ่ะ ถ้าจะในซีรีส์มันจะมีเสียงร้องของเราอีกเขินวะ ก็เลยไม่เอาดีกว่า อย่าง เพลง เพดาน ของ Season 1 เราก็ไม่ได้ตั้งใจเอามาใส่นะ แต่บังเอิญเพื่อนเราที่เป็นทีมเขียนบทเอามาให้พี่ย้งลองฟัง พี่ย้งก็บอกว่าเออก็เข้านิหว่าไหน ๆ ต้องใช้เพลงแต่งใหม่แหละเอาเพลงนี้เลยแหละกัน (เกร็ดความรู้ : เพลง เพดานเวอร์ชั่นต้นฉบับเสียงร้องนั้นก็คือ พี่ปิง ผู้นี้นิเอง)

Hormones 3 The Final Season ครั้งนี้จะไม่มีการตัดต่อล่วงหน้า

จริง ๆ การตัดต่อล่วงหน้าเราทำได้นะ แต่กระแสตอบรับของคนดูค่อนข้างมีผลกับเรามาก ๆ นะ พวกเราทีมงานทุกคนจะฟังความเห็นของคนดูมาก ๆ เลย แบบถ้า EP ไหนตัวละครไหนเริ่มโดนเกลียดแล้ว คนเริ่มไม่เข้าใจบทบาทของเขาแล้ว เราจะหาวิธีทำให้คนดูได้เข้าใจมากขึ้นนะ เราจะรักษาตัวละครของเราไว้ตลอดเวลา มันก็ทำให้บางทีเรื่องของกระแสตอบรับก็ทำให้เราต้องแก้งานของเราตลอดเหมือนกัน เรามาสิงอยู่ที่ออฟฟิศทุกวันเหมือนกัน มันทำให้ทุกวันนี้แม่ก็ลืมหน้าของเราไปแล้วนะจากการตัดต่อที่ไม่สามารถทำล่วงหน้าได้เนี่ย (หัวเราะ)

ทีมงานเช็ค Feedback ของคนดูกันยังไง

เราเช็คทุกทางเลยนะ หลัก ๆ ก็ Facebook , Twitter , pantip.com มันก็จะเห็นอะไรหลายอย่างที่แตกต่างไปเหมือนกันนะ อย่าง Twitter เนี่ยจะเห็นอะไรมากสุดเลย มันค่อนข้างหลากหลายแต่มันเลื่อนเร็วมากข้อความเนี่ย ยิ่งวันที่ออนแอร์นะเราดูไม่ทันเลยอ่ะ เด้งเร็วมาก แล้วก็พวกความเห็นใน Pantip เขาก็จะชอบตั้งกระทู้ดีเบตกันในประเด็นแต่ละ EP.  มีการแบ่งทีมบอส – ทีมนนท์ กันไรงี้สนุกดีเวลาเห็นคนเข้าไปดีเบตกัน

เจอกระแสตอบรับในทางลบเยอะมั้ย

เจอนะ อย่างเช่น ตอน เพื่อนเที่ยว EP. 9 มีบางคนบอกว่า ดูแล้วอยากทำตามแล้วตัวเราเองก็คิดในใจแบบไอ้เหี้ยเอาจริงดิ คือ ตอนที่ทำ EP. เนี่ยมันมีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเราแล้วว่า ถ้าทำออกมาจริง ๆ มันจะไปสนับสนุนให้คนทำแบบนี้รึเปล่า แต่เราก็รู้สึกว่าเราได้บอกผลของการกระทำแบบนั้นไปหมดแล้วว่าถ้าทำแล้วมันจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณอยากลองทำตามโอเคคุณทำนะ บทสรุปมันมีให้เห็นแล้วไอ้ซันมันเจออะไรบ้าง แล้วก็อีกอันนึงที่เราสนใจคือเราชอบพวกที่เก็บรายละเอียดหลาย ๆ อย่างในซีรีส์นี้นะ บางครั้งเราก็งง ๆ ว่าคนดูเขาดูกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ อย่างเช่นตอนแนะนำตัวของ season นี้ที่มีคนเอาไปผูกกับดวงด้วย เราก็แบบเหี้ยมันดูราศีกันจริงจังขนาดนี้เลยเหรอวะ จุดเริ่มต้นของการคิดตัวละครกับราศีเนี่ยมันเกิดจากพี่กุ๊กกับพี่วรรณ ทีมเขียนบทของเราเนี่ยแหละที่จะเนิร์ด ๆ หน่อย เขาก็อยากจะตั้งราศีขึ้นมาให้ตัวละครมันมีความกลมอ่ะ ก็เลยไปตั้งไว้คร่าว ๆ ไม่ได้คิดว่าจะมีคนเอาไปทำกระทู้ใน pantip.com เลย ยิ่งไปกว่านั้นมันมีการนำเรื่องของดวงดาวไปผูกกันจริงจังมาก เราอ่านแล้วก็คิดในใจว่า กูกราบแล้วครับ กูยอมเลย คิดได้ขนาดนี้ ขอชื่นชมฮะ ส่วนเรื่องเสียงที่เกิดขึ้นในตอนแนะนำตัวของแต่ละคน พวกเราตั้งใจทำให้มันมีนัยยะแอบแฝงเองนะ Hormones The Series มันเป็นงานที่เราแอบใส่รายละเอียดลงไปอ่ะ คนดูก็จะสนุกไปกับมัน ที่สำคัญตัวเราเองเนี่ยจะเป็นคนที่ห่วง content ทุกอย่างของเราหมดเลย เราจะไม่ยอมให้อะไรหลุดออกไปก่อนเลย อะไรหลุด สปอยอะไรกันเราจะหงุดหงิดมาก พอมันยิ่งเป็นความลับมาก ๆ คนก็ยิ่งอยากรู้ มันก็เลยเกิดการแกะรอยต่าง ๆ เกิดขึ้น เรารู้สึกสนุกนะคนดูก็สนุกไปด้วยกับการที่เราแอบใส่อะไรพวกนี้ลงไป บางอันจนถึงตอนนี้คนดูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเราก็ขอบอกเลยว่า เราไม่บอกนะ ปล่อยไป มาถามตอนนี้ก็ไม่บอกหรอก (หัวเราะ)

“ปีนี้น้องฟรังแม่งท็อปฟอร์มสำหรับเราเลยนะ ตอนที่เขียนบทไปเป็นตัวหนังสือ เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำอ่ะว่ามันจะเล่นได้รึเปล่า พวกฉากแกล้งชักอะไรแบบนี้มันเล่นยังไงวะ แต่ ณ วันที่เล่นจริง มันเล่นได้ เก่งจริง ยอมรับเลย”

ได้อ่านพวกกระทู้เดาเหตุการณ์ล่วงหน้าใน Hormones บ้างมั้ย

อ่านทุกอันอ่ะเรื่องนี้ตลกมาก แบบมันคิดไปทางนี้ได้ด้วย มีคนดูจะเดาว่า ดาวตาย นะอันนี้เดาต่อไปอีกว่าไปวัด เห็นแบบนี้ต้องคิดว่ามีคนตายแน่นอน คืออยากจะถามกลับว่า ไม่คิดบ้างเหรอว่าไปวัดก็ไปทำบุญได้ เดาไปทางเดียวกันเลยนะครับคนดูเนี่ย แต่ก็สนุกดีครับเข้าไปอ่านก็จะขำ ๆ ดี แต่มันก็จะมีคนเดาถูกอยู่นะ อย่างตอน พละ คนก็ไปเชื่อมโยงจนสุดท้ายรู้ว่า พละเป็น HIV เราก็ได้แต่เงียบไว้ คือ รอให้ถึงตอนซีรีย์ฉายเลยมันน่าจะเคลียร์สุด เรื่องนี้มันสนุกมากการเดาเนี่ย ยิ่งถ้าพวกคุณคนดูอยากค้นหาขนาดนี้นะ เราก็จะซ่อนของเราต่อไป (หัวเราะ) ทุกครั้งเวลาเราประชุมในแต่ละสัปดาห์เราจะคิดตลอดว่าจะโปรโมทออกไปยังไงดี รูปที่ออกไปในเพจมันจะตีความไปได้แบบไหนบ้าง มันผ่านกระบวนการคิดมาหมดแล้วครับ ว่าจะให้คนดูเดาไปทางไหน ทางที่ดีคือ ดูเองในเวลาที่มันฉายเนี่ยแหละสนุกสุดแล้ว

Hormones The Series กำลังจะเดินทางถึงตอนจบของมันแล้ว ซีรีส์นี่ถือว่าเป็นซีรีส์ของสังคมแล้วรึยัง

เราคิดว่า ทุกคนรู้สึกว่าซีรีส์นี้มันถูกจับตามองนะ เพราะ มันอยู่บนโซเชียล แต่ในมุมของคนที่ไม่เล่นโซเชียลมันแทบจะไม่เป็นที่รู้จักเลยนะ ลองไปถามผู้ใหญ่บางคนเขาแทบจะไม่รู้จักเลยนะ อย่างวันก่อนเราเพิ่งไปบรรยายมา พวกผู้ใหญ่เขาก็จะงง ๆ ไม่รู้จักว่าฮอร์โมนคืออะไร เขาจะรู้จักแต่ละคร 3 5 7 9 เนี่ยแหละ บนโลกโซเชียลมันอาจจะดังก็จริง แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราก็ยังรู้สึกว่า มันไม่ได้ดังขนาดนั้น เรารู้สึกว่า อยากให้มันไปถึงวงกว้างกว่านี้นะ จริงๆ เรื่องราวที่เราทำมันแมสนะแล้วมันก็ไม่ได้ดูยากเลย มันมีอะไรบางอย่างที่คนไทยควรได้ดูอะไรสิ่งนี้ แต่ตอนนี้ได้แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วแหละ เราไม่เคยคิดว่าซีรีส์เรามันจะสอนเด็ก ๆ นะ แต่แค่อยากให้มาดูกันหน่อยเหอะว่า ชีวิตมันมีหลาย ๆ แบบนะ ไม่ได้มีแค่ด้านเดียวที่หลาย ๆ คนรู้จัก เราอยากนำเสนอในมุมมองใหม่ ๆ ที่สนุกขึ้นในสังคมก็เท่านั้นเองส่วนผลจะเป็นยังไงสุดท้ายเราว่าทุกคนก็ต้องเจอเองมันถึงจะดีที่สุด

เรื่องของภาพซ้ำตัวละครในแต่ละ Season ที่คนดูชอบเปรียบเทียบคิดยังไงกับเรื่องนี้

จริง ๆ เราก็พยายามทำให้ต่างอยู่แล้วนะเรื่องของตัวละครในแต่ละ season เราเชื่อว่าจริง ๆ ทำยังไงมันก็ต่าง พอลงลึก ๆ ในรายละเอียดของมันแต่ถ้าคนจะเปรียบเทียบก็ช่วยไม่ได้นะ ยกตัวอย่าง ส้มส้มอะ เราก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สไปร์ทอยู่ดี  เพราะ สไปร์ทมันอาจจะมีทัศนคติที่แรงด้านเซ็กซ์เป็นหลักนะ แต่ส้มส้มแม่งแรงกว่าสไปร์ทอะ มันสุดโต่งในการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ใครเลย กูจะด่าจะเหวี่ยงใครก็ได้ไรงี้ ซึ่งมันก็คนละคนอยู่ดี เราว่าถ้ามองดี ๆ ทุกตัวมันต่างกันหมดครับ

ถ้าให้เลือกเป็นตัวละครในเรื่อง อยากเป็นใคร

อยากเป็นใครเหรอ กูไม่อยากเป็นใครเลยในเด็กเวรพวกนี้ (หัวเราะ) คือ เราว่า ชีวิตของเด็กทุกคนในซีซั่นนี้มันเป็นจุดที่พวกเราผ่านไปหมดแล้วมากกว่า เราจะไม่ย้อนกลับไปแล้วแหละ เด็กปีนี้ค่อนข้างเด็ก ตัวละครหลาย ๆ ตัวมันมีความเป็นเด็กเวรอยู่อะ เวลาตัดสินใจกันที มันแบบอะไรของมึงเนี่ย ซึ่งเราเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็จะไม่คิดแบบนั้นแล้วแหละ แต่แน่นอนสมัยก่อนเราเคยเป็นพวกมันนะ เราเคยเป็นเด็กที่เถียงครูกลางห้องเรียนแบบเจน เราเคยเป็นเด็กที่คิดต่างจากคนในสังคมแบบบอส เราเป็นคนที่ชอบเอาใจคนอื่นแบบนนท์ เราเป็นคนทุกแบบมาหมดแล้วอะเลยรู้ว่าแบบไหนมันดีไม่ดี เรารู้สึกว่า ทุกวันนี้อาจจะเห็นกันว่าคนนี้ทีมนนท์ ทีมบอสหรือทีมอะไรต่าง ๆ แต่เดี๋ยวพอโตมาก็จะรู้ว่ามันไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ข้างใครนะ เราสามารถเป็นทั้งบอสและเป็นทั้งนนได้ในเวลาเดียวกันนะ มันเป็นเรื่องของการปรับตัวเข้าสังคมมากกว่า

นักแสดงใหม่คืออุปสรรคหลัก ๆ ที่ต้องเจอใน Season นี้รึเปล่า

ใช่เลย อุปสรรคหลัก ๆ ก็เรื่องนักแสดงใหม่เนี่ยแหละมันจะมีข้อดีและข้อเสียนะ คือ พอยิ่งมาใหม่ ๆ เนี่ย ประสบการณ์น้อง ๆ เขาจะน้อย ทำให้หลาย ๆ อย่างต้องใช้เวลาในการจูน เพราะฉะนั้นช่วงแรก ๆ ที่น้องมาเล่นกันเนี่ย มันจะยังไม่ค่อยดีหรอกจะมีบางคนเท่านั้นที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว อย่างเช่น ไอ้เด็ก 5 คนปีที่แล้วมันก็จะรู้ว่าเวลาออกกองต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง พวกเด็กที่เหลือก็จะงง ๆ กันไป แต่มันก็จะไปช่วยได้ตอน workshop เราจะสอนละเอียดมาก แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่เหมือนลงสนามจริงอยู่ดี พวกเด็กใหม่มันต้องทำการบ้านเยอะมาก แต่ข้อดีมันก็มีเยอะเหมือนกันพวกความสดใหม่ของการแสดงเนี่ยทำให้เราสนุกมากเหมือนกันนะ เราลองโยนความรู้สึกของตัวละครให้ผลที่ได้กลับมาคือมันสดมาก ๆ เป็นความสดที่เกิดขึ้นมาจากตัวของมันเองเลยอ่ะ อย่างฉากที่ส้มส้มนั่งคุยกับพละหน้าบ้าน ในบทมันจะเขียนไว้ประมาณนึงว่า ลอยกระทงไปไหนรึเปล่า พละก็จะตอบว่า วันลอยกระทงไม่ต้องซ้อมวิ่งนะ แบบนี้ แล้วอยู่ ๆ ส้มส้มมันก็หันมาถามว่าทำไมซื่อจังวะ สิ่งนี้แหละครับคือสิ่งที่ไม่ได้มีอยู่ในบทเลย ตัวน้องแพรวมันรู้สึกของมันแบบนั้นก็เลยพูดออกมาปีนี้มันเลยจะมีการแสดงที่สด ๆ เกิดขึ้นเยอะมากเหมือนกันสำหรับเราซึ่งโดยส่วนตัวชอบมาก ๆ นะ

คนดูชอบบอกว่า ทีมงานเขียนบท Hormones The Series โรคจิต

รู้สึกเหมือนเป็นคำชมมากกว่านะ การที่เขาบอกว่าเราโรคจิตเนี่ยแปลว่าคนดูเขาไม่ไว้ใจเราแล้ว เวลาเราเห็นกระแสตอบรับเราก็ชอบนะ จริง ๆ บางครั้งเราเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา คนดูก็ไม่เชื่ออีกว่ามันสมหวังกันจริง ๆ อย่างตอน EP. 11 ที่ก้อยดาวมันลงเอยกัน กอดกัน ซาบซึ้ง ก็ยังมีคนทักมาถามอีกว่า พี่ยังไม่จบใช่มั้ย เขาต้องทะเลาะกันอีกใช่รึเปล่า คือ คนดูเขาไม่ไว้ใจเราแล้วไงมันก็กลายเป็นเรื่องสนุกดี ซึ่งทีมงานทุกคนก็ไม่ได้มีความรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้นด้วยนะกับเรื่องนี้ (หัวเราะ) รู้สึกสนุกมากกับการปั่นหัวคนดู

มองอนาคตของน้อง ๆ ที่เล่น Hormones The Series ภาคนี้ไว้อย่างไรบ้าง

จริง ๆ แล้วตอนที่เริ่มต้น Season นี้เจตนาเราทำเพื่อพวกมันนะ ตอนแรกเหนื่อยมากจนจะไม่ทำแล้วเนี่ย แต่ตอนพอมันมีการคัดเลือก Hormones The Next Gen มาแล้วอ่ะ เรารู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ช่วยดันน้องไปได้อีก มันเหมือนกับที่ทำกับน้อง ๆ ในภาค 1 เราเองก็อยากให้เด็ก ๆ พวกนี้ได้เจออีกสักปีแหละกัน ยอมเหนื่อยอีกสักครั้งแหละกันวะ เราอยากให้นักแสดงได้พัฒนาตัวเองซึ่งสิ่งนี้มันจะทำให้พวกเขาได้พัฒนาตัวเองได้ง่าย ทั้งวิธีการจูนเข้าหาตัวละครที่เข้าใจง่ายเพราะมันเป็นพวกเขาเอง หรืออีกความรู้สึกนึงก็คือตัวเราผู้กำกับเองก็ได้บทเรียนมาเยอะจาก ซีซั่น 2 เราก็อยากลองใช้บทเรียนที่ได้มาให้คุ้มค่า อยากลองทำงานรูปแบบใหม่ดู ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นความละเอียดที่เกิดขึ้นใน Season นี้มันก็จะเป็นความละเอียดที่แตกต่างจากเดิมไปมาก ๆ เราจะค่อนข้างพิถีพิถันมันทุกขั้นตอนเลยแหละสำหรับ Season นี้ทั้งหมดเลยเราอยากทำให้มันเป็นผลงานที่น่าจดจำสำหรับเรา

ไม่คิดจะทำภาคต่อ Hormones The Series ภาคมหาลัยบ้างเหรอ

เคยเจอคนถามเหมือนกันว่าทำมั้ย แต่เรารู้สึกว่ามันพอแล้วแหละ กลัวมันจะเหมือนละครช่องอื่น ๆ ที่ทำไปเรื่อย ๆ ไม่จบสักที เรารู้สึกว่าสำหรับเรา เราอยากเก็บภาพความทรงจำของมันไว้เท่านี้อ่ะ เราไม่อยากไปไกลกว่านี้อีกแล้ว รู้สึกว่าความทรงจำช่วงนี้มันสวยงามมาก ๆ มันคือช่วงมัธยมอ่ะ อยากเห็นแค่นี้เลย เราไม่อยากรู้ว่าเรื่องราวของพวกเขาช่วงมหาลัยเป็นยังไงต่อแล้ว ไม่แน่ชีวิตของต้ากับเต้ย ตอนเรียนมหาลัยมันอาจจะเป็นแฟนกัน เลิกเรียนไปสยามเดินเล่นมันอาจจะมีแค่นั้นก็ได้ มันไม่เหมือนวันแรกที่แอบรักกันนะ อันนนั้นแม่งสวยงามกว่าเยอะเลย เรารู้สึกว่าช่วงมัธยมแม่งมีอะไรน่าจดนำเยอะมากเลย

“ชีวิตต่อให้มันจะเหี้ยแค่ไหนก็ตาม มันมีแสงสว่างแห่งความหวังเสมอนะ เราอยากพาทุกคนไปถึงจุดนั้นให้ได้”

พูดถึง EP. 13 ตอนจบของ Hormones 3 The Final Season หน่อยว่าคนดูจะได้พบกับอะไรบ้าง

บอกเลยแหละกันว่า ความพีคอะไรทั้งหลายมันจะไม่เท่ากับ EP. 12 แน่นอน มันจะเป็นตอนที่รวบรวมบทสรุปของตัวละครทุกตัว ซึ่งเราชอบมากนะมันมีความอิ่มและลงตัวหมดเลย ใครจะไปคิดว่าตัวละครทุกตัวแม่งมาถึงจุดนี้ได้ไงวะ นึกถึงตอน EP. 1 ตอนที่ขนมปังเจอกับออยตอนเปิดเทอมแล้วซื้อขนมปังสังขยามาให้แล้วกลับภาพมาดูตอนนี้ไอ้เหี้ยมันมาถึงจุดนี้ได้ไงวะ หรือจะเป็น เภา มะลิ โรบอต ซัน หรือเจน แม่งมาถึงตรงนี้ได้ยังไงวะเนี่ย ช่วงเวลา 1 ปีไอ้เด็กเวรเพลงนี้มันสามารถเรียนรู้อะไรได้มากขนาดนี้เลย เราอิ่มมากกับการดูฮอร์โมนซีซั่นนี้ในฐานะคนทำที่มองแบบคนดูด้วยนะ เราเชื่อว่าคนดูก็น่าจะชอบเหมือนกัน มันเป็นภาคสุดท้ายแล้วอะ ถึงตรงนี้ก็อยากบอกน้อง ๆ ทุกคนเลยว่า ชีวิตต่อให้มันจะเหี้ยแค่ไหนก็ตามมันมีแสงสว่างแห่งความหวังเสมอนะ เราอยากพาทุกคนไปถึงจุดนั้นให้ได้ อยากบอกน้อง ๆ ที่ดูด้วยว่า ถ้าชีวิตน้องในตอนนี้คิดว่าแย่แล้ว มันมีอีกหลายชีวิตนะที่แย่กว่าน้อง คนรอบข้าง ๆ ทุกคนก็มีปัญหาเหมือนกันนะมันไม่ได้แย่อยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว เรามาชีวิตแย่ด้วยกันในตอนนี้ สุดท้ายมันก็จะโตขึ้นและดีขึ้นเองตามวัยของมัน

ทำไมสัปดาห์ที่แล้ว EP. 12 ถึงไม่มี Teaser ของตอนต่อไป

ความรู้สึกแรกเรา คือ ยังไม่อยากให้เห็นอะไรเลยด้วยแหละตอนที่มันเพิ่งจบไปเนี่ย เรารู้สึกว่าเพลงร่องน้ำตามันส่งพลังมาให้คนดูขนาดนี้แล้ว เราอยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยความเงียบ ๆ ของเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้มันซึมซับให้มากกว่านี้ก่อนเลยเลือกที่จะตัดจบตรงออยแล้วไม่มี Teaser ตอนต่อไปครับ เราไม่อยากให้เสียงของตอนต่อไปมารบกวนอารมณ์ของคนดูในตอนนั้นเลย อยากให้จบไปตรงออยเลย นี่ยังรวมไปถึงผ้าม่านในโรงเรียนด้วยนะครับ มันเป็นสีเดิมของมันอยู่แล้วนะ อย่างที่บอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในฮอร์โมนส์มันเป็นความสนุกของเราเอง แต่ก็อย่าเพิ่งคิดอะไรกันมากมายนะครับ

EP. 14 คนดูจะได้เห็นอะไรอีกบ้างหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างมันถูกเล่าจนจบไปแล้ว

มันจะมีเบื้องหลังของซีรีย์นี้ทั้งหมดเลยให้ทุกคนได้ดูกัน เมื่อกี้เราเพิ่งไปตรวจมาเลย EP. 14 เนี่ย มันจะมีซีนที่ถูกตัดออกเยอะมาก แล้วแต่ละซีนที่ตัดออกแม่งดีทั้งนั้นเลย ซึ่งเราก็เข้าใจได้นะว่ามันเป็นเรื่องของเวลาในการฉายแต่ละตอน อยากให้ทุกคนได้ดู EP นี้กันจริง ๆ ครับ มันยังมีอีกหลายอย่างที่อยากให้คนดูทำความเข้าใจกับมัน ฝากด้วยนะครับ ส่วนหลังจากตอนนี้ฉายเสร็จผมก็จะหนีไปพักที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วครับ (ยิ้ม) ผมทำงานติดต่อกันมา 2 ปีแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนของผมแล้วครับทุกคน เย้

เรื่องของรุ่นพี่ใน Season ก่อนจะมีมาเซอร์ไพร์สอีกมั้ย

เรื่องนี้มันต้องขึ้นอยู่กับบทด้วยนะว่าจะมีใครบ้างที่ยังมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องอยู่ ถ้าเกี่ยวข้องเราก็จะดึงกลับมาอย่างเช่น การเอาวินกลับมา เพราะเรื่องของวินกับเจนมันยังไม่เคลียร์ไง หรือจะเป็นคู่ต้ากับขนมปังมันก็ยังไม่ได้เคลียร์กันทั้งหมดทุกเรื่องมันมีความชัดเจนของมันอยู่แล้ว แต่อย่างไผ่กับสไปร์ทเนี่ยมันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวละครตัวอื่นนิมันจะกลับมาเพราะอะไรก็ยังไม่มีเหตุผลถูกมั้ยละ อย่างข้อมูลในวิกิพีเดียอะก็พวกใครก็ไม่รู้ไปเขียน เราก็ปล่อยเลยตามเลยไป เพราะว่าตัวละครตัวไหนถ้ามันจบไปแล้วก็คือจบครับ

ตัวละครท็อปฟอร์มประจำ Season นี้

จริง ๆ มันหลายตัวมากเลยนะ ออย นี่ก็ท็อปฟอร์มเหมือนกันตัวละครนี้มันเหมือนเป็นตัวละครที่รวมร่างกันของคนที่ชอบโกหกกับคนที่หลอกลวงไว้ในคนเดียวกันเลยอ่ะ ซึ่งเรายังไม่เคยเห็นคนแบบนี้ในสังคมจริง ๆ นะ แต่พอ EP. 11 ออนแอร์ออกไปกลายเป็นว่ามันมีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ นะ รวมไปถึงการแสดงของฟรังด้วยที่มันเก่งมาก ๆ น้องมันสามารถทำท่าชักได้แบบสมจริงมากเราให้น้องศึกษาล่วงหน้าหมดเลย ซึ่งผลลัพธ์ที่เราได้มันเกินความคาดหมายของเราจริง ๆ อีกตัวนึงที่เราชอบก็คงจะเป็นขนมปัง หลายคนจะชอบบอกว่ามันเป็นตัวละครนางเอกมากของภาคนี้ซึ่งไอ้การที่มันเป็นนางเอกทำดีในภาคนี้มันก็มาจากสิ่งที่มันต้องการจะแก้ไขตัวเองในอดีตอย่างที่มันได้บอกกับต้าว่ามันก็ไม่ชอบตัวเองในอดีตเหมือนกันนะ มันไม่ได้อยากเป็นคนเดิมที่ร้าย ๆ อีกแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้วในวันที่ขนมปังมันโกรธมาก ๆ เพราะ เพื่อนหลอกก็ทำให้มันเผลอทำในสิ่งที่ตัวเองจะเสียใจภายหลังออกมาอีก มันมีมิติมากขึ้นอะตัวละครตัวนี้ เราก็คิดว่าคนดูน่าจะเข้าใจมันบ้าง เอาจริง ๆ พวกเราทุกคนก็เคยเป็นวัยรุ่นมันก็จะมีโมเม้นท์ที่ไม่ชอบตัวเองเหมือนกันนะ มองย้อนกลับไปเราก็อยากแก้ไขสิ่งนั้นเหมือนกับขนมปังนั้นแหละ

เป้าหมายจะหลังจากเป็นผู้กำกับซีรีย์แล้วจะทำหนังต่อเลยมั้ย

คงทำแหละ สุดท้ายปลายทางเราเอง อยากทำหนังนะก็ต้องมาคิดอีกที ตอนนี้ในหัวกูยังเป็นฮอร์โมนอยู่เลยเนี่ย (หัวเราะ) มันหลอนเหมือนกันนะเห็นหน้าไอ้เด็กพวกนี้ตลอดเลย เราดูตอนนึงประมาณ 7 – 8 รอบได้อ่ะ แก้แล้วแก้อีกก็ยังหลอยอยู่ คงพักไปสักพักใหญ่ ๆ แล้วค่อยทำ อย่างตอนนี้เราคุยกันเสร็จก็คงกลับไปแก้ EP. 13 ต่อเลยเพราะเวลามันค่อนข้างบีบแล้ว

สุดท้ายนี้ฝาก Hormones 3 The Final Season หน่อย

ปีนี้เป็นปีที่ชอบมากที่สุดเลยสำหรับเรา แต่ที่น่าเสียดายที่สุดคือ หลายคนอาจจะไม่ได้ดูแล้วหลังจากที่ผิดหวังไปใน Season 2 เพราะบางคนเขาอาจจะรู้สึกว่า Season 2 ไม่สนุก ซึ่งสิ่งที่ตัวเราเองเสียใจในปีนี้ก็คือตอนนั้นที่เราทำ Season 2 เราไม่น่าทำคนดูหลุดมือเลย เพราะจริง ๆ หลังจากที่ Season 1 เราดึงคนดูได้เยอะมากแล้ว เราเก็บพวกเขาไว้ไม่ได้เองอาจจะเป็นเพราะความอ่อนหัดของเราเองด้วยมันทำให้คนดูหายไปหลายคนเลย แต่พอมาถึงใน Season 3 เรารู้สึกว่าปีนี้มันดีมากเลยนะ เราอยากให้คนดูได้ดูกันเยอะ ๆ นะ แต่มันก็จะกลายเป็นว่าตอนนี้มันไม่ทันแล้วจะจบแล้ว เราก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากบอกว่า ถ้ามีโอกาสก็ยังอยากให้คนดูให้โอกาสพวกเราอีกครั้งพร้อมทั้งน้อง ๆ นักแสดงชุดใหม่ด้วย เพราะ เรารู้สึกว่ามันเป็นเส้นเรื่องตัวละครใหม่หมดเลย ปีนี้มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ประเด็นมันอัพเดทและสนุกขึ้นด้วย ถ้าอยากจะฝากอะไรก็อยากให้พิจารณามันหน่อยแหละกัน ถ้าเกิดยังไม่ได้ดู Season 2 ก็ข้ามมาดู Season 3 ได้นะมันก็ยังสนุกในแบบของมันอยู่ฝากด้วยครับแล้วไปดูตอนจบของเรื่องราวนี้ด้วยกันเสาร์นี้นะครับ

มีอะไรอยากบอกชาวสปอยและชาวที่ชอบเดาเหตุการณ์ล่วงหน้ามั้ย

อยากบอกว่าขอบคุณมากที่เดินตามเกมส์ของพวกเรา (หัวเราะ) จริงๆ แล้ว เราวางทุกอย่างทิ้งไว้ตั้งใจให้พวกเขามาหากันเนี่ยแหละ มันยิ่งทำให้เรายิ่งสนุกมาก ๆ เวลาเขากำลังตามหาสิ่งที่เราวางไว้อยู่ ยังไงก็หาส่วนที่เราซ่อนไว้ให้เจอนะยังมีอีกเยอะเลยก็ขอบคุณที่มาร่วมสนุกกันครับ

หลังจากการสนทนาของผมและพี่ปิงจบลงไป พี่ปิงได้เดินมาส่งผมที่หน้าประตูของบริษัท นาดาว บางกอก จำกัดพร้อมกับบอกผมว่า โชคดีนะครับกันต์ ขอให้ดูตอนจบของฮอร์โมนให้สนุกนะ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปตัดต่อ EP.13 ต่อแล้วยังไงฝากด้วยนะ หลังจากที่กล่าวคำอำลาเสร็จสิ้นผมก็เดินออกมาพร้อมกับความสบายใจกับคำถามที่ติดอยู่ในใจผมมานานกับซีรีย์นี้สักที สุดท้ายนี้ก็หวังว่าในคืนวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมปีนี้มันจะกลายเป็นคืนฮอร์โมนแห่งชาติอีกครั้งแล้วมาดูซีรีย์นี้ไปพร้อม ๆ กันนะครับ / สวัสดีครับ 

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง