Fletchers Farm Fest จากฟาร์มปศุสัตว์ สู่การจัดเทศกาลดนตรีกลางไร่
- Visual Designer: Karin Lertchaiprasert
- Writer: Peerapong Kaewthae
ถ้าพูดถึง music festival ที่จัดขึ้นในฟาร์ม บางคนอาจจะนึกไปถึง Woodstock เทศกาลชื่อกระฉ่อนแห่งปลายยุค 60s ที่กลายเป็นตำนานเพราะมีคนมาเข้าร่วมกว่าสี่แสนคน และเคยมีข่าวว่างานจะถูกกลับมาจัดขึ้นอีกครั้งในวาระครบ 50 ปีในปี 2019 แต่สุดท้ายก็ฝันสลายกันไปเพราะผู้จัดออกมาประกาศว่างานแคนเซิลไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
แต่ก็มีอีกฟาร์มที่หวังว่าจะทำให้เทศกาลดนตรีในฟาร์มเกิดขึ้นอีกครั้ง ฟาร์มของครอบครัว Fletcher ก็เหมือนฟาร์มปศุสัตว์ทั่วไป ที่เลี้ยงหมู เลี้ยงแกะ ๆ และไก่อีกมากมายเพื่อส่งออกอาหารให้กับคนในเมือง North Yorkshire มานานถึง 6 ชั่วอายุคน แต่พวกเขากำลังจะทำให้บรรพบุรุษต้องภูมิใจ กับการประกาศจัดมิวสิกเฟสติวัลกลางไร่ครั้งแรก กับศิลปินในพื้นที่และประเทศใกล้เคียงกว่า 25 วง ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนกับ Fletchers Farm Fest
Mark Fletcher เจ้าของฟาร์มเริ่มจากการสร้างร้านกาแฟชุมชนที่ให้คนสัญจรแวะเวียนมาผ่อนคลายได้ แล้วพัฒนาไปเป็นลานตั้งแคมป์ชวนทุกคนมาพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนจะเปิดร้านขายเนื้อและของสดคุณภาพดีส่งตรงจากฟาร์มหลังร้าน
เมื่อมีลูกค้ามากขึ้น ก็มีไอเดียมากมายให้ Mark ทำให้ฟาร์มอยู่รอดได้มากขึ้น ฟาร์มของเขายังเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่จัดกิจกรรมค่ายลูกเสือ และเข้าค่ายครอบครัวสัมพันธ์ให้พ่อแม่ลูกได้มาทำกิจกรรมด้วยกันอย่างอบอุ่น
เขาเป็นคนนำโซเชียลมีเดียเข้ามาปรับใช้กับฟาร์มของตัวเอง เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และทำโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยมากขึ้น ทำให้ฟาร์มโตขึ้นแบบก้าวกระโดดทันที
หนึ่งในลูกค้าขาประจำของเขาอย่าง Tony McDonagh ซึ่งเป็นโปรโมตเตอร์ชื่อดังก็ถามเขาว่า ไม่อยากลองจัดงานดนตรีดูบ้างหรอ มันช่วยเตือนความจำว่าครั้งหนึ่ง Mark เคยมีวงดนตรีสมัยเรียน และเขารักดนตรีมากขนาดไหน
เขาใช้เวลาเตรียมงานแรมปี คุยกับภาครัฐ จัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่างานครั้งนี้จะดีที่สุด และปลอดภัยสำหรับผู้ร่วมงานทุกวัยเท่าที่เขาจะทำได้ พร้อมคุยกับศิลปินท้องที่ ชักชวนพวกเขามาเล่นในงานนี้ สุดท้ายศิลปินที่สนใจมาเล่นมีจำนวนมาก ทำให้งานมีถึงสองเวที มีเวทีใกล้ร้านกาแฟสำหรับเซ็ตอะคูสติก และเวทีใหญ่สำหรับวงอินดี้ที่กำลังมาแรง เพื่อซัพพอร์ตศิลปินที่อยู่ในบ้านเกิดของเขาเอง แฟนเพลงเองก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลเพื่อให้ได้ดูศิลปินที่พวกเขารัก
ในปีนี้ทีมงานได้เพิ่มความหลากหลายทางแนวดนตรีเข้าไปด้วย อย่าง Screaming Orphans สี่พี่น้องที่มีสำเนียงไอริชป๊อปที่สนุกสนานนเพลิดเพลิน แถมมีชื่อเสียงมาก ๆ ในอังกฤษ ทั้ง 14 สตูดิโออัลบั้มของพวกเธอต่างมีเพลงติดบิลบอร์ดชาร์ตทั้งสิ้น
หรืออัลเทอร์เนทิฟร็อกอย่าง Be Quiet, Shout Loud ก็เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงกระตุ้นให้คนเต้นได้ The Balcony ซินธ์ป๊อปที่มีเมโลดี้อันโดดเด่น กับกลิ่นของดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์จนต้องตกหลุมรัก และศิลปินอีกกว่า 20 ชีวิตในงาน ล้วนเป็นศิลปินในพื้นที่และประเทศข้างเคียงทั้งหมด พวกเขายังมีช่วงเวลาว่างเปิดโอกาสให้ศิลปินที่ไม่ได้รับเลือก แต่อยากมาเล่นงานนี้ได้ขึ้นมาโชว์ ในงานยังคัดเลือกร้านอาหาร หรือร้านเหล้าในพื้นที่เปิดซุ้มเพื่อขายของดีประจำเมือง มีที่จอดรถสำหรับคนที่ต้องเดินทางมา พร้อมบริการเต๊นท์ให้เช่าสำหรับค้างคืนและบาบีคิวมื้อเย็นด้วย เรียกว่าเป็นเทศกาลดนตรีในฝันเลยก็ว่าได้
“มันตื่นเต้นมากครับ ที่จะได้ดูคอนเสิร์ตจากหน้าต่างห้องนอนตัวเอง” Mark ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่างานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้เขาปลดระวาง และส่งต่อฟาร์มแห่งนี้ให้ลูกสาวซึ่งเป็นรุ่นที่หกแล้ว เขาจึงอยากมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องโอเคที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
งานจะมีขึ้นวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ แต่ด้วยสถานการณ COVID-19 ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันว่างานจะยังมีอยู่ไหม แต่ทางทีมงานก็ยังไม่ได้ประกาศอะไรเพิ่มเติม ขอให้โรคระบาดหยุดลงเร็ว ๆ ด้วยเถิด ใครสนใจก็ตีตั๋วได้เลยที่ eventbrite.com แต่ไม่รู้จะมีไฟลต์บินไปมั้ยนะ