หลังจากสร้างปริศนาทางรูหูให้นักฟังเพลงบน YouTube มาเนิ่นนานด้วยชื่อที่แสนพิศวง กับแนวเพลงที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ The ███████ (The Black Codes) ก็ออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของตัวเองซักที จากงานดนตรีทดลองสู่การผจญภัยไปในดินแดนของเสียงอันไร้พรมแดน เมื่อระบบดิจิทัลไม่อาจปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์และช่วยทำลายขนบธรรมเนียมในการทำเพลงอันคร่ำครึที่ทำตาม ๆ กันมาให้กลายเป็นการต่อยอดความหมายของคำว่า ‘เสียง’ ออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด

ทั้งหมดเกิดจากการรังสรรค์ของ จิม – กานต์ปพนธ์ บุญพุฒ จากแต่ก่อนที่ยึดติดกับเพียงเสียงที่สร้างขึ้นมาจากเครื่องดนตรีที่จับต้องได้เท่านั้น แต่ประสบการณ์ช่วยหล่อหลอมให้เขามองในมุมที่แตกต่างและเห็นถึงความสวยงามของเสียงสังเคราะห์ เขาจึงเริ่มหัดเล่นแร่แปรเสียงทั้งหมดโดยไม่ให้กรอบได้ ๆ มาปิดกั้นเขาไว้ แถมยังพลิกแพลงความสามารถอันหลากหลายของตัวเองออกมาเป็นคลื่นเสียง ทั้งความสามารถในการเขียนโค้ดหรือการออกแบบ ช่วยให้เขาค้นพบเสียงที่ไม่เคยมีอยู่บนโลกอีกมากมายที่อยากเรียบเรียงมันออกมาเป็นเพลงให้ทุกคนสัมผัส และเข้าใจโลกดิจิทัลอันอ้างว้างซึ่งมีเพียงเสียงสังเคราะห์เท่านั้นว่าสามารถให้ความอบอุ่นกับเราได้เช่นกัน จนเกิดเป็นอัลบั้ม Boring Original Nonsense ที่ประกอบด้วยดนตรีเชิงทดลองอันน่าพิศวง รวบรวมไว้ซึ้งอารมณ์อันสามัญและน่าเบื่อแต่สามารถบอกเล่าด้วยแนวทางแบบใหม่จนน่าสนใจได้ ซึ่งทุกกระบวนการตั้งแต่แต่ง อัด มาสเตอร์ริงก็มีจิมอยู่ในทุกกระบวนการ จนเราเชื่อใจได้เลยว่ามันต้องสมบูรณ์แบบมากแน่นอน

อัลบั้มนี้ เป็นซีดีที่บรรจุอยู่ในแพ็กเกจที่มาในไซส์ของแผ่นเสียงพร้อมกับปกสีขาวสะอาดที่เต็มไปด้วยแถบสีดำเหมือนเป็นคำพยากรณ์ถึงโลกอนาคตอันยากจะคาดเดา ใส่ซองพลาสติกอย่างดีพร้อมสติ๊กเกอร์ชื่ออัลบั้มสะท้อนแสงสีเงินเหมือนยืนยันว่าอัลบั้มนี้มาจากอนาคตจริง ๆ เมื่อหยิบแจ็กเก็ตสีขาวนั้นออกมาดูจะพบว่าข้างหน้าถูกจารึกด้วยโค้ดที่คนธรรมดายากจะเข้าใจ แต่มันคือ JavaScript ที่ร้อยเรียงขึ้นมาเป็นหน้าปกของอัลบั้มนี้นั้นเอง เมื่อพลิกกลับหลังก็เต็มไปด้วยเนื้อเพลงทุกเพลงในอัลบั้ม พร้อมอาร์ตเวิร์กน่ารัก ๆ ของแต่ละเพลงที่เคยปล่อยออกมา ด้วยความพิถีพิถันของเขาทำให้ทุกเพลงมีปกอัลบั้มที่สื่อถึงอารมณ์ของเพลงนั้น ๆ อยู่ด้วย เมื่อดึงแผ่นออกมา ซีดีก็ถูกยึดอยู่กับแผ่นเสียงโบราณ ๆ เหมือนเป็นการล้อเลียนว่าซีดีแผ่นนี้เติบโตคือสิ่งใหม่ที่เติบโตขึ้นมาจากสิ่งเก่า ๆ หรือยุคอนาล็อกนั่นเอง ไม่รอช้าก็แกะมันออกมาแล้วเอาใส่เครื่องเล่นซีดีกันเลยเถอะ

Forever Login

เสียงสังเคราะห์อันไม่น่าไว้ใจวิ่งไปวิ่งมาพร้อมกับเสียงเคาะที่เขย่าขวัญแปลก ๆ บวกกับชื่อเพลงทำให้เรานึกถึงการเกิดขึ้นมาบนโลกอันเลวร้ายใบนี้ที่ไม่มีใครสามารถเลิกเล่นกลางคันได้ ทุกสิ่งเต็มไปด้วยความความลำบากใจ แต่จะให้หนีหายไปจากโลกนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไป ทำได้เพียงเล่นไปตามเกมของตัวเองเท่านั้น

‡‡‡‡‡‡

ชื่อเพลงที่เหมือนรางรถไฟ กับเสียงกลองที่ขมขื่นหน่อย ๆ เสียงหวีดเบา ๆ และเครื่องเป่าที่สะเทือนใจ ทำให้เรานึกถึงการเดินทางอันยาวไกลซึ่งไม่รู้ว่าจุดหมายของรถไฟขบวนนี้คืออะไรเหมือนกัน ปกซิงเกิ้ลที่เป็นรูปภายในรถไฟที่ร้างผู้คน ยิ่งผลักให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก

56kbs Dreams

เสียงซินธ์ที่เป็นจังหวะสดใส และเสียงซินธ์ที่หวานแหลม เหมือนเป็นสวนอีเดนในฝันกลางวันอันเบื่อหน่าย เหมือนเป็นความสุขสั้น ๆ บนโลกใบนี้ที่เราจะมีได้ก็ต่อเมื่ออยู่คนเดียวเท่านั้น และเป็นความฝันที่ไม่น่าจะมีใครเข้าใจได้ แต่มันก็บอบบางเหมือนฟองอากาศในปกซิงเกิ้ลนั้นแหละ

Sighhhh!

เสียงหอนเบา ๆ อันน่าสะพรึงผสมกับกลองที่เหมือนพิธีกรรม พร้อมขยี้เสียงซินธ์จนแหลมบาดใจ กับเนื้อเพลงที่คร่ำครวญเหมือนบทกวี บอกเล่าความปวดร้าวในใจเป็นภาษาดิจิทัลของเราได้อย่างชัดแจ้ง

▸ Delete

Intro ด้วยเสียงอันน่าพิศวงของเสียงฆ้องที่ชวนผ่อนคลาย ก่อนขยี้ด้วยเสียงสังเคราะห์ที่รุนแรงและเกรี้ยวกราด ท่อนฮุกที่ลดจังหวะเพลงลงกับเสียงร้องแหบพร่าเหมือนทบทวนความทรงจำที่เลวร้ายจนเริ่มปลดปลงในชีวิตและดนตรีกลับมารุนแรงอีกครั้ง เหมือนการต่อสู้ภายในหัวที่ต้องการลบบางสิ่งออกไปจากหัวให้พ้น ๆ ไปซะ

Warp Portals

เปิดด้วยการขยี้เสียงสังเคราะห์ไปมาเป็นลูป ตามด้วยเสียงคีย์หยาบ ๆ ที่วาบหวามกับเสียงทุ้มที่เป็นจังหวะ และเสียงซินธ์ที่ห่างเหินเหมือนเรากำลังวาร์ปอยู่จริง ๆ บอกเล่าถึงชีวิตที่ไม่สามารถยึดเหนี่ยวกับอะไรบนโลกนี้ไว้ได้เลย ทำได้แค่เพียงเดินทางไปเรื่อย ๆ เดินทางไปทุกที่ที่ตัวเองอยากไป แต่ถ้ามีใครซักคนอยากเดินทางไปกับเราด้วยมันก็คงเป็นการเดินทางที่ปลอดภัย และแสนวิเศษอยู่เหมือนกัน ปกซิงเกิ้ลที่เป็นรูปลูกเต๋าก็หมายถึงความแรนด้อมในชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

Lagoon

เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มนี้เลย เสียงเคาะที่มีจังหวะชวนโยกเบา ๆ ช้า ๆ พร้อมรวมเสียงแอมเบียนต์ของเหล่าวัตถุที่เคาะแล้วเป็นเสียงที่อ่อนโยนกับหูเรามาก ๆ ตามด้วยเสียงหวีดหวาน ๆ ที่ชุบชูใจเราสุด ๆ กับปกที่เหมือนลำโพงบนผิวน้ำ แต่จริง ๆ มันคือคลื่นที่เกิดจากการตกกระทบกับน้ำที่เล่าถึงความสั่นสะเทือนของกันและกัน ที่เราต้องเต้นรำไปกับชีวิตของเราตลอดเวลา และการเต้นของเรามักส่งผลกระทบกับคนรอบข้างเสมอ อยู่ที่ว่าใครจะอยากเต้นรำไปกับเราบ้าง

We’re Almost There

เมโลดี้ที่เหนื่อยล้า กับเหล่าเสียงสังเคราะห์ที่เชื่องช้าเหมือนรวบรวมความรู้สึกท้อแท้บนโลกนี้เอาไว้ กับท่อนฮุกที่เสียงซินธ์หอนอย่างสะเทือนใจ เหมือนการเดินทางไปบนถนนอันยาวไกล ทำได้เพียงหยุดพักข้างทางและครวญครางถึงเป้าหมายที่ไม่มีจริง ‘We’re almost there’ เป็นแค่คำปลอบใจลม ๆ แล้ง ๆ ว่าซักวันเราจะต้องไปถึงจุดหมายปลายทาง

New Shelter

เสียงทุ้มที่เป็นจังหวะกับเสียงหลอนที่ทำให้เราไม่สบายใจ และเสียงซินธ์ที่น่าตื่นเต้นเหมือนการเดินทางเพื่อความหาที่พักพิงแห่งใหม่บนโลกใบนี้ ท่อนฮุคที่ขยี้เสียงสังเคราะห์จนน่าหวาดหวั่นเหมือนถูกบังคับให้ต้องออกจาก comfort zone เพื่อไปตามหาสิ่งที่เราต้องยึดเหนี่ยวไว้ให้ได้ ซึ่งเราไม่เคยเข้าใจเลยว่าทุกคนจะดิ้นรนกันไปทำไม มีความรู้สึกว่ามันคือภาคต่อของเพลง Shelter ที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้า ปกซิงเกิ้ลก็ทำให้เราเห็นแล้วว่าเราโดดเดี่ยวแค่ไหนในวังวนของโลกใบนี้

เรารู้สึกต่อติดกับอัลบั้มได้อย่างรวดเร็ว อาจเพราะเรามีความอ้างว้างบางอย่างดำรงอยู่ในหัวเราตลอดเวลา กับดนตรีที่แปลกใหม่จนเราต้องตั้งใจฟังก็ช่วยทำให้เราเข้าถึงอารมณ์เหล่านี้ได้อย่างยิ่งยวด จนกลายเป็นดนตรีทางเลือกที่น่าสนใจแถมยังช่วยบุกเบิกแนวทางในการฟังเพลงของเราให้กว้างขวางยิ่งขึ้นด้วย เราตื่นเต้นกับการต่อยอดจากอะไรเดิม ๆ จนเกิดเป็นสิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ

ถ้าใครเป็นเจ้าของอัลบั้ม Boring Original Nonsense แล้ว อยากแนะนำให้เข้าไปเล่นสนุกกับความสร้างสรรค์ของอัลบั้มนี้ในเว็บ theblack.codes ด้วย เหมือนเป็นแกลลอรี่ที่รวบรวมแรงบันดาลใจในอัลบั้มนี้ไว้ทั้งหมด ทั้งลูกเล่นของเว็บที่ล้อเล่นกับเราในรูปแบบต่าง ๆ หรือหน้าปกทุกซิงเกิ้ลที่ออกแบบมาอย่างดี ถ่ายทอดความเนิร์ดของตัวศิลปินที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ หรือสนใจอยากเป็นเจ้าของมัน ลองไปฟังเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้บนฟังใจได้เลย ที่นี่ และสามารถไปสั่งซื้อได้ที่เพจ The Black Codes มีจำนวนจำกัดด้วยนาจา

• Twitter
• Line