Story

พาชมเบื้องหลังคอนเสิร์ตเปิดร้านขายของชำของพวกเขา 25 Hours

  • Writer: Gandit Panthong

DSCF0005FW.jpg

อัพเดทความพร้อมล่าสุดของคอนเสิร์ต MOM & POP SHOP LIVE CONCERT กันหน่อย ?

25 Hours: ความพร้อมตอนนี้ประมาณ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ด้วยความที่มันเป็นคอนเสิร์ตที่เราทำกันเองเกือบจะทุกอย่างเลย มันเป็นคอนเสิร์ตใหญ่เปิดอัลบั้มที่ทุก ๆ ฝ่ายอยากจะทำกันออกมาให้ดีที่สุดครับ หลัก ๆ เลยพวกเราก็รับผิดชอบในส่วนของการเล่นดนตรี พร้อมทั้งพวกเวทีแสงไฟในงานนี้ วงเราก็ต้องไปหาคนมาร่วมงานกันกับเรา อย่างเช่น พี่พล (พล หุยประเสริฐ) ก็จะมาดีไซน์เรื่องเวทีและแสงไฟครับ โดยตีมส่วนใหญ่ของงานนี้มันก็จะมาจากชื่ออัลบั้มนี้ MOM & POPSHOP ครับ

งานแถลงข่าวเปิดอัลบั้มทำไม 25 Hours ถึงต้องจัดคอนเสิร์ตใหญ่ ?

25 Hours: จริงๆ พวกเราปล่อยเพลงมา 3 เพลงแล้วนะ แถมเราเคยทำอีเว้นท์เปิดอัลบั้มในสเกลที่เล็ก ๆ มาด้วยแล้วแหละ เหมือนตอนนั้นเป็นการเปิดอัลบั้มที่วงเราจัดให้กับแฟนเพลงจำนวน 300 คน แต่ในครั้งนี้ที่มันเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ เพราะว่า ทุกอย่างมันอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะจัดคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มในสเกลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมได้ ตอนนี้พวกเรามีเพลงใหม่แล้ว 4 เพลงที่ปล่อยออกมา ทุกคนเริ่มร้องกันได้รวมถึงอัลบั้มเต็มก็จะวางแผงครั้งแรกในงานนี้ด้วย ฉะนั้นวงเราเลยตัดสินใจเปิดอัลบั้มแบบอลังการไปเลยละกันให้มันรู้สึกเป็นเหมือนเป็นงาน Exhibition ของอัลบั้มไปเลย พวกเราเชื่อว่าทุกอย่างในคอนเสิร์ตมันจะอบอวลไปด้วยความสุขและสนุกสนานแน่นอน

ปัจจุบันการขายซีดีเป็นเรื่องที่ยาก แล้วทำไมวง 25 Hours ถึงยืนยันว่าจะทำเพลงแบบอัลบั้มเต็มอยู่ ?

25 Hours: สำหรับศิลปินการจะมีอัลบั้มออกมาวางขายสักอัลบั้มนึงมันเป็นเรื่องพิเศษนะ น้อยวงที่จะทำอัลบั้มออกมาขายกันได้ ในทุกวันนี้ที่ซีดีมันขายไม่ได้เพราะความเป็นอัลบั้มมันจะไม่จำเป็นแล้วสำหรับผู้ฟังหรือแม้กระทั่งผู้ผลิตก็ตาม แต่พวกเราเองในฐานะคนทำเพลงที่มีความเชื่อในเรื่องของอัลบั้มเนี่ยมันเป็นเรื่องพิเศษ แล้วเราก็ยืนยันมาตลอดว่าจะทำอัลบั้มเต็มเพราะอัลบั้มเต็มมันทำให้เห็นมิติของวงได้มากกว่า ไม่ใช่ว่าฟังเพลง ๆ เดียวแล้วจะบอกได้ว่าวงเป็นอย่างไร อัลบั้มเต็มมันจะมีพื้นที่มากพอที่ให้ศิลปินวงหนึ่งสื่อสารได้หลากหลายเรื่องราวมากกว่าเพลงเพลงเดียวบนหน้าปัดวิทยุ แล้วพวกเราก็มองเป็นเรื่องพิเศษที่อยากทำให้การเปิดอัลบั้มนี้มันมีความหมาย

คอนเสิร์ตนี้จะเล่นเพลงใหม่หมดเลยรึเปล่า ?

25 Hours: ไม่นะครับ เดี๋ยวหลายคนจะตกใจกันว่า โห ! พี่ไปดูคอนเสิร์ตเสียเงิน 1200 บาท ไปร้องแค่เพลงใหม่ 3 เพลงที่ออกมาเองหรอ เปิดอัลบั้มอย่างเดียวรึเปล่า ตอบตรงนี้เลยว่า เราเล่นเพลงเก่าด้วยนะ เราไม่สามารถเล่นเพลงใหม่ได้ทั้งหมดหรอก โชว์เรามันจะมีเพลงเก่าที่คุณรู้จักดี รวมไปถึงเพลงใหม่ในอัลบั้มใหม่ เราอยากทำให้คุ้มค่ากับเงินที่คุณเสียไป งานวันนั้นวงเราจะเล่นทั้งหมด 2 ชม. รวม ๆ ก็ประมาณ 20 กว่าเพลง

แขกรับเชิญในคอนเสิร์ต

25 Hours: มีแน่นอนครับ นั้นก็คือ พี่เล็ก Greasy Cafe (อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร) โดยที่เลือกมาเพราะว่า วงเราเคยมีประสบการณ์ร่วมกับพี่เขาครับ ครั้งหนึ่งเราเคยคัฟเวอร์เพลงของเขา ชื่อว่าเพลง ฝืน ซึ่งเพลงนี้ก็ทำให้หลายคนรู้จักเราด้วยก็มี บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นเพลงของเราก็มี เราเอาเพลงนี้ไปเล่นทัวร์คอนเสิร์ตเป็นประจำ ครั้งนี้เราก็อยากจะมอบสิ่งพิเศษให้คนฟังรู้สึกเหมือนว่ามาดูคอนเสิร์ตแล้วก็ได้ของแถมไปด้วย เหมือนเวลาไปซื้อของแล้วเขาแถมอะไรให้แล้วมันรู้สึกก็ดีนะ ครั้งนี้มันเป็นการแถมที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง อยากให้มาดูกันครับ ว่าพี่เขาจะมาทำอะไรบนเวทีคอนเสิร์ตนี้

แสงไฟ คือ ของเล่นในคอนเสิร์ต

แหลม: อันนี้คือสิ่งที่เป็นกิมมิคในคอนเสิร์ตนี้เหมือนกัน โดยผมเองบังเอิญไปเจอแอพพิเคชั่นนี้ที่บังเอิญมันไปลิงค์กับบีทของดนตรี ก็คิดในใจว่าอย่างนี้ถ้าทุกคนแม่งโหลดแอพนี้มา แม่งก็มันส์ดิ ข้างล่างก็สามารถทำแสงไฟตามบีทเพลงของเราได้ด้วย เร็ว ๆ นี้ทุกคนจะได้ทราบกัน โดยเราจะโปรโมทให้คนที่ไปงานคอนเสิร์ตนี้โหลดไปเล่นกันในงาน มันน่าจะสนุกสนานไปอีกแบบครับ รอดูกันนะเด็ดครับ รับรองเลย

“เราอยากใส่วิตามินที่มีประโยชน์เข้าไปในเพลงบ้าง โดยวิตามินในที่นี้จะช่วยยกระดับจิตใจของคนฟัง ไม่ใช่จะสร้างแต่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ”

MOM & POPSHOP ชื่อนี้มีที่มา

แหลม: ต้องบอกว่าอัลบั้มนี้พวกเราไม่ได้คิดคอนเซปชื่ออัลบั้มก่อนแล้วเริ่มทำนะ ชื่ออัลบั้มมันเกิดขึ้นระหว่างทางที่พวกเราทยอยทำเพลงในอัลบัม โดยเกิดขึ้นจากผมบังเอิญได้ยินคำนี้จากแฟน ที่ไปเรียนมาแล้วบอกเราว่า ร้านชำเนี่ย เขามีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า MOM&POPSHOP นะ เราได้ยินก็เออชอบว่ะ คำนี้มันดูเข้ากันกับเพลงที่เราทำอยู่ ซึ่งในแง่ของความหมายชื่อนี้มันก็น่ารักดีนะ มันมีหลายมุมที่ดูตรงกับอัลบั้มนี้อย่างเช่น การสะท้อนมุมมองนึงของความเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ที่เราสามารถขายมันได้ด้วยตัวเองเหมือนเป็นการสื่อนัยยะนึงว่า วงเรายังเหมือนเดิมนะ ยังไม่ได้เป็นสินค้าที่แมสขึ้น มีความเฉพาะตัวเหมือนที่คนฟังรู้จัก รวมไปถึงความสุขที่เรามีให้คนฟังก็เปรียบเหมือนร้านขายของที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย สบาย ๆ มีรอยยิ้มให้กัน วงเราผูกพันธ์กับคนฟังมา 7 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องของเนื้อเพลงก็เช่นกัน มันจะมีความหวังดีต่อคนฟังค่อนข้างสูง เราอยากใส่วิตามินที่มีประโยชน์เข้าไปในเพลงบ้าง โดยวิตามินในที่นี้จะช่วยยกระดับจิตใจของคนฟัง ไม่ใช่จะสร้างแต่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว อย่างเช่นเพลงที่เราปล่อยออกไป ‘สุขาอยู่หนใด’ ‘แรงโน้มถ่วง’ ‘ไม่เคย’หรือเพลงอื่น ๆ  เราพยายามจะสอดแทรกเนื้อหเหล่านี้ให้คนฟังได้แง่คิดดี ๆ จากเพลงของเราอีกด้วย

สิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นในอัลบั้มนี้กับผู้ชายที่ชื่อว่า มณฑล จิรา

25 Hours: อัลบั้มนี้ถือว่าเป็นอัลบั้มที่การทำงานมันเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด พวกเราได้ร่วมทำงานกับพี่เจ (มณฑล จิรา) ซึ่งก็ถือว่า พี่เขาเองได้เข้ามาเต็มเติมอัลบั้มนี้ได้มากเลยทีเดียว เขามาช่วยในเรื่องการบันทึกเสียงให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น รวมไปถึงมาเติมเสียงใหม่ ๆ ให้ในเพลงเรา หรือแม้กระทั่งพี่เจเป็นคนที่พาเพลงของเราไป Mix ที่นิวยอร์ค มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เราได้เข้าไปเรียนรู้กับระดับเทพตัวจริงในวงการเพลงบ้านเรา     พี่เขารู้เยอะมาก พวกเราเหมือนเข้าไปเรียนในโรงเรียน มันเป็นความใหม่มากของเราทั้งวงเลย แถมอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มแรกที่ได้ทำงานกับคนอื่นด้วยในปริมาณที่เยอะขึ้น

ชื่อเพลงทั้งหมดใน MOM & POPSHOP

25 Hours: 10 เพลงในอัลบั้มนี้ประกอบด้วยเพลง ‘สุขาอยู่หนใด’, ‘แรงโน้มถ่วง’, ‘ไม่เคย’, ‘เธอเอาใจฉันไป’, ‘เสี่ยง’, ‘ทีใครทีมัน’, ‘เรื่องธรรมดา’, ‘ลืม’, ‘เด็กน้อย’และ ‘ไม่กลัว’ครับ

“ส่วนสำหรับแฟนเพลงวงเรา ณ วันนี้ 25 Hours อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายใหญ่แล้ว แต่ในจิตใจของพวกเรายังคงเป็นเหมือนเดิม เราทำสิ่งที่แตกต่างและสิ่งใหม่อยู่เสมอ พวกเรายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นอินดี้นะเว้ย”

เป้าหมายที่ 25 Hours ตั้งไว้หลังจากนี้คืออะไร

25 Hours: พวกเราทำงานอยู่กับอัลบั้มนี้มา 2 ปีแล้วเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน อยากให้คนได้ฟังสักที ซึ่งถ้าผลลัพธ์มันดีก็เราก็ดีใจแน่นอนอยู่แล้ว ในแง่ของตัวเพลงอยากให้คนฟังรู้สึกว่ามันเป็นอัลบั้มที่ดี เรามีความตั้งใจที่อยากจะพัฒนาวงของเราตลอด อัลบั้มนี้มันเหมือนเป็นแรงบันดาลใจที่จะส่งต่อไปยังอัลบั้มหน้าที่มันจะสนุกขึ้นกว่านี้แน่ ๆ ในแง่ของการออกทัวร์อันนี้ก็คือเป้าหมายอีกอย่างที่เราตั้งไว้มันน่าจะครึกครื้นขึ้น มันจะมีเรื่องของไฟเวทีมาช่วยเราด้วย ซึ่งถ้ามันจะเกิดขึ้นได้จริง พวกเราก็จะเอาอุปกรณ์ไฟในงานคอนเสิร์ตของเราไปออกทัวร์ด้วยทุกงาน มันจะเหมือนวงต่างประเทศที่พวกเขามีกิมมิคในการโชว์สดให้คนติดตามมากขึ้น แต่เราก็คิดแบบมินิมอลในแบบฉบับที่เคลื่อนย้ายได้ด้วยก็ต้องดูเรื่องงบประมาณด้วยอีกที แต่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้แน่ ๆ หลังจากนี้

ฝากถึงลูกค้า 25 Hours ที่น่ารักทุกคน

25 Hours: ก่อนอื่นขอฝากถึงกลุ่มคนฟังเว็บไซต์ฟังใจก่อนเลยนะครับ อยากให้คนฟังกลุ่มนี้ขยายตัวมากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ อยากให้รากฐานของคนฟังเพลงที่เปิดรับทุกแนวเพลงแข็งแรงหรือถ้ามีกิจกรรมอะไรของวงการเพลงไทยก็อยากให้ไปช่วยกันดู ช่วยกันสนับสนุน เพราะพวกเราเชื่อว่าคนทำเพลงถ้าทำเพลงออกมาแล้วมีคนฟังมันก็เป็นผลดีต่อตัวพวกเขาเหมือนกันนะ ถ้าทำเพลงแล้วไม่มีคนฟังแล้วเขาจะอยู่ได้อย่างไร มันก็จะไม่มีกำลังใจทำต่อกัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีเวลาว่างแล้วศิลปินที่คุณชอบออกไปเล่นดนตรีข้างนอก ไปดูเถอะครับไปให้กำลังใจพวกเขามันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ กับวงการเพลงไทยด้วย อยากให้ทุกคนสู้กันต่อไปครับ ส่วนสำหรับแฟนเพลงวงเรา ณ วันนี้ 25 Hours อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายใหญ่แล้ว แต่ในจิตใจของพวกเรายังคงเป็นเหมือนเดิม เราทำสิ่งที่แตกต่างและสิ่งใหม่อยู่เสมอ พวกเรายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นอินดี้นะเว้ย ในอัลบั้มนี้มีหลาย ๆ เพลงที่อยากให้ลองฟังกันดู หวังว่า เพลงของเรามันจะสร้างความสุข สร้างวิธีคิดและให้วิตามินกับคนฟัง อยากให้ลองฟังดูมันเป็นการเดินทางครั้งใหม่ของพวกเรา และที่สำคัญขอฝากคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มนี้ด้วยนะครับ อยากให้ลองมาดู กับซึมซับวิตามินไปจากพวกเรา แล้วเจอกันครับ

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง