เพราะเราโตมาพร้อมกับเพลงของ Linkin Park เลยมีอะไรอยากบอกกับ Chester Bennington สักหน่อย
- Writer: Fungjai Staffs
กันดิศ ป้านทอง
พิชญา โชนะโต
วิทวัส อินทระสังขา
ในยุคที่เพลงไม่ได้หาฟังง่ายเหมือนในปัจจุบัน ทุก ๆ วันเรามักจะโดนกรอกหูด้วยเพลงที่รายการวิทยุและทีวีบอกว่าฟังสิ เพลงนี้เพราะนะ Linkin Park เป็นวงแรกที่สอดแทรกเข้ามาในช่วงวัยนั้น ด้วยวิธีการเล่าเรื่องราวที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนกับเพลงทั่วไปในขณะนั้น จึงทำให้เปิดโลกดนตรีใหม่ในกับเด็ก ม.ต้น หัวเกรียนคนนึง ซึ่งก็ทำให้เราได้ค้นพบเพลงใหม่ ๆ จากช่องทางอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ณ ตอนนั้น ในสายตาของผู้ใหญ่ต่างพากันวิตกกังวลว่า เราฟังเพลงรุนแรง และมีความเชื่อว่า จะทำให้เรามีนิสัยรุนแรงตามเพลง แต่วันนี้มันทำให้เราได้เข้าใจแล้วว่า ดนตรีที่หนักหน่วง รุนแรง หรือ เนื้อเพลงที่ดูหยาบคาย ดุดัน มันอาจแสดงถึงความเก็บกดข้างในที่ไม่มีใครเข้าใจได้ และมีเพียงเสียงเพลงและดนตรีเท่านั้นที่คอยเยียวยาเขา
แด่ยุคที่ทุกคน ๆ ที่ต่างต้องการค้นหาตัวตนของตัวเอง
มนต์ทิพา วิโรจน์พันธุ์
เคยรู้สึกเสียดายเวลาที่ต้องมาถูกใจหรือชอบอะไรแบบผิดที่ผิดเวลาไหม นี่คือความรู้สึกล่าสุดที่เกิดขึ้นกับเรา
ย้อนกลับไปตั้งแต่ประถมปลาย เราได้ยินเพลง Breaking the Habit ของ Linkin Park เปิดใน Channel [V] อยู่บ่อย ๆ จนขึ้นมัธยมแล้วเพลงของพวกเขาก็ยังตามมารังควาญการรับรู้ของเรา (เพราะความสนใจตอนนั้นจะไปหล่นอยู่ที่หนุ่ม ๆ K-pop ทั้งหลาย) แม้วงประกาศว่าจะมาเล่นที่ไทยอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เราไม่เคยคิดจะสนใจไปเย้ว ๆ แหกปากร้องเพลงกับเพื่อนเพราะรู้จักแค่ไม่กี่เพลง หรือการออกอัลบั้มล่าสุดในปีนี้ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่วงดนตรีสมัยเด็กยังขยันทำเพลงกันอยู่ แต่พอได้ฟังเพลง Heavy กลับกลายเป็นสิ่งไม่ถูกจริตเราสุด ๆ
อะไรดูผิดที่ผิดทางไปหมดจนกระทั่งกลางดึกเมื่อคืนนี้ เราเห็น newsfeed แชร์โพสต์เดียวกันจากเพจเสพย์สากลเป็นจำนวนมากแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน คือข่าวการเสียชีวิตของ Chester Bennington ตอนนั้นเราช็อกมาก และเพลงแรกที่แล่นเข้ามาในหัวคือเพลง Leave Out All The Rest
ตลกดี คนที่ไม่ใช่แฟนเพลงของ LP แม้แต่น้อยกลับร้องตามได้ทั้ง In the End, Numb, Bleed it Out, What I’ve Done และอีกหลายเพลงที่แม้จะจำชื่อไม่ได้ แต่พอได้ยินเมโลดี้สุดติดหูพวกนั้นเราก็ขยับปากฮัมตามไปโดยอัตโนมัติ
ตอนนี้เรากำลังเปิดฟังเพลงตั้งแต่อัลบั้ม Hybrid Theory มาจน A Thousand Suns พบว่ามีหลายเพลงที่เคยผ่านหูเราในวัยเด็ก และอีกหลายเพลงที่เพิ่งถูกค้นพบ ซึ่งมันยังสดใหม่ เท่ และน่าสนใจมาก มีทั้งแร็ป ร็อก หรือเซอร์ไพรส์มากที่แม้แต่เพลงเมโลดี้หวานใสก็มี…
เศร้านะ เหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่ว่าทำไมเพิ่งมาฟังเอาตอนนี้ ตอนที่เราจะไม่มีโอกาสได้ดูพวกเขาเล่นคอนเสิร์ตในวันที่เราเริ่มชอบพวกเขาขึ้นมาแล้ว
ชวิชญ์ มายอด
เราเป็นเหมือนเด็กชายวัยรุ่นทั่วไปคนนึงที่โตมากับการคลั่งไคล้ในวง Linkin Park ซึ่งก็นับเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ สำหรับเด็กในรุ่นเดียวกัน เราได้ยินเพลงของพวกเขาครั้งแรกในร้านขายเพลงเถื่อนที่ตลาดปัฐวิกรณ์ซึ่งมันทำให้เราแข้งขาสั่นอยากโยกตาม แม้จะอยู่นอกบ้านถึงขั้นว่าทำให้เรายืนฟัง ดู mv ที่ร้านเปิดอยู่นานมากและแทบจะทำทุกครั้งที่ออกไปที่ตลาด หนึ่งในกิจกรรมที่ชอบทำที่สุดในสมัยเรียน ป.6 – ม.ต้น คืออยู่ในห้องแล้วเปิดเพลงมัน ๆ เพื่อโยกและร้องตามคนเดียว แน่นอนว่าเพลงอย่าง Faint, Numb หรือ Somewhere I Belong เป็นลิสต์โปรดของเราในสมัยนั้น เราโยกหัว ทำมือเป็นดีดกีตาร์ แร็ปลิปซิงค์ ทำท่าถือไมค์แบบ Chester Bennington ตะโกนว้ากในห้องคนเดียว (จนบางทีก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนด่า) ณ ช่วงเวลาที่เราปลดปล่อยตัวเองอย่างบ้าคลั่งอยู่คนเดียวนั้น พวกเขานี่แหละที่เรายินยอมพร้อมใจจะให้เขาเข้ามาเป็นผู้นำในการปลดปล่อยของเรา นั่นน่าจะมากพอที่จะทำให้เรารู้สึกผูกพันกับวงนี้มาก ๆ จนรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันจริง ๆ มันบ้ามากที่จะมีวงดนตรีที่รวมทุก element ที่เด็กผู้ชายชอบ ทั้งการแร็ปแบบแมน ๆ การว้าก ดนตรีหนักแน่น ๆ มารวมกันได้ลงตัวแบบนี้ ทุกอย่างที่เขาทำมันดูธรรมชาติจนถูกฝังลงไปในสัญชาติญาณ เราจะร้องเพลงฮิตของเขาได้ทุกครั้งที่มันดังขึ้นไม่ว่าเราจะไม่ได้ฟังเพลงเหล่านั้นมานานแค่ไหนก็ตาม
ไม่แปลกการจากไปของนักร้องนำ Linkin Park เป็นเรื่องเศร้าที่สุดในบรรดาศิลปินที่จากไปสำหรับเรา หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนเพลง Shadow of the Day ได้ดังขึ้นในหัวอยู่ตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงต้องผ่านไปนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่หรือการดับลง
And the sun will set for you :’)