รวมฮิต 10 เพลงละครไทยที่คุณคิดถึง
- Writer: Gandit Panthong
“โลกคือละคร ทุกคนต้องแสดง ต้องทนกันไป อย่าอาลัย ยิ้มกันสู้ไปจะได้สบาย” นี่คือหนึ่งประโยคฮิตในเพลง สุขกันเถอะเรา ที่เราเคยได้ยินกันอยู่เป็นประจำ ครั้งนี้ Fungjaizine จะขอพาทุกท่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเพลงฮิตจากละครไทยในอดีตกันว่าที่ผ่านมาเรามีเพลงอะไรบ้าง บางเพลงหลายคนอาจจะเคยได้ฟัง บางเพลงหลายคนอาจจะเกิดไม่ทัน เพราะฉะนั้นแล้วปลดปล่อยตัวเองจากปัจจุบันแล้วร่วมเดินทางไปกับเพลงฮิตจากละครดังในตำนานเหล่านี้กันครับ
ชมพู ฟรุตตี้ – สายโลหิต
เพลงประกอบละคร สายโลหิต (พ.ศ.2538)
“ออกศึกข้านึกแต่รบ และรบ
จบศึกข้านึกแต่รักเจ้าเท่านั้น
หากรอดชีวิตกลับมาหากัน
หวังให้เจ้านั้นดูแลหัวใจ”
เพลงแรกเราขอพาทุกท่านย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2538 กับละครที่ถูกกล่าวถึงกันทั้งประเทศไทยในขณะนั้น พร้อมกับการแจ้งเกิดนักแสดงคู่ขวัญของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณอย่างเป็นทางการอย่าง หนุ่ม — ศรราม เทพิทักษ์ และ กบ — สุวินันท์ คงยิ่ง ทั้งคู่โคจรกันมาพบกันในบทของ ‘ขุนไกร’ และ ‘ดาวเรือง’ โดยเนื้อหาของละครไทยเรื่องนี้จะย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2301 สมัยที่ยังมีการสู้รบของเหล่ากองทัพทหารไทยและกองทัพเมียนมาร์กันอยู่ ซึ่งเพลง สายโลหิต ที่เราหยิบมาแนะนำกันในเวอร์ชันนี้ถูกขับร้องโดยคุณสุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ ชมพู ฟรุตตี้ เนื้อหาและจังหวะภายในเพลงนี้ค่อนข้างจะเป็นการปลุกใจ ใช้ถ้อยคำที่สละสลวยบ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้คนที่ดูละครไทยเรื่องนี้ถูกใจจนถึงขนาดร้องกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง ปัจจุบันเพลงนี้ถูกนำกลับมาขับร้องใหม่ในเวอร์ชันของ คิว วง Flure ในรายการ ‘The Mask Singer Season 3’ ให้หลายคนได้รับฟังและหวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ดีของละครเรื่องนี้ ถ้าคุณเกิดทันในปี พ.ศ. 2538 ผมเชื่อว่าคุณต้องเคยได้ยินเพลงนี้มาบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ
คัทลียา แมคอินทอช – เธอไม่เคยรู้
เพลงประกอบละคร ชายไม่จริงหญิงแท้ (พ.ศ.2540)
“ได้ใกล้ชิดกับเธอก็พอ
ได้แค่ขอมีเธอในใจ
แค่เพียงเธอไม่ร้างไกลเท่านี้ก็พอ
ได้แค่เพียงสบตาเท่านั้น
ได้แค่ฝันข้างเดียวเรื่อยไป
รู้คนเดียวอยู่ทั้งใจ ว่าฉันรักเธอ”
ก่อนที่เราจะได้ยินประโยคสุดฮิตติดปากจากละครเรื่องนี้ในปี พ.ศ. 2560 อย่างประโยคบอกว่า “คาปูชิโน่ร้อน แก้วใหญ่ หวานน้อย กินนี่” หารู้ไม่ว่า ละครไทยเรื่องนี้เคยถูกนำมาสร้างแล้วครั้งนึงในช่วงปี พ.ศ. 2541 ออกอากาศครั้งแรกผ่านสถานีวิทยุไทยทีวีสีช่อง 3 นักแสดงนำของเรื่องนี้ขณะนั้นคือ ดู๋ — สัญญา คุณากร และ แหม่ม — คัทลียา แมคอินทอช คู่ขวัญของวงการละครไทยในขณะนั้น สำหรับเนื้อหาของละครเรื่องนี้ หลายคนที่ได้ดูเรื่องนี้กันไปแล้วน่าจะทราบว่าเกี่ยวกับ ‘ริน’ หญิงสาวต่างจังหวัดที่ต้องมาผจญภัยในเมืองหลวง ก่อนที่เธอจะได้พบกับโชคชะตาที่จะเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาลกับการปลอมตัวเป็นกะเทยและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงมาพบกับผู้กำกับหนุ่มอย่าง ‘ภาค’ จากนั้นเรื่องราวสนุก ๆ ในชีวิตของเธอก็เกิดขึ้น ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามดูในละครกันต่อได้นะ
โอเคกลับมาพูดถึงเรื่องเพลงนี้กัน สิ่งที่น่าสนใจในเพลงนี้คือเป็นการจับไมค์ร้องเพลงครั้งแรกของนางเอกของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฉบับดั้งเดิมอย่าง แหม่ม คัทลียา หรือเวอร์ชันล่าสุดโดย ใหม่ ดาวิกา ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับหลายคนพอสมควร ยิ่งเพลงที่ร้องออกมาไพเราะแล้วด้วยนั้นยิ่งทำให้คนติดใจเพิ่มขึ้นไปอีก เพลงจะมีความเป็นดนตรีอะคูสติกอยู่ค่อนข้างสูง บวกด้วยเสียงกีตาร์โปร่งในจังหวะที่เบาสบาย บวกกับเสียงร้องใส ๆ ที่ถ่ายทอดของอารมณ์ตัวละครออกมาได้ครบถ้วน ไม่แปลกที่เพลงนี้จะเป็นอีกเพลงที่ใครหลาย ๆ คนจะคิดถึงละครเรื่องนี้อย่างแน่นอน
กัญจน์ ภักดีวิจิตร – อังกอร์
เพลงประกอบละคร อังกอร์ (พ.ศ.2543)
“เมื่อวิญญาณร้ายกลายร่างไม่มีใครยับยั้งเธอได้
ใครขวางเธอฆ่าทำลายติดตาม
เมื่อกลับเป็นตัวเธอเอง หวาดกลัวหวั่นเกรงควรคลั่ง
ไปชั่วชีวิตเวรกรรม อังกอร์”
หนึ่งในผลงาน masterpiece ของ ฉลอง ภักดีวิจิตร ผู้กำกับละครชื่อดังกับสโลแกน ‘ระเบิดภูเขา เผากระท่อม’ ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานละครไทยเรื่องนี้เอาไว้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในละครไทยที่คนจำเพลงประกอบละครได้มากพอ ๆ กันกับตัวละครเรื่องนี้เลย นี่ยังไม่รวมฉากเด็ดในตำนานอย่าง ‘ฉากปิ้งไก่’ ในป่าสุดคลาสสิกที่เป็นภาพให้เรานำมาเล่นกันได้ถึงในวันนี้อีกนะ
‘อังกอร์’ ถูกฉายในปี พ.ศ. 2543 โดยเรื่องราวของละครจะเกี่ยวกับการผจญภัยของ ‘ผู้กองกาญจน์’ กับผองเพื่อนและ ‘อังกอร์’ หญิงสาวทรงเสน่ห์ที่ลึก ๆ แล้วเธอมีพลังพิเศษที่ทุกคนคาดไม่ถึง นั่นคือการกลายร่างเป็นเสือได้ เสน่ห์ของบทเพลงในละครเรื่องนี้ที่เราอยากหยิบยกมาพูดถึงก็คือ ความน่าเกรงขามและดุดันของตัวดนตรีที่ขึ้นด้วยเครื่องดนตรีก่อนที่จะตามด้วยท่อนให้ทุกคนร้องตามได้ว่า ‘อังกอร์ อังกอร์ อังกอร์’ คือ เด็กในยุคนั้นใครร้องเพลงนี้ไม่เป็นเชยแน่นอนครับ เนื้อเพลงเป็นจุดแข็งที่ทำให้เพลงนี้โด่งดังและเป็นตำนาน รวมไปถึงผู้ขับร้องเพลงนี้กับ กัญจน์ ภักดีวิจิตร ลูกชายแท้ ๆ ของ ฉลอง ภักดีวิจิตร ที่นอกจากจะรับบทเป็น ‘ผา’ ผู้นำปิ้งไก่แล้วยังทำหน้าที่ร้องเพลงนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วย ไม่เชื่อไปฟังดูสิ ผมเชื่อว่าคุณร้องตามได้
สี่ยอดกุมาร
เพลงประกอบละคร สี่ยอดกุมาร (พ.ศ.2544)
“สี่กุมารหาญกล้า
ตรี คฑา จักร สังข์”
ละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ในตำนานที่แค่ได้ยินประโยคแรกของเพลงประกอบทุกคนจะร้องอ๋อและจำได้ทันทีว่านี่คือเพลงประกอบเรื่องอะไร ‘สี่ยอดกุมาร’ คือละครไทยที่ถูกนำมาดัดแปลงฉายซ้ำอยู่ทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งในช่วงเวลาที่เราจะนำเพลงของละครเรื่องนี้มาให้ฟังก็คือปี พ.ศ. 2544 ออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ทั้งหมด 20 ตอน จุดเด่นของละครเรื่องนี้เลยคือการดำเนินเรื่องราวที่เล่าถึงเด็ก 4 คนที่มีอาวุธประจำกายแตกต่างกันออกไป แบ่งเป็น ตรี คฑา จักร สังข์ ซึ่งความพิเศษของอาวุธที่มีทำให้สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย จุดเด่นของเพลงประกอบละครเรื่องนี้เลยก็คือ ความเป็นไทยที่เด่นชัดและประกอบไปด้วยซาวด์ดนตรีพื้นบ้าน รวมไปถึงจังหวะในเพลงที่มีความเป็นมาร์ชชิ่งผสมอยู่ด้วย เท่านั้นยังไม่พอครับ เนื้อเพลงที่สั้นกระชับและอธิบายถึงความเป็นไปของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี เป้าหมายของเพลงยังชัดเจนอีกด้วย ดังนั้นเราเลยจึงขอยกให้เพลงประกอบละครเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงในความทรงจำของเราครับ
พรชิตา ณ สงขลา – โด เร มี
เพลงประกอบละคร สะใภ้ไร้ศักดินา (พ.ศ.2544)
“โดเรมี โดเรมี ซอลลา หนูขอเวลาซักสามนาที
ไม่ต้องชมว่าหนูเสียงดี ก่อนจบเพลงนี้อย่าพึ่งหนีก็แล้วกัน”
เพลงประกอบละครที่เปลี่ยนชีวิตของ เบนซ์ — พรชิตา ณ สงขลา ไปตลอดกาล เพราะหลังจากที่ละครเรื่องนี้ฉายจนถึงตอนสุดท้าย เบนซ์ มีงานเดินสายร้องเพลงทั่วประเทศในชีวิตจริงอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ตีคู่กันมาทั้งละครและเพลงประกอบกันเลยทีเดียว
‘สะใภ้ไร้ศักดินา’ คือละครที่ฉายในสถานีวิทยุไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ. 2544 ถึงต้นปี พ.ศ. 2545 โดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความฝันของเด็กสาวบ้านนา ‘ปลิวลม’ ที่อยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง แต่ครอบครัวไม่ต้องการให้เธอเป็นนักร้องลูกทุ่ง ทำให้การผจญภัยครั้งนี้ของปลิวลมจึงเกิดขึ้น และสุดท้ายเธอก็ได้เป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างที่หวังไว้จริง ๆ โดยใช้ชื่อว่า ‘ขวัญข้าว สาวสยาม’
มาครับ!! เข้าเรื่องของพวกเราชาว Fungjaizine ที่รำลึกถึงละครเรื่องนี้กันดีกว่า อย่างที่เกริ่นไปครับว่า เพลงจากเรื่องนี้มันดังระเบิดจริง ๆ ไม่เชื่อคุณไปหาเทปที่บ้านดู ผมว่าคุณต้องมีเก็บไว้บ้างล่ะสำหรับเพลงประกอบละครเรื่องนี้ ตัวเพลง โด เร มี เสน่ห์ของมันเลยจะอยู่ที่เนื้อเพลงก่อนเลยอันดับแรก เพลงนี้ใช้คำสละสลวยแล้วเข้าใจง่ายมาก ฟังรอบเดียวก็ร้องตามได้แน่นอน งานนี้ต้องให้เครดิตทีมทำเพลงจาก GMM Grammy เลยครับที่สร้างสรรค์เพลงนี้ออกมา ในแง่ของจังหวะเพลงมีความผสมผสานระหว่างเพลงลูกทุ่งและเพลงไทยสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อมีหลายอย่างที่ยอดเยี่ยมอยู่ด้วยกัน ไม่แปลกที่เพลงนี้จะเป็นเพลงประกอบละครที่ฮิตตลอดกาลจนมาถึงปัจจุบัน
ตะวัน จารุจินดา – พระจันทร์สีน้ำเงิน
เพลงประกอบละคร น้ำพุ (พ.ศ.2545)
“ผิดที่ฉันหรือจันทร์ลืมฉันจริง ๆ ทิ้งหัวใจ ของคนที่มันอ้างว้าง
ไม่มีทางได้เจอความรักใช่ไหมจันทร์
โปรดตอบฉัน พระจันทร์สีน้ำเงิน”
ละครน้ำดีของช่อง 7 สีที่มีชื่อเรื่องว่า ‘น้ำพุ’ ที่ถูกเขียนมาจากชีวิตจริงของ สุวรรณี สุคนธา โดยเรื่องจะเล่าถึงตัวละครหลักอย่าง ‘น้ำพุ’ ลูกชายของผู้เขียนที่เสพยาจนต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด ละครเรื่องนี้จะพูดถึงชีวิตครอบครัวซะเป็นส่วนใหญ่ การเลี้ยงดู การปลูกฝังเยาวชนว่าหากเราใส่ใจบุตรน้อยเกินไป ผลที่จะเกิดขึ้นตามมามันยิ่งใหญ่แน่นอน
ในฝั่งของเพลงประกอบเรื่องนี้ เพลง พระจันทร์สีน้ำเงิน เปรียบเสมือนเป็นเพลงธีมหลักของเรื่อง โดยได้ เติ้ล — ตะวัน จารุจินดา ที่รับบทน้ำพุมาร้องเพลงประกอบอีกด้วย สร้างความอินให้กับผู้ที่ได้รับชมละครเรื่องนี้เพิ่มไปอีก ข้อดีอีกหนึ่งอย่างที่เราได้พบในเพลงนี้อีกครั้ง คือพระเอกละครเรื่องนี้ร้องเพลงเพราะอีกแล้ว ก่อนหน้าที่เติ้ลจะมาเล่นละคร เขาเคยเป็นสมาชิกวง BKK อดีตวงป๊อปหน้าใสยุคบุกเบิกอีกด้วย
กลับมาที่เพลงนี้กันต่อครับเนื้อหาของเพลง พระจันทร์สีน้ำเงิน จัดว่าเข้าขั้นดีจริง ๆ การเรียบเรียงทำนองและเนื้อร้องต่าง ๆ ทำได้ไหลลื่น อีกทั้งยังใช้เรื่องราวของพระจันทร์เป็นสิ่งที่สื่อสารกับคนฟังทำให้ทุกอย่างออกมาได้กลมกล่อมและลงตัว เงาสุด ๆ ที่สำคัญนอกจากเพลงนี้ที่เป็นเพลงธีมหลักของละครเรื่องนี้แล้ว เพลง เสียคน ของ เสือ ธนพล ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้เพลงนี้เช่นกัน ว่าไปแล้วก็น่าสนใจเหมือนกันนะครับว่าถ้าละครเรื่องนี้ถูกนำมาสร้างอีกในครั้งยุคปี พ.ศ. 2561 ใครจะเป็นคนมาแสดงบทนี้ ผู้จัดที่ผ่านมาเห็นบทความนี้ ได้โปรดกรุณาเอาละครเรื่องนี้มาสร้างใหม่ทีเถิด
ป๋อ — ณัฐวุฒิ สะกิดใจ และ กบ — สุวนันท์ คงยิ่ง – ฝากหัวใจ
เพลงประกอบละคร มนต์รัก ลูกทุ่ง (พ.ศ.2547)
“ขอฝากสัญญา ทุ่งนาช่วยเป็นพยาน
ถึงตัวไกลกัน ใจผูกพันธ์กันมานานปี
ที่กระท่อมน้อย ปลายนาจะรอคนดู
กองฟางที่เคยหยอกพี่ ไม่มีทางเลือนจากใจ”
ละครไทยอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกนำกลับมาทำบ่อยที่สุด เรียกได้ว่าตลอดการอยู่บนโลกใบนี้ของเราจะเห็นได้ละคร ‘มนต์รักลูกทุ่ง’ remake ทุก ๆ 5 ปี โดยเสน่ห์ที่ทำให้ผู้จัดหยิบละครเรื่องนี้กลับมาทำใหม่อยู่บ่อยครั้งก็คือบทประพันธ์ที่ยอดเยี่ยมและเพลงประกอบที่ไพเราะ ซึ่งในเวอร์ชั่นปี พ.ศ. 2548 นำแสดงโดย ป๋อ — ณัฐวุฒิ สะกิดใจ และ กบ — สุวนันท์ คงยิ่ง คู่ขวัญของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณในเวลานั้นมาแสดงร่วมกัน ส่วนเพลงที่เราหยิบมาพูดกันในบทความนี้คือเพลง ฝากหัวใจ เพลงประกอบละครที่ถูกทำขึ้นมาใหม่และขับร้องโดยคู่พระนางของเรื่องนี้ ความน่าแปลกใจที่รู้สึกได้ตอนรับฟังก็คือ คู่พระนางร้องเพลงเพราะอีกแล้วครับ เรื่องเสียงร้องของทั้งคู่ทำได้ดีมาก ๆ การจับดารามาร้องเพลงลูกทุ่งได้ ในมุมมองของผมถือว่าเก่งมาก ๆ ยิ่งเป็นเพลงลูกทุ่งด้วยยิ่งน่าสนใจครับ ส่วนพาร์ตดนตรีเรียกได้ว่า นำเสนอความเป็นไทยได้ดีมีความเป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ ใครที่เป็นคอลูกทุ่งผมเชื่อว่า เพลงนี้น่าจะเป็นอีก 1 เพลงที่คุณชื่นชอบครับ
อิม แตงโม ทราย – ไม่ว่าง
เพลงประกอบละคร เบญจา คีตา ความรัก (พ.ศ.2547)
“วันนี้ก็ไม่ว่าง พรุ่งนี้ก็ไม่ว่าง
เช้าสายบ่ายโมงก็ไม่ว่าง
ตอนนั้นก็ไม่ว่าง
ตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่ว่าง”
ก่อนจะที่เราจะได้รู้จัก ‘Hormones the Series’ กันในยุคปัจจุบัน รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านั้นเราเคยมีละครไทยพลังวัยรุ่นให้ได้ดูเหมือนกันนั้นก็คือ ‘เบญจา คีตา ความรัก’ ละครที่แจ้งเกิดนักแสดงหน้าใหม่จากช่อง 7 สียกเซ็ต ไล่ชื่อตั้งแต่ เชียร์ — ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์, แตงโม — ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์, ซี — ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์, บิ๊ก — ภุชิสสะ ธนพัฒน์ และอีกมากมายนับไม่ถ้วน โดยละครเรื่องนี้จะเป็นละครที่เกี่ยวกับความรักวัยรุ่นของ 5 หนุ่มนักศึกษาชมรมดนตรีสากลกับ 5 สาวชมรมดนตรีไทย ที่แกนของเรื่องจะผูกด้วยเสียงดนตรีเป็นหลักรวมไปถึง 3 ตัวละครร้ายวัยรุ่นที่มีวงดนตรีมาดึงดูดความสนใจของหนุ่ม ๆ ในเรื่องนี้ด้วย ส่วนตัวเพลงที่เราหยิบยกมาพูดถึงกันในวันนี้ได้แก่เพลง ไม่ว่าง เพลงของเหล่าตัวร้าย 3 สาวที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งการเล่าเรื่อง การร้องประสานที่ดูกลมกล่อมพร้อมกับดนตรีบีตป๊อปแดนซ์ เพลงของพวกเธอทำออกมาได้เด่นกว่าเพลงนางเอกทั้ง 5 คนเสียอีก ฝั่งเนื้อเพลงแค่ฟังครั้งเดียวก็ร้องได้แน่นอนครับ เพราะการใช้คำว่า ‘ไม่ว่าง’ มาเป็นส่วนผสมในเพลงเนี่ยล่ะ มันทำให้รู้สึกว่าไม่ต้องทำอะไรมากในการจำเนื้อเพลง การันตีได้ว่าถ้าฟังเสร็จแล้วฝึกร้องแปปเดียวก็ร้องได้แน่นอน สำหรับใครที่คิดถึงละครเรื่องนี้ลองไปหาเพลงประกอบละครเรื่องนี้มาฟังกันได้นะครับ มีเพลงเด็ด ๆ ในอัลบั้มนี้อีกเพียบเลย
เสือ สูงเนิน – คมแฝก
เพลงประกอบละคร คมแฝก (พ.ศ.2551)
“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ตีต่อตี
ตีตีตีเข้าไป ไม้ตายคมแฝก”
หนึ่งปรากฏการณ์ของละครไทยที่ทำให้เด็ก ๆ สมัยนั้นทุกคนแทบจะหยิบไม้หน้าสามออกมาฟาดฟันกันที่โรงเรียน ‘คมแฝก’ คือละครแอ็กชั่นไทยที่มีกิมมิกในการสร้างสรรค์แปลกประหลาดไม่เหมือนใครในช่วงเวลานั้น เพราะดำเนินเรื่องโดยยึด ‘ไม้คมแฝก’ เป็นศูนย์กลางหลักของเรื่อง รวมไปถึงวิชาหมัดมวยไทยที่เข้ามาเสริม สำหรับเด็กคนไหนที่ชอบความมันผมเชื่อว่าคุณต้องไม่พลาดการรับชมเรื่องนี้แน่ ๆ
ส่วนของเพลงประกอบละครเรื่องนี้จัดได้ว่าเด็ดเช่นกัน วินาทีแรกที่เปิดเพลงมาก็ซัดโซโล่กีตาร์โชว์การปั่นอย่างกระจุยกระจายก่อนที่จะเข้าสู่พาร์ตการร้องที่เสียงของนักร้องกระตุ้นผู้ชมละครได้เป็นอย่างดี ฝั่งเนื้อเพลงก็มีการบิ้วให้กับผู้ฟังอยู่ตลอดเวลา ความร็อกมาเต็มพิกัด ส่วนความเจ๋งอีกอย่างนึงมันอยู่ที่การนำท่าไม้ตายของคมแฝกมาบอกให้กับผู้ฟังได้ครบถ้วนกระบวนท่า ฟังเสร็จแล้วแทบอยากจะจับไม้ออกไปไล่ตีเหล่าผู้ร้ายกันเลยครับ ที่สำคัญเร็ว ๆ นี้เราจะได้ดูคมแฝก เวอร์ชั่น พ.ศ. 2561 กันด้วย ส่วนเรื่องราวในเวอร์ชันปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมกันให้ดีนะครับ
Crescendo – เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
เพลงประกอบละคร เกมร้ายเกมรัก (พ.ศ.2553)
เดินทางกันมาถึงเพลงสุดท้ายกันแล้วและเพลงที่เราหยิบมาพูดกันในครั้งนี้เป็นเพลงจากละครไทยอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างกระแสให้กับแฟนละครทุกท่านติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง การโคจรมาเจอกันของคู่ขวัญสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 แบรี่ — ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า — อุรัสยา เสปอร์บันด์ สร้างความจิ้นและฟินให้กับแฟนละครเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบทบาทการเฉือนคมของทั้งคู่ในเรื่องนี้ก็ทำได้ออกมายอดเยี่ยมทั้งในฉากรักและฉากซีนอารมณ์แจ้งเกิดนักแสดงทั้งสองท่านอย่างสุด ๆ ตัดมา ในส่วนของเพลงประกอบละครเรื่องนี้ได้วง Crescendo มาสร้างสรรค์ให้ เพลง กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม คือเพลงที่พูดถึงเรื่องราวความรักที่ต้องการให้ทุกอย่างกลับมาเป็นอย่างวันแรกที่รักกัน โดยเนื้อเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นจาก หนึ่ง — ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ และเรียบเรียงส่วนผสมดนตรีทั้งหมดผ่านวง Crecendo ทำให้ทุกอย่างมันออกมากลมกล่อม มีกรูฟและจังหวะที่ชวนให้คนร้องตามได้ง่ายรวมไปถึงท่อนฮุกที่ทรงพลัง จึงทำให้เพลงนี้นอกจากจะเป็นเพลงประกอบละครแล้วยังเป็นเพลงที่โด่งดังของวง Crescendo อีกด้วย ปัจจุบันเพลงนี้มียอดวิวรับชมใน YouTube ทั้งหมดอยู่ที่ 68 ล้านวิวเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่ Fungjaizine จะขอหยิบยกเพลงนี้มาอยู่ในทำเนียบเพลงฮิตละครไทยในครั้งนี้
สุดท้ายนี้ผมเชื่อเหลือเกินว่ายังมีเพลงละครไทยที่ดี ๆ และน่าจดจำอีกมากมาย ความทรงจำของแต่ละคนล้วนแล้วแต่จดจำเรื่องราวแตกต่างกันออกไป การเติบโตในแต่ละช่วงเวลาของคนดูก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วหากมีเพลงละครดี ๆ ที่ฮิตประจำใจคุณ เราอยากให้คุณแชร์เรื่องราวเพลงฮิตนั้นให้กับพวกเขาได้รับฟังด้วย เพราะ ความทรงจำมันมีค่าและมีความสุขที่ได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ๆ ครับ หวังว่า บทความนี้จะทำให้คุณคิดถึงเพลงประกอบละครไทยเจ๋ง ๆ นะครับ ขอบคุณครับ