เราเป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อเหมือนกันว่าความสัมพันธ์แบบ ‘fanclub’ แตกต่างกับความสัมพันธ์แบบ ‘ลูกค้า’ อย่างสิ้นเชิง เพราะลูกค้ามักจะใช้ในรูปแบบของการบริโภคอะไรซักอย่างหนึ่ง แต่แฟนคลับกับศิลปินเป็นอะไรที่มากกว่านั้น อาจจะใช้คำว่าเราสร้าง ‘ประสบการณ์ที่ดี’ ต่อกันและกันมากกว่า แต่การจะบอกว่าการเป็น ‘แฟนคลับที่ดี’ ต้องทำตัวยังไงอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่มีคำตอบเจาะจง แต่การเป็นแฟนคลับที่ไม่น่ารักอาจจะหาตัวอย่างได้ง่ายกว่า อย่างเช่นใน mv นี้

Stan เล่าเกี่ยวกับแฟนเพลงที่หลงใหลในตัว Eminem มาก ๆ ที่พยายามเขียนจดหมายไปหาเอมิเน็มมากมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นแฟนเดนตายแค่ไหน ถึงขนาดย้อมผมตาม จนสุดท้ายเขาก็จบชีวิตตัวเองลงเมื่อคิดว่าศิลปินที่เขารักไม่มีทางรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของแฟนพันธุ์แท้คนนี้ได้เลย

ในช่วงปี 2000 ที่แฟนเพลงไม่สามารถทวิตถึงศิลปินที่เราชอบได้ ทำได้เพียงเขียนจดหมายฉบับน้อยส่งไปที่ค่ายเพลงแล้วหวังให้เขาได้อ่านหรือตอบกลับมาบ้าง ทำได้แค่เปิดทีวีหรือวิทยุทิ้งไว้แล้วรอให้เพลงของเขาดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โชคดีหน่อยก็ต้องอดหลับอดนอนหรือเทงานเพื่อมานั่งดูรายการทีวีสัมภาษณ์พวกเขา หรือต้องไปยืนรอเขาหน้าคอนเสิร์ตอยู่หลายชั่วโมงเพื่อโดนศิลปินปฏิเสธที่จะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย เพราะยุคนั้นก็ยังไม่มีตั๋วคอนเสิร์ต meet & greet ราคาแพงให้เราจ่ายต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ตาม ทำให้แฟนเพลงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดศิลปินที่เขาชื่นชอบ

ถ้า Stan ใน mv มีชีวิตอยู่ในยุคนี้ เขาอาจจะทวิตไปด่า Eminem ถึงความเย่อหยิ่งที่ศิลปินไม่สนใจแฟนคลับคนนี้เลยได้เพียงไม่กี่อึดใจ ยิ่งได้รู้ว่าศิลปินอ่านหรือมีคนเห็นด้วยกับทวิตของเขาก็อาจต่อชีวิตของ Stan ออกไปได้นานขึ้นอีกหน่อย แฟนคลับคนไหนได้เห็นทวิตของ Stan ก็อาจเข้ามาปลอบโยนเข้าได้ทันท่วงที ทวิตของเขาอาจจะไปอยู่ในข่าวที่พูดถึงแฟนคลับที่ไม่ดีซักเว็บหนึ่ง หรือ Stan อาจจะไปเป็นเจ้าของเพจ Anti-Eminem บนเฟซบุ๊กอยู่ก็ได้ พอยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คนเริ่มตระหนักถึงพฤติกรรมของแฟนคลับที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของศิลปินคนหนึ่งมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าเรากลับมี Stan เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่แฟนคลับก็เหนื่อยหน่ายที่จะสู้รบปรบมือกับคนเหล่านี้ซะแล้ว

ส่วนตัวเราก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับศิลปินซักคนเหมือนกัน แต่ก็ยังตอบไม่ได้ชัดเจนเหมือนกันว่าการเป็น ‘แฟนคลับที่ดี’ คืออะไร ถ้าจะให้พูดเหมือนตัวอย่างข้างต้นก็คงเป็นการ ‘พยายามไม่ทำตัวคุกคามศิลปินที่เราชื่นชอบรวมถึงทุกสิ่งที่ศิลปินชอบหรือทำ’ ไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งเดียวที่แฟนคลับทุกคนต้องห่วงรึเปล่า แต่สำหรับเรามีอีกหลายสิ่งที่ในฐานะแฟนคลับควรจะตระหนักไว้เหมือนกัน

ถ้าเราเป็นแฟนคลับของวงดนตรีอินดี้วงหนึ่ง เราคงถามตัวเองเหมือนกันว่าจะเป็นแฟนคลับที่ดีของวงนี้ได้ยังไงนะ ถ้าทุกคนบอกว่าคือชอบผลงานเพลงทุกเพลงของเขาสิ หรือซื้อซีดีของเขาทุกแผ่น เราคงต้องบอกว่าเราแม่งเป็นแฟนคลับที่แย่มากเลย เราอาจจะชอบเพลงเขาซัก 4-5 เพลงแต่ก็อาจมีบางเพลงที่เราอาจจะไม่ได้ชอบเลยก็ได้ หรือบางอัลบั้มเราก็อาจจะไม่ได้ชอบมากขนาดนั้นจนไม่อยากซื้อก็ได้ เราอาจไม่อินกับเพลงนี้หรือมีดนตรีที่ไม่ถูกหูเท่าไหร่กับเพลงนั้น แล้วจะให้เราแกล้งทำเป็นรักเพลงของเขา โกหกทุกคนว่าเราชอบเพลงของเขาทุกเพลงเลยเพราะเราเป็นแฟนคลับก็คงไร้สาระเกินไป เพราะศิลปินก็มีแนวทางของตัวเองและงานสร้างสรรค์ของเขาอาจจะไม่ได้ตรงกับรสนิยมของเราในบางครั้งก็ได้

แล้วจำเป็นมั้ยที่เราต้องไปตบตีกับทุกคนบนอินเทอร์เน็ตที่วิจารณ์ผลงานหรือตัวศิลปินที่เราชอบ แน่นอนว่าผมคงไม่ทำ (ฮา) ในเมื่อมันคืองานสร้างสรรค์และศิลปะเหล่านี้ต้องใช้วิจารณญาณในการเสพ ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองต่อเพลงได้ แม้มันจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีก็ตาม มันก็เป็นข้อดีที่เมื่อเกิดการวิจารณ์ขึ้นมามันจะทำให้ศิลปะเติบโตต่อไปได้ แต่ถ้าเจอใคร ‘โกหก’ เกี่ยวกับผลงานหรือตัวศิลปินที่เราชอบ ในฐานะแฟนคลับเราอาจจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและมาตอบความจริงพวกเขาก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำทุกครั้ง ชีวิตเราสั้นเกินกว่าจะมานั่งแก้ปัญหาบนอินเทอร์เน็ตทุกเรื่องเนอะ

ศิลปินคงไม่ต้องการให้แฟนคลับพิสูจน์อะไรเพื่อบอกว่าใครคือแฟนคลับที่ดีของพวกเขา

ในฐานะแฟนคลับเราคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดว่าต้องทำยังไงตัวเองถึงจะเป็นแฟนคลับที่ดีของศิลปินซักคนหรอก เพราะความสัมพันธ์ที่แฟนคลับมีต่อศิลปินคือประสบการณ์ที่ดีต่อกันและกันมากกว่า เราเชื่อใจในผลงานของเขา ถ้าวันหนึ่งเราจะเลิกเชื่อใจเขาเพราะผลงานหลายชิ้นไม่ได้สื่อสารกับเราก็คงไม่เป็นไร แต่ประเด็นคือศิลปินไม่ได้เป็นหนี้แฟนคลับ เขาไม่ได้ติดค้างอะไรเราเลย เราซื้อผลงานของเขา เรามีความสุขที่ได้พูดถึงเขาหรือส่งต่อผลงานของเขาให้คนอื่น การที่เขาไม่ยอมถ่ายรูปด้วยไม่ได้แปลว่าเขาเย่อหยิ่ง มันอาจจะเพราะว่าเขาเหนื่อยจากการแสดงหรือมีธุระเร่งด่วนที่ต้องรีบไปทำ มีงานสร้างสรรค์ที่ต้องทำเยอะมาก กำลังจะปล่อยเพลงหรืออัลบั้มใหม่จนไม่มีเวลาเล่นโซเชียลก็ได้ และพวกเขาคงไม่ต้องการให้แฟนคลับพิสูจน์อะไรเพื่อบอกว่าใครคือแฟนคลับที่ดีของพวกเขา ทั้งการพยายามเข้าไปพูดคุยในเวลาส่วนตัวหรือการทำทุกทางเพื่อให้ได้ถ่ายรูปด้วย แค่คำขอบคุณจากใจจริงในเวลาทำงานของศิลปินก็เชื่อว่าน่าจะซึ้งใจแล้ว

เราต้องอย่าลืมว่าศิลปินและแฟนคลับล้วนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทุกคนไม่ได้มีความสุขตลอดเวลา มีบางที่เราอาจหวั่นไหวไปบ้างหรือผิดหวังที่ศิลปินหรือแฟนคลับไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ และผมในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งก็คงไม่ไปตัดสินใครว่าทำไมถึงไม่ทำหน้าที่แฟนคลับที่ดีล่ะ ต่อให้ใครจะทำตามที่ผมคิดหรือใครไม่ทำตามที่ผมก็แล้วแต่ แต่ทุกคนก็เป็นแฟนคลับที่ช่วยกันสร้าง ‘ประสบการณ์ที่ดี’ ต่อตัวศิลปินได้เหมือนกัน จริง ๆ ผมคิดว่าการเป็นแฟนคลับใครซักคนมันง่ายมากเลยนะถ้าได้ลองทำตามนี้ดู

สุภาพต่อศิลปินและให้เกียรติพวกเขาเสมอ; พูดคุยกับศิลปินอย่างสุภาพในเวลางานของพวกเขา และให้เกียรติเวลาส่วนตัวของพวกเขาไม่พยายามเบียดเบียนพื้นที่ของพวกเขาเกินไปทั้งในโลกแห่งความเป็นจริง และโลกโซเชียล

ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตทุกงานที่เราสะดวก; เพราะการไปดูโชว์ของพวกเขาเป็นซัพพอร์ตได้ชัดเจนที่สุด ทั้งเม็ดเงินที่เข้าถึงตัวศิลปินและภาพของแฟนคลับที่ศิลปินได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

อุดหนุนสินค้าของพวกเขาตามโอกาส; สินค้าหน้างาน ทั้งเสื้อ แผ่นซีดีหรือสินค้าจุกจิกทั้งหลายก็เป็นการซัพพอร์ตศิลปินโดยตรง

ช่วยแชร์ลิงก์หรือรีทวิตลิงก์ที่ศิลปินอยากให้เราช่วยแชร์; บางครั้งเป็นงานคอนเสิร์ตหรือการโปรโมตเพลงใหม่ เพื่อให้เสียงของศิลปินที่เราชอบไปได้ไกลมากขึ้น

บอกต่อเพื่อน; แนะนำให้พวกเขารู้จักศิลปินที่เราเป็นแฟนคลับอยู่เพื่อเพิ่มแฟนคลับและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นไปในตัว

แต่ถ้าแฟนคลับคนไหนกำลังเจอปัญหา anti-fan ศิลปินที่เราชื่นชอบอยู่ ขอแนะนำให้คลิกบทความ รับมือ anti-fans ในโซเชียลยังไงให้ศิลปินที่รักไม่บอบช้ำ บน Fungjaizine เลย

• Twitter
• Line