Article Story

6 เรื่องบ้า ๆ เกี่ยวกับยาเสพติดของศิลปินระดับโลก

  • Writer: Peerapong Kaewthae

‘Sex, drugs, rock n’ roll’ เป็นวลีติดปากของเหล่านักดนตรีหลายคน สิ่งเสพติดกับดนตรีแทบจะเป็นของคู่กันตั้งแต่ยุค 60s ที่เหล่าบุปผาชนเริ่มตั้งคำถามกับสังคมและเพลงร็อกกลายเป็นเทคนิคและวิธีสื่อสารกับสังคมที่สง่างามที่สุดเพื่อแสดงออกถึงความขบถทางวัฒนธรรม เฮโรอีน กัญชา และ LSD กลายเป็นเครื่องมือที่เหล่านักดนตรีใช้เพื่อขยายขอบเขตการทำเพลงให้กว้างไกลขึ้น แม้แต่วงดนตรีระดับโลกอย่าง The Beatles ยังเคยออกมาพูดถึงการใช้ยาในการทำเพลงของตัวเอง คอนเสิร์ตกลายเป็นโอกาสที่จะได้สนุกไปกับยาเสพติด จนมันได้ทำลายชีวิตของเหล่านักดนตรีชื่อดังทั้ง Jimi Hendrix และ Janis Joplin ที่เสพยาเกินขนาดจนจากไปอย่างไม่มีวันกลับ Syd Barrett ก็สติฟั่นเฟือนจากฤทธิ์ LSD รวมถึงแฟนเพลงผู้เสพอีกหลายคนที่ไม่เคยถูกเอ่ยนาม

ในยุคต่อมายังมีการใช้ยาเสพติดกันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เพราะการต่อต้านทางการเมืองหรือมีถ้อยคำที่อยากสื่อสารอะไรออกไป พวกเขาแค่อยากสนุกไปกับปาร์ตี้และลูกบอลดิสโก้ในคลับเท่านั้น ซึ่งความเสี่ยงต่อการมีเซ็กซ์โดยไม่ป้องกันเพิ่มมากขึ้นและทำให้โรคเอดส์ติดต่อกันจนยากจะควบคุม แม้แต่ยุค heavy metal ที่การดื่มเหล้าเบียร์เยอะ ๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเจ๋ง พวกเขาก็เลือกที่จะใช้โคเคนเพื่อไม่ให้ตัวเองวาร์ปหรือภาพตัดไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ประวัติศาสตร์ของดนตรีในอเมริกาแทบจะแยกจากยาเสพติดไม่ได้เลยทีเดียว

ศิลปินชื่อดังหลาย ๆ คนก็ยังมีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับอาการเสพติดจนทำเรื่องเหวอกันเยอะแยะ และคุณอาจยังไม่รู้ว่าศิลปิน 6 คนนี้เคยเสพยากันจนเลือดขึ้นหน้า กล้า และบ้าพอจะทำเรื่องเหล่านี้กันเลยทีเดียว

John Lennon หลอนยาจนบอกกับเพื่อนร่วมวงตัวเองคือพระเยซู

วันหนึ่งในปี 1968 ที่ John Lennon กำลังเมา LSD ก็เรียกเพื่อน ๆ ในวง The Beatles มาซ้อมดนตรีกันอย่างฉุกเฉิน เลนนอนทำงานอย่างหนักมาตลอดจนทุกคนคิดว่าถึงจุดวิกฤต พวกเขาจึงรีบซ้อมให้เสร็จเพื่อเลนนอนจะได้พักผ่อน วันรุ่งขึ้น เขาก็ประกาศให้ทุกคนใน The Beatles รู้ว่าเขาคือ Jesus Christ หรือพระเยซูที่ฟื้นจากความตายกลับมาอีกครั้งหลังถูกตรึงกางเขน ทุกคนในวงดูไม่ตกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดเท่าไหร่ ระหว่างทางไปกินข้าวด้วยกันแฟนเพลงของพวกเขาก็เข้ามาทัก เลนนอนก็บอกกับแฟนเพลงของเขาว่าเขาคือพระเยซู คืนเดียวกันนั้นเอง ที่เขาเรียกศิลปินที่เขาเพิ่งเจออย่าง Yoko Ono มาที่บ้าน หลังจากที่ทั้งสองตกหลุมรักกันก็ใช้เวลาด้วยกันทั้งคืนพวกเขาก็อัดอัลบั้มแรกอย่าง Two Virgin ทันที

นักวิทยาศาตร์ขอตรวจร่างกาย Ozzy Osbourne ว่ายังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงหลังจากเสพยามาเกือบทั้งชีวิต

Ozzy Osbourne เสพยามาแล้วหลายชนิดจนนักวิทยาศาสตร์สนใจและอยากตรวจสอบ DNA ของเขาว่าทำไมเขาเสพโคเคนไปเยอะมาก ๆ แล้วยังมีชีวิตรอดมาได้ แม้แต่ตัวออสบอร์นเองก็ยังสงสัยว่าไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ใด ๆ เลยบอกว่าทำไมเขายังไม่ตายซักที DNA ของเขาก็มียีนที่นักวิทยาศาสตร์ไม่เคยเห็นมาก่อน หนึ่งในนั้นคือยีน Neanderthal หรือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งทำให้เขาแข็งแรงและมีภูมิต้านทานที่ดีกว่ามนุษย์ยุคปัจจุบันมาก ทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างโลดโผนจนแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในยุค 70s ที่เขาเสพยาจนคนรอบข้างเป็นห่วง Nikki Sixx จากวง Mötley Crüe ที่เคยไปทัวร์คอนเสิร์ตกับออสบอร์นเคยเล่าให้สื่อฟังว่าช่วงนั้นทุกคนเสพโคเคนเยอะมาก เมื่อโคเคนหมดออสบอร์นก็ซี้ดมดทั้งแถวเข้าจมูกไปเลย เมื่อสื่อไปถามเขาเขากลับตอบหน้าตาเฉยว่าจำไม่ได้ว่าเคยไปทัวร์คอนเสิร์ตกับซิกซ์

David Bowie จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยอัดอัลบั้ม Station to Station มาก่อน

Station to Station เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดังที่สุดของ David Bowie แต่เจ้ากรรมเขากลับจำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับอัลบั้มนี้เลย เขาจำได้แค่ว่าไปอัดเพลงกับ Earl Slick มือกีตาร์ แล้วมารู้ทีหลังว่าพวกเขาอัดอัลบั้มนี้ใน Los Angeles จากบทสัมภาษณ์ของตัวเอง โบวี่เคยผ่านช่วงชีวิตที่แปลกประหลาดสุด ๆ เพราะเขาเสพโคเคนและแอมเฟตามีนหรือยาบ้าเพื่อทุ่มเทกับงานที่เขารักอย่างสุดตัว เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องน่ารำคาญที่สุดในการทำงานในสตูดิโออัดเพลงคือการนอน ถ้าเสพโคเคนแล้วตื่นได้ถึง 8 โมงเช้าและอัดท่อนกีตาร์ได้หมดทั้งเพลง เขาก็เลือกที่จะเสพโคเคน แม้โบวี่จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ไอเดียที่ดีเลยแต่เขาก็ยอม น้ำหนักเขาลดลงไปถึง 36 กิโลกกรัมจากการกินแค่นม พริกไทย และเสพโคเคนทุกวันเป็นภาพเบลอไปหมด โบวี่มองย้อนกลับไปก็คิดว่าโชคดีมากแล้วที่ไม่ตายไปซะก่อน

Elvis Presley ขอตราตำรวจปราบปรามยาเสพติดกับประธานาธิบดีเพื่อพกยาไปเสพที่ไหนก็ได้ในประเทศ

เราคงจินตนาการไม่ค่อยออกว่าศิลปินระดับโลก หรือราชาร็อกแอนด์โรลอย่าง Elvis Presley มาเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดแล้วจะเป็นยังไง เพราะจริง ๆ เขาไม่ได้หวังจะกำจัดยาเสพติดให้หมดโลกจริง ๆ หรอก ในช่วงนั้นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่าง Richard Nixon มีนโยบายต่อสู้กับยาเสพติดอย่างรุนแรง เอลวิสก็เป็นศิลปินคนหนึ่งที่เข้าพบกับนิกสันเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนโยบายของประธานาธิบดีคนนี้ และขอตราตำรวจปราบปรามยาเสพติดด้วยเพราะเขาศึกษาเรื่องยาเสพติดมาอย่างดี ความจริงเอลวิสกำลังติดยาอย่างหนักและตลกร้ายที่นิกสันก็บ้าจี้ให้ตราดังกล่าวกับเขาด้วย ความจริงที่ Priscilla Presley ภรรยาของเขาออกมาเปิดเผยคือเอลวิสต้องการตรานี้เพื่อให้เขาสามารถพกปืนและยาเสพติดเข้าไปที่ไหนในประเทศก็ได้ต่างหาก ไม่กี่ปีต่อมาเขาก็จากโลกนี้ไปเพราะเสพยาเกินขนาดโดยที่เขายังมีตราตำรวจปราบปรามยาเสพติดนี้อยู่กับตัวด้วย

Kurt Cobain ฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง

การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ Kurt Cobain ยังสะเทือนใจแฟนเพลงหลายคนถึงทุกวันนี้ ในตอนแรกสาเหตุการตายของเขาถูกระบุว่าเขาฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนลูกซองกรอกปากตัวเองหลังจากที่ฉีดเฮโรอีนเข้าเส้นเลือดในปริมาณที่คร่าชีวิตได้แน่นอน หลังจากนั้นก็มีอีกหลายทฤษฎีถูกหยิบยกขึ้นมาว่าเคิร์ทอาจไม่ได้ฆ่าตัวตายก็ได้ แม้การรื้อคดีขึ้นมาตรวจสอบใหม่จะยังไม่ชัดเจนซักที แต่แฟนเพลงหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากแสดงคอนเสิร์ตในมิวนิควันที่ 29 กุมภาพันธ์ เคิร์ทก็พักผ่อนอยู่ในโรมกับ Courtney Love ภรรยาของเขาต่อ ไม่กี่วันต่อมาคอร์ทนีย์ตื่นมาก็พบว่าเคิร์ทพยายามฆ่าตัวตายโดยกินยานอนหลับจำนวนมากผสมกับแชมเปญ แม้ข่าวจะออกมาว่าเคิร์ทไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย แต่ทุกคนใน Nirvana ก็ทราบดีว่าเคิร์ททิ้งจดหมายลาตายไว้ สุดท้ายโลกก็หยุดเขาไว้ไม่ได้ การจากไปของเขาทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงความทรมาณและความกดดันของวัยรุ่นในยุคนั้น

Jimi Hendrix เมายาจนไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว

มีไม่กี่คนที่ช่วงชีวิตจะเสพยาได้เยอะเท่า Jimi Hendrix อีกแล้ว และถ้าไม่ได้เสพยาเขาก็คงมาเป็นนักดนตรีไม่ได้ ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงเขาเคยเป็นทหารและถูกไล่ออกเพราะมียาเสพติดในครอบครอง เขาถึงได้มาเอาดีทางด้านดนตรีและเสพยาหนักขึ้น วันหนึ่งในช่วงยุค 60s ระหว่างที่เฮนดริกซ์กำลังเดินอยู่ริมถนนเพื่อหาซื้อยาเสพติดมาเสพต่อ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นชวนเขาไปเสพยาที่บ้าน ซึ่งเขาก็ตามไปโดยไม่ลังเล เมื่อถึงบ้านเขากลับถูกขังและวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็ติดต่อผู้จัดการของเขาเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ แต่ผู้จัดการกลับเอานักเลงไปถล่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จนยับและช่วย เฮนดริกซ์ออกมาได้ แต่เขากลับถามหาแต่ยาโดยไม่รู้ตัวว่าเพิ่งถูกลักพาตัวมา

 

อ้างอิง
The Relationship Between Drugs and Music
Scientists to analyse Ozzy Osbourne’s genome to find out why he is still alive
How David Bowie Brought Thin White Duke to Life on ‘Station to Station’
When Elvis Met Nixon
Magical Mystery Tours: My Life With The Beatles
THE DAY KURT COBAIN OVERDOSED AND WENT INTO A COMA
Book Excerpt: The Man Who Saved Jimi Hendrix from the Mafia
Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา