ต้อนรับ Prep กลับบ้าน คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ในกรุงเทพ ฯ ของพวกเขาในรอบครึ่งปี
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayot
นับว่า Prep เป็นวงดนตรีต่างประเทศไม่กี่วงที่หลังจากมาเล่นบ้านเราแล้ว จะกลับมาซ้ำรอบสองภายในระยะเวลาครึ่งปี ถ้าอยากรู้ว่าพวกเขามีอะไรให้เราประทับใจนักหนา ต้องเข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์นี้
อ่านบทสัมภาษณ์ของ Prep จากรอบที่แล้วได้ ที่นี่
จากซ้ายไปขวา: กิโยม ทอม ลู แดน
โชว์ครั้งที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง
แดน: เราเคยคุยกันก่อนเล่นรอบที่แล้วนี่ แล้วรูปที่ถ่ายในบทสัมภาษณ์ก็คือรูปที่ใช้โปรโมตโชว์ครั้งนี้ด้วย
ทอม: ใช่ ๆ เยี่ยมยอดมากครับ เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยจริง ๆ รู้แค่ว่าจะได้เล่นในคลับ (Live RCA) ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าจะออกมาเป็นยังไงบ้าง จนนั่นแหละครับ คนร้องตามเพลงของพวกเราได้
กิโยม: เหมือนโชว์นั้นเป็นโชว์สุดท้ายของทัวร์และเป็นโชว์ที่ดีที่สุดด้วย ถือว่าเป็นการจบทัวร์ได้น่าประทับใจมากครับ เพราะก็เป็นโชว์ที่ใหญ่สุดในทุกประเทศ และเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ ที่ทุกคนร้องเพลงไปพร้อมกับเราได้ เยี่ยมยอดครับ
แต่ที่ที่คุณไปเล่นปิดตัวไปแล้วนะรู้รึเปล่า
Prep: ไม่จริงงงงง
ทอม: พวกเราทำอะไรผิดไปรึเปล่า (หัวเราะ) มันเป็นที่ที่เจ๋งนะ เสียดายจัง
ลู: ใช่ มันเป็นที่ที่แปลกมาก เวทีอย่างสูง แล้วมีชั้นลอยขึ้นไปอีก
ทอม: แต่มันดีนะเพราะเราได้เห็นคนดูในระยะที่ใกล้มาก ทั้งข้างล่างและข้างบน แล้วตอนที่อยู่บนเวทีมันตื่นเต้นมากจริง ๆ
แดน: ต่างกับที่นี่ (Voice Space) ที่เป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมใหญ่ ๆ (หัวเราะ) แต่มันก็เหมาะจะใช้เล่นคอนเสิร์ตแหละนะ
รอบนี้ได้มาเล่นในที่ที่ใหญ่ขึ้น แล้วบัตรก็ขายหมดอีกรอบด้วย
ลู: มันเยี่ยมมากครับ
ทอม: นี่มันบ้าไปแล้ว เราตื่นเต้นสุด ๆ คุณรู้มั้ยว่ามันยากแค่ไหนที่ต้องเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เนี่ย (หัวเราะ) เราดีใจมากครับ
แดน: ทั้งที่ปล่อยไปแค่ 4 เพลงด้วยซ้ำ มีบางเพลงที่ปล่อยลง YouTube แต่ก็ไม่ได้ออกมาเป็นทางการขนาดนั้น แล้วยังได้ผลตอบรับดีขนาดนี้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราปล่อยเพลงมากกว่านี้อีก (หัวเราะ)
ทอม: จาก 4 เพลง เป็น 5 เพลง (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ เดี๋ยวจะปล่อยต้นปีหน้า จะออกมาเป็น EP อีกชุด แล้วเราก็จะรอให้ทำวิดิโออะไรพวกนั้นเรียบร้อยก่อน แต่พวกเพลงนี่มิกซ์ มาสเตอร์อะไรเสร็จหมดแล้วล่ะครับ แล้วก็จะมีแขกรับเชิญสุดพิเศษมาร่วมงานในชุดนี้ด้วย
ใครบ้าง บอกได้ไหม
กิโยม: บอกไม่ได้ครับ (ยิ้ม) ใบ้ให้ละกัน มีสามคน มีสองคนร้องเพลงนึง กับอีกคนทำอีกเพลง
แดน: นักร้องสองคน ชาย หญิง โปรดิวเซอร์อีกหนึ่งคน
ทอม: บอกได้ไหมว่าเขามาจากที่ไหน
ลู: ไม่ได้
แล้วชุดนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากชุดที่แล้วยังไงบ้าง
ทอม: มันค่อนข้างต่างประมาณนึงเลย
กิโยม: เหมือนเป็นวิวัฒนาการของเรา ผมคิดว่าใครที่ชอบชุดแรกก็น่าจะชอบชุดใหม่นี้ด้วยเหมือนกัน เหมือนเราโตขึ้น โปรดักชันจริงจังขึ้น
แดน: ที่ต่างจริง ๆ เลยคือเราจะมีเพลงที่เร็วขึ้น ในชุดแรกส่วนใหญ่เป็นเพลงจังหวะกลาง ๆ ชิล ๆ หน่อย แล้วก็จะมีความเป็นฮิปฮอปที่ไม่หนีหายไปไหน ก็ตื่นเต้นครับอยากรู้ว่าพอออกมาแล้วคนฟังจะรู้สึกยังไง
ทอม: เราจะเล่นเพลงใหม่บางเพลงในคอนเสิร์ตนี้ด้วย (แดน: ถ้าทอมจำได้นะ เขาจะบอกเองว่า เพลงนี้มาจาก EP ใหม่นะครับ แต่ผมว่าเขาน่าจะลืม)
รอบนี้จะมีซีดีกับไวนิลมาขายพอไหม
Prep: (หัวเราะ)
ทอม: เรามีมาขายเยอะกว่ารอบที่แล้วอีก แล้วเราก็เจอซีดีที่โดนกักไว้กับ ตม. ที่อินโดนีเซียแล้วนะ เราไปเอามาคืนมาได้ที่ฟิลิปปินส์ แต่ได้มาแค่ 4 แผ่นล่ะ แต่ก็นะ เราตั้งใจจะวางขายซีดีของเราที่ไทยกับผู้จัดจำหน่ายคนไทยแบบจริงจัง แล้วเราก็มีไวนิลแผ่นขาวมาด้วย (1st edition เป็นแผ่นดำจำนวนจำกัด)
ลู: และแน่นอน เรามีเสื้อยืด (Prep: ช่ายยยยย)
ทำไมถึงเลือกผลิตไวนิลแค่จำนวนจำกัด ทั้งที่มีแฟนเพลงอยากเก็บสะสมกันเยอะมาก
ทอม: คือค่ายที่ทำไวนิลให้เราเป็นค่ายที่ LA แล้วเขาชอบทำในจำนวนจำกัด เพราะแผ่นที่ออกมาคุณภาพสูงมาก พิถีพิถันประมาณนึง ก็เป็นธรรมชาติของตัวไวนิลเองอยู่แล้วด้วยที่เขาจะไม่ทำกันออกมาเยอะ
แดน: จริง ๆ เราก็อยากให้เป็นอย่างนี้แหละ เดี๋ยวถ้ามีแฟนเพลงฮาร์ดคอร์เขาคงหาทางจับจองกันได้เอง (หัวเราะ)
คุณออกทัวร์ในหลาย ๆ ที่ แล้วมีที่ไหนไหมที่ทำให้คุณเกิดแรงบันดาลใจแล้วเอามาใช้เขียนเพลง
ทอม: มีครับ จริง ๆ แล้วเราได้แรงบันดาลใจจากแทบทุกสิ่งที่เราทำเลยนะ โดยเฉพาะกับประสบการณ์พิเศษที่เราได้รับ อาจจะเป็นการออกทัวร์ เนื้อเพลงส่วนใหญ่มันได้มาจากการได้เดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ใช้เวลานาน หรือเพียงลำพัง
ครั้งที่แล้วพวกคุณบอกว่าจะไปเปิดโลกดนตรีในไทย คุณไปที่ไหนมาบ้าง
ทอม: ผมไปดูหมอลำ (Paradise Bangkok Molam International Band) มาครับ ที่ Studio Lam ที่คุณบอกว่ามีค็อกเทล (ยาดอง) อร่อยน่ะ เราก็ได้ไปคุยกับเขานิดหน่อยและแฮงเอาต์กัน แล้วคืนนั้นเขาเล่นกันแบบไม่ได้ตามฟอร์ม ค่อนข้างจะด้นสดด้วย แล้วมันเจ๋งมากที่ได้ดูการแสดงนั้น มีคนดูประมาณ 20 กว่าคนในที่เล็ก ๆ ตั้งใจดูพวกเขา แล้วอีกสัปดาห์ต่อมาเขาก็ไปเล่นที่งาน TCDC ไปรษณีย์กลาง ผมก็ตามไปดู แล้วคนดูเยอะมาก ๆ ผมรักโชว์ของพวกเขา
ลู: คนที่เล่นแคนเขาอายุ 75 แล้วนะ
แล้วได้ลองเล่นแคนหรือเปล่า
ทอม: ไม่ครับ แต่อยากลองนะ มันยากไหมอะ วิธีเล่นมันดูคล้าย ๆ เมาธ์ออแกน แต่เสียงที่ออกมามันมีความเป็นท่อไม้ไผ่ มันเจ๋งมาก
สิ่งล่าสุดที่คุณสนใจคืออะไรกันบ้าง
กิโยม: ไม่มีเลยอะ เราเป็นพวกน่าเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก (หัวเราะ)
แดน: ไม่จริงซักหน่อย คือเราเป็นพวกที่ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง แล้วมักจะถกเถียงกันเรื่องรสนิยมในทุก ๆ อย่างเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีเนี่ยแหละ มันใช้เวลากว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเราก็ต้องพยายามประณีประนอมซึ่งกันและกันมาก ๆ กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้… แต่ในทัวร์นี้เราเถียงกันตลอดว่า อาหารท้องถิ่นของประเทศไหนอร่อยที่สุด (หัวเราะ) แล้วเราจะเห็นไม่ค่อยตรงกัน
ทอม: กิโยมเป็นคนฝรั่งเศส เขาก็จะมีของอร่อยในประเทศเขามาให้เปรียบเทียบตลอด ขณะที่แดนเนี่ยไม่ชอบอาหารฝรั่งเศสเท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่ที่ผมชอบก็ยกให้อาหารไทยแหละ มื้อนี้ก็ได้กินไก่ในซอสพริกเผ็ดมาก ๆ (ขอเดาว่าพะแนง) กับปลาในแกงเขียวหวาน
แดน: แต่ทัวร์นี้เราเพิ่งได้กินอาหารไทยไปแค่มื้อเดียวเองนะ (หัวเราะ) ย้อนกลับไปที่ฟิลิปปินส์ ผมว่าอาหารเขาอร่อยเลยแหละ ซึ่งหลังจากกินอาหารไทยมื้อนี้แล้วเราก็กำลังจะได้กินอาหารเกาหลีกันต่อ
อร่อยกว่า fish and chips หรือเปล่า
แดน: อาหารอังกฤษจะไม่มีวันไปรวมอยู่ในข้อถกเถียงนั้นครับ (หัวเราะ)
ตอนนี้วงยังไม่มี fanpage ของตัวเองเลย ในอนาคตจะเปิดหรือเปล่า เพราะคนไทยค่อนข้างติดโซเชียลนะ
ลู: เรารอปล่อย EP ใหม่ครับ แล้วหลังจากนั้นก็คงจะมีเฟซบุ๊กให้ตามข่าวกันแล้วล่ะ
ทอม: ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ พวกเราเอาแต่ทำเพลงจนไม่ได้มาทำอะไรพวกนี้เลย
ก็แฟนเพลงถึงเจอคุณจากใน Bandcamp ยังไงล่ะ
แดน: จริง ๆ คุณซื้อไวนิลของเราจากใน Bandcamp ได้เหมือนกัน
ลู: แต่เรามีอินสตาแกรมไว้ติดต่อกับแฟน ๆ นะ
ต่อไปเป็นคำถามชุดที่ทางทีม LifeMATTER คิดมาได้น่ารักมาก ๆ เพราะเลือกใช้คีย์เวิร์ดจากชื่อเพลงของวง
เที่ยวบินไหนที่ราคาถูกที่สุดที่คุณเคยขึ้น (จากเพลง Cheapest Flight)
แดน: ผมเคยไปงานสัมมนาดนตรีที่เนเธอร์แลนด์ ดูเนิร์ดเนอะ แค่ 19 ปอนด์ ไปกลับ ประมาณ 800 บาทเอง
ทอม: แต่นั่นไม่ใช่แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนะ (หัวเราะ) (แดน: แล้วมันคืออะไร) คือเราอยากทำกรูฟของเพลงนี้ให้เป็น half time shuffle โดยใช้ดรัมแพด… (กิโยมทำเสียงและท่าตีกลองให้ดู) คล้าย ๆ ในเพลงของ Steely Dan นั่นแหละ เราก็เลยเอากรูฟจากตรงนั้นมา แล้วก็ได้ซิงเกิ้ลคอร์ดมา
แดน: มันน่าสนใจมากที่เดโม่ส่วนใหญ่ของพวกเราจะถูกตั้งชื่อโง่ ๆ ลงไป อย่างเพลงนี้กิโยมมันตั้งว่า Cheapest Flight แล้วทอมชอบมัน เขาก็เลยเอาไปแต่งเนื้อ
กิโยม: จริง ๆ พวกเรานี่แยกกันทำเพลงหมดเลยนะ เขียนเดโม่ของใครของมัน พอถึงเวลาเอามาดูด้วยกันแล้วเราสามคนเห็นตรงกันว่าผ่าน เราก็จะส่ง element ที่ได้ให้คนอื่นไปทำต่อ ซึ่ง Cheapest Flight เหมือนเป็นเพลงที่เราเขียนด้วยกันจริง ๆ เป็นเพลงแรก ผมขึ้นเพลงมา แดนใส่คอร์ด ลูก็จะอาเรนจ์ แล้วทอมก็ใส่เนื้อร้อง
ลู: เอาจริงว่าโปรเจกต์นี้ต่างจากงานก่อน ๆ ที่เราทำ เพราะความสามารถของพวกเราแต่ละคนมันค่อนข้างเสริมกัน พวกเราโปรดิวซ์กันได้หมด แต่ว่าแต่ละคนจะเลือกโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองถนัด อย่างกิโยมทำพวกเพลงเฮาส์ กรูฟก็จะค่อนข้างแข็งแรง ผมมาจากสายคลาสสิก พวกไลน์ประสานก็จะแน่นหน่อย ประมาณนั้นครับ
สถานที่ไหนที่จะโดดแดดเผาได้ง่ายที่สุด (จากเพลง Sunburnt Through the Glass)
ทอม: ผมโดนแดดเผาง่ายมากครับ ผิวผมซีดแล้วไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่ แค่เดิน ๆ ในหน้าหนาวที่ลอนดอนผมก็โดนแดดเผาแล้ว ผมมาที่นี่ผมอยากไปทะเลนะ ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูแปลก ๆ เพราะผมจะโดนแดดเผา แต่ก็นะ เรามีเวลารอบนี้แค่แปปเดียวคงไม่ได้ออกไปนอกเมือง คงไว้รอบหน้า
ใครทำให้คุณเริ่มร้องเพลงได้เป็นคนแรก (จากเพลง Who’s Got You Singing Again)
ทอม: เป็นคำถามที่ดีมากครับ ใครทำให้ผมร้องเพลงเป็นคนแรกวะ… Jeff Buckley น่าจะเป็นศิลปินคนแรกที่ผมได้ฟังแล้วอยากร้องเพลงบ้าง Tim Buckley พ่อของเขาก็เหมือนกัน Björk ก็เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของผมอีกคน
แดน: นี่พวกเราเพิ่งรู้นะเนี่ย (กิโยม, ลู: ใช่!) (หัวเราะ) ผมขอเสริมว่าแนวเพลงที่เราทำนี่เหมือนเป็นการเอาสิ่งที่ทุกคนพอจะชอบเหมือนกัน ซึ่งก็มาลงที่แนวนี้ ก็ต้องหาคนที่ร้องแบบ r&b จนเรามาเจอทอมแล้วพบว่า เขามีเสียงร้องที่ไม่เหมือนใคร แบบ เราจะเจอคนที่เสียงอย่างเขาน้อยมาก ก็เป็นวัตถุดิบที่ดีจากพวกเราทุกคนที่ได้มารวมกันครับ
ทอม: คือผมได้เขียนเพลงให้คนอื่นที่ส่วนมากเป็นสาย r&b แต่จริง ๆ แล้วผมก็ฟังแนวอื่น ๆ และเขียนได้ด้วย อย่างอิเล็กทรอนิกก็ทำ อย่างว่านะ ส่วนมากงานมันมาทางนี้
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ
ทอม: พวกคุณต้องมาดูพวกเราคืนนี้ครับ จะได้รู้ว่าเราจะพูดว่าอะไร (หัวเราะ) เราจะกลับมาอีกนะ หวังว่ารอบหน้าจะไม่นานจนเกินไป รอบแรกที่เรามาคือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราก็ไม่คิดว่าจะได้มาครั้งที่สองเร็วขนาดนี้ ดีใจครับ
ลู: เรารู้สึกว่าแฟน ๆ คอยให้การสนับสนุนพวกเราตลอด แล้วเราได้รับพลังงานและความรู้สึกนั้นจากพวกเขา มันเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ในการทำงานของเรา จากทัวร์รอบที่แล้วเหมือนเราได้กำลังใจจนรู้สึกว่า โอเค เรามาทำเพลงกันต่อเถอะ ขอบคุณมากครับ