Article Import

ต้อนรับ Prep กลับบ้าน คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ในกรุงเทพ ฯ ของพวกเขาในรอบครึ่งปี

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

นับว่า Prep เป็นวงดนตรีต่างประเทศไม่กี่วงที่หลังจากมาเล่นบ้านเราแล้ว จะกลับมาซ้ำรอบสองภายในระยะเวลาครึ่งปี ถ้าอยากรู้ว่าพวกเขามีอะไรให้เราประทับใจนักหนา ต้องเข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์นี้

อ่านบทสัมภาษณ์ของ Prep จากรอบที่แล้วได้ ที่นี่

img_7153

จากซ้ายไปขวา: กิโยม ทอม ลู แดน 

โชว์ครั้งที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

แดน: เราเคยคุยกันก่อนเล่นรอบที่แล้วนี่ แล้วรูปที่ถ่ายในบทสัมภาษณ์ก็คือรูปที่ใช้โปรโมตโชว์ครั้งนี้ด้วย

ทอม: ใช่ เยี่ยมยอดมากครับ เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยจริง รู้แค่ว่าจะได้เล่นในคลับ (Live RCA) ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าจะออกมาเป็นยังไงบ้าง จนนั่นแหละครับ คนร้องตามเพลงของพวกเราได้

กิโยม: เหมือนโชว์นั้นเป็นโชว์สุดท้ายของทัวร์และเป็นโชว์ที่ดีที่สุดด้วย ถือว่าเป็นการจบทัวร์ได้น่าประทับใจมากครับ เพราะก็เป็นโชว์ที่ใหญ่สุดในทุกประเทศ และเซอร์ไพรส์มากจริง ที่ทุกคนร้องเพลงไปพร้อมกับเราได้ เยี่ยมยอดครับ

แต่ที่ที่คุณไปเล่นปิดตัวไปแล้วนะรู้รึเปล่า

Prep: ไม่จริงงงงง

ทอม: พวกเราทำอะไรผิดไปรึเปล่า (หัวเราะ) มันเป็นที่ที่เจ๋งนะ เสียดายจัง

ลู: ใช่ มันเป็นที่ที่แปลกมาก เวทีอย่างสูง แล้วมีชั้นลอยขึ้นไปอีก

ทอม: แต่มันดีนะเพราะเราได้เห็นคนดูในระยะที่ใกล้มาก ทั้งข้างล่างและข้างบน แล้วตอนที่อยู่บนเวทีมันตื่นเต้นมากจริง

แดน: ต่างกับที่นี่ (Voice Space) ที่เป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมใหญ่ (หัวเราะ) แต่มันก็เหมาะจะใช้เล่นคอนเสิร์ตแหละนะ

img_7142

รอบนี้ได้มาเล่นในที่ที่ใหญ่ขึ้น แล้วบัตรก็ขายหมดอีกรอบด้วย

ลู: มันเยี่ยมมากครับ

ทอม: นี่มันบ้าไปแล้ว เราตื่นเต้นสุด คุณรู้มั้ยว่ามันยากแค่ไหนที่ต้องเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เนี่ย (หัวเราะ) เราดีใจมากครับ

แดน: ทั้งที่ปล่อยไปแค่ 4 เพลงด้วยซ้ำ มีบางเพลงที่ปล่อยลง YouTube แต่ก็ไม่ได้ออกมาเป็นทางการขนาดนั้น แล้วยังได้ผลตอบรับดีขนาดนี้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราปล่อยเพลงมากกว่านี้อีก (หัวเราะ)

ทอม: จาก 4 เพลง เป็น 5 เพลง (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ เดี๋ยวจะปล่อยต้นปีหน้า จะออกมาเป็น EP อีกชุด แล้วเราก็จะรอให้ทำวิดิโออะไรพวกนั้นเรียบร้อยก่อน แต่พวกเพลงนี่มิกซ์ มาสเตอร์อะไรเสร็จหมดแล้วล่ะครับ แล้วก็จะมีแขกรับเชิญสุดพิเศษมาร่วมงานในชุดนี้ด้วย

ใครบ้าง บอกได้ไหม

กิโยม: บอกไม่ได้ครับ (ยิ้ม) ใบ้ให้ละกัน มีสามคน มีสองคนร้องเพลงนึง กับอีกคนทำอีกเพลง

แดน: นักร้องสองคน ชาย หญิง โปรดิวเซอร์อีกหนึ่งคน

ทอม: บอกได้ไหมว่าเขามาจากที่ไหน

ลู: ไม่ได้

แล้วชุดนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากชุดที่แล้วยังไงบ้าง

ทอม: มันค่อนข้างต่างประมาณนึงเลย

กิโยม: เหมือนเป็นวิวัฒนาการของเรา ผมคิดว่าใครที่ชอบชุดแรกก็น่าจะชอบชุดใหม่นี้ด้วยเหมือนกัน เหมือนเราโตขึ้น โปรดักชันจริงจังขึ้น

แดน: ที่ต่างจริง เลยคือเราจะมีเพลงที่เร็วขึ้น ในชุดแรกส่วนใหญ่เป็นเพลงจังหวะกลาง ชิล หน่อย แล้วก็จะมีความเป็นฮิปฮอปที่ไม่หนีหายไปไหน ก็ตื่นเต้นครับอยากรู้ว่าพอออกมาแล้วคนฟังจะรู้สึกยังไง

ทอม: เราจะเล่นเพลงใหม่บางเพลงในคอนเสิร์ตนี้ด้วย (แดน: ถ้าทอมจำได้นะ เขาจะบอกเองว่า เพลงนี้มาจาก EP ใหม่นะครับ แต่ผมว่าเขาน่าจะลืม)

img_7094

รอบนี้จะมีซีดีกับไวนิลมาขายพอไหม

Prep: (หัวเราะ)

ทอม: เรามีมาขายเยอะกว่ารอบที่แล้วอีก แล้วเราก็เจอซีดีที่โดนกักไว้กับ ตม. ที่อินโดนีเซียแล้วนะ เราไปเอามาคืนมาได้ที่ฟิลิปปินส์ แต่ได้มาแค่ 4 แผ่นล่ะ แต่ก็นะ เราตั้งใจจะวางขายซีดีของเราที่ไทยกับผู้จัดจำหน่ายคนไทยแบบจริงจัง แล้วเราก็มีไวนิลแผ่นขาวมาด้วย (1st edition เป็นแผ่นดำจำนวนจำกัด)

ลู: และแน่นอน เรามีเสื้อยืด (Prep: ช่ายยยยย)

ทำไมถึงเลือกผลิตไวนิลแค่จำนวนจำกัด ทั้งที่มีแฟนเพลงอยากเก็บสะสมกันเยอะมาก

ทอม: คือค่ายที่ทำไวนิลให้เราเป็นค่ายที่ LA แล้วเขาชอบทำในจำนวนจำกัด เพราะแผ่นที่ออกมาคุณภาพสูงมาก พิถีพิถันประมาณนึง ก็เป็นธรรมชาติของตัวไวนิลเองอยู่แล้วด้วยที่เขาจะไม่ทำกันออกมาเยอะ

แดน: จริง เราก็อยากให้เป็นอย่างนี้แหละ เดี๋ยวถ้ามีแฟนเพลงฮาร์ดคอร์เขาคงหาทางจับจองกันได้เอง (หัวเราะ)

คุณออกทัวร์ในหลาย ที่ แล้วมีที่ไหนไหมที่ทำให้คุณเกิดแรงบันดาลใจแล้วเอามาใช้เขียนเพลง

ทอม: มีครับ จริง แล้วเราได้แรงบันดาลใจจากแทบทุกสิ่งที่เราทำเลยนะ โดยเฉพาะกับประสบการณ์พิเศษที่เราได้รับ อาจจะเป็นการออกทัวร์ เนื้อเพลงส่วนใหญ่มันได้มาจากการได้เดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ใช้เวลานาน หรือเพียงลำพัง

img_7081

ครั้งที่แล้วพวกคุณบอกว่าจะไปเปิดโลกดนตรีในไทย คุณไปที่ไหนมาบ้าง

ทอม: ผมไปดูหมอลำ (Paradise Bangkok Molam International Band) มาครับ ที่ Studio Lam ที่คุณบอกว่ามีค็อกเทล (ยาดอง) อร่อยน่ะ เราก็ได้ไปคุยกับเขานิดหน่อยและแฮงเอาต์กัน แล้วคืนนั้นเขาเล่นกันแบบไม่ได้ตามฟอร์ม ค่อนข้างจะด้นสดด้วย แล้วมันเจ๋งมากที่ได้ดูการแสดงนั้น มีคนดูประมาณ 20 กว่าคนในที่เล็ก ตั้งใจดูพวกเขา แล้วอีกสัปดาห์ต่อมาเขาก็ไปเล่นที่งาน TCDC ไปรษณีย์กลาง ผมก็ตามไปดู แล้วคนดูเยอะมาก ผมรักโชว์ของพวกเขา

ลู: คนที่เล่นแคนเขาอายุ 75 แล้วนะ

แล้วได้ลองเล่นแคนหรือเปล่า

ทอม: ไม่ครับ แต่อยากลองนะ มันยากไหมอะ วิธีเล่นมันดูคล้าย เมาธ์ออแกน แต่เสียงที่ออกมามันมีความเป็นท่อไม้ไผ่ มันเจ๋งมาก

สิ่งล่าสุดที่คุณสนใจคืออะไรกันบ้าง

กิโยม: ไม่มีเลยอะ เราเป็นพวกน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก (หัวเราะ)

แดน: ไม่จริงซักหน่อย คือเราเป็นพวกที่ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง แล้วมักจะถกเถียงกันเรื่องรสนิยมในทุก อย่างเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีเนี่ยแหละ มันใช้เวลากว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเราก็ต้องพยายามประณีประนอมซึ่งกันและกันมาก กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้… แต่ในทัวร์นี้เราเถียงกันตลอดว่า อาหารท้องถิ่นของประเทศไหนอร่อยที่สุด (หัวเราะ) แล้วเราจะเห็นไม่ค่อยตรงกัน

ทอม: กิโยมเป็นคนฝรั่งเศส เขาก็จะมีของอร่อยในประเทศเขามาให้เปรียบเทียบตลอด ขณะที่แดนเนี่ยไม่ชอบอาหารฝรั่งเศสเท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่ที่ผมชอบก็ยกให้อาหารไทยแหละ มื้อนี้ก็ได้กินไก่ในซอสพริกเผ็ดมาก (ขอเดาว่าพะแนง) กับปลาในแกงเขียวหวาน

แดน: แต่ทัวร์นี้เราเพิ่งได้กินอาหารไทยไปแค่มื้อเดียวเองนะ (หัวเราะ) ย้อนกลับไปที่ฟิลิปปินส์ ผมว่าอาหารเขาอร่อยเลยแหละ ซึ่งหลังจากกินอาหารไทยมื้อนี้แล้วเราก็กำลังจะได้กินอาหารเกาหลีกันต่อ

อร่อยกว่า fish and chips หรือเปล่า

แดน: อาหารอังกฤษจะไม่มีวันไปรวมอยู่ในข้อถกเถียงนั้นครับ (หัวเราะ)

ตอนนี้วงยังไม่มี fanpage ของตัวเองเลย ในอนาคตจะเปิดหรือเปล่า เพราะคนไทยค่อนข้างติดโซเชียลนะ

ลู: เรารอปล่อย EP ใหม่ครับ แล้วหลังจากนั้นก็คงจะมีเฟซบุ๊กให้ตามข่าวกันแล้วล่ะ

ทอม: ต้องขอโทษด้วยจริง ครับ พวกเราเอาแต่ทำเพลงจนไม่ได้มาทำอะไรพวกนี้เลย

ก็แฟนเพลงถึงเจอคุณจากใน Bandcamp ยังไงล่ะ

แดน: จริง คุณซื้อไวนิลของเราจากใน Bandcamp ได้เหมือนกัน

ลู: แต่เรามีอินสตาแกรมไว้ติดต่อกับแฟน นะ

img_7092

ต่อไปเป็นคำถามชุดที่ทางทีม LifeMATTER คิดมาได้น่ารักมาก เพราะเลือกใช้คีย์เวิร์ดจากชื่อเพลงของวง

เที่ยวบินไหนที่ราคาถูกที่สุดที่คุณเคยขึ้น (จากเพลง Cheapest Flight)

แดน: ผมเคยไปงานสัมมนาดนตรีที่เนเธอร์แลนด์ ดูเนิร์ดเนอะ แค่ 19 ปอนด์ ไปกลับ ประมาณ 800 บาทเอง

ทอม: แต่นั่นไม่ใช่แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนะ (หัวเราะ) (แดน: แล้วมันคืออะไร) คือเราอยากทำกรูฟของเพลงนี้ให้เป็น half time shuffle โดยใช้ดรัมแพด… (กิโยมทำเสียงและท่าตีกลองให้ดู) คล้าย ในเพลงของ Steely Dan นั่นแหละ เราก็เลยเอากรูฟจากตรงนั้นมา แล้วก็ได้ซิงเกิ้ลคอร์ดมา

แดน: มันน่าสนใจมากที่เดโม่ส่วนใหญ่ของพวกเราจะถูกตั้งชื่อโง่ ลงไป อย่างเพลงนี้กิโยมมันตั้งว่า Cheapest Flight แล้วทอมชอบมัน เขาก็เลยเอาไปแต่งเนื้อ

กิโยม: จริง พวกเรานี่แยกกันทำเพลงหมดเลยนะ เขียนเดโม่ของใครของมัน พอถึงเวลาเอามาดูด้วยกันแล้วเราสามคนเห็นตรงกันว่าผ่าน เราก็จะส่ง element ที่ได้ให้คนอื่นไปทำต่อ ซึ่ง Cheapest Flight เหมือนเป็นเพลงที่เราเขียนด้วยกันจริง เป็นเพลงแรก ผมขึ้นเพลงมา แดนใส่คอร์ด ลูก็จะอาเรนจ์ แล้วทอมก็ใส่เนื้อร้อง

ลู: เอาจริงว่าโปรเจกต์นี้ต่างจากงานก่อน ที่เราทำ เพราะความสามารถของพวกเราแต่ละคนมันค่อนข้างเสริมกัน พวกเราโปรดิวซ์กันได้หมด แต่ว่าแต่ละคนจะเลือกโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองถนัด อย่างกิโยมทำพวกเพลงเฮาส์ กรูฟก็จะค่อนข้างแข็งแรง ผมมาจากสายคลาสสิก พวกไลน์ประสานก็จะแน่นหน่อย ประมาณนั้นครับ

img_7075

สถานที่ไหนที่จะโดดแดดเผาได้ง่ายที่สุด (จากเพลง Sunburnt Through the Glass)

ทอม: ผมโดนแดดเผาง่ายมากครับ ผิวผมซีดแล้วไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่ แค่เดิน ในหน้าหนาวที่ลอนดอนผมก็โดนแดดเผาแล้ว ผมมาที่นี่ผมอยากไปทะเลนะ ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูแปลก เพราะผมจะโดนแดดเผา แต่ก็นะ เรามีเวลารอบนี้แค่แปปเดียวคงไม่ได้ออกไปนอกเมือง คงไว้รอบหน้า

ใครทำให้คุณเริ่มร้องเพลงได้เป็นคนแรก (จากเพลง Who’s Got You Singing Again)

ทอม: เป็นคำถามที่ดีมากครับ ใครทำให้ผมร้องเพลงเป็นคนแรกวะJeff Buckley น่าจะเป็นศิลปินคนแรกที่ผมได้ฟังแล้วอยากร้องเพลงบ้าง Tim Buckley พ่อของเขาก็เหมือนกัน Björk ก็เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของผมอีกคน

แดน: นี่พวกเราเพิ่งรู้นะเนี่ย (กิโยม, ลู: ใช่!) (หัวเราะ) ผมขอเสริมว่าแนวเพลงที่เราทำนี่เหมือนเป็นการเอาสิ่งที่ทุกคนพอจะชอบเหมือนกัน ซึ่งก็มาลงที่แนวนี้ ก็ต้องหาคนที่ร้องแบบ r&b จนเรามาเจอทอมแล้วพบว่า เขามีเสียงร้องที่ไม่เหมือนใคร แบบ เราจะเจอคนที่เสียงอย่างเขาน้อยมาก ก็เป็นวัตถุดิบที่ดีจากพวกเราทุกคนที่ได้มารวมกันครับ

ทอม: คือผมได้เขียนเพลงให้คนอื่นที่ส่วนมากเป็นสาย r&b แต่จริง แล้วผมก็ฟังแนวอื่น และเขียนได้ด้วย อย่างอิเล็กทรอนิกก็ทำ อย่างว่านะ ส่วนมากงานมันมาทางนี้

img_7144

ฝากอะไรถึงแฟน

ทอม: พวกคุณต้องมาดูพวกเราคืนนี้ครับ จะได้รู้ว่าเราจะพูดว่าอะไร (หัวเราะ) เราจะกลับมาอีกนะ หวังว่ารอบหน้าจะไม่นานจนเกินไป รอบแรกที่เรามาคือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราก็ไม่คิดว่าจะได้มาครั้งที่สองเร็วขนาดนี้ ดีใจครับ

ลู: เรารู้สึกว่าแฟน คอยให้การสนับสนุนพวกเราตลอด แล้วเราได้รับพลังงานและความรู้สึกนั้นจากพวกเขา มันเป็นอะไรที่สำคัญมาก ในการทำงานของเรา จากทัวร์รอบที่แล้วเหมือนเราได้กำลังใจจนรู้สึกว่า โอเค เรามาทำเพลงกันต่อเถอะ ขอบคุณมากครับ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้