Beyond Psychedelic เบ่งบานเพลงไซคีสู่สิ่งใหม่กับ Freeman
- Writer: Peerapong Kaewthae
แม้วงจะแอคทีฟได้ไม่ถึงปี แต่ต้องบอกเลยว่าวง Freeman ก็ขยันกันมาก จนได้ออกอัลบั้ม EP แรกของตัวเองแล้วในงาน Cat Expo ครั้งล่าสุดในชื่อว่า Beyond Psychedelic ซึ่งเป็นชื่อแนวเพลงที่ กล้วย นักร้องนำตั้งให้กับวงตัวเอง แต่ในฐานะคนฟังเพลงแบบเราต้องยอมรับว่าการเรียกตัวเองแบบนี้ไม่ได้ขี้คุยหรือโอ้อวดอะไรเลย และเพลงของพวกเขาไม่ได้ฟังยาก ทั้งยังเบิกทางให้กับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในแนวเพลงไซคีเดลิกได้จริง ๆ ด้วยการนำวิธีเล่นดั้งเดิมมาประยุกต์ผสมผสานเข้ากับดนตรีร็อกร่วมสมัยที่เท่ มีสไตล์ เข้าถึงง่าย หนักหน่วงแต่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ท่อนโซโล่ที่กินขาดด้วยลวดลายอันเหลือล้น เขย่าจิตวิญญาณของเราจนสั่นสะท้าน
จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของวง Freeman คือเนื้อเพลงที่มีความเป็นปรัญชาชวนคิดตาม สอดแทรกแนวคิด free spirit ปลดปล่อยตัวเองออกจากระบบกฎเกณฑ์ของมนุษย์ เสียดสีวิถีชีวิตที่หล่อหลอมให้เรากลายเป็นเพียงตัวเลขทางทฤษฎีให้กับเหล่าชนชั้นสูงที่คอยชี้นำอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรวมเข้ากับดนตรีที่รุนแรงและเป็นอิสระของพวกเขาแล้ว มันจึงกลายเป็นหนทางสู่การดับทุกข์อีกวิธีหนึ่งเมื่อได้ฟังเลยทีเดียว
Sundance
อินโทรจังหวะเท่ ๆ น่าฟังขึ้นมาด้วยกลองผสมเบสและกีตาร์สองตัวที่แบ่งกันวาดลวดลาย แถมยังละลายเสียงกีตาร์ให้แสบสันขึ้นหน่อย ๆ ก่อนจะเข้าท่อนฮุกที่ดรอปดนตรีลงกับเนื้อเพลงที่อธิบายถึงพิธีกรรมอาบแดดของชาวอินเดียแดงที่รับพรจากดวงอาทิตย์ให้ตัวเองแข็งแกร่ง เปรียบเทียบกับคนในยุคปัจจุบันที่ต้องออกมาเจอแดดเพื่อหมุนไปกับระบบทุนนิยม เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ความหมายของคำว่าแข็งแกร่งก็เปลี่ยนไปด้วย พร้อมเข้าท่อนโซโล่ยาว ๆ ด้วยเสียงดนตรีเมามายไซคีสีม่วงแสบหู บีบเค้นเครื่องดนตรีทุกชิ้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อขับเสียงอันพิศวงออกมา เหมือนบทสวดจากต่างมิติ ก่อนจะกลับมาสับจังหวะสนุก ๆ ในตอนท้าย
Anya
เสียงกลองเรียกร้องความสนใจเราให้เตรียมรับมือกับการสาดกีตาร์อันหนักหน่วง พาเราล่องลอยไปกับชีวิตอันเบาหวิว เรียกร้องหาแต่อัญญาอันเป็นที่รัก รอยยิ้มของเธอกลายเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ ท่อนฮุกก็บอกเล่าความเศร้าด้วยออแกน ขบเคี้ยวหูเราด้วยซาวด์กีตาร์ประหลาด ๆ บิดเบี้ยวหลอกหลอนกรีดร้องออกมาเป็นเมโลดี้ มีเสียงกลองให้จังหวะอยู่ด้านหลังเบา ๆ เสียงร้องแบบแอคโค่เอามาตอกย้ำถึงความปราถนาที่ไม่เป็นจริง ก่อนจะใช้กีตาร์เพื่อระบายความในใจอย่างเจ็บปวด เมื่อลองหาความหมายของ ‘อัญญา’ ในภาษาไทยก็แปลว่า ‘รู้แจ้ง’ ได้ด้วย เพลงนี้คงเหมือนกับการล่องลอยไปในกระแสของความคาดหวังของยุคนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีทางได้สัมผัสเธอและปลดปล่อยตัวเองจากอะไรได้เลย และเพลงนี้กล้วยแต่งขึ้นมาโดยได้แรงบันดาลใจจาก เยล วง X0809 เพราะชื่อจริงของเธอคือ อัญญา นั่นเอง
Moon
เสียงออแกนอันเศร้าสร้อยพาเราเข้าสู่โลกอันเยือกเย็น กรีดแทงเราด้วยเสียงกีตาร์อันแหบพร่า เสียงกลองดุ ๆ เสียงขยี้กีตาร์ด้วยเอฟเฟกต์อันแสบทรวง โบยตีเราด้วยดนตรีที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ครึ่งหลังที่กระชากเราไปกับกีตาร์ที่คำรามไปมาพร้อมเบสและกลอง กลายเป็น shoegaze เต็มขั้น ปลดปล่อยความอัดอั้นที่ไม่มีใครเข้าใจออกมา เมื่อเสียงออแกนอันเศร้าสร้อยวนมาอีกครั้ง กระบวนการอันต่ำช้านี่ก็ถูกเล่นวนซ้ำอีกครั้งบอกใบ้ว่าชีวิตเราก็เท่านี้ กลายเป็น 8 นาทีอันทุกข์ทรมานเหมือนชีวิตปล่อยเราทิ้งไว้ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์เท่านั้นที่เป็นปลายทางที่ไม่เคยเอือมถึงเลย
การทำงานอันเข้มข้นของพวกเขาทำให้เกิดเพลงที่ลึกซึ้งและหนักแน่นออกมาถึงสามเพลงภายในเวลาไม่ถึงปี กลายเป็นอีกหนึ่งวงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมุ่งมั่นเพื่อเผยแพร่สำเนียงของพวกเขาอย่างไม่ลดละ เป็นวงหน้าใหม่ของศิลปินหน้าเก่าฝีมือเก๋าที่เราอยากเอาใจช่วย ติดตามซิงเกิ้ลต่อไปของพวกเขาและงานโชว์ของพวกเขาได้ที่เพจ Freeman / band
