เริ่มต้นสัปดาห์อย่างมีความสุขไปกับ Oh Wonder
- Story and photos by Panuwitch Boorananut
31 กรกฎาคม 2560
เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสิ้นเดือน (เหมือนสิ้นใจ) ของใครหลาย ๆ แต่ก็มีวงดนตรีดูโอ้เสียงดีชื่อดังที่ import จากอังกฤษอย่าง Oh Wonder มาแสดงคอนเสิร์ตที่ DND ในคืนวันนั้นพอดี ต้องบอกเลยว่าผมเองก็ได้ดูคอนเสิร์ตในผับแบบนี้ครั้งแรกในชีวิต (แอบใส ๆ ไหมล่ะ) ซึ่งผมเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ดูวงนี้ในสถานที่ที่แปลกใหม่เช่นกัน และคอนเสิร์ตนี้คนก็ให้ความสนใจมากเพราะบัตร sold out อย่างรวดเร็วทั้งสองวัน ที่น่าตื่นเต้นกว่าคือผมได้เจอทั้งศิลปินทั้งสองคนคนละเวลา!! รอบแรกคือเดินสวนกันเพราะหลง และอีกรอบคือตอนเดินไปซื้อของที่เซเว่น เรียกได้ว่าได้ใกล้ชิดโดยไม่ทันตั้งตัวทีเดียว (อั๊ย)
ประมาณทุ่มครึ่งก็เป็นเวลาที่ประตูเปิดให้คนเข้า คราวนี้จะต่างกับคอนเสิร์ตอื่น ๆ ที่ไม่มี opening act ใด ๆ แต่จะมีดีเจเปิดเพลงวอร์มก่อน ผู้ชมก็เริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ จนแน่นหนาตา แล้วเราก็ต้องรอจนถึงประมาณสามทุ่ม ศิลปินจากแดนผู้ดี ก็ได้เริ่มโชว์อย่างไม่ได้ตั้งตัวกับเพลง High on Humans ทำเอาคนดูเต้นกันไปแบบอัตโนมัติ มือแขนขาออกลายกันอย่างเมามัน ภายใต้แสงสีที่จะบอกได้ว่าโคตาระแจ่มแมว เวทีหรือไฟแบ็กกราวด์ดูล้ำราวกับยกคอนเสิร์ตหรือเทศกาลดนตรีจากต่างประเทศมาไว้ตรงหน้า หลังจากนั้นก็ตามด้วย Dazzle ที่มาพร้อมกับดนตรีอิเล็กทรอนิกที่ประสานกับเสียงร้องของทั้งคู่อย่างลงตัว และแล้วไฟการร้องและเต้นของทุกคนยิ่งร้อนแรงขึ้นอีกเมื่อเจอ Josephine และ Anthony จัดเพลงอย่าง Without You ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้จักและต่างพร้อมใจกันประสานเสียง และเป็นการต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่นภายใต้โชว์นี้
ต่อมาพวกเขาทั้งสองก็ได้ขนเพลงดัง ๆ ในอัลบั้มมาให้เราได้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็น Lifetimes, All We Do, Landslide, Heavy ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพลงที่ฟังง่ายแต่สนุก รวมถึงการใส่ passion ของศิลปินทั้งสองในเพอร์ฟอร์มานซ์ทำให้ในค่ำคืนนั้นเป็นโชว์ที่ทุกคนอินไปกับมัน รวมทั้งเนื้อเพลงที่ต่างสื่อความหมายตรงกับชีวิตของเรา ทั้งความรัก ความฝัน ความรู้สึก และไฟนีออน OW ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวงได้เปลี่ยนสีตามเพลงและจังหวะของดนตรี ยิ่งทำให้ความสนุกนั้นไร้ขีดจำกัด รวมถึง เพลงอย่าง Lose It อีกหนึ่งไฮไลต์จากอัลบั้ม ก็ทำให้ทุกคนร้องออกมาว่า Lose It ตาม ๆ กัน ต่อด้วยความเจ๋งที่ Body Gold ที่เปลี่ยนสีฉากหลังเป็นสีทองอร่ามเคลื่อนไหวอย่างงดงาม จบด้วยที่ Midnight Moon และ Technicolour Beat แต่แน่นอนโชว์นี้จะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบได้ยังไงถ้าขาดเพลงอย่าง Ultralife และ Drive เล่นเอาทุกคนสนุกกันจนหยดสุดท้ายจริง ๆ
ถึงแม้ว่าภายใต้สถานที่ที่อาจเล็ก ทำให้คนที่มาดูกันอย่างหนาแน่นมาก แต่การที่ได้ดูโชว์ที่จัดเต็มทั้งเสียง แสง และ อารมณ์ร่วมทั้งนักดนตรีบนเวทีและผู้ชม ทำให้บรรยากาศนั้นสนุกและอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นอีกโชว์นึงที่ผมประทับใจมาก ๆ อันหนึ่งเลยครัช ยังไงก็ตามก็ต้องขอบคุณ VIJI CORP ที่จัด Concert ดี ๆ แบบนี้ หวังว่า เราจะได้ดูงานดี ๆ แบบนี้อีก
ส่วนงานต่อไปที่ผมจะไประเห็ดเตร็ดเตร่นั้นจะเป็นอะไร รอติดตามกันต่อไปนะครับ