Ei Wada ผู้เปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกให้กลายเป็นเสียงดนตรี
- Writer: Peerapong Kaewthae
Ei Wada อดีตโปรแกรมเมอร์ที่ผันตัวมาเป็นนักทำเพลงกับความสามารถโดดเด่นไม่เหมือนใคร เขาเอาทีวีตู้เก่า ๆ กับพัดลมที่เสียแล้วมาทำเป็นเครื่องดนตรีได้ เขายังเป็นคนก่อตั้งวง Open Reel Ensemble ที่รวบรวมเหล่านักดนตรีผู้มอบชีวิตให้กับขยะอิเล็กทรอนิกได้ขับขานอีกครั้ง สร้างความตื่นหูตื่นตาผ่านงานออเคสต้าผสมดนตรีแนวทดลองโดยเอาเครื่องบันทึกเสียงแบบ reel to reel จนกลายเป็นงานศิลปะทางใบหูดึงดูดคุณต้องตกอยู่ในภวังค์
วันนึง Ei Wada เผลอเสียบสายสัญญาณเสียงเข้าไปในช่องรับภาพบนทีวี ทำให้เสียงถูกแปลงออกมาเป็นภาพที่คาดเดาไม่ได้ เขาเลยปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดว่าถ้าเขาถ่ายวีดีโอแล้วเสียบสายสัญญาณภาพเข้าไปในช่องรับเสียง ก็อาจจะสร้างเสียงที่ไม่เคยมีมาก่อนจากภาพขึ้นมาก็ได้ นี่คือจุดเริ่มต้นสุดสร้างสรรค์ของเขา
หลังจากลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน Ei Wada และเพื่อน ๆ ในวงก็ลองใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยสังเคราะห์เสียง เขาอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ว่าเขาใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเหมือนเสาอากาศดักจับไฟฟ้าสถิตเพื่อทำให้เกิดเสียง ไม่ว่าเขาจะจับ จะกด จะล้วง จะแคะอะไรก็สามารถทำให้เกิดเสียงได้ทั้งหมด ดนตรีของพวกเขาจึงขยายขอบเขตของการฟังเพลงออกไปได้กว้างขวางมาก ไม่ยึดติดอยู่กับทฤษฎีใด ๆ ที่เราเคยเข้าใจอีกแล้ว
เขามักหามองหาแรงบันดาลใจตามโรงงานเล็ก ๆ เสียงที่หนวกหูน่ารำคาญ เขาจะใช้วิทยุที่ต่อกับแอมป์เพื่อเปลี่ยนมันให้เป็นคลื่นเสียงที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน Ei Wada ยังคงมองหาเสียงที่หลบซ่อนอยู่ทั่วเมืองโตเกียวไปเรื่อย ๆ ในการแสดงสดบางครั้ง เขายังอัดเสียงของคนดูในงานแล้วนำมามิกซ์ให้เข้ากับดนตรีของพวกเขาจนสร้างเสียงที่น่ามหัศจรรย์ซึ่งหาฟังไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วนอกจากงานวันนั้นวันเดียว
ตัวเขาเองก็ยังมี side project อีกมากมาย เคยทำเพลงให้ Issey Miyake บนแคตวอล์ก Paris Fashion Week หรือ art installation สุดแนวเมื่อปีที่แล้วอย่าง Electronicos Fantasticos! ที่ถ่ายทอดเสียงสังเคราะห์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายภายในบ้านออกได้สนุกสนาน แล้วยังให้ผู้เข้าชมรวมสนุกไปกับโลกของเสียงอย่างเพลิดเพลิน
และโปรเจกต์ Braun Tube Jazz Band ที่ใช้จอหลอดภาพจำนวนมากในการสร้างวงออเคสต้าขึ้นมาและบรรเลงเพลงที่อยู่ในจินตนาการของเขาออกมาได้อย่างน่าทึ่ง คอนเสิร์ตของเขาได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจนต้องบินไปแสดงมาแล้วทั่วโลก
ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัดและการไม่ยึดติดกรอบเดิม ๆ ของ Ei Wada ก็ทำให้เขาสามารถต่อยอดการเล่นดนตรีออกไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้เราจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ หรือไม่รู้ว่าจะหาความบันเทิงจากแนวเพลงของเขาได้ยังไง แต่ถ้ามันสามารถโอบกอดความรู้สึกของคนฟังได้ซักคน มันก็มีค่ามากพอแล้วที่จะเรียกว่า ‘ดนตรี’ ได้เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็ผมคนหนึ่งเนี่ยแหละ
อ้างอิง
Who Needs a Guitar When You’ve Got a Perfectly Good Electric Fan?