F. Hero จารึกประวัติศาสตร์ฮิปฮอป ทั้ง Old School, New School เน้น ๆ 32 เพลงใน ‘Into the New Era’
- Writer: Montipa Virojpan
อัลบั้ม Into the New Era ของ F.Hero ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการฮิปฮอป กับการรวมเอา all star ทั่วฟ้าเมืองไทยจากรุ่นเก๋าสู่หน้าใหม่ไฟแรงเฟร่อ มา featuring กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันไม่มีใครเป็นสองรองใคร เพื่อพิสูจน์ว่าทำไม old school กับ new school จะอยู่ร่วมกันไม่ได้
F. Hero Into the New Era อัลบั้มนี้ถูกแบ่งเป็น 2 พาร์ต พาร์ตแรกให้เราได้ไปทำความรู้จักกับตัวตนของกอล์ฟ และพี่น้องฮิปฮอปไทยตั้งแต่ราก รวมถึงพาให้เราได้ไปซึมซับสไตล์ที่เคยเป็นที่นิยมในยุคก่อน ส่วนพาร์ตหลังคือการเปิดรับเอาเพลงสไตล์ใหม่มาปรับเข้ากับตัวตนเดิมของเขา แล้วยังเปิดโอกาสให้แร็ปเปอร์รุ่นน้องมาแสดงฝีมือแบบไม่กั๊ก บอกได้คำเดียวจริง ๆ ว่าครบทุกรสชาติ ฟังได้เรื่อย ๆ ไม่เลี่ยนหู แถมเผลอ ๆ จะลุกขึ้นมาโยกเพราะบางเพลงก็ turnt หนัก หลากหลายอารมณ์ตั้งแต่สายครู แก็งสเตอร์ แทร็ป เพลงรัก เพลงเพื่อชีวิต ไปจนถึงเพลงที่ทำให้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปฟังเลยดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าโม้
F.Hero Into the New Era PART 1
Intro
ซาวด์ดนตรีดุดันพร้อมกับเสียงระฆังเหง่งหง่าง และการตะโกนปลุกใจว่า ‘พี่น้องเอ๊ย’ เป็นสัญญาณให้เราเตรียมตัวพบกับความมันในแทร็คต่อไป
FHERO
อินโทรเสียงเครื่องสายสุดสะพรึงและบีตคล้ายเสียงตบมือขึ้นมาพร้อมกับเสียงนุ่ม ๆ ของ โอม Cocktail ตามด้วยท่อนแร็ปสุดดุดันที่บอกเล่าตัวตนของกอล์ฟ กับการเป็นแร็ปเปอร์ที่ทุ่มเทในทางสายนี้มาตั้งแต่ต้น แต่หลายคนกลับจดจำเขาได้ในฐานะศิลปินที่ไป featuring กับคนอื่น ๆ ทั้งที่เขาก็มีผลงานของตัวเองมามากมาย ท่อนหลังเป็นจังหวะ 6/8 กับโซโล่เพลงร็อกดุดัน สอดประสานกับการแร็ปกึ่งตะโกนความอัดอั้นในเวลาที่ผ่านมากับการถูกตัดสินจากคนอื่น เป็นอะไรที่พุ่งพล่านในอารมณ์มาก
You Don’t Know What I’ve Been Through
เพลงนี้ก็ได้ KH หรือ ขัน Thaitanium มาร่วมแจมด้วยเสียงที่มีเอกลักษณ์ของเขา เสียงเปียโนกับบีตโอลสคูล cut and screw เป็นลูปวนซ้ำที่ฟังแล้วเหมือนหลุดมาจาก Bronx เพลงนี้เป็นเพลงที่มีเนื้อหาหนักหน่วงทีเดียว กับการที่เขาบอกเล่าว่าชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งความเกลียดตัวเอง หน่ายกับความล้มเหลว การถูกดูถูก แต่ก็ต้องสู้ต่อเพราะยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล และเชื่อในวิธีของแร็ปเปอร์ที่เขาเลือกเดิน เขาจะยอมแพ้ไม่ได้ ไรห์มแร็ปในเพลงนี้มีความสละสลวยราวบทกวี การเปรียบเปรยกับสิ่งที่เราคิดไม่ถึงหลายต่อหลายบาร์ สุดมาก ๆ ในท่อนที่ร้องว่า ‘มึงไม่รู้ว่าหน้าผากที่แท้ถูกสร้างให้มือมาก่าย’ อารมณ์ที่พ่นแต่ละคำออกมาคือฟังดูก็รู้ว่าเหนื่อย แต่เขาก็ยังต้องไหวให้ได้ มีเสียงสแครชแผ่น และเสียงแซมพ์จากซีนภาพยนตร์สักเรื่องมาเติมแต่ง ตอนท้ายเหมือนเครื่องเล่นเทปค่อย ๆ ถูกหยุดทำงานจนเสียงผิดเพี้ยน และมีฝนตกลงมาช่วยชะโลมความเหนื่อยอ่อน
คาด–ตะ–กอน
ดนตรีโทนสว่าง ๆ กับเมโลดี้สุดไพเราะและคอรัสสุดหวานทำเอาเราฟังเพลินจนเกือบเผลอลืมฟังเนื้อหา เพลงนี้เป็นสัจธรรมที่พอจะช่วยสะกิดให้ใครตื่นขึ้นมาได้ โดยเตือนเราเรื่องความคาดหวัง โดยชื่อเพลงก็มาจากการเอาคำว่า ‘คาด’ ในคาดหวังมาเล่นกับคำว่า ‘ฆาตกร’ นั่นเอง โดยเขาตีความว่ามันสามารถพังความสัมพันธ์ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่พออะไรไม่เป็นไปอย่างที่คิดมันก็ฆ่าเราได้ ‘เป็นยาพิษที่เราสมัครใจดื่ม เป็นหลักประหารที่เราสมัครใจยืน’ เขาเลือกเอากระบวนการยุติธรรมมาขยายเรื่องต่อได้อย่างน่าสนใจ ฟัง ๆ ไปกลางเพลงก็มีเสียงแซ็กโซโฟนแต่น้อยสอดประสานเข้ามา กลมกล่อมอร่อยหูมาก ๆ
A Better Tomorrow
ขึ้นมาด้วยเสียงของ Amp ที่เหมือนเทปเดินไปแล้วแอมป์ยังไม่ทันตั้งตัวว่าจะพูดอะไรดี เป็นจังหวะ candid ที่เหมือนจะใช้ไม่ได้แต่ก็เท่ดี จากนั้นประโยคเปิดของกอล์ฟก็เป็นอะไรที่อิมแพคมาก เพราะเขาคงโดนวิจารณ์ว่าเป็น ‘กะหรี่วงการ’ มาไม่น้อยจริง ๆ แต่เขายืนยันว่าหน้าที่ของเขาคือการเขียนเพลงแร็ป และใครที่ชวนเขาไป featuring ก็เป็นสิ่งที่เขายินดี ใครจะตัดสินเขายังไงก็ช่างแม่ง ฟัคยู! ไม่มาเสียเวลาด้วยหรอก ไปโฟกัสกับตัวเอง กับสิ่งที่ทำอยู่ดีกว่า เพลงนี้เขาได้ร่วมงานกับแร็ปเปอร์หน้าใหม่ทั้ง Chitswift และ Repaze ซึ่งสองคนก็นำเสนอสไตล์แร็ปของตัวเองได้ชัดเจน
SKIT BRING IT BACK
พักกันด้วยแทร็คสคิต กับเสียงสแครชแผ่นกรอกลับไปให้เราทำความคุ้นเคยกับฮิปฮอปโอลสคูลให้ลึกขึ้นอีกนิด
Takin’ Over
‘NINO กดบีตให้หน่อยเดะ’ วลีทองของแร็ปเปอร์ยุคนี้เพราะใคร ๆ ก็ไว้ใจให้นีโน่ โปรดิวเซอร์มือฉมังทำบีตให้ แล้วบีตเพลงนี้ก็เป็นโอลสคูลดุ ๆ ที่มีท่อนดรอป แทรกเอเลเมนต์กีตาร์ไฟฟ้าแบบร็อก ๆ เข้าไปลีดซักท่อนสองท่อน มีเสียงออแกนแบบที่ชอบอยู่ในเพลงโซลเก่า บ้าไปแล้ว และเขาก็ได้อีกตัวท็อปวงการ Twopee Southside มาสุมไฟเดือดให้ในเพลงนี้ แค่ประโยคแรกมาก็ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่กันแล้ว ‘ฮิปฮอปประเทศนี้ใครครองวะ’ ‘ก็พวกกูไงไอ้เหี้ย’ เป็นแกงสเตอร์แร็ปที่เท่ชิบหายยยยย บอกพวกเห่อ****ว่า พวกเขาเก็บหมดตั้งแต่เหนือจรดใต้มาแล้ว ในสมัยที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนาขนาดนี้ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำคือใช้ความพยายามล้วน ๆ ไม่มานั่งพ่น hate speech เป็นนักเลงคีย์บอร์ดด่าคนนั้นคนนี้หลังจอหรอกโว้ย (ขออภัย มันมือไปนิด) มีการพูดถึงแร็ปเปอร์รุ่นบุกเบิกอย่าง JUU4E, AA Crew, Joey Boy, KH แล้วยังพูดถึงรุ่นใหม่ ๆ อย่าง Youngohm, UrBoy TJ, ปู่จ๋าน ลองไมค์, P9D, Illslick, Rap Against Dictatorship หรือ ‘แร็ปเปอร์ที่ไม่ทำตังแต่มันยังแร็ปอยู่’ ด้วย คือวัฒนธรรมที่ respect ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ แต่พวกเขาคือคนที่รันวงการและซื่อสัตย์กับผลงานของตัวเองจริง ๆ
Half Of It
มาชิลกับ r&b แทร็คกันบ้าง ไวบ์นี่ฮิปฮอปยุค 2000s ชัด ๆ เสียงร้องทุ่ม ๆ ของ Annalé เกริ่นขึ้นมาก่อน เนื้อหาก็ยังเล่าเกี่ยวกับการ hustle ตั้งใจทำงานหนักเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ท่อนบริดจ์ในเพลงนี้เพราะมากทั้งพาร์ตร้องและแร็ป ตั้งแต่เพลงนี้เป็นต้นไปดูเหมือนว่ากอล์ฟจะลดบทบาท
สวัสดีวันจันทร์
อันที่จริง 8 เพลงที่ผ่านมาก็เป็นเพลงเพื่อชีวิต (เพราะโอลสคูลส่วนใหญ่ก็พูดเรื่องชีวิต ความลำบาก เพื่อนพ้อง อะไรกันอยู่แล้ว อาจจะมีเรื่องเงินหรือสาวบ้าง) แต่พอเปิดมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเป็นอะไรที่บีบมาก เป็นเหมือนเสียงของฝันร้ายที่มนุษย์เงินเดือนไม่อยากได้ยินสักเท่าไหร่ เสียงเปียโนพร่างพราวขึ้นมาพร้อมกับการแร็ปเบา ๆ เหมือนจะขาดใจเพราะเหนื่อยจากการทำงานหาเช้ากินค่ำ ท่อนต่อไปมีเสียงเด็กน้อยพูดว่า ‘ป๊ะป๋าตื่นได้แล้วค่ะ’ มีเสียงบีตและเครื่องสายประสานสร้างความหนักแน่นขึ้น ไปจนถึงเสียงแร็ปที่เข้มแข็งขึ้น พร้อมพุ่งชนทุกอุปสรรคเพราะมีครอบครัวที่ต้องดูแล ยิ่งเสียงสุดสะท้านของพี่ปู—พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ก็ขับความเพื่อชีวิตออกมาอย่างหมดเม็ด เป็นการเล่าสตอรี่ที่ดีเหลือเกิน
ใหญ่แล้วอดเอา
หลายคนน่าจะพอรู้ว่าเมื่อก่อนกอล์ฟอยู่วง สิงห์เหนือเสือใต้ และเขาก็เป็นแร็ปเปอร์ชาวเชียงรายที่เอาคำท้องถิ่นมาแร็ปและนำเสนอความเป็นคนเหนืออยู่บ่อยครั้ง เสียงซึงบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องภาษาพื้นบ้านภาคเหนือของ สุนทรี เวชานนท์ เจ้าของบทเพลง สาวเชียงใหม่ และ ล่องแม่ปิง ที่เราคุ้นหูกันดี เพิ่มความขลังด้วยบีตกลองรัว ๆ ตามมาด้วยริฟฟ์กีตาร์ฟังก์กับท่อนแร็ปที่เป็นคำเมือง เนื้อหาที่พูดถึงคำสอนของแม่ที่บอกว่า โตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องอดทน มีการเอาเมนูอาหารภาคเหนือที่เป็นกับข้าวที่แม่ทำให้กินมาอยู่ในไรห์มแร็ปของ MVL ส่วนไรห์มของ ปู่จ๋าน ลองไมค์ ก็ดุดันเมื่อพูดถึงตอนที่แม่ดุแม่ว่า แต่ทั้งหมดก็เป็นเพราะความรักของแม่ ส่วนท้ายเพลงก็จบด้วยเสียงสะล้อเอื่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยน เป็นเพลงที่ฟังแล้วอดคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ไม่ได้
ไม่จีรัง
มารัว ๆ กับเพลงเพื่อชีวิต และพอพูดถึงแนวดนตรีนี้แล้วคนที่นึกถึงเป็นคนแรก ๆ คงหนีไม่พ้น แอ๊ด คาราบาว ดนตรีร็อกกับท่อนร้องเอื้อนของน้าแอ๊ดทำให้นึกถึงเพลงของคาราบาวยุคหลัง ๆ แต่มีการใส่เอาท่อนดรอปที่เป็นซาวด์อิเล็กทรอนิกเข้ามาด้วย เพลงนี้เป็นเพลงที่บอกไม่ให้ไปยึดติดกับสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์ และขณะเดียวกันก็บอกว่าทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอนยั่งยืน เกิดมาเดี๋ยวก็ต้องตาย กลองในท่อนหลังปลุกเร้า ร่วมด้วยเสียงซินธ์ที่ฟังแล้วฮึกเหิมมีกำลังใจ และจากคำถามที่ว่า ‘เราอยู่ไปเพื่ออะไร’ ไม่ใช่เป็นการบอกว่าจะอยู่ไปทำไม แต่เราอยู่ใช้ชีวิตเพื่อหาคำตอบมาตอบคำถามนี้ต่างหาก
Fantasy
จากที่หน่วงหนักมาพักใหญ่ ๆ ก็ได้เวลากลับมาในจังหวะกระฉับกระเฉงกรูฟ ๆ กับเพลงนีโอโซล ติดกลิ่นนูฟังก์เท่ ๆ จาก Tattoo Colour ที่จับเอาความป๊อปมาใส่กับบีตสนุก ๆ ทำเอาเราโยกตามแบบช่วยไม่ได้ ฟังแล้วนึกถึงพวกฮิปฮอปที่เอาดนตรีโซล r&b ร่วมสมัยมาเป็นแทร็ค แบบพวก Mac Ayres, Tom Misch, Jordan Rakei เทือก ๆ นี้ แล้วความน่ารักของเพลงนี้คือเอาเสียงพวก chip tune แบบในเกมบอยมาใส่ แล้วก็ได้ทั้งดิมและรัฐมาช่วยร้องด้วย แล้วก็ต้องขอหลีกทางให้เพลงเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์บ้าง อันนี้พูดถึงเวลาแฟนงอนเวลาเราลืมนั่นนิด นี่หน่อย ก็เขียนสเตตัสเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ชอบการเปรียบเทียบการสร้างสตอรี่เกินจริงของเจ้าหล่อนกับภาพยนตร์ นิยาย การ์ตูนเรื่องต่าง ๆ สนุกดี
Leave Me
ชอบความที่กอล์ฟให้อิสระในการทำเพลงของศิลปินที่มา featuring ด้วยมาก ๆ แต่ละคนนำเสนอสไตล์ดนตรีที่เป็นตัวเองสูงมาก อย่างของ อิ้งค์ วรันธร นี่ซาวด์ซินธ์ 80s กลองไฟฟ้าฟุ้ง ๆ ชัดเจนเหลือเกิน ซึ่งการจับคู่กับ NICECNX ก็เข้ากันมาก ที่เราชอบสุด ๆ เห็นจะเป็นการที่กอล์ฟร้องด้วยเสียงนุ่ม ๆ (ใช่ คราวนี้ร้อง ไม่แร็ป) พูดเรื่องความรักที่วันนึงมาถึงตอนจบ เพราะเหมือนว่าสองคนมองความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คนนึงจริงจัง อีกคน
อยู่ที่ใจ
นี่ก็อีกคน ป๊อปกรูฟสุดชิลที่มีเสียงทรัมเปตเป็นตัวชูโรง เพลงยังคงเป็นอารมณ์ฟีลกู๊ดในแบบของแว่นใหญ่ กับเนื้อหาที่บอกว่าจะคบทำไมกับผู้ชายห่วย ๆ เตือนกี่รอบก็ไม่ฟัง อยากอยู่เสียใจต่องั้นก็แล้วแต่เลยจ้า นี่ชอบท่อนบริดจ์มาก ไลน์ประสานเสียงน่ารักสุด ๆ แล้วจบด้วยคำว่า ‘ฟัง’ ถ้าส่งไปให้เพื่อนที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เราว่าเป็นการกระชากสติได้อยู่หมัดมาก
บนพระจันทร์
กลับมาที่เพลงซึ้ง ๆ ที่บรรเลงไปด้วยกีตาร์โปร่งและเสียงเมาธ์ออร์แกน กอล์ฟแร็ปถึงเรื่องราวของเขาและพ่อ ตั้งแต่เด็กพวกเขาต้องเจอความลำบากอะไรมาบ้าง เขาเล่าอย่างภูมิใจที่แม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่พ่อก็ดูแลลูกอย่างดี ไม่เคยบ่นและไม่เคยปล่อยให้ลูกต้องอดมื้อกินมื้อ แต่ก็มีเรื่องราวที่เป็นจุดพลิกผันที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อสั่นคลอน แล้ววันนึงพ่อของเขาก็จากไปแบบไม่มีวันกลับ กว่าจะได้ปรับความเข้าใจกันก็สายเกินไปเสียแล้ว เสียงของ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ในเพลงนี้เศร้าได้อย่างบีบหัวใจโดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านาทีที่สี่ เรารู้ว่ายังไงชีวิตยังไงก็ต้องเดินต่อไป แต่วันนึงความทรงจำก็แวบกลับมาทำให้คิดถึง ก็ขอใช้เวลา
Michael Collins
ส่งท้ายพาร์ตแรกไปด้วยเสียงร้องของ บอย Lomosonic ที่ขยี้เหลือเกิน กับดนตรีเป็นบีตกรูฟอย่างเพลงฮิปฮอปช่วง 2000s สลับกับท่อนฮุกที่เป็นอัลเทอเนทิฟร็อก ท่อนโซโล่ในเพลงนี้ก็ชวนนึกถึงงานคลาสสิกอย่าง ขอ ด้วยเหมือนกัน โดยเขาเปรียบเทียบตัวเองกับ Michael Collins นักบินอวกาศผู้บังคับยาน Apollo 11 ที่เป็นยานปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ลงไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก แต่น่าเศร้าที่โลกจดจำแค่ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin เขาคือคนที่พาทุกคนไปส่งที่ครึ่งทางแต่ตัวเองต้องหมุนลอยคว้างอยู่ในวงโคจรรอบ ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วอีกนิดเดียวเท้าของเขาก็จะได้ไปประทับบนนั้น และเขาเองก็อยากถูกจดจำแบบนั้นบ้าง ลองฟังเนื้อเพลงทั้งหมดแล้วก็เศร้าอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะกับ verse 2 ที่ความรู้สึกรุนแรงมาก ๆ อันที่จริงเขาก็อาจจะเปรียบเทียบดวงจันทร์เข้ากับความฝัน หรือเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไป ว่าสักวันนึงเขาจะต้องไปให้ถึงให้ได้
F.Hero Into the New Era PART 2
INTRO NO FEAR
มาต่อกันที่พาร์ต 2 ที่ว่ากันว่าเป็นประตูที่เขาเปิดรับนิวสคูลอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นการประกาศเจตนารมว่าเขาจะไม่ยึดอยู่กับเพลงแร็ปรูปแบบเดิม ๆ การเปลี่ยนแปลงและปรับตัวตามไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขารับใช้หนทางฮิปฮอปได้โดยไม่ขึ้นกับยุคสมัย
Like A Boss
ต่อจากแทร็คก่อนหน้าที่นอกจากจะไม่ยึดกับบีตโอลสคูลฟังก์ โซล r&b แบบเดิม แล้วเปลี่ยนมาเป็นแทร็ปโหด ๆ เขาก็ยังพูดถึงแนวคิดที่ยังจะลุยต่อในหนทางใหม่ ๆ และจะทำต่อไปแบบไม่สนใคร สนแค่ว่าครอบครัว เพื่อนพ้อง และคนของเขากินอิ่มนอนหลับ และจะประกาศศักดาความเป็นตัวพ่อของวงการ โดยเพลงนี้ได้ DABOYWAY, Mindset, FIIXD ทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่มาร่วมเฟล็กซ์โชว์ แต่กว่าจะเฟล็กซ์ได้ก็คือต้องทำมาหากินก่อนนะ ของพวกนี้ไม่ได้ลอยมาเอง ท่อนพี่เวย์คือเก๋าหนัก บิ๊กบอสจริง
Marathon
อีกแทร็คที่ได้ตำนานอีโมมาร่วมร้อง แน็ป และ รัน Retrospect มาสร้างความมันในเพลงนี้ ผสมผสานเอาร็อกเข้ากับเพลง EDM, dubstep สุดซิ่งที่ได้ BOTCASH มาทำให้ในเพลงนี้ โอ้โห ท่อนเบรกดาวน์นี่มันชวนหัวโยกมาก ชอบเสียงตะโกนที่แทรกมาเป็นระยะ ๆ เพลงนี้พูดถึงการวิ่งมุ่งมั่นไปตามความฝัน ไม่แข่งกับใคร แข่งกับใจของตัวเอง แล้วตอนท้ายที่พร้อมใจกันว้ากคือเท่มาก
ยับ BOTCASH remix
รวมตัวแร็ปเปอร์รุ่นเล็กแต่ฝีมือไม่ธรรมดาจากค่าย YUPP ทั้ง NAME MT, AUTTA, MILLI ร่วมด้วย PERM.YARB และ Sirpoppa แต่ละคนนี่ลายเซ็นจัดกันทั้งนั้น แล้วเพลงนี้เขาก็ได้ BOTCASH มามิกซ์ทำเป็น dubstep โคตรโหด ผมนี่นั่งอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้แล้วฮะ ท้ายเพลงนี่แอบเอากลองสดมาใส่ในท่อนเบรกด้วย ฟังแล้วเดือดไฟลุกมาก
When I See You Again
ถ้าได้ฟังเพลงของ Lula มาบ้างก็จะพอรู้ว่านอกจากเพลงบอสซาโนว่า เพลงป๊อปใส ๆ easy listening แล้ว เธอก็เคยปล่อยเพลงเร็กเก้มาบ้าง แล้วเพลงนี้เธอก็ได้ถ่ายทอดด้านนั้นของเธอออกมาให้ได้เห็นได้ฟังกันอีกครั้ง เนื้อหาก็พูดประมาณว่า วันนึงฉันมาเจอแฟนเก่าเดินกับแฟนใหม่ของนางโดยบังเอิญ แล้วนางทำราวกับไม่รู้จักกัน ก็จิกกัดแบบแสบ ๆ คัน ๆ ทีเดียว ท่อนหลังนี่จัดบีตเร็กเกตอนเข้ามาอีก โยกมากแม่
SRY
มาถึงเพลงช้า ๆ ซึม ๆ กันบ้าง พอเป็นหนุ่ม Maiyarap เทพบุตรของวงการแร็ป ณ ขณะนี้ ก็ต้องให้ซีนเขาร้องด้วยเสียงหวาน ๆ แซม autotune พูดถึง drunk dial โทรไปหาแฟนเก่าตอนเมา ๆ ชอบมากกับไรห์มแร็ปที่เพราะราวกับบทกวี ฟังแล้วรู้สึกว่ากล้ำกลืนกับความเศร้าต้องเอาเหล้ามาปลอบ แล้วก็มี plot twist ในเรื่องที่เขาเล่า เป็นการแก้เผ็ดที่เจ็บจนหน้าชาอยู่เหมือนกัน
มีแค่เรา
เพลงนี้จัดมาให้กับสามตัวท็อปวงการแร็ปเปอร์รุ่นใหม่ ทั้ง Lazyloxy, OG-ANIC กับเสียงขึ้นจมูกอันมีเอกลักษณ์ แล้วใช้ร้องแบบเมา ๆ เหมือนทุกคนกำลัง high กันอยู่ (จุดไฟลนอะไรกันน้า วนกันนี่เอ๊ ยังไงน้า) สลับด้วยเสียงกอล์ฟที่ตะโกนแบบลาก ๆ ฟังแล้วแปลกดี เป็นเพลงที่เล่าประมาณว่า เออ อกหักมาหรอ ไม่เป็นไร มึงยังมีเพื่อนนะ ส่วนดนตรีก็มีเสียงซินธ์คล้ายเครื่องเป่า แทรกด้วยเบสฟังก์ที่น้อยแต่เท่ คลอมาด้วยเสียงเปียโนเบา ๆ NINO นี่โหดจริง ทำได้ทุกแนวเลย
ยันเช้า
หลัง SKIT เพื่อนชวน ซึ่งเป็นปฐมบทแห่งเพลงสุดโจ๊ะ ก็ได้เวลาของสายย่อที่จะได้โยกย้ายกันกับเพลงสุด turnt เพลงนี้ ไอ้การร้องว่า ‘ยั้นเฉ่า’ หรือ ยันเช้า ของ FIIXD นี่เท่จริง ฟังแล้วมันต้องโดดอะ แล้วกอล์ฟก็แร็ปเพลงนี้ได้เอาเรื่อง ท่อนของแจ๊สเองก็ใช้เสียงได้เข้ากับเพลงมาก แล้วก็มี M-PEE มาร่วมแจม ส่วน NINO ก็เอาความสามช่าและซาวด์อินเตอร์มาไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เพิ่มเติมความพิเศษด้วยเสียงเครื่องเป่าแบบยกชุด แทรกด้วยดนตรีจังหวะลูกทุ่งหมอลำ นอกจากนั้นยังใส่เสียงสังเคราะห์ต่าง ๆ แต่งเติมสีสันให้เพลงมีชีวิตชีวามากขึ้น
พระอภัย
กอล์ฟกับ UrBoy TJ ร้องเพลงนี้ในทำนองแบบเพลงไทยเดิม ส่วนดนตรีก็มีเมโลดี้คล้าย ๆ เพลง ค้างคาวกินกล้วย รู้สึกว่าตัวเอเลเมนต์ของเพอร์คัชชันตั้งใจทำให้มีเสียงคล้ายกับระนาด แอบมีเสียงไวโอลินที่กะเอามาเล่นแบบซอ แล้วก็ได้เสียงหวาน ๆ ของ Amp มาปิดท้ายได้เจ็บแสบ
โสด up Skill
ถึงคิวของสาวแสบของยุคกับ Wonderframe เพลงมาในสไตล์อิเล็กทรอนิกป๊อป r&b แบบขึ้นชาร์ต Billboard ได้สบาย ๆ ต้องบอกว่าท่อนพรีฮุกมีความติดหูอยู่ไม่น้อยเลย แล้วท่อนดรอปเข้าฮุกก็เป็นบีตกลิตช์ยุกยิกฟังแล้วแปลกหู มีเสียงแบบน้ำหยดอะไรต่าง ๆ ซาวด์ดีไซน์เท่ดี ไป ๆ มา ๆ แนวเพลงที่เราไม่ชินที่สุดดันกลายเป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุดขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วไอ้วิธีการร้องว่า ‘ต้องโสด แบบ อัพ สกิ๊ล เนี่ย’ มันสะใจเหมือนกันนะ แฮ่ ส่วนเนื้อหาก็พูดเรื่องโสดขั้นสุด ขนาดโดดตบคนเดียวในสวนสาธารณะ อัพเลเวลไปกินคนเดียวที่ร้านหมูกระทะ ไปเสม็ดคนเดียว ถีบเรือเป็ดคนเดียว ฟังแล้วก็ขำดี แต่เชื่อดิว่ามีคนเคยทำ อยู่คนเดียวไม่ได้แย่ขนาดนั้นเว่ย
Do You
โกอินเตอร์ให้สุดด้วยการชวน BamBam หนุ่มไทยจากบอยแบนด์เกาหลีใต้สุดฮอต GOT7 มาแจมในเพลงนี้ด้วย ได้ยินชื่อเขามาพักใหญ่ ๆ ได้ฟังร้องครั้งแรกเสียงเท่เหมือนกันแฮะ ส่วนเพลงนี้ก็ได้ฟีลแบบขับรถเปิดประทุนไปตามหาดไมอามี่มากแม่ เนื้อหาก็พร้อมที่จะปรนเปรอสาวอย่างที่สุด หนูอยากได้อะไรบอกพี่ จะสปอยล์ให้เธอเป็นเจ้าหญิงเลย
เสือสิ้นลาย
เพลงฮิตในช่วงสองสามเดือนมานี้ที่ได้ตัวพีคทั้ง P-Hot, YOUNGOHM มาร่วมสนุกในเพลงย้วย ๆ เพลงนี้ ไวบ์คล้าย ๆ กับเพลงก่อนหน้านี้ แต่อันนี้จะออกแนวอ้อนสาว แบบว่า พี่ไม่ร้ายแล้วนะจ๊ะ แล้วเพลงนี้ก็ได้ฟังกอล์ฟแร็ปสไตล์รักกามัฟฟินด้วย ตอนท้ายก็มีเสียงหวาน ๆ ของ FYMME มาคอรัสด้วยอีกแหนะ
ราง
โอ้ กีตาร์ขึ้นมาแบบนี้พร้อมเสียง น้าหงา คาราวาน ให้ได้เปลี่ยนฟีลกัน เหมือนได้แวะกลับมาพาร์ตเพื่อชีวิตอีกครั้ง ชอบที่เปรียบเปรยความสัมพันธ์ว่าเหมือนการต่อรางรถไฟ ที่จะเลือกไปทางเดิม หรือจะเลือกสับรางไปอีกเส้น ก็อยู่ที่สองคนตัดสินใจ ดนตรีมี trainbeat แล้วโยงเข้าพาร์ตที่มีทั้งอิเล็กทรอนิก และไวโอลินสไตล์คันทรี สารภาพว่าแอบงงกับดนตรีที่ไม่ให้เวลาปรับหูกันเลย แต่ฟังไปสักพักคือ เฮ้ย sound design เท่มาก ยิ่งตอนที่ท่อนแร็ปของกอล์ฟเข้ามาคือ โอ้โห เอาใจไปเลย จะว่าไปพาร์ตนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นเพลงรักทั้งนั้นเลย
Chang Mang
ปิดท้ายอัลบั้มของ F.Hero Into the New Era ด้วยแกงสเตอร์โคตรเดือด ‘ช่างแม่งพวกเหี้ยนี่ดิ ควย’ ชอบความกวนของเสียง MILLI ความโหดของ Twopee หรือถ้าจะให้ Maiyarap แร็ปโหด ๆ เขาก็ทำได้จ้า ไม่ได้เสียงหวานอย่างเดียวเด้อ แล้วยังมี Ben Bizzy ที่โผล่มาอย่างเกรียน นักเลงเมืองทอง NAME MT ก็ยังลายเซ็นชัดเจน มาคู่กับ AUTTA ที่โฟลวแร็ปสุดแปลกของเขาดึงความสนใจเราได้อยู่หมัด แล้วมี NINO ด้วย เนื้อหาของเขาก็พูดเรื่องการทำบีต น่าจะเป็นไม่กี่ครั้งที่เขาออกมาแร็ปเซอร์ไพรส์มาก ๆ หรือ Diamond ที่ก็ยังกวนกับความ mumble เต็มลูกสูบ Youngbong ก็โคตรเท่ โคตรโหด โว้ยยยยยย พร้อมซัด ๆๆๆๆ เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ประกาศศักดาได้อย่างสมศักดิ์ศรี
F.Hero Into the New Era คืออัลบั้มฮิปฮอปไทยแห่งปี 2019 ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองฟัง เพราะเราจะได้รับสุนทรียของเพลงแร็ปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่ครบถ้วนที่สุดชุดนึง พอฟังจบแล้วก็รู้สึกขนลุกกับการได้เห็นวิวัฒนาการฮิปฮอปไทยที่ถ่ายทอดผ่านทุก ๆ ตัวโน้ต ทุก ๆ โฟลว ทุก ๆ ไรห์มแร็ปที่กอล์ฟบรรจงเขียนเล่าออกมาเหมือนเผยให้เห็นตัวตนข้างในของเขาแบบหมดเปลือก รวมทั้งได้เห็นว่ายังมีเพื่อนพี่น้องที่ช่วยกันรันวงการมาจนถึงเวลานี้ ต้องโดนดูถูกและต้องพิสูจน์ตัวเองกันมาขนาดไหน ขอบคุณที่ยังทำในสิ่งที่รักและทำให้เราสัมผัสได้ว่าพวกคุณรักและทุ่มเทให้กับฮิปฮอปอย่างที่สุดจริง ๆ
อ่านบทความในวงการ Hip Hop อื่น ๆ
Everybody Say Can : Twopee Southside
F.Hero ชวนดื่มกัน ยันเช้า (Yanchao)พร้อม FIIXD, M-PEE และ JSPKK
ครั้งแรกของการพูดคุยกับ F.Hero และสองศิลปินแห่งวงการฮิปฮอปที่หลายคนคุ้นเคย