นักกินผัก โดย Srirajah Rockers
- Writer: Montipa Virojpan
นักกินผัก ‘Srirajah Rockers’
คำร้อง: วิน ชูจิตารมย์
ทำนอง: วิน ชูจิตารมย์
เรียบเรียง: ศรีราชา ร๊อคเกอร์
สิ่งที่ทำให้หลายคนจดจำเพลง ‘นักกินผัก’ ของคณะสีชาได้ นอกเหนือไปจากเสียงร้องท่อน โวะ โอะ โอ โอ๊ะ โอ่ย โวะ โอ โอ๊ย แล้ว คงเป็นเสียงผู้ประกาศข่าวหรือผู้ดำเนินรายการที่แทรกเข้ามาเป็นบรรยากาศ คลอไปกับท่วงทำนอง dub ในตอนต้น โดยมีเนื้อความกล่าวถึงการค้นพบสิ่งอัศจรรย์ที่ทำให้เกิดความสุขได้แม้อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มืดหม่นโสมม นี่เองที่ทำให้เราสงสัยเหลือเกินว่า ‘สิ่งอัศจรรย์’ ที่ว่าคืออะไร และเหล่านักกินผักที่ถูกพูดถึงในเพลงนี้คือกลุ่มคนที่เรากำลังนึกถึงอยู่หรือไม่ คำที่เลือกมาใช้ในเพลงนี้ แม้ดูเป็นคำง่ายๆ แต่มีสรรคำที่ออกเสียงใกล้เคียงมาเรียบเรียงไว้ด้วยกันจนกลายเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องสละสลวย วันนี้เราได้ชวน วิน นักร้องนำวง ศรีราชา ร็อคเกอร์ มาพูดคุยกันให้เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง ถึงที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจของเพลง นักกินผัก ใน ฟังเพลงระหว่างบรรทัดฉบับนี้
ความหมายที่แท้จริงของ ‘ผัก’ ในเพลง ‘นักกินผัก’
“ความจริงแล้วผมพูดถึงกัญชา แต่ก็ไม่ได้อยากจะสื่อแบบตรงไปตรงมา เพราะประเทศเราก็ยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ เลยใช้ผักเป็นสัญลักษณ์แทนเข้าไป รวมถึงพยายามใช้คำที่ดูไม่รุนแรง เป็นยาเสพติดให้โทษ แล้วก็อยากพูดถึงนักกินผักในเชิงมังสวิรัติ กลุ่มคนที่ใช้ชีวิตตามแบบ Rastafari คือพวกที่ทำ dreadlocks ฟัง raggae จะไม่กินเนื้อสัตว์ เน้นแต่ผัก เราเลยนำคอนเซปต์นี้มาใช้เป็นนักกินผักในฉบับคนไทย แต่ว่าเนื้อหาจริง ๆ แล้ว เพลงนี้พูดถึง movement ของการกิน ‘ผัก’ นั่นแหละครับ”
ทำไมถึงเลือกใช้คำควบกล้ำ คล้องจอง ออกเสียงใกล้เคียงกันในเพลงนี้
“ผมชอบวิชาภาษาไทย ชอบเสียงวรรณยุกต์ ชอบสัมผัสพยัญชนะ เพราะของที่เรามีอยู่มันสวยงาม แต่งยาก ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ a b c d มันก็สัมผัสของมันได้โดยง่าย ส่วนคำญี่ปุ่น เตะ ๆ อิ ๆ มันก็ง่าย แต่กับคำไทย ลองเปลี่ยนแค่เสียงสูง เสียงต่ำ ไปนิดเดียว ความหมายมันก็เปลี่ยนแล้ว และส่วนตัวผมชอบแต่งกลอน ก็เลยเลือกคำมาใช้ในเพลงให้ดูสวยและสุภาพขึ้น”
เมื่อความทันสมัย ได้เข้ามาทำลายความงามของความรู้สึก ที่ลึกสุดกู่ จนจับต้องไม่ได้ จนทำให้ความเห็นแก่ตัว ความงก ที่ปราศจากน้ำใจ เข้ามากลบเกลื่อน บดบัง จนต้องถูกเก็บซ้อนไว้ อย่างไม่สามารถหลุดลอดออกมาได้ จนกระทั่งมวลมนุษยชาติได้ทำการศึกษา และค้นพบสิ่งอัศจรรย์ขึ้น ที่สามารถสร้างเสริมรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและสัมพันธภาพ สำหรับการเข้าถึงความรักครั้งยิ่งใหญ่ สามารถทำลายความต่ำช้า ที่จับต้องได้ง่าย และผลักดันสิ่งที่เคยเก็บซ้อนไว้ออกมาอย่างจริงใจ จนเกิดเป็นธรรมเนียมของนักกินผักขึ้น ที่สืบทอดกันมานาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย
เราอยากให้เป็น intro ที่ทำให้คนอยากฟัง อยากให้รู้สึกแปลก ขณะเดียวกัน ฟังแล้วก็ต้องดูน่าเชื่อถือ เราเลยให้พี่ที่เป็นผู้สื่อข่าวของ จส.100 ที่รู้จักกับมือกีตาร์ที่เป็นสมาชิกเก่ามาพูดให้ แล้วผมก็เขียนสคริปต์ ให้ดูมีความเป็นปรากฏการณ์ พูดถึงว่าผักตัวนี้มันทำให้โลกช้าลง แต่เราก็ไม่ได้อยากสื่อสารว่าจำเป็นต้องใช้นะ ถึงจะถูก มันเป็นอะไรที่เฉพาะบุคคลมาก ไม่ได้อยากสนับสนุนให้ใครมาใช้ขนาดนั้น
นักกินผัก นักกินผลไม้
ผมพูดถึง Rastafarian คนพวกนี้กินแต่ผักกับผลไม้ ไม่กินเนื้อสัตว์ อย่างมากก็กินแค่อาหารทะเล พวกกุ้งหรือปลาแค่นั้น เป็นธรรมชาติของเขา เหมือนคนบ้านเราที่ใช้ชีวิตพอเพียง เข้าวัด ถือศีล กินเจ อะไรแบบนั้น ผมตั้งใจเปรียบเทียบคล้องกับวลีผัก-ผลไม้ โดยให้ตีความไปถึงคนที่ชอบสูบ หรือเป็น Rastafarian เพราะบางคนอาจเข้าใจผิดได้ว่าเรากำลังพูดถึงฮิปสเตอร์กินมังสวิรัติ ซึ่งที่จริงแล้วเราจะออกแนว Jamaican ที่ปลูกเอง กินเอง และมีความดิบกว่า
เสาะหาทั่วทิศนานมา มนตราพืชผักแมกไม้
ส่องแสงสาดซ่อนพงไพร สร้างเสริมเศษเสี้ยวสุขสันต์
เราตามหาผักชนิดนี้มานาน มันหาค่อนข้างยากเพราะมีความอัศจรรย์แฝงอยู่ภายใน แต่เราก็เตือนเอาไว้เหมือนกันว่า ความสุขที่ได้จากผักชนิดนี้มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความสุข และในความเป็นจริงคนเรายังมีอีกหลายสิ่งที่เราจะหาความสุขจากมันได้
ปราดเปรียวลึกล้ำเรืองรอง เรไรเรียวลมร้อนแรง
ดูดดมดื่มด่ำค่ำเช้า cool sound dub ดี โดนใจ
ในจังหวะที่เรากินผัก เราจะรู้สึกถึงตอนที่ควันมันพุ่งเข้าไปแล้วได้ความรู้สึกลื่นไหล ปราดเปรียว ส่วน cool sound ที่พูดถึงก็คือเพลงเรกเก้ ดั๊บ ที่คนกลุ่มนี้ชอบฟัง คือพอได้ยินเสียงเบสหนึบ ๆ แล้วมันถูกใจ ตามนั้นเลยครับ
สุดท้ายก็เอามาดม เชยชมชวนสะกดใจฉัน
แจ่มใสสดชื่นทันควัน ผ่อนคลายแผ่วพริ้มพร้อมเพรียง
“แค่หยิบมาดม ไม่ต้องสูบก็หอม เหมือนเราได้กลิ่นผักสด ๆ ออร์แกนิก แค่ได้ดมก็ชื่นใจ เหมือนเราถูกสะกดให้สดชื่นแจ่มใสได้ด้วยตัวของมันเอง แล้วพอกินผักเข้าไป เราก็รู้สึกผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กับคนอื่นที่กินกับเรา แค่นั้นเอง ความหมายไม่ได้ลึกล้ำขนาดนั้น แค่ใช้คำยากมาเปรียบเทียบเพื่อให้ความหมายดูอ่อนลงเฉย ๆ
“คนที่ชอบเพลงเร้กเก้ เขาจะชอบอะไรช้า ๆ slow life แล้วผักตัวนี้มันช่วยให้เราช้าลง มีสติมากขึ้น ไม่ใช่สูบตลอดเวลา สูบทุกวัน แต่ใช้ในโอกาสที่เหมาะสม เช่น ก่อนเล่นดนตรี ให้อารมณ์ของเราคงที่มากกว่า คนที่ใช้เป็น เขาจะใช้เป็นยา ใช้ไม่เป็นก็จะเป็นยาเสพติด พวกใช้แล้วไม่ทำอะไรให้เกิดความสร้างสรรค์ ไร้สาระ พวกเราเอาข้อดีของมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ข้อเสียมันก็มีนะ พวก feedback เช่น กลิ่นปาก สายตา การพักผ่อนอาจจะไม่เหมือนคนปกติ แล้วพอต้องครุ่นคิดก็จะคิดเยอะ คิดมาก ถ้าใช้มากเกินไป ความจำจะไม่ดี ไม่รู้นะ หรืออาจจะเป็นบ้าไปเลยก็ได้”
ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่
“เดี๋ยวจะมีอัลบั้มศรีราชา ร๊อคเกอร์ชุดใหม่ ก็ทั้งซ้อมและอัดเพลงกันอยู่ น่าจะเสร็จสิ้นปี ไม่ก็ต้นปีหน้า ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่อยากจะให้อัลบั้มเสร็จก่อนแล้วค่อยมี เหมือนจะได้เปิดตัวอัลบั้มไปด้วย ยังไม่สรุปช่วงที่จะจัดครับ ทางญี่ปุ่น เกาหลี เขาก็ชวนไปเล่น แต่ทางนู้นอยากให้เราทำเพลงเสร็จก่อนเหมือนกัน ให้รู้ว่าเรายังมีความเคลื่อนไหวอยู่นะ เพราะตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอยู่เรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นิ่งแล้ว ส่วนงานแสดงเดี๋ยวจะมีงาน Knack Market, งาน DOOD งาน Cat Expo เล่น acoustic set ที่งานวิ่งในป่าที่เขาใหญ่ แล้วก็งาน Sofar Sound รอบหน้าครับ แล้วก็มี side project เสียงหองไลออนส์ เป็นหมอลำลูกผสม ก็กำลังจะทำเป็นแผ่นเสียงกับ ZudRangMa Records ส่งไปมิกซ์ที่อังกฤษอยู่ ยังไม่เสร็จครับ ส่วนผมเองก็ทำเสื้อผ้า หมวก แบรนด์ บุญหลาย เป็นผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมครามธรรมชาติ ออแกนิค ติดตามได้ในเพจ The Product of Rootsman หรือ Boon Line จะไปขายตามตลาดฮิป ๆ Cheeze หรือ Artbox อะไรพวกนี้ครับ”
ไขข้อสงสัยในกับประเด็นผัก ๆ ในเพลงของพวกเขาไปแล้ว หลายคนคงกินผักกันได้อย่างสบายใจและรื่นรมย์อีกขึ้นเป็นกอง แต่จะให้ดีที่สุดก็กินอาหารให้ครบห้าหมู่จะดีกว่านะ แล้วอย่าลืมติดตามผลงานของ ศรีราชา ร๊อคเกอร์ ได้ทาง Facebook page และฟังเพลงของพวกเขาในฟังใจได้ ที่นี่
