สนามหลวงสวนสนาม บอย Lomosonic x อิ้งค์​ วรันธร ใน คู่ Dare & Dear ในงานสนามหลวงสวนสนาม

Article Interview

บิลด์ความตื่นเต้นไปกับ อิ้งค์ วรันธร และ บอย Lomosonic ก่อนไปเจอกันในงานใหญ่ ‘สนามหลวงสวนสนาม’

  • Writer: Malaivee Swangpol
  • Photographer: Sanam Luang Music staff

กลับมาอีกครั้งกับคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของค่ายสนามหลวงมิวสิก กับงาน ‘สนามหลวงสวนสนาม’ ซึ่งคราวนี้จะมาทั้งศิลปินปัจจุบัน ศิษย์เก่า และเพื่อน ๆ ศิลปินมากมาย ส่วนตอนนี้เราได้มานั่งคุยกับศิลปินคู่ Dare & Dear ทั้งนักร้องสายร็อก บอย Lomosonic และสาวอิเล็กทรอนิคป๊อป อิ้งค์ วรันธร ตามมาอ่านกัน ว่าทั้งคู่จะมีเรื่องราวและมีเซอร์ไพรส์อะไรมาเล่าให้ฟังกันบ้าง

ที่มาที่ไปของคู่ Dare & Dear ใน ‘ สนามหลวงสวนสนาม ‘

บอย: มาจากโปรเจกต์ของสนามหลวงซึ่งเขาจะมีงานใหญ่ประจำปี ทีนี้เราอยากทำให้โชว์มันพิเศษเลยหาคนมาร่วมงาน เลยสรุปว่าเป็นอิ้งค์ วรันธร ครับ

อิ้งค์: อิ้งค์ก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่ ๆ ที่ค่าย ว่ามีการติดต่อมาให้เป็นเกสต์ให้พี่ ๆ Lomosonic ตอนนั้นก็แอบคิดเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่พอได้ปรึกษาพี่พล Boxx กับพี่ ๆ ที่ค่าย ทุกคนก็รู้สึกว่าน่าสนใจ แล้วตัวอิ้งค์ก็ไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้ว บวกกับเป็นแฟนเพลงอยู่แล้วด้วย ก็เลยตกลง รู้สึกว่าน่าสนุกดี 

อิ้งค์จะร้องเพลงร็อกหรือเปล่า

อิ้งค์: คือทุกคนจะมีภาพในหัวว่าเดี๋ยวคอนเสิร์ตนี้อิ้งค์ร้องเพลงร็อกแน่อน แต่ว่าจริง ๆ แล้วความสนุกก็คือ อิ้งค์อาจจะไม่ได้ร้องเพลงร็อกก็ได้ อาจจะเป็นเพลงของพี่ ๆ ในเวอร์ชั่นอิ้งค์ก็ได้ อันนี้ก็ต้องรอติดตามกันค่ะ

ปกติฟังเพลงร็อกไหม

อิ้งค์: สัดส่วนเพลงร็อกที่อยู่ในชีวิตอิ้งค์ไม่ได้เยอะมาก อิ้งค์จะฟังในช่วงชีวิตหรือบางเพลงที่มันมาตรงกับความรู้สึกเรา อย่างคอนเสิร์ตพี่ ๆ Lomosonic อิ้งค์ก็ไปดู เพราะอิ้งค์รู้สึกว่าเพลงร็อกมันก็มีพลังงานอีกแบบนึง คือเราเป็นคนเปิดใจมาก ๆ ในการฟังเพลงทุก ๆ แบบอยู่แล้ว ขนาดเรียนร้องเพลงยังไปเรียนโอเปร่า (หัวเราะ)​ คือรู้สึกว่ามันไปได้ทุกแนว ดนตรีมันไม่มีกฎตายตัวอะไรขนาดนั้น ถ้าเราอินก็ชอบ อย่างวงที่ชอบฟังก็ Lomosonic (หัวเราะ)

บอย: โอ้โห เอาไป ๆ เอาตังค์ไปเลย (หัวเราะ)​

อิ้งค์: อยู่เป็นปะ ๆ (หัวเราะ)​ จริง ๆ อย่างสมัยเรียน Moderndog ก็ฟัง เวลา Bodyslam มีคอนเสิร์ตก็ไปดู​ แต่ส่วนมากจะเป็นสายวงร็อกไทย ถ้าสากลเน้นฟังป๊อปสากลมากกว่า

อิ้งค์​ วรันธร ยิ้ม ละมุน

บอยจะมาร้องเพลงป๊อปด้วยไหม

บอย: อืม… (นิ่งคิด)​ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าสัดส่วนในโชว์จะเป็นยังไง ทั้งการปรากฏตัว วิธีการทำงาน และอะไรต่าง ๆ ที่หลังจากนี้ต้องกลับไปทำการบ้านครับ ยังตอบคำถามไม่ได้ว่าจะร้องหรือเปล่า แต่จริง ๆ ผมก็คนเพลงป๊อปนะฮะ

อิ้งค์: เอาจริง ๆ อย่างตอนพี่บอยร้องปกติ อิ้งค์ก็คิดว่ามันคือเสียงผู้ชายที่เสียงดีคนนึง (บอย: โหจริงเหรอ!) ถ้าไม่ได้ว้ากออกมานะ ก็คือเป็นเพลงที่เราฟังสบายหูปกติ

ปกติชอบฟังเพลงป๊อปของศิลปินคนไหน

บอย: ฟังอิ้งค์ วรันธร ไง ​(หัวเราะ)​ ใช่ ๆ สุดยอดแล้วฮะ (หัวเราะ)​ เพลง ถ้าฉันหายไป ไม่ใช่! นั่นมันเอิ้ต (หัวเราะ)​ จริง ๆ ผมฟังหมดครับ  ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องฟังเพลงร็อกเลย ฟังเพราะต้องใช้ในการทำงาน บางทีเราเอาส่วนผสม ข้อดี เอาลักษณะพิเศษของแต่ละแนวมาทำงานได้ ผมฟังกว้าง ๆ ครับ ฮิปฮอปก็ฟัง จริง ๆ ผมเป็นแฟนตัวจริงของ Mumford & Sons, Fleet Foxes, The Avett Brothers พวกวงประมาณนี้ แล้วก็ชอบฟังแจ๊สมากนะ แต่หน้าผมไม่ให้เท่านั้นเอง (หัวเราะ)​ ผมฟัง แล้วก็มีซีดี John Coltrane หมดทุกชุดเลย หมอลำ เพลง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หรือเพลง แตงโมจินตหรา ก็ฟัง มันมีประโยชน์เวลาเรามาตั้งคำถามว่าทำไมมันถึงฮิตอะ เพราะท้ายที่สุดแล้ววิทยาศาสตร์มันพิสูจน์ได้ว่า ก็โน้ตมันฮิตอะ (ร้อง ‘ห่อหมกฮวกเอาไปฝากป้า’)​ มันน่าร้องนะ 

จะมีเซอร์ไพรส์อะไรไหม

บอย: น่าจะหยิบเพลงของกันและกันมาทำ แล้วก็มีที่…. คาดเดาไม่ได้ (หัวเราะ)​

อิ้งค์: มันจะเซอร์ไพรส์เราเองด้วย (หัวเราะ)​

ชอบเพลงไหนของกันและกัน

อิ้งค์: อิ้งค์จะชอบอยู่สองเพลงของ Lomosonic ค่ะ เพราะความรักไม่เลือกเวลาเกิด กับ ขอ มันเป็นเพลงที่ฮิตตอนที่อิ้งค์โตขึ้นมา ก็เลยชอบ

บอย: ผมชอบ ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน คือพอมานั่งวิเคราะห์เนื้อเพลงก็ชอบเคมีกับความปลายเปิดของเพลง เพราะมันน่าสงสัย คือผมเป็นคนขี้สงสัยอยู่แล้ว แล้วคนแบบนี้จะชอบอะไรที่มันเมคเซนส์อะ อะไรที่มันไม่เมคเซนส์จะมีการตั้งคำถาม แล้วอีกอย่างที่ชอบเพลงนี้เพราะถึงแม้บรรยากาศและเมโลดี้มันบังคับให้ไปในทางเศร้า แต่จริง ๆ มันก็ไม่ได้บอกว่าเศร้า คล้าย ๆ เพราะความรักไม่เลือกเวลาเกิด ที่ไม่ได้บอกอะไรเลย แค่บอกว่ามันไม่เลือกเวลาเกิดเฉย ๆ สุดท้ายแล้วมันอาจจะจบไม่ดีก็ได้ สิ่งเหล่านี้มันเพิ่มมิติให้กับตัวงานและมิติของเพลง ในความเป็นจริงเราอาจเป็นคนสงสัย แต่สุดท้ายเราอาจจะไม่ได้คำตอบให้กับทุกคำถามในชีวิต

บอย โลโมโซนิค นั่ง

ของบอยมีคู่ ท้าบวก กับวง Annalyn ด้วย จะดุเดือดกันขนาดไหน

บอย: ถ้าในเคมีที่มันต่างกันก็คือที่คู่ Lomosonic กับอิ้งค์ แต่คู่นี้ก็คงต้องใส่ให้พุ่งที่สุด ผมน่าจะไปร่วมเล่นกับพี่บอลด้วย ต้องบอกก่อนว่าผมดู Annalynn ตั้งแต่สมัยมหาลัย เป็นแฟนคลับอยู่เงียบ ๆ (หัวเราะ) แล้วพวกเขาเป็นวงที่มีความคิดเหมือนกับผม คืออยากเล่นต่างประเทศให้ได้เยอะ ๆ เค้าก็มี Asia tour เราก็เพิ่งกลับมาจากจีน เพลงที่ชอบก็ Welcome to the Crew มันมีกลิ่นอายยุค 2000 อยู่  ​ดีใจที่จะได้เล่น ยิ่งเราเป็นเจ้าบ้านก็มีอะไรต้องจัดการหลายอย่าง ถ้าท้ายที่สุดแล้วเรากลับมาบ้านแล้วเราทำได้ดี ก็คงนั่งยิ้มแล้วก็จิบน้ำหวานเงียบ ๆ ผมชอบทำงานครับ ชอบเหนื่อย (หัวเราะ)

รอดูคู่ไหนเป็นพิเศษ

บอย: มีพี่พราย ปฐมพร กับพี่ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า ผมว่าคนน่าจะอยากดู

อิ้งค์: ภูมิจิต กับ P2WARSHIP เพราะเป็นวงที่อิ้งค์ชอบทั้งสองวงอยู่แล้ว เคยดูภูมิจิตในงาน Cat Expo ส่วน P2WARSHIP ก็เหมือนเป็นเพลงที่อยู่ในช่วงชีวิต คิดว่าน่าจะสนุกดี ชอบเพลง อย่า อยู่ อย่าง อยาก

อิ้งค์ไปเล่นที่ออสเตรเลียมา ผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง

อิ้งค์: สนุกมาก คือจริง ๆ อันนี้เป็นการไปเล่นต่างประเทศครั้งที่สอง อิ้งค์เคยไปญี่ปุ่นปีที่แล้วรู้สึกเลยว่าคนละฟีลกัน ญี่ปุ่นจะมีความน่ารักของคนดูแบบนึง แต่อันนี้จะเป็นคนไทยที่อยู่ออสเตรเลียมาดู บรรยากาศก็จะเหมือนคนที่อยากจะสนุกไปกับเราจริง ๆ แล้วยิ่งไปเล่นกับพี่ป๊อด Moderndog พี่ ๆ Zeal เค้าใส่เต็มมาก ไปเล่นสี่วันก็สนุกทั้งสี่วันเลย ได้รับประสบการณ์ ได้เจอคนใหม่ ๆ ได้ไปเที่ยวด้วย ก็เป็นการทำงานที่สนุกดี

มีคนต่างชาติมาดูด้วยไหม

อิ้งค์: มีแต่น้อย ส่วนมากเป็นแบบคนไทยที่เป็นแฟนเพลงของพี่ ๆ ตอนแรกกังวลว่าเค้าจะรู้จักเรามั้ย เพราะวงที่เราไปเล่นด้วยคือ Zeal กับ พี่ป๊อด Moderndog เพลงที่ยังไงคนก็ร้องได้ เพราะเป็นเพลงที่อยู่ในชีวิตมานานมาก แต่พอขึ้นไปก็เซอร์ไพรส์แล้วดีใจมาก เจอหลาย ๆ คนที่ชอบเพลงอิ้งค์ แถมร้องได้ อย่างเพลง ดีใจด้วยนะ เป็นเพลงใหม่คนร้องได้ แล้วการไปได้นั่งพูดคุยกับพี่ ๆ ก็ทำให้ได้เปิดประสบการณ์ต่าง ๆ บางอย่างที่อะไรที่เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถทำแบบนี้บนเวทีได้ หรือเราจะทำยังไงถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราก็จะเรียนรู้จากพี่ ๆ เค้าว่า ถ้าเป็นพี่จะทำยังไงเค้าก็จะสอนเรา คอยให้คำปรึกษา เวลาอยู่บนเวทีก็จะช่วย ๆ กัน

Lomosonic ก็เพิ่งไปเล่นที่จีนมา 

บอย: ก็ตามภาพเลยครับ คนงง ๆ หน่อย แต่มันเหมือนฝันเลย คือมันต้องย้อนกลับไปก่อนว่า ตอนเราไปต่างประเทศครั้งแรกมันต้องคิดว่าทุกคนจะต้องมาเอนจอยเพลงกู คนจะต้องสุดลูกหูลูกตาแบบที่เคยเจอที่ Big Mountain แต่พอไปปั๊บ พายุเข้า คนก็หายตามที่เห็น เฟล ๆ หน่อย ส่วนคราวนี้เราไปทัวร์เฟสติวัล ชื่อ Taihu Midi Fstival ตอนแรกก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รับเชิญ คือมันเหมือนฝัน เหมือนในการ์ตูนเลย โชว์รอบนี้ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง เวลาบนเวทีมันผ่านไปไวมาก ทั้ง ๆ ที่เราคือวงแรกของวันนั้น แล้วไม่มีคนไทยมาดูเลย ไม่มีใครรู้ว่าวัฒนธรรมเป็นยังไง เค้าไม่รู้จักเพลงเรา เค้าไม่รู้อยู่แล้ว บวกความยากเข้าไปอีกคือบริบททางวัฒนธรรม เค้าเคยปิดประเทศ แล้วก็ต่อให้พูดภาษาอังกฤษช้าลงก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะเข้าใจ เพราะฉะนั้นภาษากายก็ต้องมา แววตา ความตั้งใจ ทุ่มเททุกอย่าง เล่นให้เหมือนสมัยวัยรุ่นเราจดโพยใส่กระดาษแล้วหยิบมาถือ เราพูดภาษาจีนไม่ได้ เราก็จดขึ้นไปอ่านภาษาจีนแนะนำตัวกับเขาแบบตะกุกตะกักหน่อย พูดว่าขอบคุณมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ซึ่งเราก็ทำให้เค้าโดดกันเต็มที่เหมือนที่ไทย เพราะเราใช้วิทยาศาสตร์ล้วน ๆ เราเตรียมไว้แล้วว่าเค้าไม่รู้จักเพลง จะไปคาดหวังว่าเค้าจะเป็นแฟนเพลงไม่ได้ เลยเตรียมโชว์ที่น่าจะเข้าถึงเค้าได้ด้วย setlist ผมรู้สึกว่าความเป็นไทย การโชว์แบบไทย การพูดเอาใจ มันเข้าถึงคนได้ มันทำให้เราแตกต่าง ถ้าสมมติเราไม่รู้จักวงหนึ่งวง เราไปดูแล้วเราจะประทับใจอะไรได้บ้าง? สกิล เสียงสูง พลัง แน่นอนมีผลทางวิทยาศาสตร์ เราเข้าถึงได้ บวกกับความตั้งใจที่มากกว่าเจ้าถิ่น  ตอนเริ่มเพลงแรกมาช็อกเลย คนแทบไม่มีเลย ซึ่งจริง ๆ เราก็มีภูมิต้านทานกับอะไรแบบนี้อยู่ละ มันเหมือนเราไปเล่นละครเวทีมากกว่า มันกลับไปเหมือนเราเล่นงานแฟตครั้งแรก ไม่มีใครรู้จักหรอก รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุ 20 ต้น ๆ ไปขอเค้าเล่นงานแฟต คือความรู้สึกที่ไม่มีคนดูหน้าเวทียังไง อย่าลืมความรู้สึกนั้น พอเรากลับมาอีโก้มันหายเลย เราไม่ใช่ใครเลย แค่คนห้าคนที่มีดนตรีอยู่ตรงนั้น เราจะไปคาดหวังกับทุกโชว์ทุกมันไม่ได้สำหรับจีนครั้งนี้ถ้าจะบอกว่าประสบความสำเร็จที่สุดก็น่าจะใช่ เราได้อะไรกลับมาด้วยเยอะมาก โอเค เพลงเราถ้าพูดในแง่ของความจริงเราก็ประเทศโลกที่สามอะ ไม่มีใครมาฟังเพลงประเทศเราหรอก แต่จะทำยังไงอะ ถามว่าถ้าไปแล้วเฟล ก็ไปอยู่ดี ทำไมต้องปฏิเสธโอกาส สู้ขาดใจครับ หลังจากนี้มันก็น่าจะมีโอกาสไปเจริญเติบโตที่นู่นได้ เรามีแฟนเพลงไต้หวัน เกาหลี  เค้าติดต่อมาให้ไปเล่น มีแฟนคลับต่างชาติร้องคาราโอเกะเพลงไทย เราก็งง คือมันอาจจะไม่ใช่จำนวนที่มันเยอะมากแต่ก็มี เดี๋ยวมีไปเล่นที่ Busan Rock Fest ด้วย เราเคยไปมาเล่นแล้วครั้งนึง คราวนั้นก็ประทับใจ คนก็เยอะในระดับนึง เขาใส่เสื้อกันฝนดูกัน แล้วมีน้อง ๆ ที่ไปทำงานโรงงานที่นั่งเอาธงชาติมาโบก คือเราก็ไม่ค่อยกล้าบอกว่าเราเป็นตัวแทนใครหรอก เราไม่ใช่ตัวแทนประเทศไทยนะ เราพูดเลย ถ้าเราบอกว่าเราเป็นตัวแทนประเทศไทย แสดงว่าคนทั้งประเทศต้องดูแล้วสนับสนุน เราไม่ใช่ เราก็แค่คนมีความฝัน เราอยากเล่นดนตรี ก็ต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่ช่วย คือเค้าก็เชื่อมั่น เราต้องเชื่อมั่น เหมือนเป็นมวยเด็กแล้วไปต่อยกับรุ่นใหญ่

บอย โลโมโซนิค กับ อิ้งค์ วรันธร ยืน ยิ้ม

อัพเดตผลงาน

อิ้งค์: ของอิ้งค์ก็มีเพลง ดีใจด้วยนะ แล้วเดี๋ยวจะมีเพลงใหม่อีกเร็ว ๆ นี้ ก็ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ ใครยังไม่ได้ฟังก็ไปฟังก่อน อย่าลืมดู mv ด้วย แล้วก็มาเจอกันที่คอนเสิร์ต สนามหลวงสวนสนาม อาจจะได้เห็นอิ้งค์และ Lomosonic ในแบบที่ไม่เคยเห็น

บอย: ของโลโมมีเพลงใหม่ครับ กลัวว่าความคิดถึงของฉันจะทำร้ายเธอ ชื่อมันยาว (หัวเราะ)​ เพลงใหม่กำลังทยอยเอามาเล่น แล้วก็ฝาก สนามหลวงสวนสนาม โชว์ประจำปีของค่าย มันคาดเดาอะไรไม่ได้ อย่าเดาเลย ไม่ถูกหรอก (หัวเราะ)​ ไปดูดีกว่า

สนามหลวงสวนสนาม โปสเตอร์

ติดตามได้ที่เพจ สนามหลวง มิวสิค


อ่านต่อ

อิ้งค์ วรันธร บันทึกการเดินทางตลอด 2 ปีบนเส้นทางดนตรีลงใน Bliss EP แรกในชีวิต

‘Ink Waruntorn’ ขอยืนยันแทนนักแอบรักว่า ‘ความลับมีในโลก’ (จริง ๆ นะ)

LOMOSONIC: SPORT DAY วันแห่งชัยชนะ

Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่