Article Story

EASTSIDE BVNGKOK แร็ปเปอร์สร้างสรรค์ ปลดปล่อยความอัดอั้นของคนเมือง

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photos: EASTSIDE BVNGKOK

ฮิปฮอปยังคงเป็นแนวเพลงที่มาแรงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก อย่างที่รู้กันว่าหลาย ชาร์ตได้จัดให้แนวเพลงนี้เป็น ‘pop’ เพราะได้รับความนิยมอย่างมาก แถมยังกลายเป็น headliner ของเฟสติวัลระดับโลกหลายงาน แน่นอนว่าในประเทศไทยเองก็ไม่แพ้กัน เราได้ฟังเพลงมากมายจากศิลปินฮิปฮอปไทย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็มีสไตล์แร็ปแบบหนึ่งที่เป็นกระแสหลักอยู่ในบ้านเรา (ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างจะคล้ายคลึงกันไปเสียหมด)

แต่มีอยู่วันนึงเราถึงกับต้องหันไปหารุ่นน้องที่ ฟังใจ ที่กำลังเปิดฮิปฮอปเพลงนึงซึ่งไม่คุ้นหูและมีบีตกับสไตล์แร็ปที่น่าสนใจทีเดียว แล้วยังมีการเอื้อนแบบเพลงไทยเดิม เสียงฉิ่ง เพลงรำวงกลองยาว หรือแม้แต่วัฒนธรรมงานบุญ งานบวช งานศพ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการใส่ซองเขาเอามาใส่ในเพลงนี้หมด ฟังดูเป็นการแซววัฒนธรรมอวดรวยในเพลงแร็ปของเด็กแก๊งฝรั่ง แต่เอามาใส่ element แบบไทย ที่เล่าว่า เฮ้ย! งานเพื่อนก็ต้องช่วยเว้ย ถึงแม้เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยจะมีตัง ยิ่งชอบมาก ที่คำอธิบายใต้วิดิโอใน YouTube บอกว่า ใส่ซอง เป็นเพลงของคนไม่มีเงิน ไม่มีเวลา แต่มีซอง! แล้วท่อนฮุกเขาก็ร้องว่า ถึงกูไม่ไปแต่กูก็ใส่ซอง ใส่ซองงงง ใส่ซองงงง ใส่ซองงงง ใส่ซองงงง เอ๊ยย เอ๊ย เอ๊ย เอ๊ย ไม่ว่าง ๆๆๆๆๆๆ อินในทุกไรห์มแร็ปเขาแหละ ยิ่งท่อนที่ร้องว่า อดอยากแล้วโว้ย! เสียงมันช่างรวดร้าววว สร้างสรรค์ขนาดนี้ทำให้อยากรู้มาก ว่า EASTSIDE BVNGKOK เป็นใครมาจากไหน

EASTSIDE BVNGKOK คือกลุ่มแร็ปเปอร์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งสมาชิกในกลุ่มก็เป็นแร็ปเปอร์ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นผลงานของพวกเขามาบ้างจาก Rap Is Now หรือ Show Me The Money Thailand ทั้ง NLHz, Ninetembr, RPS รวมถึง JEEEN, BADGOD ที่ลีลาการแร็ปแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ลองตั้งใจฟังดี ๆ มีคนนึงเสียงหล่อเหมือนนักแคสต์เกม อีกคนก็แร็ปด้วยน้ำเสียงไทยเดิม อีกก็คนก็แร็ปเสียงยาน กวน นอกจากนี้ก็มี Toodie เป็น beatboxer/ hypeman ในไลฟ์โชว์ ส่วนโปรดิวเซอร์ที่จัดบีตให้เจ๋ง  ในทุกเพลงเลยก็คือ MiNTH อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วก็อยากจะให้จำชื่อของพวกเขาไว้ให้ดี ๆ 

EASTSIDE BVNGKOK

EASTSIDE BVNGKOK เล่าว่าก่อนหน้านี้พวกเขารู้จักกันที่งานดนตรีของมหาวิทยาลัย ซึ่งแต่ละคนก็ทำบีตฮิปฮอปรวมถึงแร็ปกันอยู่แล้ว ต่อมาจึงตัดสินใจทำให้กลุ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริงจังในปี 2018 แล้วก็ไม่ได้กะมาแร็ปลอย  ด้วยนะ เพราะคอนเซ็ปต์เขาก็แน่นว่าต้องการจะนำเสนอความเป็นคนกรุงเทพ จริงๆ ไม่ใช่แค่ชื่อ ทั้งยังผสมเอาความไทยเข้ากับบริบทชีวิตคนเมืองในปัจจุบันที่ก็ยังต้องหาเงินกระเสือกกระสน อดทนกับมลพิษ ไหนจะต้องปาร์ตี้สังสรรค์ แล้วยังต้องทำให้พ่อแม่ภูมิใจ นี่มันแร็ปเพื่อวัยรุ่นชนชั้นกลางชัด ๆ ทีนี้เราก็สงสัยว่าพวกเขาจะลองทำเพลงแร็ปป๊อปย่อยง่ายแบบที่เราได้ยินได้ฟังกันทุกวันนี้ในเพลงต่อ ๆ ไปบ้างหรือเปล่า

“พวกเราก็ฟังกันนะคร้บ มองว่ากำลังไปได้ดีเลยครับ เพราะเราฟังกันมาแต่ไหนแต่ไร เรารู้กันอยู่แล้วว่าทำเนื้อหาแบบไหนคนภายนอกฟัง เนื้อหาแบบไหนคนนอกไม่ค่อยฟัง กลุ่มที่เป็นเมนสตรีมตอนนี้เหมือนเป็นกลุ่มเปิดตลาดฮิพฮอพให้คนวงกว้างด้วยเนื้อหาที่คนย่อยง่าย ไม่ได้เล่าอุดมการณ์หรือเสียดสีสังคมอย่างเดียว แล้วผลตอบรับรู้สึกว่าคนในวงกว้างก็เปิดใจรับมากขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างชัดเลย ส่วนเรื่องการแต่งให้เกิดความติดหู พักหลัง ในตลาดเห็นได้ชัดมาก ครับ ทั้งวิธีการออกเสียง สำเนียง การเล่นคำซ้ำ ซึ่งสำหรับบางคนที่มีความสามารถในการแต่งมาก เรื่องพวกนี้จะดูเป็นสไตล์เค้าไปเลย แต่เชื่อว่าลึก แล้วมันจะมีแนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคการตลาดอยู่ทุกเพลงอยู่แล้วแน่ ครับ ซึ่งมันจะส่งผลไปสู่งานเขียนถัด ไปของทุกศิลปิน ว่า จะเขียนยังไงให้คนจำ เขียนคำไหนให้มันติดหูคนดี ซึ่งน่าจะเป็นปกติของคนแต่งเพลงในวงการอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวเทคนิควงเราจะใช้อารมณ์กับสโคปหัวข้อเพลง ตอนนั้นมากกว่า ไม่ได้ถึงขั้นจดจ่อขนาดที่ว่า ใช้คำไรดี ย้ำคำยังไงดีขนาดนั้น แต่คิดไรกันก็ลองฟรีสไตล์ อัดใส่ไมค์เล่น กันไป พอมันโดน มันก็โดนอะครับ”

อย่างที่พวกเขาเล่า สิ่งที่ทำให้ EASTSIDE BVNGKOK โดนสำหรับเราจริง เลยคือเนื้อหาที่หยิบมาเล่า บางไรห์มนี่ถึงกับคิดออกมาดัง ว่าแต่งได้ไงวะ มีทั้งเรื่องจิ๊กโก๋คนนึงอยากจีบสาว ก็เอามาแต่งเป็นเรื่องเป็นราวใน มนต์รักแก๊งสเตอร์ ซึ่งก็ทำให้นึกถึงวงเก่า ๆ ทั้ง Dajim หรือ Buddha Bless อยู่เหมือนกัน

แม้แต่การเสียดสีประเด็นร้อนฉ่าล่าสุดใน 500 ก็ทำให้เห็นว่าพวกเขาสนใจการเมืองเหมือนกัน

ไหนจะเรื่องศาสนาที่ชอบมีวาทกรรมเรื่อง ‘คนดี’ ‘คนไม่ดี’ เขาก็เอามาแร็ปให้เราขบคิดกันด้วยในเพลง บาป

และในเพลง พ่อมึงรวยอ่อ? ก็เป็นแร็ปดิสคนรวยที่ฟังไปก็ขำไปแบบ รวยหรอไอ่สัส กูเห็นมึงขับเบนซ์ กูเฟี้ยวกว่าเยอะ กูแม่งขับซาเล้ง ฮือ

ทว่าก็น่าสนใจอีกตรงที่ท่อนหลักของเพลงใช้ autotune แต่ก็มีท่อนนึงที่เลือกจะแซวเอาในเพลงซะงั้น ถ้าจำกันได้จะมีช่วงนึงที่เรื่อง autotune ก็เป็นประเด็นถกเถียงมาก ในซีน

“ผมมองว่ามันเป็นเทคนิคและความชอบส่วนตัวมากกว่า คนใช้เป็นก็รอด ใช้ไม่เป็นก็ตาย ในใต้ดินมีให้เห็นหลายเคสอยู่ อย่างถ้าคนร้องเพี้ยนมาก แต่อยากใช้ autotune ช่วยก็ไปไม่รอดครับ แถมมันยังจะสร้างมลพิษทางการได้ยินกับคนฟังซะด้วยซ้ำ ต้องร้องเพลงเป็นด้วยครับ เอาจริง สมาชิกในวงเราก็มีใช้เพื่อให้เกิดสไตล์ครับ แต่ไม่ใช่ทุกคน เพราะต่างคนต่างชอบไม่เหมือนกันและไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ”

อะ ถ้าใครอยากไปลองดูพวกเขาโชว์กันสด ก็มีอีเวนต์แรกของปีที่งาน Art Street 2018 ‘ARTSLUM’ 19-20 .. 2561 ดินแดนสถาปัตย์ลาดกระบัง นะจ๊ะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้