Article Interview

เพราะ ‘คิดถึงขนาด’ จึงขอพูดคุยกับ ‘Somkiat’ ในการกลับมาครั้งนี้

  • Writer: Kunchanit Liengudom
  • Photographer: Chavit Mayot

คิดถึงขนาดล้มลงทั้งยืน….

ตั้งแต่ที่เพลงและมิวสิกวิดีโอตัวล่าสุด Somkiat ออกมาเราก็ร้องท่อนฮุกอันแสนติดหูนี่กันไม่หยุด หลังจากที่ห่างหายไปนานถึงสองปีจากอัลบั้มเต็มชุดแรกจนแฟน ๆ หลายคนเกิดอาการคิดถึง พวกเขากลับมาแล้วจ้า! แถมมาพร้อมซิงเกิ้ล คิดถึงขนาด ที่ทำออกมาได้ไพเราะติดอกติดใจชาวเราเหมือนเดิม แถมมิวสิกวิดีโอก็น่ารัก ขี้เล่น มีหยอดมุกให้ได้อมยิ้มแอบขำกันไป และที่สำคัญคือตอนนี้พวกเขาก็กำลังทำอัลบั้มใหม่กันอยู่ด้วย

ไม่รีรอเรารีบติดต่อขอพูดคุยกับ Somkiat จนนัดแนะสถานที่กันได้ ณ RCA และด้วยเหตุใดไม่ทราบสุดท้ายดันมาลงเอยกันที่ร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งในละแวกร้าน NOMA (หรือที่สมาชิกในวงยังติดเรียกกันว่า Cosmic ที่ที่พวกเขาเคยมีความหลังร่วมกัน) แทน เรียกได้ว่าคุยไปกินไป เพลิน ๆ นัว ๆ ซึ่งในตอนแรกก็มีสมาชิกเพียงสี่คนคือ โบ๊ท บอส นนท์ และนัท ส่วนยิ้ม สมาชิกอีกคนเพิ่งเกิดอุบัติเหตุทางรถมาในวันก่อนหน้า จึงมีเหตุให้ต้องตามมาสมทบภายหลัง แต่อย่าห่วงไปพี่เขาปลอดภัยดี แถมเฮฮาและคุยสนุกไม่แพ้คนอื่น ๆ เลย อะ ก็ถือว่าเกริ่นมาได้พักนึงละ ไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยเถอะ

นนท์–ธนญ แสงเล็ก (กีตาร์, คอรัส)
ยิ้ม–ประวิทย์ ฮันสเตน (กลอง)
โบ๊ท–คนาวิน เชื้อแถว (ร้องนำ)
บอส–ภูริช พันธุ์สุข (กีตาร์)
นัท–ณัฐ เบญจรงค์รัตน์ (เบส)

คิดถึงขนาด นี่คิดถึงใคร

โบ๊ท: จริง ๆ ปกติทุกเพลงเราอยากจะให้มันเป็นกลาง อยากให้มันตีความได้หลายทางหลายความหมาย (บอส: คิดถึงใครก็ได้) ใช่ครับ ไม่ได้อยากจะให้มุ่งไปว่าคิดถึงเพื่อนผู้หญิงรึเปล่าเอ่ย คิดถึงเพื่อนผู้ชายก็ได้ แล้วก็เศร้า มันจะเศร้าซะขนาดนั้นเลยรึเปล่าเอ่ย เปล่าครับ มันอาจจะยิ้มก็ได้

บอส: ใช่ครับ เพราะว่าเอาจริง ๆ เวลาคิดถึงเนี่ย ตอนเกิดความคิดถึงเรายังไม่รู้เลยว่ามันเสียใจหรือว่ามันดีใจ มันแค่คิดถึงมาก ๆ

‘ขนาด’ = ‘มาก ๆ’ ในภาษาเหนือ

โบ๊ท: ใช่ครับ อันนั้นก็ด้วย แต่ว่าจริง ๆ ในเพลงเราอยากจะย้ำเรื่องปริมาณที่มันเยอะจนล้มลงทั้งยืน ก็เลยเป็นคำเชื่อมต่อกันเป็น ‘ขนาดล้มลงทั้งยืน’

บอส: แต่มันจะสื่อออกมาเป็นอย่างนั้นก็ได้ เป็นกิมมิคของคำว่า ‘มาก ๆ’ ได้ทั้งภาษาเหนือและอีสาน เราอยากให้มันเล่นได้หลายความหมายไง 

นนท์: จริง ๆ ตอนทำเดโม่เพลงนี้ก็ชื่อว่าคิดถึงขนาด อยู่แล้ว เพราะมันเป็นคำแรกเลยที่ปั้งออกมา คือเราเป็นคนเหนืออยู่แล้ว ก็เลยบอกเพื่อน ๆ ว่าคำนี้มันเป็นคำในภาษาเหนือนะ อะไรแบบนี้

ติดใจอะไรกับแนวเพลง 90s หรือเปล่า เพราะดนตรีในเพลงนี้แอบทำให้นึกถึงเพลง ลืมไม่หมด ที่ประกอบภาพยนตร์ ‘ภวังค์รัก’ (Concrete Clouds) ที่เราคัฟเวอร์เพลงของ ติ๊ก ชีโร่

นนท์: จริง ๆ เราทำโดยไม่ได้มียุคหรือมีอะไรที่มาครอบเราก่อนนะ อันนี้อาจจะด้วยคำว่า ‘คิดถึงขนาด’ ด้วยแหละ เวลา arrange หรืออะไร เราก็จะใส่ความเยอะเข้าไปในเพลง ให้มันมากแต่ฟังแล้วก็ยังสละสลวยอยู่ ส่วนเรื่อง 90s หรือเปล่าอันนี้ทางวงก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน คือพวกเรื่องสไตล์หรือแนวเพลงอะไรแบบนี้ เราไม่ได้ไปใส่ใจว่าต้องทำเป็นแนวนี้ ๆ นะ

นัท: ไม่ได้จะต้องอิงไปแนวใดแนวหนึ่ง

บอส: เราชอบอะไรเราก็ใส่ แต่ว่าถ้าคนจะตีความมันก็แล้วแต่ว่าคนเขาจะมองไปยังไง แล้วแต่มุมมอง

มีหลาย ๆ คนพยายามถอดรหัส ‘คิด’ ในมิวสิกวิดีโอ สรุปมันมีอะไรบ้าง เฉลยหน่อย

Somkiat: เยอะมาก รวมทุกคิดแฝงไว้ครับ อันดับแรกก็มี คิทแคท, คิทเท่น, ลูกคิด, คิดเลข, คริสตี้, ย้ำคิดย้ำทำ, คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส, คริสมาสต์ แล้วก็ฉาก Alex Turner จะเป็นคิดเนื้อไม่ออก เพราะว่ามันจะมีที่เขาไปเล่นที่หนึ่งตอนสกินเฮด เขาร้องแล้วลืมเนื้อกลางเพลง จีน (ผู้กำกับ) เขาเห็นตรงนี้ แล้ววงนี้ก็ชอบ Arctic Monkeys กันอยู่แล้วด้วยก็เลยฟลิปกลับมา

บอส: จริง ๆ ทุกอย่างที่ใส่เข้าไป มากกว่านั้นมันจะออกมาจากคนที่ดูก็ได้เหมือนกัน เพราะเราไปดู มีคนแบบ ‘m&m ร้องเพลง Kiss Me อ๋อคิส !’ มันมีคนไปตีความอะไรที่เราคิดไม่ถึงอีกอะ จริง ๆ ก็อยากให้มันเปิดอยู่แล้ว ถ้าใครจะไปคิดหมกมุ่นอะไรมาก ๆ มันก็แล้วแต่เขา เราเลยเปิดโอกาส ไม่ได้บอกว่าคิดไหนมันเป็นคิดอะไรซะขนาดนั้น เพราะจริง ๆ ถ้ามาคิดมาก ๆ กับ mv นี่ก็เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่เราอยากให้คิดนะ

ร่วมงานกับ จีน–คำขวัญ ดวงมณี เป็นอย่างไรบ้าง

โบ๊ท: สนุกมากครับ เป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกับจีน แล้วก็ความจริงมีผู้กำกับร่วมกันสองคน อีกคนคือ น้องตุลย์ณัฐดนัย ป้อมบ้านตา ตอนแรกก็ไม่นึกว่าเราจะได้สนุกได้ตลกกันขนาดนี้อะครับ แต่พอบอกว่าเรามีเพลงแบบนี้นะ แต่จะไม่ดึงไปเศร้านะ อยากได้ให้มันยิ้ม ๆ หน่อย มีความสุข คิดถึงแบบแฮปปี้ จีนเขาก็เลยจัดมาให้เราแบบนี้ เราก็เลยพร้อมเลย มา ถ้าอย่างนี้ชอบเลย

บอส: เพราะจริง ๆ เราอยากให้เพลงมันเพิ่มพลังด้านบวก อยากให้มันส่งต่อให้คนอื่น เวลาคิดถึงบางทีถ้าหมกมุ่นแล้วมันเศร้าไง แต่ในอีกมุมบางทีมันอาจจะคิดถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกันก็ได้

คอสตูมในมิวสิกวิดีโอค่อนข้างโดดเด่นและเป็นที่พูดถึงอยู่เหมือนกัน มันบอกใบ้ถึงอะไรในอัลบั้มใหม่หรือเปล่า

บอส: จริง ๆ ในอัลบั้มใหม่ คอสตูมเราไม่ได้เป็นแบบนี้นะ เพราะว่าอันนี้มันเป็นเหมือนโลกแฟนซี แต่ว่า mv ต่อ ๆ ไปเราก็จะทำให้มันสนุกขึ้น เรากะจะทดลองอะไรใหม่ ๆ ส่วนทิศทางเราก็ยังลุยไปเรื่อย ๆ กันอยู่อะเนอะ ก็น่าจะมีอะไรใหม่ ๆ ประหลาด ๆ หรือว่าสนุกสนานให้ดูตลอด จริง ๆ อัลบั้มนี้ก็คิดว่าน่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นทุกอันเลยอะ

โบ๊ท: สมเกียรติมักจะชอบทำเป็นงานทดลองกันมาตลอดอะครับ เริ่มใหม่ได้อยู่ตลอด ไม่อยากจะจำเจอยู่กับอะไรเดิม ๆ อย่างตอนเห็นชุดเพลงนี้ตอนแรกก็โอ๊ะ สนุกแน่ ถ้าดู mv ก็จะรู้เลยว่าพอหลังจากที่ล้มลงไปกันหมดทุกคนแล้ว พอปุ๊บขึ้นมาอะ มันเหมือนเข้าไปในห้วงของความคิด ทุกอย่างก็จะเป็นแฟนซีละ

มีคนกล่าวถึงและชื่นชมการแต่งตัวของบอสอยู่บ่อย ๆ ในคอลัมน์ What I Wear ของ ฟังใจ เรามีความเห็นอย่างไรบ้าง

บอส: จริงเหรอฮะ จริง ๆ เราแต่งให้มันสบายที่สุด คือเพื่อน ๆ มีกิจกรรมอิสระ ชอบเล่นสเก็ตกันอยู่แล้ว เราจะชอบพวกวงที่แต่งตัวทางนี้ ความเป็น 90s มันอาจจะออกมาทางการแต่งตัวของพวกเราบางทีด้วย แต่จริง ๆ เราชอบหมดเลยนะ แล้วการแต่งตัวของ Somkiat คือเราจะช่วยกันดูในวง เราจะชอบไปซื้อเสื้อด้วยกัน ส่งอะไรให้กัน อะไรแบบนี้ เหมือนแต่ละคนรู้ว่าของใครเป็นสไตล์ไหน พอเราไปเจอเราก็จะเฮ้ย เอาเปล่า การแต่งตัวมันเป็นอะไรที่สนุกอย่างหนึ่ง เราได้ออกมาลองอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน ถ้าเราแต่งตัวเหมือนเดิมก็จะรู้สึกว่าออกมาทำอะไรเดิม ๆ ใช่ไหม พอเราลองสิ่งใหม่หรือแต่งตัวใหม่ พอออกไปก็เหมือนเราเป็นคนใหม่ วันนี้เราบ้าได้อีกหน่อยเว้ย

นัท: แต่ถุงเท้าเนี่ยหยิบมาผิดคู่นะครับ (ชี้ให้ดูถุงเท้าข้างละสีของบอส)

คนที่คิดถึงขนาดจนอยากมอบเพลงนี้ให้

บอส: ของเราเป็นแฟนเพลงแล้วกัน เพราะรู้สึกว่าตอนนี้อยากออกไปเจอมาก ๆ พอได้กลับมาทำอัลบั้มซึ่งเดโม่เสร็จหมดแล้ว รู้สึกว่าจะได้กลับมาเต็มที่ ก็เลยอยากเจอแฟนเพลง ทุก ๆ ภาคนะครับ ไม่ใช่ภาคเหนืออย่างเดียว

โบ๊ท: คุณแม่ครับ เพราะใกล้จะวันเกิดผมแล้วก็ยังไม่ได้เจอกันเลย แอบคิดถึงอยู่ เดี๋ยวว่าจะแวะลงไปหาที่ชลบุรีหน่อย

นัท: ของผมเป็นเพื่อนในวง… ตอนนี้คิดถึงไอ้ยิ้มครับ (ณ ตอนนั้นคือยิ้มอยู่ระหว่างการเดินทางมาสัมภาษณ์เนื่องจากต้องเอารถที่เกิดอุบัติเหตุไปเข้าอู่) เป็นห่วงเพื่อน แต่ก็ยังดีที่ยิ้มเขาระเบียบวินัยดี ใส่เข็มขัดนิรภัยเลยไม่ได้เป็นอะไร

นนท์: เพลงนี้ถ้าสำหรับผม อยากมอบให้ทุก ๆ คนเลย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ แฟน หรือว่าเพื่อน คนที่ไม่รู้จัก ไอ้บอส (ยิ้ม: เจ๊ดโด้ว พี่เบิร์ดรักทุกคน) ใช่ จริง ๆ เพลงนี้อยากให้ทุกคนครับ เป็นเพลงที่สามารถฟังได้ทุกวัย (นัท: กลายเป็นพี่นนท์รักทุกคน)

ปกติถ้าคิดถึงใครสักคนจะทำอย่างไร เป็นพวกแสดงออกไหมหรือคิดถึงเงียบ ๆ คนเดียวดีกว่า

โบ๊ท: แล้วแต่โอกาส บางทีกับคนกล้าบอกเราก็จะบอก กับคนที่ไม่กล้าบอกก็จะมีมุมที่ไม่กล้าพูดเหมือนกัน

บอส: อาจจะมีเบาะแสทำให้รู้ว่าคิดถึงนะ

เรื่องอะไรที่คิดถึงมากที่สุดในระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มทำวงมา

บอส: คิดถึงช่วงที่ทำวงตอนอยู่มหาลัยครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรายังไม่ต้องมีอะไรให้รับผิดชอบ มันเป็นอะไรที่เราสนุกได้เต็มที่จริง ๆ ตอนนี้ก็ยังสนุกอยู่แต่ว่าพอเราโตขึ้นเราต้องยอมรับว่ามันมีอะไรมาให้เราต้องคิดมากขึ้น สมัยนั้นมันคือการทำวงดนตรีที่มีแต่พลังออกไปอย่างเดียว ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย มันแค่ทำเหอะ ไม่ต้องสนใจรอบข้าง เราบ้า อยากทำอะไรก็ทำ คิดถึงช่วงนั้น

นัท: เหมือนกับว่ายิ่งโต เราก็ยิ่งมีทิฐิมากขึ้น ยิ่งคิดถึงเรื่องนู่นเรื่องนี่มากขึ้น เหมือนประสบการณ์มากขึ้นมันก็ทำให้เราคิดว่าเฮ้ย ถ้าเราทำแบบนี้ไปบางทีมันอาจจะไม่ดีหรือเปล่า

บอส: รู้สึกว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ทำให้เราเป็นคนแบบนี้แหละ จากที่ทำอะไรโดยไม่คิด หรือทำอะไรโดยที่คิดมันทำให้เรากลายเป็นผู้ใหญ่วันนี้ เราโตแล้วเปล่าวะ (หันไปถามคนอื่น) โตขึ้นบ้างแหละเนอะ

จังหวะนั้นเองยิ้มก็เดินทางมาถึง แล้วก็เล่าให้เราฟังถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงการสวดนะโมที่ทำให้รอดมาได้ทำให้เขาเริ่มรักพระพุทธศาสนาแล้ว หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเราก็เริ่มซัดคำถามเขาต่อเลยว่าเขาคิดถึงเรื่องในอดีตของวงเรื่องไหนมากที่สุด

ยิ้ม: นึกถึงวันที่แก๊งนี้มาที่ห้องแล้วบิ๊วเรื่องปูอลาสก้า เพราะหลัง ๆ พูดถึงเรื่องนี้บ่อยมาก นึกถึงโมเมนต์นั้น

นนท์: เป็นโมเมนต์ที่กำลังจะไปแข่ง Coke Music Awards คือมันเป็นวันแรกที่มีคลิปโฆษณาออกมาว่าจะมีการประกวดนี้เกิดขึ้น เราก็เห็นกัน คราวนี้ก็เลยรวมตัวกันที่ห้องไอ้ยิ้ม ดูกันว่ารางวัลมีอะไรบ้างวะ ก็มีรางวัลไปญี่ปุ่น แต่คือเขาเพิ่งโพสต์คลิปมาเฉย ๆ เองนะ (หัวเราะ)

บอส: ไปเที่ยว Summer Sonic เอาแล้ว! (ตะโกนเสียงสูง) ‘เราชนะเราไปกินไรกันดีวะ’ ‘กินปู เฮ้ !’ คือฉลองแล้วอะ เหมือนชนะแล้วอะ 

ยิ้ม: เออแต่หลัง ๆ พูดถึงเรื่องนี้บ่อย

บอส: คิดถึงช่วงเวลาตอนยังเรียนอยู่ไง ตอนนั้นอยู่มหาลัยกันอยู่

นนท์: ช่วงเวลามหาลัยก็เป็นช่วงที่คิดถึงมาก ๆ เหมือนกันเพราะว่ามันผ่านมาแล้ว แล้วเราคงไม่ได้กลับไปแล้วกับเพื่อนเราพร้อมกัน 5 คนแบบเนี้ย อยากมีไทม์แมชชีนกลับไปสนุกกันใหม่ จะเอาให้สุดกว่าเดิม (หัวเราะ)

หลังจากอัลบั้มแรก ‘_SARA’ นี่ก็ผ่านมาเกือบ ๆ สองปีแล้ว นอกจากการทำเพลงในอัลบั้มใหม่ เราได้ไปทำอะไรกันมาอีกบ้าง

โบ๊ท: เราเคยสอนดนตรี ตอนนี้ก็ยังสอนอยู่ ทุกคนเลยครับ

บอส: สมัยก่อนเคยเปิดกับ Smallroom เป็น Smallroom Music Camp พี่รุ่ง–รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ ไว้ใจให้พวกเราช่วยกันดูและคุมโปรเจกต์ ก็จะมีพี่เติ้ล Two Pills After Meal อีกคนช่วยกัน ดีใจมาก ตอนนั้นสนุกมากครับ

คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มใหม่

ยิ้ม: น่าจะเป็นการต่อยอดจากชุดแรกแหละครับ พอเราอยู่ด้วยกันนานขึ้น ทำเพลงด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว หรือออกทัวร์ด้วยกันแบบเนี้ย เราก็สัมผัสได้ถึงความเซนซิทีฟของแต่ละคน คือพวกเราอยู่กันเป็นครอบครัวจริง ๆ แล้วรู้จักกันในดีเทลมากขึ้น รู้สึกร่วมต่อกันมากขึ้น รวมถึงครอบครัวของแต่ละคน เพื่อนร่วมงานอะไรแบบนี้ หรือมันอาจจะเป็นเพราะอายุด้วยมั้ง แล้วเราก็รู้สึกว่าชุดแรกของเราอะ ถ้าเปรียบเทียบเป็นสิ่งของมันก็คงจะแข็ง มันจะแข็ง ๆ โต้ง ๆ งั้นชุดนี้จะลองให้มันนุ่มขึ้นไหม (โบ๊ท: ตัดมน ทำขอบให้มันหน่อย)

นนท์: แต่ก็เหมือนอย่างที่บอกอะครับ เราโตขึ้นจากตอนนั้นด้วย ซึ่งแนวเพลงเราก็อาจจะระบุไม่ได้จริง ๆ มันอาจจะเป็นความเซอไพรส์ก็ได้ที่ต้องรอฟัง

โบ๊ท: ความสนุกคือเราอยากให้คนดูตีความมันด้วยตัวเองอะ

บอส: เพราะเราไม่ได้จำกัดว่าเพลงของเรามันเป็นแนวอะไร เหมือนถ้าเพลงนี้ไปอินอะไรกันมาอีกอย่างหนึ่งอีกแนวหนึ่งแล้วชอบมาก ๆ ก็จะมาใส่ให้มันเป็นในแบบสมเกียรติอะแหละ ที่บอกเรื่อง mv ก็เหมือนกัน ทั้งภาพและเสียงอยากให้มันตื่นเต้น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันไปเรื่อย ๆ

ยิ้ม: มันเหมือนเราเชื่อใจในเทสต์ของพวกเราทั้งห้าคน ไม่ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ถ้าพวกคุณชอบก็โอเคอะ มันเลยไม่ได้มีคำจำกัดความว่าเป็นอัลเทอร์เนทีฟหรืออะไร แต่ที่เราบอกว่ามันจะกลมขึ้น ไม่ได้แปลว่ามันจะช้าทั้งชุดนะ มันอาจจะมีความเซนสิทีฟบางอย่างอยู่ในดีเทลอะไรแบบนี้

กำหนดการออกอัลบั้มล่ะ

ยิ้ม: กำหนดการล่ะเด้อ ! (เสียงดัง)

นนท์: เอาคร่าว ๆ ซิงเกิลสองจะออกเร็ว ๆ นี้ คือประมาณอีกเดือนสองเดือน แต่ว่าเราจะไม่หายไปไหน คือทั้งปีนี้ปีหน้า เราจะอยู่อย่างเนี้ยแหละ

ยิ้ม: จนกว่าจะโดนไล่ไปเล่นตรงนู้น

โบ๊ท: ประมาณนี้ครับ ขอฝากชาวฟังใจไว้ด้วย

เด็กชาย สมเกียรติ เติบโตขึ้นอย่างไรบ้างจากสมัย Coke Music Awards จนถึงตอนนี้

โบ๊ท: อันนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น เป็นบันไดขั้นแรกให้เราพัฒนาผลงานเพลงของเราต่อมาอีกจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าโตมาเป็นเด็กดี

บอส: ถือว่าเป็นเด็กดีนะ มีวินัยแล้วก็น่าจะพัฒนาประเทศชาติได้อย่างมีคุณภาพ (ทำเสียงแบบผู้ทรงคุณวุฒิ) ก็คงสนุกเหมือนเดิมครับ

ยิ้ม: จริง ๆ ก็เหมือน Benjamin Button เบา ๆ ปะ พอเรายิ่งโตแล้วยิ่งรู้สึกเหมือนเด็กลง

บอส: เด็กลงแต่ก็เข้าใจอะไรมากขึ้น

แล้วสมัยนี้เวทีการประกวดแบบ Coke Music Awards ยังมีอยู่เยอะไหม โอกาสของวงอินดี้รุ่นใหม่ ๆ มีเยอะหรือน้อยขึ้นอย่างไรในสายตาเรา

บอส: จริง ๆ ตอนที่ประกวดด้วยกันตอนนั้นอะ ตอนนี้ทุกคนก็ยังอยู่ในวงการดนตรีด้วยกันหมดเลย อย่าง Safeplanet ตอนนั้นก็ประกวดด้วยกัน คือทุกคนก็ทำวง เดี๋ยวนี้การประกวดมันน้อยลงแต่มันก็ยังมีแหละ เพราะว่าเดี๋ยวนี้โซเชียลมันกว้าง สมัยก่อนช่องทางมันน้อยในการที่จะออกไปให้คนเห็นอะ แต่เดี๋ยวนี้เรามีศักยภาพที่จะทำอะไรเอง ถ่ายเอง หรือทำพอร์ตด้วยตัวเองได้อย่างดี คือยุคนี้การประกวดมันก็ยังมีคุณค่าอยู่ในการที่จะฝ่าฟัน แต่จริง ๆ เริ่มด้วยการประกวดกับตัวเองที่บ้านก็ได้

นนท์: ก็คือมีหลายทางเลือกไม่ว่าจะไปทางไหน ไปประกวดก็เป็นอีกทางนึงที่จะสร้างวงได้ หรือทำสตูดิโอในห้องนอน ทำเพลงลง YouTube ก็ได้ (บอส: จุดหมายจุดเดียวกัน) ใช่ แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกทางไหน

ยิ้ม: อุ้ย เกือบเป็นโฆษณาได้เลยนะ ‘จุดหมายจุดเดียวกัน อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกทางไหน !’ (ทุกคน: เฮ !) แล้วแบบชนแก้วอะ

บอส: การประกวดมันยังมีอยู่แต่มันเปลี่ยนรูปแบบไป มันจะไม่ใช่แบบมีโปสเตอร์ประกวด แล้วคนก็ไปประกวดกัน แต่เดี๋ยวนี้มันก็เปลี่ยนไปในรูปแบบเกมโชว์ต่าง ๆ แต่บางคนถ้าเข้าไปแล้วไม่ได้อย่างนี้ อย่าไปคิดว่าต้องรอการประกวดต่อไป เราลุยเลยก็ได้ นึกออกไหม (นนท์: การประกวดไม่ใช่ที่สุดของชีวิต ชนะมาก็ไม่ใช่ที่สุดนะ แค่เปิดทางให้เราเฉย ๆ) อย่างของเราอะตอนประกวดเสร็จปุ๊ป เราก็ต้องส่งเดโม่เพื่อเข้าไปในค่าย Smallroom อยู่ดี เป็น 40-50 เพลงอยู่ดี

ยิ้ม: ตอนนั้นส่งกันอยู่ปีสองปี

นัท: มันเหมือนเป็นโอกาสมากกว่า เป็นแค่โอกาสโอกาสหนึ่ง คือถ้าเราลงโซเชียลมันก็เป็นโอกาสนะ ถ้ามีคนชอบมันก็ได้เหมือนกัน

ศิลปินที่ Somkiat อยากร่วมงานด้วยถ้ามีโอกาส

ยิ้ม: ยังคงเป็น แร็ปเอก คนเดิม กับพี่วิน The Ginkz ขอเป็นแก๊งนี้เลยได้ไหม ก็ยังคงเป็นแฟนคลับเหมือนเดิม แม้กระทั่งพี่วินทำเพลงคัฟเวอร์เดี่ยวก็ชอบ อยากให้พี่วินเอาเพลงเราไปทำคัฟเวอร์เหมือนกันนะ

นนท์: ของผมเป็นสายคลาสสิกหน่อยครับ อยากทำเพลงกับ Mozart (บอส: ก็คืออยากไปทำกับคนที่เริ่มต้นตอเลย) แต่ว่าอาจจะต้องรอผลงานกันหน่อยทั้งชีวิตนี้

บอส: Whal & Dolph ครับ เป็นเพื่อนกัน เคยไปเล่นด้วยกันแล้วรู้สึกว่าสนุก ถ้าได้ร่วมงานกับปอและน้ำวนที่เป็นเพื่อนกันด้วยก็คงสนุกดี

โบ๊ท: พี่โตครับ พวกเราชอบผลงานของ Silly Fools กันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อยู่แล้วครับ แล้วก็มาถูกใจมาก ๆ ก็เรื่องเนื้อเพลงครับ ชอบการถ่ายทอดของพี่โต ถ้ามีโอกาสแล้วพี่โตกลับมาก็น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ

นัท: จริง ๆ เราชอบ Paradox ด้วย

ฝากผลงานของ Somkiat หน่อย

นนท์: ก็นอกจาก คิดถึงขนาด แล้ว เราจะมีซิงเกิลที่สองอีกเร็ว ๆ นี้ ก็คอยติดตามกันนะครับ

โบ๊ท: แล้วก็เพลง คิดถึงขนาด ขอฝากด้วยครับ เป็นซิงเกิลล่าสุดของพวกเรา อยากให้เข้าไปฟังใน YouTube กันเยอะ ๆ เข้าไปตามในเพจของเราและ Smallroom กันครับ

บอส: อันนี้สำคัญเลยเพิ่งเปิดใหม่เลย Twitter @SomkiatReporter อันนี้เราจะรายงานอะไรที่ไร้สาระไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีสาระด้วย

นนท์: มีสโลแกนไหม

บอส: ’เจาะทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน’ (นัท: คุ้น ๆ นะ) อ่าวเหรอ กูคิดมาเองเลยนะเนี่ย

โบ๊ท: โอโห มึงคิดเองเลยเหรอเนี่ย มึงคิดว่า ‘เจาะข่าวเด่น ประเด็นร้อน’ นี่ใหม่สุด ๆ เลยเหรอ บอกกูที

Facebook Comments

Next:


Kunchanit Liengudom

นิดหน่อย อินเทิร์น ณ ฟังใจ, สิงหา-กันยา ปี 61 ช่วงที่เพื่อนฝึกงานออกกันไปหมดแล้ว รักการดูหนัง ชื่นชอบการฟังเพลงที่ร้องตามได้เป็นพิเศษ