Article Story

ดนตรีคือชีวิต!! สารคดีที่ทำเราอินกับศิลปินระดับโลกได้สุดทาง

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Thanaporn Sookthavorn

การจะรู้จักใครซักคน เราก็ควรรู้จักเขาให้ครบทุกด้าน หนังสารคดีเลยเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจถ้าเราอยากเข้าใจใครซักคนให้มากขึ้น นอกจากมันจะเหมือนบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีค่าควรส่งต่อให้คนรุ่นต่อดูแล้ว การได้ศึกษาแนวคิดหรือเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แม้แต่ศิลปินระดับโลกก็ยังมีสิ่งที่ทำผิดพลาดหรือมีแนวคิดที่น่าศึกษาและรับมาเพื่อปรับใช้กับตัวเอง ถ้าคุณเป็นศิลปินก็ควรต้องศึกษาจากศิลปินคนอื่นไว้บ้าง ต่อให้คุณไม่ได้เป็นศิลปิน หนังสารคดีเกี่ยวกับศิลปินระดับโลกเหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณอินกับเพลงพวกเขามากขึ้น และอาจทำให้แนวคิดของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล

My Buddha is Punk

สารคดีตามติดชีวิตของ Kyaw Kyaw นักร้องนำวงพังก์ The Rebel Riot ในประเทศพม่า ที่เปิดเผยแง่มุมชีวิตส่วนตัวของเขาและคนในวง รวมไปถึงตีแผ่ความคิดที่พวกเขามีต่อรัฐบาลเผด็จการของพม่าในช่วงกำลังเปลี่ยนผ่านการปกครองเป็นประชาธิปไตย กับปัญหาสังคมอีกมากมายในประเทศที่รอภาครัฐเข้าไปแก้ไข ทั้งความขัดแย้งระหว่างพุทธกับมุสลิม หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อย แม้จอว์จ่อว์จะมีอายุเพียง 20 ปีแต่ก็มีความเป็นหัวก้าวหน้าในแนวคิดและสิ่งที่เขาพยายามลงมือทำ อย่างการใช้เพลงพังก์ตั้งคำถามต่ออำนาจและสถาบัน นำสันติภาพกลับมายังประเทศให้ได้

นอกจากหนังจะเผยให้เห็นความสามารถทางดนตรีของคนชายขอบในประเทศลับแลแบบนี้แล้ว เรายังได้ตามจอว์จ่อว์ไปคอนเสิร์ตในเมืองต่าง ๆ การซ้อมดนตรี แต่งเพลง การเขียนหนังสือ การไปร่วมชุมนุมทางการเมือง และอีกกิจกรรมที่น่าสนใจมากคือการเข้าวัด ทั้งที่ดนตรีแนวพังก์คือการวิพากษ์อำนาจของสถาบันที่ใหญ่กว่าตัวเอง จอว์จ่อว์กลับมองว่าศาสนาพุทธคือหนทางแห่งการดับทุกข์และนำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันได้อย่างแท้จริง ซึ่งเขาเอามาผสมผสานกับดนตรีพังก์ที่เหมือนจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้วได้อย่างลงตัวจนเป็นวิถีชีวิตที่เป็นเอกเทศและไม่ยึดโยงกับสิ่งใด เพราะทุกคนคือคนเหมือนกันและไม่ควรเข่นฆ่ากันเอง มีแต่เพลงพั้งก์เท่านั้นที่จะสื่อสารเรื่องพวกนี้ออกไปได้อย่างชัดเจนที่สุด คนเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งก็สามารถเปลี่ยนโลกได้ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นสารคดีอีกเรื่องที่เติมเต็มทั้งแนวคิดและจิตใจของเราได้อย่างดี

Amy

คุณไม่ต้องรู้จัก Amy Winehouse ก็สามารถดูหนังสารคดีเรื่องนี้ได้ เพราะนี่ไม่ใช่หนังเกี่ยวกับนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ แต่มันคืออีกด้านหนึ่งของชีวิตศิลปินที่ถูกทำลายลงด้วยชื่อเสียงและคนที่เธอรักถึงสองคน หนังตามติดชีวิตของเอมี่ตั้งแต่เด็ก จนเป็นศิลปินและอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตเท่าที่ศิลปินคนหนึ่งจะทำได้ผ่านฟุตเทจจริงและการสัมภาษณ์จากคนใกล้ตัวเธอมากมาย สลับกับการเล่าผ่านเพลงที่เธอแต่งผ่านชีวิตจริงได้อย่างกินใจ

ต่อให้คุณไม่รู้จักเธอแต่คุณจะต้องตกหลุมรักในพรสวรรค์ของเธอและเห็นใจในสิ่งที่เธอต้องฟันฝ่ามาตลอดชีวิต แค่ความสามารถในการร้องเพลงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราอยู่ในวงการเพลงได้อย่างสบายใจ เธอต้องรับมือกับผู้ชายสองคนคือพ่อและแฟนที่ทำลายชีวิตเธอด้วยการหาประโยชน์จากเธอตลอดเวลา การต้องปรับตัวกับการเป็นคนดังและธุรกิจดนตรีที่กดดันเธอทุกทาง และการถลำลึกเข้าไปในโลกของยาเสพติดกับแอลกอฮอล์ ทำให้เราสูญเสียนักดนตรีที่มากความสามารถอีกคนหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย ตีแผ่ด้านมืดของวงการดนตรีที่ศิลปินต้องเตรียมตัวที่เจอกับมันเข้าซักวัน ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้จะต้องหยิบเพลงของเธอมาฟังซ้ำไปซ้ำมาและจินตนาการถึงความเจ็บปวดของเธออย่างคาดไม่ถึงแน่นอน

Bowie: The Man Who Changed the World

ดาวอีกหนึ่งดวงที่ลาลับไปจากวงการ แต่ David Bowie ได้ฝากอะไรไว้ในโลกนี้มากมาย ซึ่งสารคดีเรื่องนี้พาเราไปดูว่าทำไมคนทั้งโลกถึงรักผู้ชายประหลาด ๆ คนหนึ่งมาก

หนังพาเราไปพูดคุยกับคนใกล้ตัวของโบวี่ว่าแต่ละคนจดจำเขาไว้ในรูปแบบไหนบ้างพร้อมฟุตเทจเรื่องราวของเขาก่อนที่จะมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คงเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะรวบรวมตลอดชีวิตอันมีสีสันโชกโชนของเขาไว้ในเวลาเพียงชั่วโมงกว่า ๆ เพราะโบวี่ไม่เพียงแต่มีผลงานเพลงที่น่าทึ่ง แต่เขายังสร้างความเคลื่อนไหวอันทรงพลังให้กับวงการแฟชั่นและวงการศิลปะอีกด้วย หนังทำได้ดีในการรวบรัดเนื้อหาทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยไม่น่าเบื่อ (หรือเพราะฉันติ่งเขากันนะ) ต่อให้ใครไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ยังไงก็ต้องตกหลุมรักในความ weird เกินเบอร์ของเขาแน่นอน หรือต่อให้คุณคิดว่ารู้จักเขาดีแค่ไหน สารคดีนี้ก็ทำให้เรารู้เลยว่าโบวี่ยังมีเรื่องน่าทึ่งในชีวิตอีกมากมายที่เราอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับเขา เสียดายที่หนังไม่ได้ใส่เพลงของเขาไว้เลย ทำให้ความเป็นแฟนบอยเคืองนิดหน่อย ฮึ่ม!

Kurt Cobain : Montage of Heck

เวลาเราดูหนังเกี่ยวกับสารคดีของศิลปินระดับโลกที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้วผมจะถามหาสองสิ่งในหนังเสมอ คือหนังนำเสนอศิลปินคนนั้นในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่งได้ดีหรือไม่ แล้วเราได้แง่คิดอะไรใหม่ ๆ จากตัวตนของศิลปินคนนั้นจากหนังเรื่องนี้มั้ย ต้องยอมรับเลยว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีทั้งสองข้อ และสาวกของ Kurt Cobain หรือ Nirvana ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สารคดีเรื่องนี้รวบรวมทุกสิ่งที่โลกรู้เกี่ยวกับศิลปินคนนี้ พาเราไปสืบเสาะทุกแง่มุมในชีวิตของเขาผ่านฟุตเทจบ้าน ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ไดอารี่ บทสัมภาษณ์คนรอบตัวของเขารวมไปถึงศิลปะทั้งหลายที่เขาสร้างขึ้นมาด้วย ถ่ายทอดเรื่องราวอันสับสนและปวดร้าวของชายคนนี้ที่หลายคนยกให้เขาเป็นตัวแทนของวัยรุ่นหัวขบถ แม้เขาจะถูกยกย่องว่าเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์แต่หนังก็ยังพาไปดูอีกด้านของเขาในฐานะผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรักและความหวัง ช่วยเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้กับเราได้ทุกช่วงชีวิต และแน่นอนที่หนังจะบอกเล่าเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดและอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ของเขา จนไปถึงปัญหาล้านแปดในชีวิตที่ประเดประดังเข้ามาด้วย จนทำให้เขาตัดสินใจที่จะจากโลกนี้ไปด้วยตัวเองในวัย 27 ปี ถ้าใครอยากรู้จักโคเบนมากขึ้นก็ไม่ควรพลาดหนังนี้เลย

Eric Clapton: Life in 12 Bars

เราอาจรู้จัก Eric Clapton จากเพลง Tears in Heaven ที่พ่อชอบเปิดฟังหรือได้ยินตามห้างเท่านั้น แต่ความจริงแล้วชีวิตของอีริคนั่นโชกโชนพอตัว แถมเขายังเป็นตำนานเพลงบลูส์ที่ยังมีชีวิตอยู่มากจนถึงทุกวันนี้ด้วย

นอกจากหนังจะเล่าถึงการเดินทางในฐานะนักดนตรีของหนึ่งของอีริคแล้ว หนังยังทำการบ้านมาอย่างดีมากในการขยายเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในชีวิตของเขาให้ชัดเจนขึ้น ทั้งเส้นทางดนตรีที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาส่วนตัวที่รบกวนจิตใจและทำให้เขาตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตไปในทิศทางที่เราคาดไม่ถึง รวมถึงตีแผ่ความสัมพันธ์สุดฉาวระหว่างเขากับ Pattie Boyd ที่ทุกคนรู้ดีกว่าเธอคือภรรยาของ George Harrison แห่ง The Beatles ซึ่งเป็นเพื่อนรักของอีริคนั่นเอง แถมหนังยังเล่าว่าแพตตี้มีผลกับชีวิตและแนวเพลงของอิริคอย่างมาก หนังยังทำให้เราต้องตกใจว่าอีริคก็เป็นศิลปินที่หยาบคายคนหนึ่งเหมือนกัน และการเสียลูกชายไปจนทำให้เขาแต่งเพลง Tears In Heaven ออกมาได้ เรียกได้ว่าเป็นสารคดีที่มีบทเรียนอันครบรสเท่าที่ศิลปินคนหนึ่งจะมีได้เลยทีเดียว

Gaga: Five Foot Two

ยุคหนึ่งเราอาจรู้จักเธอในฐานะไอคอลแห่งความแปลก แต่เชื่อเถอะว่า Lady Gaga เป็นศิลปินอีกคนที่ควรถูกยกย่องในฐานะคนที่สร้างแรงกระเพื่อมให้วงการเพลงได้

หนังพาเราพาเราไปตามติดชีวิตของเธอในระยะ 8 เดือนอย่างใกล้ชิดเหมือนเป็นบันทึกหน้าหนึ่งที่พูดถึงช่วงที่เธออ่อนแอที่สุด โดนคู่หมั้นเทแถมยังมีอุปสรรคทางจิตใจอีกมากมายแต่เธอก็ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม ทั้งอัลบั้มที่ห้าที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของอาชีพเธอ ถ่ายซีรี่ส์ โชว์สำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงช่วงที่เธอต้องเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตหนึ่งในครั้งสำคัญในชีวิตของเธอกับงาน Super Bowl อีกด้วย โดยตัดสลับกับการเข้าไปทำความรู้จักชีวิตประจำวันอันเรียบง่ายและการต่อสู้กับมายาคติในเพศหญิงของเธออีกด้วย คงไม่มีสารคดีเรื่องไหนจะครบรสและปลดเปลือยบุคคลในหนังได้ลึกซึ้งเท่านี้อีกแล้ว

What Happened, Miss Simone?

Nina Simone อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูพวกเราซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่หลงใหลในเพลงแจ๊ส อาร์แอนด์บีละก็ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอคือที่หนึ่งในดวงใจแน่นอน

บนเวทีเธอคือดีว่าเจ้าของเสียงจากสวรรค์ แต่นอกเวทีเธอคือนักเคลื่อนไหวหัวขบถในเรื่องสิทธิคนผิวดำ และในสายตาคนขาวเธอคืออีบ้าปากจัดที่กล้าท้าทายอำนาจรัฐขวาจัด หนังพาเราไปสำรวจชีวิตของนักร้องผิวดำที่ต่อสู้กับชีวิตอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ตัวเองได้เป็นศิลปินอย่างที่ฝันไว้ แต่หวังในการเป็นนักดนตรีคลาสสิคของเธอก็ถูกทำลายลงเพราะว่าเธอเป็นคนผิวดำ มหาวิทยาลัยจึงไม่รับเธอเข้าเรียน ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสุขและความเศร้า เธอเคยร่วมเดินขบวนเรียกร้องความเท่าเทียมในคนผิวสีในยุค 60 แถมยังเคยเป็นคนเร่ร่อนที่ต้องร้องเพลงแจ๊สตามไนท์คลับเพื่อประทังชีวิตให้ก้าวต่อไปได้ เรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่โลดโผนและน่าเห็นใจมาก

อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว คิดว่าศิลปินไทยคนไหนควรจะมีสารคดีเป็นของตัวเองได้แล้วบ้างนะ?

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา